ความลับในห้องท่านประธาน

1812 Words
เสียงเครื่องปรับอากาศในออฟฟิศดังเบา ๆ ในเช้าวันจันทร์ มาธวีก้าวเข้ามาในบริษัทด้วยหัวใจที่เต้นแรง เธอพยายามบอกตัวเองให้สงบและทำเหมือนทุกอย่างปกติเหมือนที่ตกลงกับองศาไว้ว่า ‘สิ่งที่สมุยจะกลายเป็นเพียงความลับของเราสองคนเท่านั้น’ เมื่อมาถึงชั้นของผู้บริหาร มาธวีเห็นพี่ชไมพรนั่งทำงานอยู่ด้วยใบหน้าที่ดูสดชื่นและยิ้มแย้มต้อนรับเธอ “สวัสดีค่ะพี่แก้ว หนูว่าวันนี้หนูมาเช้าแล้วนะคะแต่ก็ยังสายกว่าพี่แก้วอีกแล้ว” “สวัสดีจ้ะผึ้ง พอดีว่าพี่ให้สามีมาส่งก็เลยมาเช้าหน่อยเพราะกลัวว่าเขาจะไปทำงานสายจ้ะ แล้วผึ้งล่ะเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหม ไปทำงานที่สมุยกับคุณองศา” “ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะพี่แก้ว งานราบรื่นดีมาก คุณปีเตอร์ตกลงทุกอย่างเรียบร้อยค่ะ” มาธวีพยายามยิ้มให้เป็นปกติที่สุด “ผึ้งช่วยงานพี่ได้เยอะเลย ถ้าสิ้นปีพี่ได้โบนัสพี่จะแบ่งให้นะเอาเป็นเงินหรือรางวัลอะไรดีล่ะ” “ไม่เป็นไรค่ะพี่แก้ว หนูทำตามที่พี่สอนแต่ถ้าพี่แก้วอยากให้รางวัลจริง ๆ หนูขอแค่ให้ฝึกงานผ่านฉลุยก็พอค่ะ” มาธวีพูดแล้วส่งยิ้มหวานอย่างประจบ “เก่งแบบนี้ยังไงก็ต้องผ่าน คุณองศาโทรมาบอกพี่ว่าผึ้งทำงานได้ดีมาก ๆ เลยนะและกำชับให้พี่สอนงานหนูเยอะ ๆ เพื่อตอนที่พี่ลาคลอดหนูจะได้ช่วยงานเขาได้ไม่ติดขัด” ชไมพรพูดพร้อมรอยยิ้ม “หนูจะพยายามพัฒนาตัวเองและเรียนรู้ให้มากขึ้นค่ะ” “ดีมากจ้ะ บางทีถ้าหนูเรียนจบเราอาจจะได้ร่วมงานกันจริง ๆ ก็ได้นะเพราะหลังจากคลอดพี่อาจทำงานได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่ ตอนนี้พี่ต้องรีบฝึกหนูให้เก่งแล้วนะผึ้ง” “หนูไม่หวังขนาดนั้นหรอกค่ะ” “ทำไมล่ะ” “ก็ถ้าคุณองศาอยากจะหาใครมาช่วยงานเลขาจริง ๆ เขาก็คงหาคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเด็กจบใหม่อย่างหนู” มาธวีไม่อยากจะหวังว่าเธอจะมีโอกาสได้ทำงานที่นี่และถ้าหากได้ทำงานจริง ๆ เธอก็คงปฏิเสธเพราะการอยู่ใกล้ชิดกับองศามันคงไม่ดีกับตัวเธอเองแน่ ๆ “แต่สำหรับพี่ไม่คิดแบบนั้นนะ การจะหาใครสักคนมาเป็นเลขาพี่ว่าต้องเป็นคนที่ทำงานเข้ากับเจ้านายได้ดีต่างหากล่ะ คนที่มีประสบการณ์อาจจำภาพเจ้านายคนเก่าและกว่าจะรู้ใจเจ้านายคนใหม่ก็อาจจะเสียเวลานะ ถ้าได้ทำงานที่นี่จริง ๆ ผึ้งคิดว่าไงล่ะ” “หนูก็คงดีใจ” เธอตอบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่เพราะนึกไม่ออกเลยว่าจะทำงานร่วมกับองศายังไง ชไมพรไม่ได้ชวนคุยอะไรต่อเพราะมีเอกสารจากแผนกอื่นเข้ามาให้เธอรับจัดการก่อนจะส่งให้เจ้านายอีกที ขณะที่มาธวีกำลังจัดแฟ้มเอกสารที่โต๊ะทำงานของเธอ ประตูห้องทำงานของประธานบริษัทก็เปิดออก องศาเดินออกมาในชุดสูทสีเทาเข้มดูภูมิฐาน ใบหน้าของเขาดูเย็นชาราวกับสุดสัปดาห์ที่สมุยไม่เคยเกิดขึ้น สายตาของเขากวาดมองมาธวีเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ก่อนจะเดินตรงไปที่ลิฟต์โดยไม่ได้พูดอะไรเลย ‘เป็นอย่างที่ตกลงกันไว้จริง ๆ ด้วย’ มาธวีรู้สึกโล่งใจที่เขาทำตามสัญญาแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกหน่วง ๆ ในใจกับความเย็นชาที่เขาแสดงออก เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง มาธวีพยายามจดจ่ออยู่กับงานจนลืมเรื่องราวส่วนตัวไปเกือบหมด จนกระทั่งมีโทรศัพท์ภายในโทรเข้ามาที่โต๊ะของชไมพร “ค่ะท่านประธาน... ได้ค่ะ... เดี๋ยวพี่บอกน้องให้” ชไมพรวางสายแล้วหันมายิ้มกับมาธวี “คุณองศาสั่งให้หนูชงกาแฟร้อนเข้าไปให้หน่อยนะ” “แต่เมื่อกี้หนูก็เอาไปให้แก้วหนึ่งแล้วนะคะ” “สงสัยคงจะง่วงมากน่ะสิ รีบไปชงเถอะ” “ได้ค่ะพี่แก้ว” มาธวีตอบรับพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เธอชงกาแฟร้อนและเดินไปยังห้องทำงานขององศาหัวใจเต้นรัวอีกครั้งเมื่อนึกถึงความผิดปกติเพราะเขาไม่เคยดื่มกาแฟตอนบ่ายสองแก้วมาก่อน มาธวีเคาะประตูห้องเบา ๆ ก่อนจะเปิดเข้าไป เธอวางถ้วยกาแฟไว้บนโต๊ะทำงานอย่างรวดเร็ว แล้วเตรียมหันหลังกลับทันที “ขอบคุณ” องศาพูดเสียงเรียบ ดวงตาของเขายังคงจ้องมองอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ “แฟ้มนี่ให้หนูเอาออกไปเลยไหมคะท่านประธาน” มาธวีถามอย่างเป็นทางการที่สุด องศาเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ ดวงตาคมกริบคู่นั้นจับจ้องมาที่เธอเพียงครู่เดียวก่อนที่เขาจะเลิกคิ้วเล็กน้อย “ผมบอกคุณเรียกผมว่าคุณองศาไม่ใช่เหรอ ถ้ายังเรียกผมว่าท่านประธานอีก คงต้องมีบทลงโทษกันบ้างแล้วล่ะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิเล็กน้อย มาธวีรู้สึกเหมือนถูกแช่แข็ง เธอพยายามตั้งสติแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อมยอมจำนนต่อคำสั่ง “ขออภัยค่ะคุณองศา” องศายกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากเป็นรอยยิ้มที่ทำให้มาธวีรู้สึกเหมือนเขากำลังท้าทายเธออยู่ “ดีมาก เอาแฟ้มนี้ออกไปจัดการต่อได้เลยแล้วเย็นนี้มาหาผมที่ห้องทำงานหกโมงเย็น” “หกโมงเหรอคะ?” มาธวีไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องนัดเธอเวลานั้นเพราะมันเป็นเวลาที่พนักงานแผนกอื่นกลับบ้านกันหมดแล้วยกเว้นก็แต่คนที่ทำงานล่วงเวลาซึ่งก็มีไม่มากเท่าไหร่ “อือ หกโมง มีปัญหาอะไรไหม” “คุณองศาจะใช้งานอะไรหนูคะ ใช้มาตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ งานข้างนอกไม่ยุ่งแล้ว” “งานคุณไม่ยุ่งแต่ผมยังยุ่งอยู่” “ให้หนูบอกพี่แก้วให้รอไหมคะ” “ไม่ต้องเพราะเรื่องที่จะคุยเป็นรายละเอียดจากทางคุณปีเตอร์ซึ่งเรื่องนี้ผมว่าคุณน่าจะรู้ดีกว่าใครใช่ไหม” “ใช่ค่ะ” มาธวีรับคำก่อนจะหยิบแฟ้มแล้วเดินออกมาจากห้อง หญิงสาวกลับออกมานั่งทำตามปกติแต่ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่ เธอไม่แน่ใจว่าเย็นนี้องศาจะคุยกับเธอเรื่องงานจริงหรือเรื่องอื่นหญิงสาวอยากหายตัวไปจากตรงนี้แต่ถ้าเกิดเรื่องที่เขาจะคุยเป็นเรื่องงานจริง ๆ เธอก็คงจะเดือดร้อนแน่ ๆ “เป็นอะไรหรือเปล่าผึ้ง” ชไมพรเห็นว่าเธอเงียบไปก็เลยอดถามไม่ได้ “เปล่าค่ะ พี่แก้วจะกลับแล้วเหรอคะ” “ก็นี่มันห้าโมงแล้ววันนี้พี่ต้องติดรถสามีกลับบ้านแล้วงานเราก็เสร็จแล้วด้วย ผึ้งก็กลับพร้อมพี่ได้เลย” “คุณองศาบอกให้หนูรอคุยเรื่องงานต่อค่ะ” “ตายจริงพี่โทรบอกสามีแล้วด้วยว่าให้มารับเอาไงดีล่ะ เดี๋ยวพี่โทรบอกให้เขารอก่อนนะ” “ไม่เป็นไรค่ะพี่แก้ว คุณองศาจะคุยเรื่องงานที่สมุยค่ะ เขาบอกว่าพี่แก้วกลับบ้านได้” “อ้อ ถ้าคุยเรื่องนั้นพี่ไม่ต้องอยู่คุยก็ถูกแล้วนะเพราะพี่ไม่ได้ไปด้วยและผึ้งก็ทำงานได้ดีมาก งั้นพี่ไปก่อนนะ” “ค่ะพี่แก้วพรุ่งนี้เจอกันนะคะ” เมื่อชไมพรกลับไปแล้วมาธวีก็นั่งทำงานของตัวเองต่อ เธอรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับงานที่สมุยเพราะเตรียมตอบคำถามขององศาเพราะคิดว่าถ้าตอบเร็วก็คงจะได้กลับบ้านเร็ว หญิงสาวนั่งทำงานจนถึงเวลาหกโมงเย็นตามที่องศานัดไว้ เธอเคาะประตูห้องก่อนจะเปิดเข้าไป “ตรงเวลาดีนะ” “ค่ะ นี่คือรายละเอียดของงานทั้งหมดของคุณปีเตอร์ค่ะ” “คิดว่าผมเรียกมาคุยเรื่องงานเหรอ” “ก็คุณบอกหนูอย่างนั้น ถ้าไม่คุยเรื่องงานหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ” “จะรีบไปไหนล่ะ ไปกินข้าวเป็นเพื่อนผมก่อนแล้วผมจะไปส่งที่บ้าน” “หนูว่าไม่ดีกว่าค่ะ วันนี้หนูเหนื่อยอยากจะรีบกลับไปพัก” “ผมรู้ว่าคุณพยายามทำตัวให้ห่าง แต่มันยิ่งทำให้ผมอยากเข้าใกล้มากกว่าเดิม” เสียงของเขาเรียบแต่สายตาที่มองทำให้มาธวีหวั่นไหว “เราตกลงกันแล้วนะคะ ว่าทุกอย่างจะจบที่นั่น” “ผมพยายามแล้ว แต่มันไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะเวลาเห็นคุณอยู่ตรงหน้า” มาธวีเบือนหน้าหนี พยายามซ่อนสีหน้าของตัวเอง “คุณองศา.... เราทั้งคู่ต้องรักษาความลับนี้ไว้ ไม่ใช่เหรอคะ” “แน่นอน มันยังเป็นความลับของเราและทุกอย่างในห้องนี้มันก็เป็นความลับเหมือนกัน” “คุณ......” มาธวีตกใจกับคำพูดของเขาเอกลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอในห้องนี้ “ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ถึงผมอยากจะนอนกับคุณมากแค่ไหนก็คงไม่ทำอะไรคุณในห้องนี้หรอกนะ” เขาเดินเข้ามาใกล้ จนเธอได้กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ที่คุ้นเคย “หนูรู้ว่าประธานอย่างคุณไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นเด็ดขาดใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามอย่างใจดีสู้เสือ “ผมไม่ทำหรอก แต่คุณกำลังทำให้ผมอยากผิดสัญญา” เสียงทุ้มต่ำกระซิบชิดใบหูและแววตานั้นมันดูไม่น่าไว้ใจ มาธวีต้องหลับตาแน่น พยายามห้ามหัวใจไม่ให้เต้นแรงไปกว่านี้ “คุณองศา... อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ” “ผมบังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่อยากจะบอกว่าคิดถึง” คำพูดเรียบง่ายแต่หนักแน่นนั้นทำให้เธอหัวใจเต้นแรง มาธวีรู้ดีว่าความสัมพันธ์นี้ไม่มีวันไปได้ไกล แต่หัวใจกลับไม่ยอมเชื่อฟังเหตุผลเลยแม้แต่น้อย “ถ้ามีใครรู้....หนูจะเดือดร้อน” “ผมสัญญาจะไม่มีใครรู้แต่คุณต้องสัญญากับผมเหมือนกันว่า คุณจะไม่หนีผมไปไหนและจะมาหาทุกครั้งถ้าผมบอกว่าคิดถึง” เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับหญิงสาว ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปมาธวีคิดว่าเธอเห็นบางอย่างที่เริ่มเติบโตอย่างช้า ๆ แม้จะเป็นความสัมพันธ์ที่ต้องซ่อนเร้นก็ตาม เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ลับที่ตกลงกันไว้มันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD