INTRODUCTION
INTRODUCTION
ตึก
นิ้วชี้ของคนเป็นพ่อจิ้มลงที่กลางหน้าผากมนของลูกสาว ก่อนจะออกแรงดันเสียจนร่างบางหน้าหงาย
“ฉันให้เวลาแกหนึ่งเดือนนะยัยมัด รีบทำผลงานอย่าให้ฉันต้องขายขี้หน้าคนอื่น หัดทำตัวให้สมกับเป็นลูกนายพลซะบ้าง!!”
“แต่มัดเพิ่งเรียนจบนะพ่อ จะมีงานอะไรให้มัดทำนักหนา”
“อย่ามาต่อปากต่อคำ!! เปิดโปงเข้าสิพวกคนดังๆน่ะ ถ้าแกเปิดโปงเบื้องหลังคนพวกนี้ได้แกก็จะได้ดังไปด้วย”
แล้วร่างท้วมของพ่อก็เดินออกไป ปล่อยให้ลูกสาวนั่งจมกับความกดดันอยู่ที่เดิม เบื้องหลังของความแข็งแกร่งของเธอที่คนภายนอกได้เห็นก็มาจากพื้นฐานครอบครัวที่กดดันนี่เอง
มัดไหมจึงเป็นหญิงสาวที่ไม่เคยยอมแพ้ต่ออะไรทั้งสิ้น เพราะเมื่อเธอทำอะไรผิดพลาดขึ้นมา คนเป็นพ่อมักจะเป็นคนแรกที่คอยเหยียบย่ำเธอเสมอ หากเธอก็มองพ่อของเธอเป็นต้นแบบความเข้มแข็งอยู่ดี
“ยัยมัด ไปงานเลี้ยงเย็นนี้แทนแม่หน่อยนะ”
“คะ? แม่ก็รู้ว่ามัดไม่ชอบงานไฮโซอะไรแบบนี้นี่คะ”
“เอาน่าๆ ไปแทนแม่หน่อย”
การ์ดเชิญสีครีมอ่อนถูกคนเป็นแม่ยัดใส่มืออย่างไม่เต็มใจ มือเรียวยกการ์ดขึ้นมาอ่านคร่าวๆว่าเป็นงานเลี้ยงเปิดตัวบริษัทของใครสักคนตอนทุ่มกว่าๆ ซึ่งตอนนี้เพิ่งบ่ายสองโมงเอง
เมื่อนึกย้อนไปถึงคำพูดของพ่อ ร่างบางก็เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนอนสีขาวสะอาด ‘เปิดโปงพวกคนดัง’ อย่างที่พ่อบอกนั่นมันเป็นงานที่ดีใช่ไหม แล้วช่วงเวลาหนึ่งเดือนตามคำสั่งของพ่อเธอควรจะเริ่มทำอะไรก่อน เธอเรียนจบตำรวจในส่วนของการลงพื้นที่ เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบก็ทำงานกึ่งๆสายสืบแต่มีอำนาจจับกุมด้วยนั่นเอง
“ช่างมันเถอะ ไว้ค่อยมาคิดแล้วกัน”
ปากอวบอิ่มบ่นกับตัวเองก่อนที่เธอจะลงไปยังด้านล่างของบ้านเพื่อทานข้าว มัดไหมไม่ใช่คนมีวินัยในการใช้ชีวิตไปซะทุกอย่างหรอก เธอก็แค่เด็กผู้หญิงวัยรุ่นทั่วไปที่อยากกินอยากนอนตอนไหนก็ตามใจตัวเอง เพียงแต่ผลงานและการเรียนของเธอต้องไม่แพ้ใคร ในเรื่องการเรียนและการทำงานเธอจะจริงจังและจัดสรรทุกอย่างให้เป็นระเบียบ เธอเป็นที่หนึ่งของรุ่นในการเรียน เป็นดาวเด่นตัวตั้งตัวตีของเหล่าเพื่อนร่วมรุ่น เธอพยายามทำเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเธอได้ดีเพราะตัวเธอเองไม่ใช่บารมีนายพลของพ่อเพียงอย่างเดียว
แต่...คนที่ดูถูกเธอมันก็มีอีกมากโขเช่นกัน
หลังจากทานข้าวมื้อเที่ยงที่รวบเอามื้อเช้าไปด้วยเสร็จแล้วนั้น ร่างบางก็เดินไปรินน้ำชาให้คนเป็นพ่อที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟากลางบ้าน ทว่าชายสูงวัยกลับตอบกลับเพียงแค่เหยียดตามองเธอสลับกับน้ำชาในแก้วเท่านั้น
“น้ำชาอุ่นๆจะได้ผ่อนคลายนะคะพ่อ”
“ไม่ต้องมาเอาใจฉัน เอาเวลาไปคิดว่าจะทำยังไงถึงจะมีผลงานดีๆก็พอ คร้านจะอายเขาสิ นี่เรียนจบเป็นอาทิตย์แล้วยังไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง นอนตื่นทีก็บ่าย”
“แต่มัดก็ไม่เคยทำให้พ่อผิดหวังสักครั้งนะคะ มัดได้ที่หนึ่งของรุ่นทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ จบมาก็มาอยู่ใต้อำนาจนายพลอย่างพ่อซะอย่างมัดไม่ทำให้พ่อขายหน้าหรอก แต่ขอมัดพักอีกสักหน่อยได้ไหมคะ”
“นี่ไง กินนอนอยู่บ้านเฉยๆแบบนี้ไงฉันถึงได้อายคนอื่น!!”
ตุ้บ
หนังสือพิมพ์ในมือถูกม้วนแล้วขว้างมันลงกับพื้นหินอ่อนของบ้านเสียงดัง มัดไหมนั่งตัวแข็งทื่อ ก้มหน้ามองปลายเท้า มือทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่น เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคนเป็นพ่อห่างออกไปจึงเงยหน้าขึ้นมามองแล้วถอนหายใจออกมายาวพรืด
ความน้อยเนื้อต่ำใจมันถาโถมเข้ามาจนขอบตาร้อนผ่าว ทั้งที่เป็นที่หนึ่งในสายตาคนอื่น แต่ในสายตาพ่อของเธอมันยังไม่ดีพอใช่ไหม กว่าจะเป็นที่ยอมรับของคนภายนอกเธอต้องเพียรพยายามอย่างมาก ทว่ากับผู้ชายสูงวัยที่เพิ่งตะคอกใส่เธอเมื่อครู่เขากลับมองไม่เห็นความดีของเธอ ไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยปากชมสักครั้ง...
ในบางครั้งเธอก็คิดว่าเธอใช่ลูกของพ่อจริงๆหรือเปล่า
“เอาน่ามัดไหม อย่าไปเถียงพ่อเขามาก ไปหาชุดสวยๆใส่ไปงานแทนแม่ดีกว่า เดี๋ยวแม่เลือกเครื่องเพชรน่ารักๆให้ลูกเอง”
“แม่คะ ถ้ามัดจะออกไปอยู่คอนโดแม่จะว่าอะไรไหม?”
“แล้วบอกพ่อรึยัง”
“ไม่ใช่คอนโดของพ่อนะ มัดจะไปเช่าอยู่เอง”
“คิดอีกทีแล้วค่อยมาบอกแม่แล้วกันนะ ใจเย็นๆ”
มัดไหมพองแก้มพู่ลมออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ร่างบางก้าวเท้าขึ้นบันไดด้วยจิตใจร่องลอย เพียงแค่นึกว่าต้องเดินอยู่ในงานเลี้ยงเย็นนี้ก็น่าเบื่อจะตายชัก งานที่ต้องปั้นหน้ายิ้มใส่คนไปทั่วช่างไม่ถูกจริตกับเธอเสียจริงๆ
เดอะวันรีสอร์ท
มัดไหมอยู่ในชุดเดรสยาวเว้าหลังสีน้ำเงินเข้ม เรียวขายาวสวยที่โผล่พ้นรอยแหวกของกระโปรงกำลังเดินเข้าไปในงานด้วยรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วอย่างมั่นใจ เธอไม่ชอบงานแบบนี้ก็จริงแต่จะให้เธอมาแบบสวยธรรมดาเธอก็ไม่ยอมเหมือนกัน ใบหน้าที่อ่อนกว่าวัยเหมือนเด็กหากได้ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแล้วก็สวยเฉี่ยวขึ้นมาก
“ไม่รู้จักใครสักคนเลยให้ตายสิ”
เสียงหวานบ่นอุบเมื่อก้าวเข้ามายังบริเวณงาน ซึ่งจัดที่ลานกว้างกลางรีสอร์ทด้วยบรรยากาศธรรมชาติ ลักษณะการจัดงานจะเป็นแบบปาร์ตี้คอกเทล มัดไหมถึงกับส่ายหัวเพราะเหล่าคุณป้าคุณนายทั้งหลายต้องมายืนถือแก้วไวน์กับขนมจานเล็กๆแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ กลัวจะเมื่อยเอา ทว่าในที่นี้เธอก็ไม่รู้จักใครอยู่แล้วแต่อาจจะมีคนรู้จักเธอบ้างเพราะเธอเป็นถึงลูกสาวคุณหญิงและนายพลยศใหญ่
ร่างบางเดินไปแอบอยู่ข้างเวทีเพราะเป็นมุมมืดไม่ต้องพบปะผู้คน
“หนูมัดไหม”
“คะ? สวัสดีค่ะ”
ก็กะว่าจะไม่มีใครเจอแล้วเชียว หญิงมีอายุคนหนึ่งที่เธอจำได้ว่าเป็นเพื่อนของแม่เข้ามาทักทายและเธอจำเป็นต้องปั้นหน้ายิ้มออกมาให้สดใสที่สุด ทั้งที่ในหัวก็นึกชื่อไปด้วย
“จำพี่กวินได้ไหมลูก กวินนี่มัดไหมลูกลุงพิทักษ์ไง”
มองผ่านไปยังด้านหลังพบชายร่างสูงสง่าที่เธอไม่ได้เจอหลายปี และเป็นเจ้าของอาการหัวใจเต้นแรงในตอนนี้ด้วย
“จำได้ครับแม่ น้องสวยไม่เปลี่ยนเลย”
ตาหวานที่กวินมองมายังมัดไหมมันเป็นสายตาแบบที่เขามักจะใช้มองเธอในสมัยก่อน สมัยมัธยมต้นที่เธอและเขาคบหาดูใจกันแบบรักแรก แต่ด้วยความไม่รู้ประสาในวัยเด็กทำให้ต่างคนก็ต่างหายออกไปจากชีวิตกันโดยไม่มีเหตุผล จนกระทั่งวันนี้ที่เขาและเธอได้เจอกันอีกครั้ง
“พะ พี่กวิน...”
“อ่ะ คุยกันไปนะเราสองคนน่ะ แม่ไปดูงานทางโน้นก่อน”
“สบายดีไหมเราน่ะ”
มือใหญ่ที่แสนอบอุ่นวางทาบลงบนศรีษะมนด้วยความเอ็นดู ทว่ามันยิ่งทำให้มัดไหมประหม่า
“เดี๋ยวมัดมานะคะ”
สองขาเรียวพาตัวเองเดินไปห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังเวที เธอไม่ได้รังเกียจอะไรกวินหรอกถึงได้เดินหนีมา มือเรียวควานหาลิปสติกสีแดงสดในกระเป๋าเล็กที่เธอพกมาด้วย หวังจะเติมปากเพื่อสร้างความมั่นใจเมื่ออยู่ต่อหน้ากวิน
ตุบ
ลิปสติกแท่งที่เธอกำลังควานหาหล่นลงพื้นและกลิ้งไปใต้เวทีใหญ่ที่มีผ้าสีทองประกายคลุมด้านล่างเวทีไว้ มัดไหมถอนหายใจแล้วรีบเดินไปทางที่ลิปสติกแท่งโปรดเธอหายไป มือสวยเปิดผ้าด้านล่างพร้อมทั้งเปิดหน้าจอมือถือส่องมอง ทว่าสายตากลับสะดุดกับวัตถุอะไรบางอย่าง
“ระเบิด...”
ไม่ทันประวิงเวลาคิด มัดไหมพาตัวเองเข้าไปยังชนวนระเบิดนั้นโดยไม่เกรงกลัว เพราะเธอเรียนมาและรู้วิธีที่จะทำให้มันหยุด
อุ๊บ
“มีคนมาเจอแล้วครับนาย เอายังไงดีครับ”
ผลัก
ศิลปะการต่อสู้ที่สั่งสมมาทำให้เธอหลุดจากพันธนาการของใครสักคนจากด้านหลังได้ทันที โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอได้เข้ามาพัวพันกับอะไรอยู่
“เห้ย นายสั่งให้จับตัวไปให้นายด่วน!!”
กระสอบขนาดใหญ่ถูกสวมเข้าที่บริเวณศรีษะและมันครอบมาได้ถึงช่วงเอวของเธอ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมากเพียงไม่กี่วินาทีต่อมาร่างบางก็รอยหวือขึ้นจากพื้น เสียงเล็กที่ตะโกนขอความช่วยเหลือถูกกระสอบปิดกั้นเสียจนแทบไม่ได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมา
เป็นจังหวะที่ไม่มีคนผ่านมาตรงนี้พอดีเพราะบนเวทีกำลังประกาศเชิญเจ้าของงานทำให้ผู้คนต่างให้ความสนใจด้านหน้าเวทีกันหมด
ตุบ
ร่างบางถูกกระแทกลงบนเบาะนุ่ม วินาทีที่กระสอบถูกถอดออกไปเธอก็ปล่อยหมัดใส่คนเบื้องหน้าทันทีโดยไม่คำนึงว่าจะเป็นใคร หากทำเรื่องแบบนี้ก็คงไม่ใช่คนดีแน่
“หมัดหนักใช้ได้นี่”
ภคินบอกหญิงสาวตรงหน้าที่เข้ามาล่วงรู้ถึงแผนการที่เขากำลังจะทำ ลิ้นใหญ่ดุนแก้มข้างที่โดนต่อยเมื่อครู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“จับฉันมาทำไม”
“ไม่ต้องถามมาก ฉันจ้างเธอหนึ่งพันบาท สด แตกใน ไม่ถุง ขอสองน้ำพอ”
หน้าสวยหันไปมองผู้ชายตรงหน้าที่กำลังจ้องมองเธอเช่นกันด้วยความตกใจ มัดไหมฉลาดพอที่จะรู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องทุเรสอะไรอยู่
“นายว่าไงนะ หนึ่งพัน?”
“ไม่สวยให้พันนึงก็พอจะเอาอะไรมากล่ะ”
“ฉันเนี่ยนะไม่สวย?”
“หน้าตาก็งั้นๆ นมก็แบน ต่อเหลือแปดร้อยละกัน”
เส้นเลือดที่ขมับเดือดปุดๆเมื่อฟังคำดูถูกจากภคิน เธอสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเอี้ยวตัวเปิดประตูรถด้วยความโมโห
หมับ
“ปล่อยฉัน!!”
ขาเรียวยกขึ้นยันเข้าที่อกชายหนุ่มด้วยรองเท้าส้นสูงโดยไม่สนใจว่าเขาจะเจ็บหรือไม่ ทว่าภคินก็ไม่ยอมปล่อยมืออยู่ดี
“จะเล่นตัวทำไม อัพค่าตัวเหรอวะ?”
“เห้ย!!”
มือใหญ่ออกแรงกระชากให้ร่างบางกลับเข้ามาอยู่ในรถอีกครั้ง ก่อนที่ชายชุดดำด้านนอกจะปิดประตูรถให้
“ออกรถโว้ย!!”
รถหรูสีดำเคลื่อนตัวทันทีที่ภคินออกคำสั่ง เขาให้มือปิดปากคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดให้ปิดปากเงียบ ถึงมัดไหมจะไม่ยอมแต่ตอนนี้ก็หมดหนทาง ในเมื่อมือของเธอทั้งสองข้างถูกมือใหญ่อีกข้างกอบกุมไว้แน่น
“อื้ออออออออออ อ่อยยยย”
“อย่าดิ้นได้ไหม ของฉันขึ้นง่ายนะ”
ร่างบางชะงักกึกเพราะเธอกำลังดิ้นบนตักกว้างของเขา เขาที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน...