บทที่ 3 นมชมพูสื่อรัก
โรงอาหารคณะบริหารฯ
“ตกลงอะไรยังไง? เขาลือกันให้แซดว่าแกบุกไปจีบหนุ่มนิเทศ” ท่ามกลางการซดก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ เข้าปาก แขนเพื่อนก็สะกิดฉันยิก ๆ จึงต้องพยักหน้ารับเพราะยังพูดไม่ได้
“แกไม่ต้องมาทำเนียนเลยนะ”
“ไม่ได้ทำเนียน เคี้ยวอยู่ไม่เห็นหรือไง” ว่าพลางยกน้ำขึ้นมาจิบดับความร้อน “ตามที่เขาพูดกันนั่นแหละ ฉันไปจีบหนุ่มนิเทศมาจริง ๆ”
“ใคร?”
“พี่ลมปีสาม” บอกหนิงง่าย ๆ เพราะเราไม่เคยมีความลับต่อกันอยู่แล้ว “หล่อ ซึน อินโทรเวิร์ด ตรงสเปกสุด ๆ ไปเลย!”
“เดี๋ยวนะ แกเพิ่งเลิกกับพี่เคนไม่ใช่เหรอ เอาเวลาไหนไม่ชอบพี่ลมอะไรนั่น” หนิงทำหน้าไม่เข้าใจ ตายังมองฉันด้วยความสงสัยเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
“เห็นเมื่อวานแล้วชอบเลย”
“ไม่ใช่ละ อะไรมันจะมูฟออนได้ง่ายขนาดนั้น”
“เอาเป็นว่าฉันมูฟออนแล้วก็แล้วกัน” อดไม่ได้ที่จะเบ้ปากเมื่อคิดถึงไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้น “คอยดูนะ ถ้าฉันจีบพี่ลมติดจะควงไปเย้ยสามวันเจ็ดวันเลยคอยดู”
“โอเคเข้าใจแล้ว สมกับเป็นลิลลี่ฉายาลูกคุณหนูจริง ๆ” ใบหน้าสวยของเพื่อนพยักลงหงึกหงักราวกับเข้าใจจริง ๆ “เสียหน้าไม่ได้เลยสินะ”
“ไม่ได้” ตอบรับด้วยความจริงจัง “คนอย่างลิลลี่ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ใครทำลี่เจ็บต้องเจ็บกว่าลี่ร้อยเท่า!”
“เห้อ… ขอให้แกจีบพี่เขาติดแล้วกัน”
“จีบติดแน่นอน เชื่อมือลิลลี่คนนี้ได้เลย” อย่างไรแล้วพี่ลมก็ต้องเป็นของลี่ ฉันเชื่อมั่นมากว่าในอนาคตพี่ลมนี่แหละคือแฟนของฉัน
“ว่าแต่ขอยืมเงินสักแสนหน่อยดิ เดี๋ยวพรุ่งนี้โอนคืนให้”
“เอาไปหมุนบัญชีอีกเหรอ” แม้จะถามแต่ก็ยอมกดโอนให้หนิงง่าย ๆ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพื่อนยืมแบบนี้ ซึ่งหนิงยืมแล้วโอนคืนทุกครั้งตามที่บอก ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงินแต่อย่างใด เพราะฐานะทางบ้านของหนิงก็มีเงินไม่ต่างจากบ้านฉันเลย
“อือ ไม่อยากเอาชื่อตัวเองโอนเข้าธนาคารตัวเอง” หนิงว่าแล้วหันมามองฉัน “ขอบใจนะเว้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นแล้วจะรีบโอนให้เลย”
“ไม่มีปัญหา กินข้าวเหอะร้อนอยากไปตากแอร์เย็น ๆ แล้ว”
หลังจากที่จัดการอาหารเสร็จแล้ว ทั้งฉันและหนิงก็มานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่ร้านคาเฟ่ในคณะของตัวเอง เนื่องจากแดดร้อนก็เลยยังไม่อยากกลับบ้าน พูดง่าย ๆ ว่าไม่อยากเดินผ่าแดดออกไปเพราะกลัวผิวจะเสีย
“ดูสองคนนั้นดิ หน้าด้านหน้าทนกันสุด ๆ” คำบอกกล่าวของเพื่อนที่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหมั่นไส้ทำให้ฉันเงยหน้ามองออกไปนอกกระจก ก็ต้องได้เห็นไอ้พี่เคนกับยัยไอริสเดินกอดแขนกันกระหนุงกระหนิงไปทางลานจอดรถ ฉันเล่าให้ฟังหรือยังว่าสองคนนี้อยู่คณะเดียวกันกับฉัน เพราะแบบนี้เลยเห็นเดินเพ่นพ่านแบบนี้นี่แหละ
“แกจะปล่อยไปง่าย ๆ แบบนี้เหรอวะ” คราวนี้หนิงฉันมามองฉัน “ฉันว่าลอยหน้าลอยตาแบบนี้น่าสั่งสอนให้เข็ด ไม่ได้มีสำนึกอะไรเลย”
“…”
“ถ้าเป็นฉันนะแม่จะด่าเช้าด่าเย็น”
“งั้นเรามาเพิ่มเรื่องสนุกกัน” ว่าแล้วรีบยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปก่อนที่สองคนนั้นจะเดินไกลออกไป จัดการส่งเข้าไปในกลุ่มของคณะที่มีสมาชิกอยู่นับแสนเนื่องจากมีทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ใหม่
Lilly Lalita: ยินดีกับคู่รักคู่ใหม่ของคณะด้วยนะคะ หวานกันสุด ๆ ไปเลย ขอให้รักกันนาน ๆ น้า จากแฟนเก่าที่โดนสวมเขามาเกือบเดือน
โพสต์แล้ว!
“เรียบร้อย คอยดูกระแสในกลุ่มได้เลย” ฉันยิ้มภูมิใจให้กับการกระทำของตัวเอง “คราวนี้คงไม่กล้าควงกันอีกนาน ยัยไอริสปี๊ดแตกแน่”
“แกไม่กลัวกระแสตีกลับหรือไง” แม้จะถามแต่เพื่อนกดยิก ๆ อะไรในโทรศัพท์ไม่รู้ เห็นเช่นนั้นจึงก้มลงมาอ่านคอมเมนต์ต่าง ๆ ที่ผลุดขึ้นมาเยอะแยะมากมายภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น
บอกแล้วเรื่องพวกนี้ประชาชีชอบ ขอแค่อัปโหลดเรื่องชาวบ้านลงก็พร้อมที่จะปักหมุดกันแล้ว
“แกอ่านคอมเมนต์นี้ดิลี่ มันบอกว่าแกไม่ยอมจบเพราะเสียดายพี่เคน” เสียงของหนิงไม่สบอารมณ์อย่างชัดเจน “เดี๋ยวฉันด่าคืนให้ ความคิดไร้สาระ”
“ไม่ต้องหรอก ใครอยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะ อีกอย่างเขาจะคิดแบบนั้นก็ไม่แปลกหรอก” ก็ฉันเล่นมาโพสต์เหมือนมีเยื่อใยแบบนี้ จึงไม่แปลกใจหากใครต่อใครจะคิดว่าฉันมูฟออนจากไอ้พี่เคนไม่ได้
“เดี๋ยวคืนนี้ฉันแก้ข่าวเอง”
ตึ๊ง! ตึ๊ง!
เสียงการแจ้งเตือนเข้าทำให้ฉันหันมาสนใจกับหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง จากตอนแรกที่อยู่ในอารมณ์ตึงเครียดสักนิดก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าเป็นใครส่งข้อความมาหากัน
Lom: ส่งรูปภาพ
Lom: พรุ่งนี้เจอกันที่นี่ตอนบ่าย ห้ามเลทห้ามสาย
ว้า… พรุ่งนี้ได้เจอกับพี่ลมสินะ แค่คิดก็มีความสุขแล้วเนี่ย
“เดี๋ยวฉันกลับบ้านก่อนนะหนิง พอดีพรุ่งนี้มีงานน่ะ”
“แกรับงานเพิ่มเหรอ?”
“อือ เป็นงานเสริมน่ะ ช่วงนี้อยากได้เงินเลยรับไว้”
“ว้าวลิลลี่แม่คนขยัน อย่าให้แม่ฉันรู้เรื่องนี้เชียว ไม่งั้นบ่นให้ฉันอีก” ดวงตากลมโตกลอกไปมาเมื่อพูดถึงแม่ตัวเอง
“ต่างจากพ่อฉันที่ชอบชมแกตรงไหน พ่อแม่เราไม่ต่างกันจริง ๆ” ว่ายิ้ม ๆ แล้วยกมือขึ้นโบกลาเพื่อน “ไปละ เจอกันวันจันทร์นะ”
-จบลิลลี่-
คณะนิเทศฯ
อ่านแล้วไม่ตอบ?
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อส่งข้อความหายัยเด็กเปี๊ยกนั่นแต่ไม่มีอะไรตอบกลับมา เขาไม่ได้คาดหวังที่จะคุยกับเธอ แต่อยากรู้ว่าอีกฝ่ายรับทราบข้อมูลที่ให้ไปหรือเปล่า รู้จักโรงแรมที่เขาส่งให้ไหม ไม่อยากให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง
ลมหรือวายุนั่นคือชื่อของเขา เป็นลูกชายคนสุดท้องของตระกูล รักอิสระยิ่งกว่าอะไรดี ไม่ต่างจากความสงบที่เขาปรารถนาในชีวิต ไม่อยากวุ่นวายกับใครเพราะมันทำให้เขารำคาญ แต่แล้วความสงบที่เคยมีมาก็จบลงเมื่อมียัยเปี๊ยกคนหนึ่งมาตามจีบ และไม่มีท่าทีว่าจะยอมแพ้ง่าย ๆ เลยสักนิด แต่นั่นมันไม่ใช่ความผิดของเธอซะทีเดียวหรอก หากเขาปฏิเสธเรื่องรับงานป่านนี้ก็จบแล้ว แต่ดันไม่ทำ
ที่จริงเขารู้ว่าใครจะมาเป็นนางแบบในการถ่ายชุดว่ายน้ำล่าสุดในครั้งนี้ เนื่องจากกวิดาหรือกิ๊ฟเพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่มเอารูปให้ดูแล้ว มากกว่านั้นยังได้เจอตัวเป็น ๆ ก็วันที่ยัยเปี๊ยกนั่นเตะล้อรถเขา ตอนแรกก็จำไม่ได้ แต่พอมองดูดี ๆ ดันได้รู้ว่าเธอคือน้องสาวของเพื่อนสนิท
เป็นน้องที่นิสัยต่างกับพี่จริง ๆ ผู้หญิงอะไรช่างตื๊อและพูดมากชะมัด แถมยังชอบเล่นหูเล่นตาอีกต่างหาก
ไหนยัยโหดนั่นบอกว่าน้องตัวเองน่ารัก เอาแต่ใจสุด ๆ สิไม่ว่า ไม่อยู่ในเกณฑ์คำว่าน่ารักสำหรับเขาเลยสักนิด!
“ฮัลโหลพี่ ๆ ที่รัก ลิลลี่คนที่สวย ๆ มาแล้วค่า” และแล้วเสียงบาดหูก็ดังเข้ามาให้ได้ยิน ก่อนที่ร่างเล็กแต่อัดแน่นไปด้วยความเย้ายวนเดินเข้ามาใกล้ตรงโซนที่พวกเขานั่งอยู่
“หอบอะไรมาเยอะแยะ”
“ลี่ซื้อน้ำมาฝากพี่ ๆ ค่ะ” แก้วน้ำสี่แก้วถูกวางลงบนโต๊ะ มือบางทำการจัดแจงให้แต่ละคนตามที่คิดไว้ในขณะเดินทาง “นี่ชามะนาวของพี่กล้า นี่ชาเขียวของพี่ซี แก้วนี้ชาไทยของพี่กิ๊ฟสุดสวย”
“…”
“ส่วนแก้วนี้ลี่เลือกแก้วที่ตรงใจมาให้พี่ลมเลย นมชมพูของพี่ลมค่า” ลลิตาเลื่อนแก้วที่มีลวดลายรูปหัวใจดวงเล็กดวงใหญ่ต่างจากแก้วอื่นให้วายุ ไม่เท่านั้นยังนั่งลงข้างเขาพร้อมทำตาปริบ ๆ ไม่ได้สนใจเสียงเอ่ยแซวของรุ่นพี่คนอื่นเลยสักนิด