หลังจากจบคลาสและไม่มีเรียนต่อแล้ว ฉันกับหนิงต่างแยกย้ายไปคนละทางเพราะมีธุระของใครของมัน ซึ่งธุระของฉันคือการมาหารุ่นพี่ที่คณะนิเทศฯ ไม่อยากจะโม้หรอกว่าลิลลี่คนนี้ไม่ได้เป็นแค่นักศึกษาธรรมดา สวยขนาดนี้แน่นอนว่าวงการต้องการตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะวงการถ่ายรีวิวสินค้าหรือเรียกอีกอย่างคืออินฟลูเอนเซอร์ แต่งานที่ฉันรับตอนนี้คือถ่ายแบบชุดว่ายน้ำแบรนด์น้องใหม่นั่นเอง
“HI! พี่ ๆ ทุกคน ลิลลี่สุดสวยมาแล้วค่า” เมื่อมาถึงจุดนัดหมายแล้วก็ร้องทักรุ่นพี่เหมือนที่เคยทำเป็นประจำ มือไม่วายยกขึ้นโบกบ่ายก่อนจะส่งจูบไปหนึ่งครั้ง และเป็นเหมือนเคยที่พี่ ๆ จะทำหน้าเอือมระอาส่งมาให้เห็น
“ไงไอ้แสบ ไปก่อเรื่องอะไรมาอีก” พี่กิ๊ฟสาวสวยตัวแม่ตัวมัมของแก๊งเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าช่วงนี้ให้เบา ๆ เรื่องข่าวลงหน่อย”
“แหะ! ลี่ขอโทษค่ะ” ยกมือไหว้พลางยิ้มแห้ง ไม่ลืมเข้าไปกอดประจบเหมือนที่ชอบทำ “มันอดไม่ได้นี่นา… พี่กิ๊ฟคิดดูนะว่าแฟนนอกใจลี่ทั้งคน จะไม่ให้วีนแตกมันก็ยังไงอยู่น้า…”
“จริงของน้องลี่ ถ้ากูโดนแฟนนอกใจก็โมโหเหมือนกันละวะ”
“ใช่ไหมพี่กล้า คิดเหมือนลี่ใช่ไหมคะ” รีบหาตัวช่วยเมื่อมีคนเข้าข้างแล้ว ซึ่งพี่กล้าก็เป็นเหมือนเคยที่จะยิ้มจนตาหยีให้ฉันตามประสาหนุ่มชอบอ่อยนั่นแหละ
“พี่คิดเหมือนน้องลี่ตลอดนั่นแหละ”
“พอ ๆ” ยังไม่ทันได้โต้กลับพี่กิ๊ฟดันพูดขัดซะก่อน “เอาเป็นว่าเพลา ๆ บ้างนะรู้ไหม พี่ขี้เกียจให้ลุงมาบ่นให้ฟังว่าไม่ดูแลน้อง”
“…”
“อีกอย่างเผื่อเราไปได้สวยทางด้านนี้ จะได้ไม่มีข่าวเสียหายมากไง”
“รับทราบค่า” เพื่อจบปัญหาและจบการบ่นของพี่กิ๊ฟผู้เป็นลูกพี่ลูกน้อง หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นญาติกัน ฉันจึงตกปากรับคำอย่างว่าง่าย ไม่เถียงให้มากความใด ๆ อีก
“แล้วไหนชุดว่ายน้ำแบรนด์น้องใหม่คะ ลี่ขอดูหน่อยได้ไหม”
“ไหวหรือเปล่า ช่วงนี้พี่เห็นรับหลายงานเลย” แม้จะถามอย่างนั้นแต่พี่กิ๊ฟก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปให้ฉันดู “ถ้าไม่ไหวแคนเซิลได้ เดี๋ยวพี่หานางแบบคนใหม่เอง”
“ลี่ไหวน่า” พยักหน้ารับพร้อมดูชุดต่าง ๆ ไปด้วย “ช่วงนี้ลี่กำลังต้องการเงินพอดี ว่าจะไปร้อยไหมสักหน่อย ฉีดปากเพิ่มด้วย วิตามินผิวที่ดริปไว้ก็เหลือขวดสุดท้ายแล้ว”
“ได้ข่าวว่าพ่อรวยติดอันดับในประเทศเลยน้าน้องลี่” เสียงพี่ซีหนึ่งในกลุ่มรุ่นพี่เอ่ยให้ได้ยิน “พี่ว่าแค่นี้ไม่น่าสะเทือนขนขาเจ้าสัวนะ”
“ไม่เอาอะ ลี่ไม่อยากใช้เงินพ่อ” ฉันส่ายหน้าพัลวัน “ลี่เบื่อที่ต้องโดนคนนั้นคนนี้พูดว่าลี่เป็นลูกคุณหนูทำอะไรไม่เป็น ใช้แต่เงินพ่อไปวัน ๆ”
“…”
“ลี่จะทำให้คนพวกนั้นเห็นว่าลี่สามารถหาเงินใช้เองได้!” เอ่ยด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นจนพี่ ๆ ต่างร้องแซวเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งฉันไม่ได้รู้สึกโกรธหรือรู้สึกไม่ดีเพราะกลุ่มแก๊งนี้สนิทมากพอสมควร และฉันเป็นน้องรักของพี่ ๆ ด้วยนั่นแหละ ไม่งั้นไม่ป้อนงานมาให้สารพัดไม่ได้พักแบบนี้หรอก
“ว่าแต่รอบนี้ใครเป็นคนถ่ายให้ลี่เหรอคะ พี่กล้าเหมือนเดิมเหรอ”
“ไม่ใช่พี่หรอก งานพี่ท่วมหัวเลยตอนนี้” พี่กล้าส่ายหน้ายิ้มแห้ง ส่วนฉันหันไปมองหน้าพี่ซีแทน และพี่ซีก็ส่ายหน้ายิ้ม ๆ เช่นกัน
“ไอ้นู่นถ่ายให้เรา” พี่กิ๊ฟทำการเฉลยคำตอบพร้อมพยักพเยิดหน้าไปยังผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังสูบบุหรี่เข้าปอดสบายใจโดยกำลังหันหลังให้พวกเราอยู่ “มันชื่อลม ลี่ไม่เคยเห็นมันหรอก”
“เพื่อนพวกพี่เหรอ” ถามในขณะที่ตายังมองอีกฝ่ายเหมือนเคย ความรู้สึกคุ้น ๆ อย่างไรชอบกล แต่คิดไม่ออกว่าคุ้นมาจากไหน
“เพื่อนนี่แหละ เมื่อก่อนมันติดงานถ่ายของคนอื่นเลยไม่โผล่หัวมาให้เห็น บวกโลกส่วนตัวสูงจัดลี่เลยไม่เคยเห็นมัน”
“อ๋า… แบบนี้นี่เอง”
“มึงจะพี้ยาอีกนานไหมไอ้ลม รีบมาคุยกับน้องมันให้จบจะได้เคลียร์วันถ่าย” พี่กิ๊ฟตะโกนเรียกตามฉบับพี่สาวตัวแม่ตัวมัม ยังดีที่เขายอมดับบุหรี่และหยิบลูกอมมาแกะใส่ปากก่อนจะหมุนตัวเดินเข้ามาหากัน
ซึ่งแน่นอนว่าฉันรีบยกมือขึ้นชี้หน้าด้วยความตกใจทันที “คุณ!”
ทั้งโต๊ะเต็มไปด้วยความเงียบเมื่อฉันพูดจบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทุกคนกำลังงงกับการเรียกของฉัน แต่ดูเหมือนว่าผู้ชายคนดังกล่าวไม่ได้รู้สึกตกใจหรือตื่นเต้นที่เห็นฉันเลยสักนิด สีหน้าเฉยชาสุด ๆ
“นี่คุณจำฉันไม่ได้เหรอ”
“อะไร? ยังไง?”
“รู้จักมันเหรอ?”
“ไม่รู้จัก แต่พอดีเมื่อคืนลี่เจอเขาเอ๊ย! เจอพี่ลมที่ไนต์คลับก็เลยจำได้ค่ะ”
“แล้ว?”
“ตกลงจะคุยไหมงาน” ท่ามกลางการซักถามของพี่ ๆ เสียงห้าวติดนิ่ง ๆ โหด ๆ เอ่ยแทรกขึ้นมา ตาคมเหลือบมองหน้าฉันนิดหน่อยแล้วย้ายไปมองงานที่อยู่ในหน้าจอ “ถ้าไม่คุยจะกลับไปนอน”
“คุยค่ะ ๆ” รีบพยักหน้าเพราะกลัวอีกฝ่ายจะกลับไปนอนจริง ๆ “คุยตอนนี้เลยค่ะ”
“…”
พี่ลมไม่ได้ตอบรับและเลือกทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับฉัน มือเปิดไอแพดกด ๆ จิ้ม ๆ อะไรสักอย่างก่อนจะส่งมันมาให้ฉันดู “ว่างวันไหนบ้าง”
“สักครู่นะคะ ลี่ขอดูตารางงานก่อนค่ะ” เมื่อเข้าโหมดงานก็เลยทำตัวมีสาระขึ้นมาอีกนิด “เดือนนี้ลี่ว่างแค่วันเสาร์กับวันอาทิตย์ช่วงบ่ายเป็นต้นไปค่ะ”
“เดี๋ยวคิวถ่ายจะส่งไปให้อีกที”
“แล้วต้องถ่ายนานแค่ไหนคะ” แสร้งทำตาปริบ ๆ เหมือนเด็กไร้เดียงสา “แบบว่าลี่จะได้เจอกับพี่ลมบ่อยหรือเปล่า”
“ไม่ต้องห่วง เราไม่จำเป็นต้องเจอกันบ่อย”
“จริง ๆ งานลี่ไม่เยอะเลย ไม่ต้องรีบถ่ายก็ได้ค่ะ”
“…”
เป็นเหมือนเคยที่พี่ลมจะปิดปากเงียบเหมือนไม่ได้พกปากมาด้วย มีเพียงพี่ ๆ ในกลุ่มเท่านั้นที่ส่งยิ้มให้ฉันคล้ายกำลังสนุกที่มีคนมาปราบลิลลี่คนนี้ได้
ที่จริงไม่ได้ยอมแพ้หรอกนะ เพียงแค่สงวนท่าทีเท่านั้นแหละน่า
ขอโม้เลยว่าพี่ลมเป็นผู้ชายที่หล่อมาก ไม่ต่างจากพี่กล้ากับพี่ซีเลย เส้นผมของเขาดำเงามาพร้อมกับความดกหนา คิ้วสวยรับกับตาคมดุจดั่งตาเหยี่ยว ส่วนจมูกโด่งคมเข้ากับริมฝีปากสวยได้รูปนั่นอีก แม้จะติดชมพูคล้ำไปหน่อยแต่ก็ถือว่ายังดูดี ส่วนสีผิวและเนื้อตัวไม่ต้องพูดถึง ขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะสุด ๆ ตรงสเปกลิลลี่เลยจ้า!
แอร๊ย! ผู้ชายอะไรไม่รู้หล๊อหล่อ แถมมาดโหดและอินโทรเวิร์ดซะด้วย บอกตรง ๆ เลยว่าลี่อยากได้! ลี่จะเอา!
“แฮ่ม!”
“คะ!” ฉันสะดุ้งโหยงเมื่อพี่กิ๊ฟสะกิดเบา ๆ รีบหันไปมองลูกพี่ลูกน้องตัวเอง ก็ต้องได้เห็นพี่กิ๊ฟกำลังโน้มหน้าเข้ามากระซิบข้างหู
“เก็บอาการหน่อย ไอ้ลมมันเป็นคนขี้รำคาญ เดี๋ยวมันจะไม่รับงานให้พี่”
อ๋า…ลืมตัวไปเลย เมื่อกี้ฉันคงมองพี่ลมตาเยิ้มเลยสินะ!
“ตกลงมึงรับถ่ายใช่ไหม” พี่กิ๊ฟขยับตัวไปนั่งดี ๆ พลางถามพี่ลม ซึ่งเขาก็เงยหน้าออกจากหน้าจอโทรศัพท์และพยักหน้ารับไม่พูดเหมือนเดิม แต่ไม่นานก็เลื่อนสายตามามองฉันนิ่ง ๆ
“ขอไลน์”
“ขอ…ขอไลน์ลี่เหรอคะ” ชี้นิ้วใส่ตัวเองงง ๆ หัวใจเริ่มสูบฉีดเลือดขึ้นมาจนมันเต้นแรงไปหมด นี่อย่าบอกว่าเพียงแค่เห็นหน้าฉันพี่ลมก็ปิ๊งแล้วน่ะ บ้าเอ๊ย! แล้วก็เก๊กหล่ออยู่ได้!
“ขอไลน์จะได้ส่งงาน”
“…”
“ไม่ส่งงานในไลน์จะให้ส่งไปทางไหน?”
เพล้ง!!!!!!!
ใช่ค่ะ… นี่คือเสียงหน้าของดิฉันที่มันแตกเป็นเสี่ยงไม่เหลือชิ้นดี นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันอายตัวเองขนาดนี้!
ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เรียกกำลังใจตัวเอง หน้ายังคงความไร้เดียงสาไว้เหมือนเดิม “ให้ไอจีแทนได้ไหมคะ”
“ขอไลน์”
“…”
“ไม่ได้ขออย่างอื่น”
“…ค่ะ”
สุดท้ายลิลลี่คนนี้ก็ต้องให้ไลน์ไปเพราะสีหน้าและน้ำเสียงของคุณพี่เขาเริ่มตึงเครียดขึ้นมาแล้ว แต่ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้ไม่ทำให้ลิลลี่ยอมแพ้ หากลี่ต้องการสิ่งใดลี่ก็ต้องได้! พี่ลมก็เช่นกัน!