PUNYAH TALK
วันนี้ฉันมาทำงานก่อนเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงแน่ะ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเลยนึกถึงแต่หน้าเขาตั้งหลายรอบ คุณพอร์ชโทรมาหาฉันแล้วยังบอกฝันดีอีก เขาจะรุกฉันหนักไปถึงไหนนี่เพิ่งเจอกันไม่กี่วันเอง
ร่างสูงเดินหน้านิ่งมาพอดีฉันจึงลุกไปยืนแล้วโค้งให้
“สวัสดีค่ะคุณพอร์ช”
เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าฉันนิ่งซะจนฉันเดาใจไม่ถูกเลยได้แต่ยิ้มกว้างให้แก้เก้อ เขามีหน้าอื่นไหมนอกจากหน้าตึงแบบนี้?
“ชงกาแฟให้หน่อย”
“ชงกาแฟเหรอคะ? คุณพอร์ชดื่มแบบไหนคะหยาไม่ทราบอ่ะคะ กาแฟเท่าไหร่ น้ำตาล...”
“สอง สอง สอง”
มือเรียวเอื้อมมาจิ้มแก้มฉันหนึ่งทีก่อนละเอากลับไปล้วงกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิมและเดินเข้าห้องทำงานไปทันที
สอง สอง สอง คือกาแฟสองช้อน น้ำตาลสอง คอฟฟี่เมทสอง ฉันเข้าใจถูกไหม? ว่าแล้วก็รีบเดินไปชงให้ดีกว่า อ่อๆ เมื่อวานฉันเล่าให้แม่ฟังว่าคุณพอร์ชลุ่มล่ามกับฉันแม่บอกว่าคุณพอร์ชเจ้าเล่ห์ เป็นผู้ชายร้ายเงียบให้ลองดูไปก่อนถ้าฉันทนไม่ไหวให้ลาออกเลย แม่ฉันค่อนข้างโมโหเรื่องสัญญาที่ว่าลาออกจะโดนปรับสิบล้าน ดูก็รู้ว่าสัญญาเขาทำขึ้นมาเพื่อแกล้งฉัน แต่เงินเดือนตั้งสามหมื่นเชียวนะทนได้ก็ทนเอา
ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตค่ะ เอ่อ กาแฟคุณพอร์ชได้แล้วค่ะแต่ไม่รู้ว่าจะอร่อยถูกปากไหม แต่ถ้ามันยังไม่โอเคหยาไปทำใหม่ให้ได้นะคะ”
“เอาวางไว้”
“ขออนุญาตรายงานตารางงานคุณพอร์ชวันนี้นะคะ อะแฮ่ม สิบโมงวันนี้มีนัดเซ็นสัญญากับคุณริชาร์ตที่โรงแรงวินเซ็นส์ เอกสารที่เข้ามาให้คุณพอร์ชเซ็นวันนี้ค่อนข้างเยอะนะคะแต่หยาขอตรวจสอบก่อน”
“นวดเป็นไหม?”
“คะ? เอ่อ ก็นวดพอได้ค่ะหยานวดให้แม่บ่อยๆ”
เขาขยับตัวนั่งพิงพนักเก้าอี้แล้วเอื้อมมือไปบีบไหล่ตัวเอง
“เมื่อยจังครับ”
“จะให้หยานวดเหรอคะคุณพอร์ช มันไม่เหมาะนะคะ”
“นวดให้หน่อย”
“แต่ว่า”
“นะครับ”
ตาคมช้อนมองฉันเชิงอ้อน ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมเนี่ย?? หน้าที่เลขาคือตามใจเจ้านายด้วย ใช้อะไรก็ต้องทำเพื่อให้เกิดความพอใจ ซึ่งฉันโอเคมากเพราะจริงๆก็ปฎิเสธอะไรใครไม่ค่อยเป็นอยู่แล้ว ฉันเป็นคนขี้เกรงใจ ยิ่งถ้ามีบุญคุณกับฉันด้วยยิ่งไม่กล้าปฎิเสธเข้าไปใหญ่
ฉันนวดบริเวรบ่าไปจนถึงต้นคอไล่ไปมาอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกว่ากล้ามเนื้อเริ่มคลายตัวจากเดิมแล้ว ในห้องเงียบจนฉันอึดอัด ไม่มีการสนทนาระหว่างเราสองคนเพราะฉันไม่พูดเขาก็ไม่พูด ได้ยินแต่เสียงครางต่ำอยู่ในลำคอมันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ
“ดีขึ้นไหมคะคุณพอร์ช”
เขาไม่ตอบอะไรแต่ดึงมือฉันไปจูบที่หลังมืออย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณครับ”
ขาฉันก้าวไม่ออก ใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวจนฉันต้องยกมือขึ้นกุมแก้มไว้ไม่ให้เขาเห็นว่าฉันหน้าแดงแค่ไหน ใช่ ฉันกำลังเขิน ไม่สิปั้นหยาอย่าสติแตกเพียงเพราะเจ้านายหล่อ ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะหันหลังและกำลังเดินออกไป ทว่าร่างฉันถูกดึงจากด้านหลังเสียก่อน
มากกว่านั้นคือเขาดึงฉันให้มานั่งบนตักอย่างตั้งใจ
“คุณพอร์ชคะ”
“อย่าดิ้น”
“จะไม่ให้หยาดิ้นได้ยังไงคะ ปล่อยหยาเดี๋ยวนี้นะคะคุณพอร์ช เราควรทำงานด้วยกันอย่างสงบสุขนะคะหยาว่า ปล่อยค่ะปล่อย”
“หยาตัวหอมจัง”
ฉันดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแกร่งที่กอดรัดฉันแน่น ยิ่งฉันดิ้นเขาก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นจนฉันเองที่เหนื่อย
“หยาจะไปทำงานแล้วค่ะ”
“ที่ผมบอกว่าชอบ”
“คุณก็แค่พูดเล่นแหละค่ะหยารู้”
“ผมชอบคุณจริงๆปั้นหยา”
คำพูดของเขาทำให้ฉันชะงักแล้วหันไปมองหน้าเขาซึ่งเขาเองจ้องมองฉันอยู่ก่อนแล้ว หน้าเราใกล้กันมาก สายตาของเขาไม่ล่อกแล่กแถมยังจ้องตาฉันนิ่งเหมือนจะยืนยันคำพูดให้น่าเชื่อถือขึ้น หน้าหล่อค่อยๆขยับเข้ามาหาฉันเรื่อยๆจนริมฝีปากเราแตะกัน ฉันตกใจมากจนเผลอผลักเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มีแล้วรีบลุกออกไปจากตักเขา
“เอ่อคือ ขอโทษค่ะหยาไม่ได้ตั้งใจผลักคุณนะคะแต่ว่าคุณ....”
“ผมจะไม่ขอโทษ”
“คุณพอร์ชชอบหยาไม่ได้หรอกค่ะ เราต่างกันเกินไปจนหยาไม่สามารถคิดความสัมพันธ์เราเป็นอย่างอื่นได้เลยนอกจากเจ้านายกับลูกน้อง หยาไม่รู้ว่าที่คุณบอกว่าชอบนี่คุณพูดจริงหรือหลอกแต่ก็...”
“ที่ผมจูบ”
“แต่ก็ขอบคุณนะคะที่เอ็นดูหยา คุณทำแบบนี้หยาก็ลำบากใจ”
“ผมตั้งใจ”
อะไรอ่ะ? ฉันพูดไปซะยาวจนลืมประโยคแรกที่เขาพูดไปแล้วเนี่ย อ่า เมื่อกี้ได้ยินเหมือนพูดว่า ที่ผมจูบ ผมตั้งใจ ใช่ไหม?
“คุณตั้งใจจูบหยาเหรอคะ!!”
“ก็ผมชอบคุณ”
“หยาเพิ่งบอกไปแหม่บๆว่าเรามัน...”
“พูดมาก ไปทำงาน”
อ้าว ฉันยังพูดไม่จบเลยนะ วันนี้เปลืองเนื้อเปลืองตัวจริงๆเลย ฉันโค้งให้เขาทีนึงแล้วเดินออกจากห้องมานั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง หัวใจไม่รักดีมันเต้นแรงเสียจนจะกระเด็นออกมานอกอก ที่ผ่านมาก็มีคนจีบฉันเยอะแยะนะแต่ไม่เคยมีใครรุกหนักแล้วทำให้ฉันใจเต้นได้ขนาดนี้
เมื่อเช้าแผนกต่างๆเอาเอกสารมาให้ฉันเพื่อฝากให้เขาเซ็นอนุมัติ มีแต่คนถามฉันว่าบอสของพวกเธอเป็นยังไงบ้าง ดี๊ด๊ากันใหญ่เพราะเขาหล่อ ฉันก็เลยบอกไปว่าไม่รู้เหมือนกันเพิ่งมาทำงานเอง
ฮอตไม่เบาเลยนะคุณประธานบริษัท...
งานเลขานี่ก็วุ่นวายใช่ย่อยอยู่นะโดยเฉพาะเป็นเลขาให้คนงานเยอะอย่างคุณพอร์ช เอกสารทุกอย่างก่อนถึงมือเขาฉันต้องตรวจสอบก่อนว่าข้อมูลครบไหมเพราะถึงมือเขาคือทุกอย่างต้องเพอร์เฟ็ก ต้องทำความเข้าใจเนื้อหาเผื่อเขาถามฉันจะได้ตอบได้ เวลาจะไปประชุมฉันต้องเตรียมเนื้อหารายละเอียดแบบชนิดที่ว่าละเอียดยิบก่อนเข้าประชุมทั้งในบริษัทและนอกบริษัท
ครืดดดด ครืดดดด
ฉันตั้งแจ้งเตือนไว้ตอนเก้าโมงเพื่อจะออกไปทำงานข้างนอก
ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตค่ะ คุณพอร์ชคะได้เวลา...อ้าว ไปไหนแล้วล่ะ?”
เมื่อเจ้าตัวไม่อยู่ที่โต๊ะทำงานจึงทำให้ฉันสงสัย หันมองไปรอบห้องปรากฎว่าเขานอนราบอยู่ที่โซฟาฉันจึงเดินไปดู หน้าหล่อหลับตานิ่งสนิท ตอนหลับกับตอนตื่นหน้าเดียวกันเป๊ะเลยนะเนี่ย
“แอบมองผมเหรอ?”
“ปะ เปล่าค่ะ ได้เวลาไปพบคุณริชาร์ตแล้วนะคะคุณพอร์ช”
เขาขยับปากพูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่แบบนั้น และตอนนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาแต่อย่างใด แล้วฉันควรทำยังไง? นี่เราต้องออกไปข้างนอกนะถ้าไปช้าจะดูไม่มีมากๆ
“ดึง”
มือเรียวยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับลืมตามองอย่างคาดหวัง ฉันไม่อยากมาโดนเนื้อโดนตัวอะไรเขาเลย มันไม่สมควร แต่เขาเป็นหัวหน้าจะสั่งให้ทำอะไรฉันก็ต้องทำเพราะกินเงินเดือนเขาอยู่
“ฮึ้บ โอ๊ะ คุณพอร์ช อื้อออออออออออออออ”
ทันทีที่ฉันจับมือเขาและกำลังออกแรงฉุดเขาให้ลุกขึ้นนั้น กลับเป็นเขาต่างหากที่ออกแรงดึงฉันจนล้มลงบนตัวเขาก่อนที่ร่างสูงจะพลิกตัวขึ้นคร่อมแล้วจูบฉันอย่างอ่อนโยน ฉันพยายามเบี่ยงหน้าหนีจากสัมผัสของเขาทว่ามือของเขากลับล็อคหน้าฉันไว้แน่นจนหันหนีไม่ได้
ฉันควรจะเอามือไว้ตรงไหน ต้องทำหน้ายังไง เขาขบเม้มริมฝีปากฉันเบาๆแล้วเราก็นอนจ้องตากันแบบนั้น มันใกล้มาก ใจนึงก็อยากจะผลักเขาแต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวเขาจะโกรธ ไม่นานเขาก็ผละออกเอง
“ไปทำงานกัน”
“คุณพอร์ชคะ ถ้าคุณทำแบบนี้กับหยาอีกหยาจะลาออกนะคะ”
“ผมชอบหยาจริงๆ”
เขายังไม่ขยับออกจากตัวฉันแม้แต่องศาเดียว ยังคงนอนทับอยู่แบบนั้นจนฉันเริ่มอึดอัด เขาเอื้อมมามาปัดปอยผมให้ฉันอย่างเบามือ
“ลุกก่อนค่ะคุณพอร์ช”
“อยู่เป็นรอยยิ้มของผม”
“อ่า หยาหนักค่ะ”
“ผมมีแค่คุณ”
“โอเคค่ะ หยาไม่ลาออกแล้วค่ะแต่คุณพอร์ชลุกก่อนค่ะหยาหนัก แล้วเราก็ควรจะออกไปจากนี่ได้แล้วเดี๋ยวรถจะติด แล้วที่ว่าคุณมีแค่หยานี่คุณคงจะฝันกลางวัน คุณมีทุกอย่างนะคุณพอร์ชทั้งเงินทองทรัพย์สมบัติมากมาย อำนาจ สาวๆเข้าหาเยอะแยะ“
“จอมปลอมทั้งนั้น”
อยู่ๆเขาก็ทำหน้าหงุดหงิดแล้วลุกออกไปเลย ประโยคที่เขาพูดว่าจอมปลอมอะไรนั่นมันแข็งกร้าวจนฉันจับสังเกตุได้ว่าเขาไม่พอใจอะไรสักอย่างอยู่แน่ๆ เขาดูเป็นคนซับซ้อนจนน่าสงสัย หรือฉันควรจะเปิดใจศึกษานิสัยเขาเพื่อจะได้ทำตัวถูกว่าอันไหนเขาไม่ชอบจะได้ไม่พูด บางทีอาจทำให้เราทำงานร่วมกันได้ราบรื่นขึ้น
ถ้าฉันไม่ตกหลุมพรางกับหัวใจตัวเองซะก่อนนะ...
เล่นมาทำแบบนี้ฉันก็ทำตัวไม่ถูก เสียงหัวใจมันเต้นโครมครามอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ฉันเดาความคิดภายใต้หน้านิ่งๆของเขาไม่ออกหรอกแต่ฉันชอบสังเกตุคนจากสายตา บางทีฉันก็เห็นสายตาเศร้าๆของเขานะมันดูออกว่าไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่
ฉันพอจะช่วยอะไรเขาได้บ้างไหม? ฉันอยากช่วย
END TALK