CHAPTER 4

2463 Words
CHAPTER 4  PORSHE TALK ปั้นหยาเป็นคนขยันทำงานและทำงานเป็นเลขาผมได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อว่าเวลาเพียงไม่กี่วันเธอจะปรับตัวกับที่นี่ได้ ทั้งที่ตัวผมเองยังปรับตัวทำงานไม่ค่อยได้ด้วยซ้ำ ผมไม่ชอบคนประเภทขี้ประจบซึ่งก็มักจะเจอในบริษัทนี้โดยเฉพาะหัวหน้าหรือผู้จัดการฝ่ายต่างๆที่พยายามจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตผมเหลือเกิน ผมไม่ได้โง่ ผมดูคนออก “คุณพอร์ชคะผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศเขามาเยี่ยมน่ะค่ะ” จะมาเยี่ยมทำไมผมไม่ได้ป่วย! หันมองพวกกระเช้ายาชูกำลังทั้งหลายที่วางเกลื่อนกลาดอยู่ในห้องผมก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย พอรู้ว่ามีผู้บริหารใหม่ก็แห่กันมาทำความรู้จัก “บอกไปว่าผมไม่ว่าง” “ก็ไม่เห็นคุณพอร์ชจะทำอะไรเลยนี่คะ เกรงใจเขานะคะคุณพอร์ชเขาอุตส่าห์ซื้อกระเช้ารังนกกระเช้าใหญ่มาเลยนะคะ คงจะแพงน่าดู อย่างน้อยรับของก็ยังดีนะคะคุณพอร์ช” “เห้อออออ พูดมากจัง” “หยาก็แค่..” “มีอะไรให้บอกผ่านหยา” เธอเหมือนยังไม่หยุดที่จะสงสัยกำลังจะอ้าปากพูดขึ้นมาอีกแต่ผมใช้สายตาดุเธอซะก่อนเธอจึงหยุดแล้วเดินออกไป เธอเป็นคนขี้เกรงใจกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ และเธอค่อนข้างจะกลัวผมซึ่งมันดีเพราะเวลาผมลวนลามเธอจะได้ไม่ยากมาก ผมรู้ว่าเธอไม่ชอบที่จะให้ผมกอดจูบเธอแต่ผมชอบไง นับวันผมยิ่งชอบเธอจนอยากจะได้มาเป็นเมียเร็วๆ หลายครั้งที่ผมได้ยินเสียงหัวใจเธอเต้นดังออกมานอกอก... ช่วงนี้ผมทำแต่งานๆๆซะจนไม่มีเวลาจีบเธอแบบจริงๆจังๆ ผมอยากศึกษาชีวิตเธอให้มากกว่านี้ไม่ใช่ทำตัวลุ่มล่ามกับเธอไปวันๆเหมือนที่ผ่านมา ไม่งั้นเธอคงคิดว่าผมเป็นพวกเ*******ูที่คอยแต่จะโฉยโอกาสกับเธอโดยที่ผมไม่ได้คิดจริงจังอะไร แต่ผมจริงจังกับเธอนะ ก๊อก ก๊อก “โอ้ยยยย หยาหนักค่ะ” แก้มย้วยๆของเธอพองลมอย่างน่ารักเมื่อไม่ค่อยสบอารมณ์.. ผมรีบเดินเข้าไปหาเธอเมื่อเห็นว่าร่างเล็กหิ้วกระเช้าสองกระเช้าทั้งแขนซ้ายและแขนขวาจนร่างเดินโซเซ เอื้อมมือไปกะจะช่วยเธอหิ้วไปวางไว้บนโต๊ะหากแต่เธอเอี้ยวตัวหนีไม่ให้ผมช่วยผมจึงเปลี่ยนเป็นกอดเธอซะเลย ร่างบางตกใจรีบวางของแล้วแกะมือผมที่โอบรอบเอวเธอ แต่โทษทีที่ผมกอดเธอแน่นพอ... “หิว” “ปล่อยหาก่อนค่ะคุณพอร์ช คุณนี่ชอบมาทำแบบนี้กับหยาทุกวันเลยนะคะ ยิ่งคุณทำแบบนี้หยาก็ทำตัวไม่ถูกนะคะ” “ดูหยาก็ชอบนะ” “หยาไม่ได้ชอบสักหน่อยนะคะ ทำไมคุณพอร์ชคิดแบบนั้น” “ก็วันก่อน...หยาจูบตอบผม” เธอนิ่งไปเลยหลังจากที่ผมพูดประโยคนั้นไป มือเล็กที่แกะมือผมผมอยู่ก็ชะงัก ก็ผมพูดจริงๆนี่หว่า ผมจับเธอจูบทุกวันนั่นแหละแต่เมื่อวันก่อนเธอจูบตอบกลับผมด้วยนะตอนนั้นแทบจะอดใจไม่ไหว “เอ่อ คุณพอร์ชหิวใช่ไหม? อยากทานอะไรคะ” “ผมอยากกินหยา” จับสังเกตได้ว่าแก้มกลมของเธอมันซับสีแดงขึ้นมาชัดเจน น่าฟัดจังเลยคนอะไร ผมปล่อยให้เธอเป็นอิสระแต่ยังคงยืนดักเธอไว้หากเธอจะก้าวเท้าไปทางไหนผมก็จะขยับตามไปดักหน้า “คุณพอร์ช เล่นอะไรคะเนี่ยหยาจะไปทำงานแล้วค่ะ” เธอก้มหน้าไม่ยอมสบตา ผมเอื้อมมือไปจับมือเธอแล้วยกขึ้นมาแนบแก้มผม มือนุ่มกระตุกเล็กน้อยเมื่อสัมผัสเข้ากับผิวแก้ม “เราคบกันเถอะนะ” “เรายังไม่รู้จักกันดีพอเลยนะคะคุณพอร์ช คุณรุกหยาเร็วไปหมดและที่สำคัญเราไม่เหมาะสมกันค่ะ หยาจนแต่คุณรวยมาก เราต่างกัน” เธอชักมือกลับก่อนจะโค้งตัวให้ผมหนึ่งทีแล้วเดินออกจากห้องไปเลย เกิดมาผมก็ไม่เคยง้อใครขนาดนี้เหมือนกันปั้นหยาเป็นคนแรก แล้วก็เป็นคนแรกเลยที่ตรงตามทฤษฎีรักของผม ยิ่งได้ยากๆแบบนี้ผมก็ยิ่งอยากได้มากขึ้นนะ ผมอยากพาเธอไปเที่ยว อยากเดินจับมือแบบเปิดเผย อยากฟัดแก้มนุ่มๆของเธอตลอดทั้งวัน คิดดูสิถ้าเราตกลงคบกันผลที่ผมจะได้มันคุ้มขนาดไหน ผมถึงอยากได้มากไง คิดว่าเธอปฎิเสธอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องที่ผมขอเป็นแฟนนี่แหละ ขนาดทุกวันนี้ผมหลอกล่อให้เธอติดกับยังได้ลวนลามขนาดนี้ แล้วถ้าผมได้เธอเป็นแฟนจริงๆผมจะได้ทำอะไรบ้างล่ะ คุ้มค่าจะตาย อยากให้เธออยู่เป็นรอยยิ้มของผมแบบนี้ไปเรื่อยๆ... ปัง! “ไอ้เพื่อนเวร! กลับมาก็ไม่บอกเลยนะมึง” “เห้ยคุณ!! เข้าไม่ได้นะคะ” เตชินท์เพื่อนผมเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับร่างเล็กที่วิ่งหน้าตาตื่นตามมาติดๆ ไอ้เตหันไปมองปั้นหยาด้วยสายตาเป็นประกายจนเห็นได้ชัด เธอยืนร้อนรนทำตัวไม่ถูกเมื่อปล่อยให้คนเข้ามาได้โดยไม่ถามผมก่อน “ปั้นหยาออกไปก่อน” “คุณพอร์ชคะ คือหยาขอโทษที่ให้คุณเขาเข้ามานะคะ หยาไปเข้าห้องน้ำมาค่ะเลยไม่มีคนอยู่ข้างนอกเลย หยา...” “ออก ไป ก่อน!!” ความโกรธของผมมันพุ่งทะยานขึ้นทุกขณะเมื่อเห็นไอ้เตมองปั้นหยาเหมือนจะกลืนกินให้ได้ มองไล่ตั้งแต่หน้าตายันหน้าอก “แจ่มดีว่ะเลขามึง” “มึงมาทำไม” “อ้าวไอ้นี่ เพื่อนกลับมาทั้งทีกูก็มาหาดิ่วะคืนนี้ไปโยกกันที่ผับกูหน่อยเป็นไง? ไม่ได้ดริ๊งกับมึงมานานมากแล้วไอ้พอร์ช” “กูไม่ไป” “แม่มึงห้ามอีกล่ะสิ โตขนาดนี้แล้วนะเว้ยมึงนี่ลูกแหง่ว่ะ ฮ่าๆๆ” ปึก! ผมโยนแฟ้มกระแทกกับโต๊ะอย่างหงุดหงิด! “กูจะทำงาน!!” “อะไรวะเพื่อนมาหาก็ยังเย็นชาใส่ มึงนี่มันเจ้าชายเย็นชาตั้งแต่เด็กจนโตจริงๆว่ะ เออ กูไปก็ได้” เพื่อนผมที่ไทยก็เหลือแค่มันคนเดียวที่ยังติดต่อกันอยู่ จะว่าสนิทก็สนิทแต่จะว่าไม่ค่อยสนิทก็ใช่อีก ด้วยระยะเวลาที่ผมไปอยู่เมืองนอกหลายปีทำให้ความคุ้นเคยของเรามันน้อยลงเรื่อยๆ ติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์บ้าง หรือบางทีมันก็ไปเที่ยวหาผมที่โน่นบ้าง ไอ้เตน่ะเสือผู้หญิงตัวพ่อ โครตเลวกับเรื่องแบบนี้เลยแม้กระทั่งแฟนเพื่อนในกลุ่มมันก็ไม่เว้น ผมยังคงนั่งทำงานของผมต่อไป เอกสารพวกนี้มันเยอะจริงๆ หันไปมองนาฬิกาก็เกือบสิบเอ็ดโมงครึ่งที่เป็นเวลาพักเที่ยงแล้ว วันนี้ผมอยากออกไปกินข้าวข้างนอกเพราะหลายวันมานี้อุดอู้อยู่แต่ห้องทำงาน แต่เดี๋ยวสักเที่ยงค่อยไปก็ได้ ขออ่านงานกองนี้ให้เสร็จก่อน นั่งเคลียร์งานไปจนเลยเวลา มองนาฬิกาอีกทีก็เที่ยงกว่าแล้ว ผมรีบเก็บแฟ้มแล้วหยิบสูทเตรียมตัวจะออกไปกินข้าวข้างนอกโดยที่จะพาเธอไปกับผมด้วย ในบริษัทอาจต้องแคร์สายตาคนอื่นหากผมจะอยู่ใกล้กับเธอแต่ถ้าข้างนอกคงไม่เป็นไร แต่ทันทีที่ผมเปิดประตูออกมาสิ่งที่เห็นทำหางคิ้วผมกระตุกถี่! ปั้นหยากับไอ้เตนั่งกินข้าวด้วยกัน คุยกันหัวเราะต่อกระซิกเหมือนสนิทกันมานาน เธอไม่มีวันตามเกมส์ไอ้เพื่อนเวรของผมทันหรอก “ไปกินข้าวกับฉัน” ผมเดินเข้าไปดึงเธอให้ลุกขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ทำไมต้องกินข้าวกับมันด้วย ผมกับเธอยังไม่เคยนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันเลยด้วยซ้ำแล้วไอ้เตมีสิทธิอะไรมากินข้าวกับเธอ “คุณพอร์ชคะแต่หยาทานอยู่นะคะ” “อะไรของมึงวะไอ้พอร์ช มึงอยากกินก็มากินด้วยกันดิ่แกงเขียวหวานนี่อร่อยมากเลยนะเว้ย” “ไม่กิน สกปรก!!” เค้นเสียงลอดไรฟันอย่างเหลืออดก่อนจะดึงเธอให้เดินตามผมมาติดๆ เสียงไอ้เตดังไล่หลังผมมาเนืองๆล้วนแต่เป็นคำด่าทั้งสิ้น ผมคงด่าสู้มันไม่ได้เพราะพูดไม่เก่ง ทนไม่ไหวจริงๆคงต่อยไปเลย “ถ้าคุณพอร์ชโกรธที่หยาไม่ทันห้ามคุณเตให้เข้าไปในห้องทำงานหยาขอโทษนะคะที่ทำให้คุณพอร์ชโกรธ แต่หยาก็ไม่ได้ตั้งใจ อย่างที่หยาบอกไปค่ะว่าหยาไปเข้าห้องน้ำมาเลยไม่ทันเห็น” “อย่ายุ่งกับมัน!!” “ทำไมล่ะคะ คุณเตเขาก็น่ารักดีออก” ผลั้ว!! “น่ารักงั้นเหรอ!!!” ผมชกเข้ากับผนังลิฟท์อย่างควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ไอ้เตมันจะยุ่งกับใครก็ได้ที่ไม่ใช่ปั้นหยา ที่ไม่ใช่ผู้หญิงคนที่ผมคิดจะจริงจังด้วยคนนี้!! ดูก็รู้ว่ามันคิดจะเคลมปั้นหยาแน่ๆ “คุณพอร์ช!! ทำไมคุณถึงทำแบบนี้คะ” เธอรีบเข้ามาจับมือผมข้างที่ชกผนังลิฟท์เมื่อครู่ขึ้นมาดูก็พบว่ามีเลือดซึมออกมา ผมไม่น่าทำตัวเหมือนเมื่อกี้ให้เธอเห็นเลย เธอจะกลัวผมไหม? ปั้นหยาทำหน้ามุ่ยก่อนจะหยิบกระดาษทิชชู่ในกระเป๋าตัวเองมาซับเลือดให้ผมก่อนจะเป่าที่มือเบาๆ “กลัวผมไหม?” “หยาไม่กลัวคุณหรอกค่ะ หยาคงยังรู้จักคุณไม่ดีพอเลยไม่รู้ว่าคุณอารมณ์รุนแรงแบบนี้ปกติหรือเปล่า คุณพอร์ชโมโหแล้วอย่าทำตัวเองเจ็บตัวแบบนี้สิคะหยาเป็นห่วง ใจเย็นๆก่อนนะคะ คุยกับหยาก่อนว่าคุณเป็นอะไรทำไมต้องโมโหขนาดนี้” “อย่ายุ่งกับไอ้เต” “มีเหตุผลให้หยาไหมคะ?” “ผมหวงคุณ” “คุณอย่ามาทำให้หยาใจสั่นแบบนี้ได้ไหมคะ” ปั้นหยายกมือขึ้นทาบแก้มที่แดงเป็นลูกตำลึง ผมทำเธอเขินได้ทั้งวันแหละ อีกหน่อยเธอคงใจอ่อน แต่ที่แน่ๆผมหายโมโหเป็นปลิดทิ้งเพียงแค่ได้เห็นปฎิกิริยาของเธอแค่นี้ ไม่สิ จริงๆหายตั้งแต่เธอซับเลือดที่มือให้ผมแล้วด้วยซ้ำ เธอเป็นคนจิตใจดีแบบนี้ไงผมถึงชอบเธอ ว่าแล้วผมก็เดินไปกอดเธอจากด้านหลังเหมือนที่ทำประจำ ติ๊ง! เมื่อประตูลิฟท์เปิดเธอก็รีบสะบัดตัวออกทันทีอาจเพราะกลัวคนอื่นเห็น ผมเข้าใจดีเลยผละออกมาเหมือนกันก่อนจะเดินนำเธอไปยังรถตู้ประจำตำแหน่งของผม แต่จู่ๆเธอก็ขอตัวแล้ววิ่งไปไหนไม่รู้ผมจึงขึ้นไปรอบนรถด้วยความสงสัย หรืออาจจะลืมอะไรไว้ข้างบน? “ไปไหนมา” ผมท้วงถามขณะที่เธอเปิดประตูรถขึ้นมานั่งเบาะข้างผม “แฮ่กๆๆ เห้อออ เหนื่อยเลย คุณพอร์ชเอามือมาค่ะ” ไม่เข้าใจที่เธอพูดอยู่ๆมาขอมือผมไม่ใช่หมานะ เธอเอื้อมมือมาดึงมือผมข้างที่เจ็บก่อนจะแกะปาสเตอร์มาแปะไว้ให้ผมแล้วเป่าให้เบาๆ “ขอบคุณครับ” ร้านที่เราจะไปก็ไม่ได้ไกลจากบริษัทมากนัก ผมสั่งอาหารมาสี่ห้าอย่างเผื่อเธอด้วยเพราะผมให้เธอสั่งเธอก็ได้แต่ส่ายหัวแล้วบอกเกรงใจผมเลยจัดการเอง หลังจากอาหารมาผมก็ลงมือกินทันทีแต่เธอนี่สินั่งเขี่ยข้าวในจานไปมา กินไปน้อยมาก “คุณพอร์ชจะกลับเมื่อไหร่คะ บ่ายสามมีประชุมแต่หยายังเตรียมเอกสารไม่ครบเลย กลัวไม่ทันจังเลยค่ะ” “ไม่อร่อยหรือไง” “คะ? อ่อก็อร่อยดีค่ะแต่หยาไม่หิวพอดีทานไปแล้วน่ะค่ะ” “กับไอ้เต?” ทั้งที่ผมเห็นกับตาว่าเธอนั่งกินข้าวกับไอ้เตแล้วผมจะถามซ้ำให้ตัวผมเองหงุดหงิดทำไม “ค่ะ แกงเขียวหวานที่ทานกับคุณเตนั่นแหละค่ะ” “หึ อาหารสกปรก” ของที่ไอ้เตซื้อมาเพื่อหลอกล่อเธอล้วนแต่เป็นสิ่งโสโครกทั้งนั้นแหละ ปั้นหยาเหมือนผ้าสีขาวที่พร้อมจะโดนขี้โคลนอย่างเพื่อนผมทำให้หมองได้ทุกเมื่อนั่นแหละ แต่ผมจะเป็นผงซักฟอกเองคอยดูสิ เธอถอนหายใจแรงๆแล้วช้อนตากลมมองผมด้วยสายตาแปลก มือเล็กวางช้อนส้อมซ้อนกันบนจานก่อนจะวางมือไว้บนตัก “อาหารที่คุณพอร์ชบอกว่าสกปรกถึงสองครั้ง อยากให้ทราบไว้นิดนึงค่ะว่านั่นคือกับข้าวที่แม่หยาทำมาให้และหยาก็โตมาได้กับอาหารพวกนี้แหละค่ะ แม่หยาห่อมาให้หยาทุกวันแค่คุณพอร์ชไม่รู้เท่านั้นเอง” ผมพูดอะไรไม่ออก ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอห่ออาหารมากินตอนกลางวันด้วย ไม่หนำซ้ำยังเป็นอาหารที่แม่เธอทำ ผมไม่ได้ตั้งใจจะว่าอาหารแม่เธอสกปรกนะแต่ที่ผมพูดไปแบบนั้นเพราะคิดว่าไอ้เตมันลงไปซื้อข้าวที่โรงอาหารของบริษัทมานั่งกินกันที่โต๊ะทำงาน พอคิดได้แบบนี้ผมก็ยิ่งอยากด่าตัวเอง ไอ้เตมันไม่มีความพยายามทำอะไรขนาดนั้นหรอก ทำไมตอนนั้นไม่คิดได้แบบนี้วะ “เอ่อ โกรธผมไหม?” “อยากจะโกรธเหมือนกันนะคะก็คุณว่าอาหารแม่หยาอ่ะ แต่เพราะคุณไม่ทราบหยาก็เลยไม่รู้ว่าจะโกรธคุณไปทำไม” หลังจากนั้นเธอก็นั่งหน้ามุ่ยกว่าเดิมจนผมกินข้าวไม่อร่อยเลยรีบกินรีบเช็คบิลแล้วพาเธอกลับ วันนี้สถานการณ์ไม่ปกติเลยสำหรับเรา เธองอนผมชัดเจนโดยไม่พูดไม่จามาตลอดทาง ถึงอย่างนั้นก็ยังน่ารักอยู่ดี ดูแก้มย้วยๆของเธอสิ... อยากจะง้อด้วยการฟัดแก้มสักทีสองดีแต่เธอคงไม่ยอมให้ทำ... END TALK
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD