CHAPTER 4
PORSHE TALK
ปั้นหยาเป็นคนขยันทำงานและทำงานเป็นเลขาผมได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อว่าเวลาเพียงไม่กี่วันเธอจะปรับตัวกับที่นี่ได้ ทั้งที่ตัวผมเองยังปรับตัวทำงานไม่ค่อยได้ด้วยซ้ำ ผมไม่ชอบคนประเภทขี้ประจบซึ่งก็มักจะเจอในบริษัทนี้โดยเฉพาะหัวหน้าหรือผู้จัดการฝ่ายต่างๆที่พยายามจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตผมเหลือเกิน ผมไม่ได้โง่ ผมดูคนออก
“คุณพอร์ชคะผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศเขามาเยี่ยมน่ะค่ะ”
จะมาเยี่ยมทำไมผมไม่ได้ป่วย! หันมองพวกกระเช้ายาชูกำลังทั้งหลายที่วางเกลื่อนกลาดอยู่ในห้องผมก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย พอรู้ว่ามีผู้บริหารใหม่ก็แห่กันมาทำความรู้จัก
“บอกไปว่าผมไม่ว่าง”
“ก็ไม่เห็นคุณพอร์ชจะทำอะไรเลยนี่คะ เกรงใจเขานะคะคุณพอร์ชเขาอุตส่าห์ซื้อกระเช้ารังนกกระเช้าใหญ่มาเลยนะคะ คงจะแพงน่าดู อย่างน้อยรับของก็ยังดีนะคะคุณพอร์ช”
“เห้อออออ พูดมากจัง”
“หยาก็แค่..”
“มีอะไรให้บอกผ่านหยา”
เธอเหมือนยังไม่หยุดที่จะสงสัยกำลังจะอ้าปากพูดขึ้นมาอีกแต่ผมใช้สายตาดุเธอซะก่อนเธอจึงหยุดแล้วเดินออกไป เธอเป็นคนขี้เกรงใจกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ และเธอค่อนข้างจะกลัวผมซึ่งมันดีเพราะเวลาผมลวนลามเธอจะได้ไม่ยากมาก ผมรู้ว่าเธอไม่ชอบที่จะให้ผมกอดจูบเธอแต่ผมชอบไง นับวันผมยิ่งชอบเธอจนอยากจะได้มาเป็นเมียเร็วๆ
หลายครั้งที่ผมได้ยินเสียงหัวใจเธอเต้นดังออกมานอกอก...
ช่วงนี้ผมทำแต่งานๆๆซะจนไม่มีเวลาจีบเธอแบบจริงๆจังๆ ผมอยากศึกษาชีวิตเธอให้มากกว่านี้ไม่ใช่ทำตัวลุ่มล่ามกับเธอไปวันๆเหมือนที่ผ่านมา ไม่งั้นเธอคงคิดว่าผมเป็นพวกเ*******ูที่คอยแต่จะโฉยโอกาสกับเธอโดยที่ผมไม่ได้คิดจริงจังอะไร แต่ผมจริงจังกับเธอนะ
ก๊อก ก๊อก
“โอ้ยยยย หยาหนักค่ะ”
แก้มย้วยๆของเธอพองลมอย่างน่ารักเมื่อไม่ค่อยสบอารมณ์..
ผมรีบเดินเข้าไปหาเธอเมื่อเห็นว่าร่างเล็กหิ้วกระเช้าสองกระเช้าทั้งแขนซ้ายและแขนขวาจนร่างเดินโซเซ เอื้อมมือไปกะจะช่วยเธอหิ้วไปวางไว้บนโต๊ะหากแต่เธอเอี้ยวตัวหนีไม่ให้ผมช่วยผมจึงเปลี่ยนเป็นกอดเธอซะเลย ร่างบางตกใจรีบวางของแล้วแกะมือผมที่โอบรอบเอวเธอ
แต่โทษทีที่ผมกอดเธอแน่นพอ...
“หิว”
“ปล่อยหาก่อนค่ะคุณพอร์ช คุณนี่ชอบมาทำแบบนี้กับหยาทุกวันเลยนะคะ ยิ่งคุณทำแบบนี้หยาก็ทำตัวไม่ถูกนะคะ”
“ดูหยาก็ชอบนะ”
“หยาไม่ได้ชอบสักหน่อยนะคะ ทำไมคุณพอร์ชคิดแบบนั้น”
“ก็วันก่อน...หยาจูบตอบผม”
เธอนิ่งไปเลยหลังจากที่ผมพูดประโยคนั้นไป มือเล็กที่แกะมือผมผมอยู่ก็ชะงัก ก็ผมพูดจริงๆนี่หว่า ผมจับเธอจูบทุกวันนั่นแหละแต่เมื่อวันก่อนเธอจูบตอบกลับผมด้วยนะตอนนั้นแทบจะอดใจไม่ไหว
“เอ่อ คุณพอร์ชหิวใช่ไหม? อยากทานอะไรคะ”
“ผมอยากกินหยา”
จับสังเกตได้ว่าแก้มกลมของเธอมันซับสีแดงขึ้นมาชัดเจน น่าฟัดจังเลยคนอะไร ผมปล่อยให้เธอเป็นอิสระแต่ยังคงยืนดักเธอไว้หากเธอจะก้าวเท้าไปทางไหนผมก็จะขยับตามไปดักหน้า
“คุณพอร์ช เล่นอะไรคะเนี่ยหยาจะไปทำงานแล้วค่ะ”
เธอก้มหน้าไม่ยอมสบตา ผมเอื้อมมือไปจับมือเธอแล้วยกขึ้นมาแนบแก้มผม มือนุ่มกระตุกเล็กน้อยเมื่อสัมผัสเข้ากับผิวแก้ม
“เราคบกันเถอะนะ”
“เรายังไม่รู้จักกันดีพอเลยนะคะคุณพอร์ช คุณรุกหยาเร็วไปหมดและที่สำคัญเราไม่เหมาะสมกันค่ะ หยาจนแต่คุณรวยมาก เราต่างกัน”
เธอชักมือกลับก่อนจะโค้งตัวให้ผมหนึ่งทีแล้วเดินออกจากห้องไปเลย เกิดมาผมก็ไม่เคยง้อใครขนาดนี้เหมือนกันปั้นหยาเป็นคนแรก แล้วก็เป็นคนแรกเลยที่ตรงตามทฤษฎีรักของผม ยิ่งได้ยากๆแบบนี้ผมก็ยิ่งอยากได้มากขึ้นนะ ผมอยากพาเธอไปเที่ยว อยากเดินจับมือแบบเปิดเผย อยากฟัดแก้มนุ่มๆของเธอตลอดทั้งวัน คิดดูสิถ้าเราตกลงคบกันผลที่ผมจะได้มันคุ้มขนาดไหน ผมถึงอยากได้มากไง
คิดว่าเธอปฎิเสธอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องที่ผมขอเป็นแฟนนี่แหละ ขนาดทุกวันนี้ผมหลอกล่อให้เธอติดกับยังได้ลวนลามขนาดนี้ แล้วถ้าผมได้เธอเป็นแฟนจริงๆผมจะได้ทำอะไรบ้างล่ะ คุ้มค่าจะตาย
อยากให้เธออยู่เป็นรอยยิ้มของผมแบบนี้ไปเรื่อยๆ...
ปัง!
“ไอ้เพื่อนเวร! กลับมาก็ไม่บอกเลยนะมึง”
“เห้ยคุณ!! เข้าไม่ได้นะคะ”
เตชินท์เพื่อนผมเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับร่างเล็กที่วิ่งหน้าตาตื่นตามมาติดๆ ไอ้เตหันไปมองปั้นหยาด้วยสายตาเป็นประกายจนเห็นได้ชัด เธอยืนร้อนรนทำตัวไม่ถูกเมื่อปล่อยให้คนเข้ามาได้โดยไม่ถามผมก่อน
“ปั้นหยาออกไปก่อน”
“คุณพอร์ชคะ คือหยาขอโทษที่ให้คุณเขาเข้ามานะคะ หยาไปเข้าห้องน้ำมาค่ะเลยไม่มีคนอยู่ข้างนอกเลย หยา...”
“ออก ไป ก่อน!!”
ความโกรธของผมมันพุ่งทะยานขึ้นทุกขณะเมื่อเห็นไอ้เตมองปั้นหยาเหมือนจะกลืนกินให้ได้ มองไล่ตั้งแต่หน้าตายันหน้าอก
“แจ่มดีว่ะเลขามึง”
“มึงมาทำไม”
“อ้าวไอ้นี่ เพื่อนกลับมาทั้งทีกูก็มาหาดิ่วะคืนนี้ไปโยกกันที่ผับกูหน่อยเป็นไง? ไม่ได้ดริ๊งกับมึงมานานมากแล้วไอ้พอร์ช”
“กูไม่ไป”
“แม่มึงห้ามอีกล่ะสิ โตขนาดนี้แล้วนะเว้ยมึงนี่ลูกแหง่ว่ะ ฮ่าๆๆ”
ปึก!
ผมโยนแฟ้มกระแทกกับโต๊ะอย่างหงุดหงิด!
“กูจะทำงาน!!”
“อะไรวะเพื่อนมาหาก็ยังเย็นชาใส่ มึงนี่มันเจ้าชายเย็นชาตั้งแต่เด็กจนโตจริงๆว่ะ เออ กูไปก็ได้”
เพื่อนผมที่ไทยก็เหลือแค่มันคนเดียวที่ยังติดต่อกันอยู่ จะว่าสนิทก็สนิทแต่จะว่าไม่ค่อยสนิทก็ใช่อีก ด้วยระยะเวลาที่ผมไปอยู่เมืองนอกหลายปีทำให้ความคุ้นเคยของเรามันน้อยลงเรื่อยๆ ติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์บ้าง หรือบางทีมันก็ไปเที่ยวหาผมที่โน่นบ้าง ไอ้เตน่ะเสือผู้หญิงตัวพ่อ โครตเลวกับเรื่องแบบนี้เลยแม้กระทั่งแฟนเพื่อนในกลุ่มมันก็ไม่เว้น
ผมยังคงนั่งทำงานของผมต่อไป เอกสารพวกนี้มันเยอะจริงๆ หันไปมองนาฬิกาก็เกือบสิบเอ็ดโมงครึ่งที่เป็นเวลาพักเที่ยงแล้ว วันนี้ผมอยากออกไปกินข้าวข้างนอกเพราะหลายวันมานี้อุดอู้อยู่แต่ห้องทำงาน แต่เดี๋ยวสักเที่ยงค่อยไปก็ได้ ขออ่านงานกองนี้ให้เสร็จก่อน
นั่งเคลียร์งานไปจนเลยเวลา มองนาฬิกาอีกทีก็เที่ยงกว่าแล้ว ผมรีบเก็บแฟ้มแล้วหยิบสูทเตรียมตัวจะออกไปกินข้าวข้างนอกโดยที่จะพาเธอไปกับผมด้วย ในบริษัทอาจต้องแคร์สายตาคนอื่นหากผมจะอยู่ใกล้กับเธอแต่ถ้าข้างนอกคงไม่เป็นไร
แต่ทันทีที่ผมเปิดประตูออกมาสิ่งที่เห็นทำหางคิ้วผมกระตุกถี่!
ปั้นหยากับไอ้เตนั่งกินข้าวด้วยกัน คุยกันหัวเราะต่อกระซิกเหมือนสนิทกันมานาน เธอไม่มีวันตามเกมส์ไอ้เพื่อนเวรของผมทันหรอก
“ไปกินข้าวกับฉัน”
ผมเดินเข้าไปดึงเธอให้ลุกขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ทำไมต้องกินข้าวกับมันด้วย ผมกับเธอยังไม่เคยนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันเลยด้วยซ้ำแล้วไอ้เตมีสิทธิอะไรมากินข้าวกับเธอ
“คุณพอร์ชคะแต่หยาทานอยู่นะคะ”
“อะไรของมึงวะไอ้พอร์ช มึงอยากกินก็มากินด้วยกันดิ่แกงเขียวหวานนี่อร่อยมากเลยนะเว้ย”
“ไม่กิน สกปรก!!”
เค้นเสียงลอดไรฟันอย่างเหลืออดก่อนจะดึงเธอให้เดินตามผมมาติดๆ เสียงไอ้เตดังไล่หลังผมมาเนืองๆล้วนแต่เป็นคำด่าทั้งสิ้น ผมคงด่าสู้มันไม่ได้เพราะพูดไม่เก่ง ทนไม่ไหวจริงๆคงต่อยไปเลย
“ถ้าคุณพอร์ชโกรธที่หยาไม่ทันห้ามคุณเตให้เข้าไปในห้องทำงานหยาขอโทษนะคะที่ทำให้คุณพอร์ชโกรธ แต่หยาก็ไม่ได้ตั้งใจ อย่างที่หยาบอกไปค่ะว่าหยาไปเข้าห้องน้ำมาเลยไม่ทันเห็น”
“อย่ายุ่งกับมัน!!”
“ทำไมล่ะคะ คุณเตเขาก็น่ารักดีออก”
ผลั้ว!!
“น่ารักงั้นเหรอ!!!”
ผมชกเข้ากับผนังลิฟท์อย่างควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ไอ้เตมันจะยุ่งกับใครก็ได้ที่ไม่ใช่ปั้นหยา ที่ไม่ใช่ผู้หญิงคนที่ผมคิดจะจริงจังด้วยคนนี้!! ดูก็รู้ว่ามันคิดจะเคลมปั้นหยาแน่ๆ
“คุณพอร์ช!! ทำไมคุณถึงทำแบบนี้คะ”
เธอรีบเข้ามาจับมือผมข้างที่ชกผนังลิฟท์เมื่อครู่ขึ้นมาดูก็พบว่ามีเลือดซึมออกมา ผมไม่น่าทำตัวเหมือนเมื่อกี้ให้เธอเห็นเลย เธอจะกลัวผมไหม? ปั้นหยาทำหน้ามุ่ยก่อนจะหยิบกระดาษทิชชู่ในกระเป๋าตัวเองมาซับเลือดให้ผมก่อนจะเป่าที่มือเบาๆ
“กลัวผมไหม?”
“หยาไม่กลัวคุณหรอกค่ะ หยาคงยังรู้จักคุณไม่ดีพอเลยไม่รู้ว่าคุณอารมณ์รุนแรงแบบนี้ปกติหรือเปล่า คุณพอร์ชโมโหแล้วอย่าทำตัวเองเจ็บตัวแบบนี้สิคะหยาเป็นห่วง ใจเย็นๆก่อนนะคะ คุยกับหยาก่อนว่าคุณเป็นอะไรทำไมต้องโมโหขนาดนี้”
“อย่ายุ่งกับไอ้เต”
“มีเหตุผลให้หยาไหมคะ?”
“ผมหวงคุณ”
“คุณอย่ามาทำให้หยาใจสั่นแบบนี้ได้ไหมคะ”
ปั้นหยายกมือขึ้นทาบแก้มที่แดงเป็นลูกตำลึง ผมทำเธอเขินได้ทั้งวันแหละ อีกหน่อยเธอคงใจอ่อน แต่ที่แน่ๆผมหายโมโหเป็นปลิดทิ้งเพียงแค่ได้เห็นปฎิกิริยาของเธอแค่นี้ ไม่สิ จริงๆหายตั้งแต่เธอซับเลือดที่มือให้ผมแล้วด้วยซ้ำ เธอเป็นคนจิตใจดีแบบนี้ไงผมถึงชอบเธอ
ว่าแล้วผมก็เดินไปกอดเธอจากด้านหลังเหมือนที่ทำประจำ
ติ๊ง!
เมื่อประตูลิฟท์เปิดเธอก็รีบสะบัดตัวออกทันทีอาจเพราะกลัวคนอื่นเห็น ผมเข้าใจดีเลยผละออกมาเหมือนกันก่อนจะเดินนำเธอไปยังรถตู้ประจำตำแหน่งของผม แต่จู่ๆเธอก็ขอตัวแล้ววิ่งไปไหนไม่รู้ผมจึงขึ้นไปรอบนรถด้วยความสงสัย หรืออาจจะลืมอะไรไว้ข้างบน?
“ไปไหนมา”
ผมท้วงถามขณะที่เธอเปิดประตูรถขึ้นมานั่งเบาะข้างผม
“แฮ่กๆๆ เห้อออ เหนื่อยเลย คุณพอร์ชเอามือมาค่ะ”
ไม่เข้าใจที่เธอพูดอยู่ๆมาขอมือผมไม่ใช่หมานะ เธอเอื้อมมือมาดึงมือผมข้างที่เจ็บก่อนจะแกะปาสเตอร์มาแปะไว้ให้ผมแล้วเป่าให้เบาๆ
“ขอบคุณครับ”
ร้านที่เราจะไปก็ไม่ได้ไกลจากบริษัทมากนัก ผมสั่งอาหารมาสี่ห้าอย่างเผื่อเธอด้วยเพราะผมให้เธอสั่งเธอก็ได้แต่ส่ายหัวแล้วบอกเกรงใจผมเลยจัดการเอง หลังจากอาหารมาผมก็ลงมือกินทันทีแต่เธอนี่สินั่งเขี่ยข้าวในจานไปมา กินไปน้อยมาก
“คุณพอร์ชจะกลับเมื่อไหร่คะ บ่ายสามมีประชุมแต่หยายังเตรียมเอกสารไม่ครบเลย กลัวไม่ทันจังเลยค่ะ”
“ไม่อร่อยหรือไง”
“คะ? อ่อก็อร่อยดีค่ะแต่หยาไม่หิวพอดีทานไปแล้วน่ะค่ะ”
“กับไอ้เต?”
ทั้งที่ผมเห็นกับตาว่าเธอนั่งกินข้าวกับไอ้เตแล้วผมจะถามซ้ำให้ตัวผมเองหงุดหงิดทำไม
“ค่ะ แกงเขียวหวานที่ทานกับคุณเตนั่นแหละค่ะ”
“หึ อาหารสกปรก”
ของที่ไอ้เตซื้อมาเพื่อหลอกล่อเธอล้วนแต่เป็นสิ่งโสโครกทั้งนั้นแหละ ปั้นหยาเหมือนผ้าสีขาวที่พร้อมจะโดนขี้โคลนอย่างเพื่อนผมทำให้หมองได้ทุกเมื่อนั่นแหละ แต่ผมจะเป็นผงซักฟอกเองคอยดูสิ
เธอถอนหายใจแรงๆแล้วช้อนตากลมมองผมด้วยสายตาแปลก มือเล็กวางช้อนส้อมซ้อนกันบนจานก่อนจะวางมือไว้บนตัก
“อาหารที่คุณพอร์ชบอกว่าสกปรกถึงสองครั้ง อยากให้ทราบไว้นิดนึงค่ะว่านั่นคือกับข้าวที่แม่หยาทำมาให้และหยาก็โตมาได้กับอาหารพวกนี้แหละค่ะ แม่หยาห่อมาให้หยาทุกวันแค่คุณพอร์ชไม่รู้เท่านั้นเอง”
ผมพูดอะไรไม่ออก ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอห่ออาหารมากินตอนกลางวันด้วย ไม่หนำซ้ำยังเป็นอาหารที่แม่เธอทำ ผมไม่ได้ตั้งใจจะว่าอาหารแม่เธอสกปรกนะแต่ที่ผมพูดไปแบบนั้นเพราะคิดว่าไอ้เตมันลงไปซื้อข้าวที่โรงอาหารของบริษัทมานั่งกินกันที่โต๊ะทำงาน พอคิดได้แบบนี้ผมก็ยิ่งอยากด่าตัวเอง ไอ้เตมันไม่มีความพยายามทำอะไรขนาดนั้นหรอก ทำไมตอนนั้นไม่คิดได้แบบนี้วะ
“เอ่อ โกรธผมไหม?”
“อยากจะโกรธเหมือนกันนะคะก็คุณว่าอาหารแม่หยาอ่ะ แต่เพราะคุณไม่ทราบหยาก็เลยไม่รู้ว่าจะโกรธคุณไปทำไม”
หลังจากนั้นเธอก็นั่งหน้ามุ่ยกว่าเดิมจนผมกินข้าวไม่อร่อยเลยรีบกินรีบเช็คบิลแล้วพาเธอกลับ วันนี้สถานการณ์ไม่ปกติเลยสำหรับเรา เธองอนผมชัดเจนโดยไม่พูดไม่จามาตลอดทาง
ถึงอย่างนั้นก็ยังน่ารักอยู่ดี ดูแก้มย้วยๆของเธอสิ...
อยากจะง้อด้วยการฟัดแก้มสักทีสองดีแต่เธอคงไม่ยอมให้ทำ...
END TALK