บทที่ 1 บทนำ
“กล้า...พ่อกล้า”
เสียงแหบพร่าแว่วมาตามสายลมอย่างแผ่วเบานั้นทำให้เตชภณเหลียวซ้ายแลขวามองหาเจ้าของเสียงเรียกและผู้ที่ถูกเรียกนั้น แต่ทว่ากลับไม่พบใครนอกจากตัวเขาที่ยืนอยู่เพียงลำพัง
“เสียงใครกันน่ะ กล้า...ใครกันชื่อกล้า แล้วที่นี่มันที่ไหนกัน”
เตชภณได้แต่ถามตัวเอง พลางมองไปรอบ ๆ กายก็พบว่าตนกำลังยืนอยู่ที่บริเวณลานดินโล่งเตียน บรรยากาศเต็มไปด้วยหมอกควันขมุกขมัวเลือนรางที่ต่อให้เขาพยายามตะโกนร้องเรียกสักเพียงใดก็ไม่มีเสียงอื่นใดตอบรับนอกจากเสียงสะท้อนของตัวเขาเองที่ดังก้องกังวานท่ามกลางความเงียบสงัดในเวลานี้เท่านั้นเอง วูบหนึ่งเขาแอบใจหายชอบกล
ที่นี่มันที่ไหนกันแน่ แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
ชั่วขณะหนึ่งที่เขาตัดสินใจเดินวนไปรอบ ๆ เพื่อหาทางออก หางตาก็พลันเหลือบเห็นแสงสว่างกลมโตจากที่ไกล ๆ ชายหนุ่มจึงไม่รอช้ารีบสาวเท้าเดินตรงไปยังแสงนั้นก่อนที่ภาพขมุกขมัวที่เขาเห็นเมื่อครู่จะค่อย ๆ จางหายไปกลายเป็นภาพใครบางคนที่นุ่งโจงกระเบนเก่า ๆ ถูกมัดติดอยู่กับหลักประหารกลางลานดินเบื้องหน้า คนผู้นั้นนั่งหันข้างให้กับเขา มือทั้งสองถูกมัดไว้ในท่าพนมมือถือดอกบัวสีขาวไว้กลางอก ดวงตาทั้งสองถูกพันด้วยผ้าสีขาว ขาทั้งสองเหยียดตรงไปเบื้องหน้าถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนแน่นหนา มีเพียงลำคอที่ตรงตั้งบ่าราวกับไม่ยอมจำนนต่อโทษทัณฑ์ตรงหน้า
ภาพที่เห็นนั้นชวนให้ขนลุกและเศร้าสะเทือนใจไปพร้อมกัน เขาไม่รู้ว่าชายผู้นั้นทำผิดเรื่องอะไรถึงต้องถูกลงโทษร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิตเช่นนั้น แต่อะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกสงสารในชะตากรรมของชายผู้นั้นอย่างบอกไม่ถูก อะไรบางอย่างปะทุขึ้นในอกราวกับมีเปลวไฟร้อนอึดอัดจนเขาแทบหายใจไม่ออก
ไม่ผิด! คำนั้นผุดขึ้นในหัวอย่างฉับพลัน ไร้ที่มา
ไม่ผิดไยต้องถูกลงโทษ
ไม่ยอม! บางสิ่งบอกเขาว่าต้องช่วยคนตรงหน้าจากการปลิดชีพอย่างเหี้ยมโหดครั้งนี้
ทว่าเมื่อเตชภณขยับจะวิ่งเข้าไปช่วยปลดปล่อยชายผู้นั้นให้เป็นอิสระจากพันธนาการ เขาก็พลันต้องชะงักเท้า เมื่อแลเห็น เพชฌฆาตร่างกายกำยำอย่างน่าเกรงขามที่นุ่งโจงกระเบนสีแดงสองคน ถือดาบกวัดแกว่งร่ายรำวนเวียนไปรอบตัวนักโทษชายผู้นั้น พร้อมกับเสียงเพลงไทยเดิมก็ดังขึ้น เสียงนั้นยิ่งฟังยิ่งหดหู่และแน่นในอกจนหายใจติดขัด ยิ่งเขาฟังเพลงนั้นกอปรกับภาพเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้าก็ทำให้เขาขนลุกซู่ด้วยความหวาดกลัวอย่างประหลาด
หากยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดหรือทำสิ่งใดลงไป ทันใดนั้นหนึ่งในเพชฌฆาตก็เงื้อดาบสุดปลายแขนก่อนจะฟันดาบนั้นฉับลงไปที่ลำคอของนักโทษชายผู้นั้นอย่างแรงจนศีรษะขาดกระเด็นออกจากตัวเลือดพุ่งกระฉูดไปเบื้องบนอย่างน่าสยดสยอง ก่อนจะตกกลิ้งมาหยุดอยู่ที่ปลายเท้าของเขาพร้อมโลหิตสีแดงสดที่กระเด็นมาโดนเท้าของเขา
เตชภณเบิกตาค้าง อุทานด้วยความตกใจสุดขีด
“ไม่นะ...”