“นามิ!!! พี่โปรดเป็นยังไงบ้าง” อายรีบเดินเข้ามาสวมกอดนามิแน่นด้วยความเป็นห่วงยิ่งเห็นนามิดวงตาแดงก่ำเพราะผ่านการร้องไห้เป็นเวลานานก็ยิ่งกังวลกลัวเพื่อนจะเป็นอะไรไป
“ยังอยู่ในห้องผ่าตัดยังไม่ออกมาเลย อาย... นามิห่วงพี่โปรด ฮือ ฮืออออ” เสียงร้องไห้สะอื้นของนามิทำให้อายยิ่งเจ็บปวดเธอเองก็กลัวไม่ต่างจากนามิแต่ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องทำคือ เข้มแข็งเพื่อเพื่อน
“ไม่ต้องห่วงพี่โปรดถึงมือหมอแล้วทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดี พี่โปรดต้องไม่เป็นอะไร” แม้เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าอาการของโปรดเป็นยังไง แต่เธอเลือกที่จะพูดปลอบและให้กำลังใจนามิ เพราะมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้
“โปรดเป็นคนเข้มแข็งไม่มีทางเป็นอะไรง่าย ๆ หรอก นามิเชื่อพี่นะ” มอสเดินเข้ามาใกล้อายที่กำลังกอดปลอบนามิอยู่ เรื่องที่เกิดขึ้นเขาเองก็มีส่วนผิดไม่น้อยที่ไม่ระวังและถ้าเขาคิดให้รอบคอบกว่านี้เรื่องคงไม่บานปลายขนาดนี้ พอคิดได้แบบนั้นความรู้สึกผิดก็เข้าเล่นงานจิตใจของเขาทันที ไม่มีคำตอบออกมาจากปากนามิมีเพียงเสียงร้องไห้เท่านั้น
“ว่าแต่นี่มีใครโทรบอกที่บ้านพี่โปรดหรือยังคะ”
“พี่โทรบอกทุกคนแล้วไม่นานก็คงมาถึง อีกอย่างโรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลของคุณหมอเจบีพี่ชายของโปรดป่านนี้คงรู้แล้ว ดีไม่ดีคนที่ผ่าตัดโปรดอาจจะเป็นนายหญิงเจ้าเอยก็เป็นได้” มอสพูดอธิบายให้อายฟังเพื่อเธอจะได้สบายใจขึ้นบ้างเพราะเธอเองก็เพิ่งผ่านเหตุการณ์ร้ายมาหมาด ๆ เหมือนกัน
สิ้นคำพูดของมอสก็มีเสียงฝีเท้าหลายคู่วิ่งมาทางนี้พร้อมกับน้ำเสียงสั่นเครือที่เต็มไปด้วยความกังวลและเป็นห่วงร้องถามออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก
“พี่มอส!!! โปรดเป็นยังไงบ้าง มันเกิดอะไรขึ้นคะ”
“ปอนด์ ลูกพี่ โปรดอยู่ในห้องผ่าตัดครับยังไม่ออกมาเลย”
“ไอ้มอส มันเกิดอะไรขึ้น”
“คือ...” มอสเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบให้เจสกับปอนด์ฟังอย่างละเอียด ยิ่งได้ฟังเจสก็ยิ่งมองหน้ามอสด้วยสายตาดุดันจนทำให้มอสที่เห็นถึงกับเสียวสันหลังวูบ คนอารมณ์ดียิ้มง่ายแบบเจสทำสีหน้าเรียบนิ่งดุดันแบบนี้แสดงว่าคงไม่โอเคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงแม้ใบหน้ากับแววตาจะดูดุดันแต่ท่าทางโอบกอดปลอบคนในอ้อมกอดปอนด์กลับอ่อนโยนจนทำให้คนที่มองอยู่ยังรู้สึกแปลกใจ
“ว้าย!!! ช่วยด้วยค่ะ นามิเป็นลม” อายร้องเสียงหลงเมื่อร่างของนามิที่ร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของเธอทรุดลงไปกับพื้น ดวงตาของเพื่อนปิดสนิทพร้อมกับร่างบางแน่นิ่งไปต่อหน้าต่อตาเธอ ดีที่เธอยังประคองร่างไว้ไม่งั้นมีหวังนามิล้มหัวฟาดพื้นเป็นแน่
“น้องนามิ!!!” ปอนด์ที่กำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นสามีต้องรีบหันไปดูพอเห็นว่านามิเป็นลมล้มพับ เธอก็รีบผละออกจากอ้อมกอดของเจสเข้าไปช่วยอายประคองนามิอีกคน
“พี่มอสตามหมอให้หน่อยค่ะ”
“ครับ” มอสเดินออกไปตามหมอไม่นานก็กลับมาพร้อมทั้งหมอและพยาบาลรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เข็นเตียงเพื่อมารับตัวนามิไปยังห้องตรวจโดยมีอายกับปอนด์ตามไปด้วย
อายนั่งมองนามิที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวลเป็นห่วง เธอเอื้อมมือไปกอบกุมมือนามิไว้อย่างต้องการให้กำลังใจ
เธอเข้าใจความรู้สึกของนามิดี ยิ่งโปรดต้องมาโดนยิ่งเพราะเอาตัวมาบังเพื่อปกป้องตัวเองไว้ ถ้าเป็นเธอคงเสียใจไม่ต่างจากนามิเท่าไหร่
“นามิลูก!!” เสียงเปิดประตูกับเสียงเรียกของรวิกาแม่ของนามิดังมาพร้อมกับร่างของเธอที่วิ่งตรงมาที่เตียงคนไข้ที่นามินอนอยู่พอเธอทราบข่าวที่เกินขึ้นก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันที เธอลูบผมลูกสาวด้วยความเป็นห่วงถึงแม้ลูกสาวเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บทางกายแต่จิตใจนั่นคงเจ็บไม่น้อยที่เห็นคนรักบาดเจ็บต่อหน้าต่อตา รวิกาหันมายิ้มและเอ่ยถามเพื่อนสนิทลูกสาวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นที่เจือไปด้วยความห่วงใย
“อาย เป็นยังไงบ้างลูก เจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ อายไม่ได้เป็นอะไรเลย” อายตอบด้วยรอยยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้รวิกา ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งให้รวิกานั่งแทนที่ เพราะเธออยากไปดูอาการของโปรดว่าเป็นยังไงบ้าง
“คุณน้ามาแล้ว งั้นอายขอไปดูพี่โปรดก่อนนะคะ”
“จ้ะ ไปเถอะเดี๋ยวน้าดูนามิเอง”
“ค่ะ”
อายเร่งฝีเท้าเดินไปยังหน้าห้องผ่าตัด เมื่อมาถึงเธอก็เห็นมอสเองก็นั่งอยู่ที่เก้าอี้สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียด โดยข้าง ๆ มีเจสที่นั่งกอดปอนด์ที่ใบหน้าซีดเซียวกับดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้ ขณะที่เจสใบหน้าจะนิ่งเรียบแต่ใครก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวเขา อายเลือกที่จะเดินไปนั่งลงข้าง ๆ มอสก่อนจะเอ่ยถามเขาเสียงเบา
“พี่โปรดเป็นยังไงบ้างคะ”
“ยังไม่ออกจากห้องผ่าตัดเลย” มอสตอบเสียงเบาพลางถอนหายใจออกมา สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดผสมปนเปไปกับความรู้สึกผิดฉายอย่างชัดเจน
“พี่มอส” อายเม้มปากแน่นก่อนจะยื่นมือไปกุมมือเขาอย่างต้องการให้กำลังใจ เรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความผิดของเขาเลย ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นทั้งนั้น
“พี่ไม่เป็นไร อายเป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม” มอสหันมามองอายด้วยรอยยิ้มจาง ๆ พลางไล่สายตาสำรวจไปทั่วร่างกายเธอว่าบาดเจ็บหรือมีบาดแผลตรงไหนหรือเปล่า
“ไม่ค่ะ อายไม่ได้เป็นอะไร” อายยิ้มไปพร้อมกับส่ายหน้าเพราะเธอไม่ได้บาดเจ็บอะไรตรงไหนเลย จะมีก็แค่ตกใจและขวัญเสียกับเหตุการณ์เท่านั้น
“อื้ม... ดีแล้ว” มอสยกมือขึ้นลูบผมอายมองเธอด้วยสายตาอบอุ่น ก่อนที่เขาจะดึงร่างเธอเข้ามากอดอย่างต้องการปลอบขวัญและให้กำลังใจตัวเองไปพร้อม
เสียงของประตูห้องผ่าตัดที่เปิดออกทำให้ทุกคนหันไปมอง คุณหมอที่ออกมาคือคุณหมอเจ้าเอยพี่สะใภ้ของโปรด ก่อนที่ปอนด์และทุกคนจะรีบวิ่งเข้าไปถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“พี่เอย โปรดเป็นยังไงบ้างคะ”
“โปรดปลอดภัยแล้วแต่ยังไงคืนนี้ต้องให้นอนที่ห้องปลอดเชื้อไปก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าเยี่ยมและถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนพรุ่งนี้ก็คงย้ายไปห้องพักฟื้นได้”
“ขอบคุณพี่เอยมากเลยนะคะ”
“มันหน้าที่ อีกอย่างโปรดก็น้องชายพี่เหมือนกัน พี่ว่าแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนดีกว่านะ ถึงอยู่ก็ไม่ได้เยี่ยม”
“ค่ะ ฮืออออ”
“เลิกร้องได้แล้ว ไม่ได้ยินที่นายหญิงบอกเหรอว่าโปรดปลอดภัยแล้ว” เจสลูบหลังลูบไหล่ภรรยาไปพร้อมกับพูดปลอบใจ แต่สายตากลับมองไปยังคนที่นั่งถัดไปไม่วางตาด้วยสายตาสงสัย นี่เขาตกข่าวอะไรไปหรือเปล่า
“ปอนด์ร้องเพราะโล่งใจต่างหากละ”
“อื้ม งั้นเรากลับกันเถอะ”
“ค่ะ”