bc

จำแลงรักนางโจร

book_age12+
121
FOLLOW
1K
READ
BE
prince
drama
bxg
brilliant
campus
like
intro-logo
Blurb

ภารกิจสอดแนมเพื่อความอยู่รอด พาให้นางโจรตัวร้าย ได้มาใกล้ชิดกับองค์ชายผู้กลายมาเป็นเจ้าหัวเมืองคนใหม่ ความใกล้ชิดพาให้หวั่นไหว นางควรเลือกอะไรระหว่างหัวใจกับพวกพ้อง

chap-preview
Free preview
โจรภูเขา
ทางตอนเหนือของเมืองจินหลิง ขณะที่กลุ่มโจรภูเขาจินหลิงประมาณ 20 ชีวิต กำลังซุ่มปล้นพ่อค้าต่างแดนซึ่งกำลังจะเดินทางผ่านช่องเขาสูงไปยังเส้นทางสายไหม ทุกคนที่จะเดินทางผ่านจุดนี้ รู้ดีว่าสองปีมานี้มีกลุ่มโจรรอดักปล้นตรงบริเวณช่องแคบ ก่อนตัดเข้าเส้นทางสายไหมของเมืองจินหลิง อี้เหม่ยหลิง บุตรสาวคนเล็กของมหาโจรอี้เวยชิง นางกวาดสายตามองหาสัญญาณอันตรายในป่าหนาทึบ มือเรียววางอยู่บนคันธนูที่พาดอยู่บนไหล่บางของนาง และเล็งไปที่ถนนซึ่งตัดผ่านกลางช่องเขาสูง ถนนเส้นนี้เป็นทางสำคัญของเมืองจินหลิงแคว้นต้าเฉิง ทิวทัศน์รอบๆ ช่างน่าทึ่ง งดงามร่มรื่น แต่แฝงไปด้วยอันตราย ทั้งสองฝั่งทางประกบ ด้วยผาสูงตระหง่าน ที่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมเป็นจำนวนมาก จนทำให้ผืนป่าเป็นสีเขียวสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายให้ความรู้สึกสดชื่น มีเพียงเสียงกีบเท้าม้ากระทบกับพื้นหินดังอยู่ไกลๆ และเสียงใบไม้กระทบต้นไม้ที่สูงเรียงรายเต็มสองข้างทาง ต้นไม้สูงตระหง่านเสียดฟ้า ลำต้นหนาแผ่กิ่งก้านสาขาทำให้เกิดร่มเงาที่รกทึบ ดวงตะวันทอแสงเหนือศีรษะ ทอดเงาเป็นรอยระยิบระยับบนพื้นป่า อี้เหม่ยหลิงสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของแสงอาทิตย์บนผิวของนาง หญิงสาวก็หลับตาลงชั่วครู่เพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกนั้นให้ช่วยดูดซับความเครียดที่เกิดขึ้น “เตรียมตัว” เสียงของชายวัยกลางคนกระซิบบอกลูกสาว เมื่อขบวนเดินทางของพ่อค้าต่างแดนใกล้เข้ามา อี้เหม่ยหลิงและกลุ่มโจรของนางเห็นขบวนเกวียนสินค้ากำลังเคลื่อนผ่านจุดที่ซุ่มอยู่ สายตาคมดุจตาเหยี่ยวหรี่ลง กลุ่มของมือธนูต่างเล็งไปที่คนบังคับเกวียน และทหารที่นั่งอยู่บนหลังม้าคอยดูแลความปลอดภัยของขบวน พ่อของอี้เหม่ยหลิงหันมาหานาง สีหน้าเคร่งขรึม “เตรียมพร้อมขบวนรถใกล้เข้ามาแล้ว” เขากระซิบบอกกับลูกสาว อี้เหม่ยหลิงพยักหน้า กำคันธนูแน่น เด็กสาวรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นแม้ว่านี่จะไม่ใช่การออกปล้นครั้งแรก และนางได้พยายามสงบสติอารมณ์ในขณะที่เฝ้าดูพ่อค้าต่างแดนเคลื่อนเข้ามาใกล้ “บุก!!!” เสียงตะโกนของอี้เวยชิงดังขึ้น พลธนูยิงลูกดอกใส่เป้าหมายของตัวเอง ถูกบ้างผิดบ้างแต่ก็กระหน่ำยิงไม่หยุด กลุ่มที่ถูกแบ่งเป็นพลโจมตีประชิดตัวกระโจนเข้าใส่กลุ่มพ่อค้า และเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือด การปะทะกันนั้นรุนแรงและโหดเหี้ยม ดาบ ขวานส่องแสงระยิบระยับท่ามกลางแสงแดด พวกพ่อค้าเลี่ยงการเดินทางผ่านเส้นทางนี้ในยามราตรี เพราะจะทำให้กลุ่มโจรปล้นได้ง่ายขึ้นและมันก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่เดียว เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและความเดือดดาลดังไปทั่วบริเวณ พลธนูต้องออกจากที่ซ่อนและเปลี่ยนอาวุธเป็นดาบ เพราะกองกำลังทหารบุกเข้าไปตรงจุกซ่อนตัวของพวกเขา อี้เหม่ยหลิงต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมดของนาง จัดการนายทหารที่คุ้มกันขบวนทีละคนด้วยดาบของนาง “กับดัก!!!” อี้มู่จ้าวบุตรชายคนโตของหัวหน้าโจรร้องขึ้น เมื่อเขาเปิดผ้าคลุมบนเกวียนบรรทุกสินค้า แล้วพบว่าเป็นทหารซ่อนตัวอยู่เต็มคัน ทหารที่ถูกค้นพบพุ่งเข้าใส่เขาอย่างกระชั้นชิด แต่ก็จับตัวชายหนุ่มไม่ได้ เนื่องจากเขาว่องไวกว่า “ถอยทัพ!!!” อี้เวยชิงตัดสินใจทันที จากการคำนวณจำนวนทหารมีมากกว่าพวกเขาเป็นสองเท่าตัว หากไม่รีบถอยอย่างไรก็ต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน กลุ่มโจรพากันถอยทัพแต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่บาดเจ็บ และล้มตายไปบ้างแล้ว อีกส่วนก็ถูกจับตัวไปได้ มีเพียงสามพ่อลูกครอบครัวอี้ที่หนีตายเอาชีวิตรอดออกมาได้ อี้เหม่ยหลิงวิ่งด้วยกำลังทั้งหมดของนาง เสียงฝีเท้าของทหารดังก้องอยู่ในหูจนไม่รู้ว่าถูกตามมาจริงๆ หรือเป็นเพียงภาพหลอน นางรู้สึกได้ว่าหัวใจของนางเต้นรัวขณะที่นางหนีตายออกมาจากสนามรบ นางมองกลับหลังไปและเห็นว่ามีทหารไล่ตามมาไม่ไกล 2-3 คน และนางคิดได้ว่าจำเป็นต้องหาที่ซ่อนโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นคงหนีไม่รอดแน่ หญิงสาวกระโดดลงหน้าผาที่ด้านล่างเป็นธารน้ำ นางชำนาญเส้นทางแถวนี้ดีเพราะเกิดและโตที่นี่ ทำให้รู้ว่าจุดนี้น้ำลึกมากพอที่จะทิ้งตัวลงจากที่สูงขนาดนี้ได้ อี้มู่จ้าวลูกชายคนโตของอี้เวยชิงได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส เขาเองก็ต้องหาที่ซ่อนเช่นกัน เพราะไม่มีกำลังมากพอที่จะวิ่งหลบหนี ทันใดนั้น อี้เวยชิงก็เห็นถ้ำเล็กๆ อยู่ไกลๆ เขาชี้ไปที่มันแล้วพูดว่า “อาจ้าวมีถ้ำอยู่ตรงนั้น เราซ่อนที่นั่นได้” “หลิงเอ๋อร์ละท่านพ่อ นางไม่ได้มากับพวกเราด้วยหรอกหรือ” คนเป็นพี่คิดห่วงน้องสาว แม้ตัวเองจะเจ็บจนแทบจะก้าวขาไม่ไหวแล้ว “พ่อเชื่อว่าน้องของเจ้าต้องเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน พวกเราไปซ่อนตัวกันก่อน แล้วค่อยออกไปตามหานาง” อี้มู่จ้าวพยักหน้าก่อนพวกเขาจะรีบไปที่ถ้ำ และเมื่อเข้าไปถึงข้างใน ทุกพื้นที่มืดสนิทอี้เวยชิงประคองลูกชายไต่เลาะผนังถ้ำเข้าไปหาที่หลบ พวกเขาหายใจอย่างแผ่วเบาพยายามฟังเสียงการไล่ตาม ทหารยังคงวนเวียนอยู่บริเวณนั้นเพื่อค้นหาพวกโจรทั้งสอง “เราคงต้องอยู่ที่นี่สักพัก” อี้เวยชิงกล่าว “ข้าเป็นห่วงหลิงเอ๋อร์เหลือเกินท่านพ่อ” คนเจ็บพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ “ต้องรอจนกว่าเราจะแน่ใจว่ามันปลอดภัย พ่อเชื่อว่าน้องของเจ้าต้องปลอดภัยเช่นกัน” อี้มู่จ้าวพยักหน้าเห็นด้วย พวกเขานั่งอยู่ในถ้ำรอและฟัง อากาศข้างในทั้งชื้นและเหม็นอับ แต่การอดทนอยู่ที่นี่ก็ยังดีกว่าถูกทหารจับ เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงและเสียงฝีเท้าของทหารก็จางหายไปในที่สุด อี้เวยชิงก้าวออกจากถ้ำอย่างระมัดระวังและมองไปรอบ ๆ เมื่อแน่ใจว่าทหารจากไปแล้วจริงๆ เขาจึงย้อนกลับเข้าไปในถ้ำเพื่อพาลูกชายออกมาจากที่ซ่อน “ไปกันเถอะ” พวกเขาเดินทางกลับไปยังปากถ้ำ ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าหมู่บ้าน บุรุษสองคนเดินพยุงกันเข้ามาใกล้ทุกที อี้เหม่ยหลิงที่ซ่อนตัวอยู่ รีบออกมาหาพ่อและพี่ชายด้วยความดีใจ นางรู้สึกโล่งใจเมื่อพวกเขากลับมาถึงที่จุดนัดพบ แม้ว่าจะกลับมาเพียงสองคนเท่านั้น หญิงสาวรู้ว่าพวกเขาโชคดีที่รอดชีวิตจากการซุ่มโจมตีครั้งนี้ แต่นางก็อดเสียใจไม่ได้ที่พวกพ้องไม่ได้กลับมาด้วย มีบางส่วนที่ถูกจับตัวไป และอีกส่วนก็ตายในสนามรบ พวกเขาไม่แม้แต่จะมีโอกาสได้นำร่างของพวกพ้องไปฝังด้วยซ้ำ เมื่อพวกเขาเดินทางกลับมาถึงหมู่บ้าน ผู้คนมากมายกำลังรอต้อนรับอย่างมีความหวัง แต่กลับเห็นเพียง 3 พ่อลูกครอบครัวอี้ที่กลับมาเท่านั้น “อายงลูกชายคนเดียวของข้า ต้องมาตาย ซ้ำร้ายพวกท่านก็ปล้นไม่สำเร็จ กลับมากันแต่มือเปล่า หนีตายกันมาเพียง 3 คนพ่อลูก เหตุใดท่านถึงพาลูกท่านกลับมาได้ แต่พาลูกข้าและคนอื่นๆ กลับมาด้วยไม่ได้" สตรีมีอายุคนหนึ่งร่ำไห้และร้องถามกับอี้เวยชิงซึ่งเป็นหัวหน้ากองโจร หลังจากที่เขาเล่าความจริงทั้งหมดให้ผู้คนที่มารอรับได้ฟัง อี้เวยชิงก็ตอบอะไรไม่ได้ความรู้สึกผิดมันจุกอยู่จนเต็มอก เขาเองก็ไม่ได้เสียใจน้อยไปกว่าคนอื่นๆ เสียงร่ำไห้ดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน ยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดในใจของคนทั้งสาม "นี่ครั้งที่สามแล้วนะท่านอี้เวยชิง ที่ท่านพากองทัพพวกเราออกไปปล้นแล้วกลับมามือเปล่า และครั้งนี้ก็ดูจะหนักกว่าทุกครั้ง เพราะคนของพวกเราตายไปเกือบหมด" ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น เขาตั้งตารอตำแหน่งหัวหน้ากองโจรมานาน และเหมือนกับว่าสวรรค์กำลังจะเปิดทางให้กับเขาแล้ว "เจ้าหัวเมืองคนใหม่ชำนาญการรบนัก พวกเราคาดไม่ถึงว่าจะถูกมันวางแผนตลบหลัง" อี้มู่จ้าวพูดขึ้น เขาตามสืบเรื่องนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังระวังตัวไม่มากพอ ทำให้พลาดท่าเข้าจนได้ "พวกท่านดูจะฝีมือตกไปมาก เห็นทีว่าหมู่บ้านโจรภูเขาของเรา จะต้องหาผู้นำใหม่กันเสียแล้ว" ชายหนุ่มคนเดิมพูดปลุกระดมชาวบ้านคนอื่นๆ เสียงเฮดังสนั่น เขาพูดโน้มน้าวคนอื่นๆ ได้สำเร็จ อี้เวยชิงอยู่ในที่นั่งลำบาก เขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ส่วนหนึ่งของการล้มเหลวมาจากเขา อี้เวยชิงนิ่งเงียบไปเขาเองก็เริ่มเห็นด้วยกับชายหนุ่ม “มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะอาเทียน ท่านเห็นพี่ชายของข้ารึไม่ ฝีมือของเขาเก่งกาจไม่เป็นรองท่านพ่อของข้า แต่ก็ยังถูกคมดาบของพวกทหารฟันมาจนแทบเอาชีวิตไม่รอด” อี้เหม่ยหลิงทนฟังชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าพี่ชายของนางดูแคลนบิดาไม่ไหว จึงได้เดินเข้าไปประชิดตัวเขาแล้วร้องบอก ฉูเทียนจิงยิ้มเย้ยอย่างไม่เกรงกลัว เขารู้ว่าอำนาจของครอบครัวอี้ริบหรี่เสียจนแทบไม่เหลืออะไรให้เกรงกลัวอีกต่อไปแล้ว “ข้าก็ถึงได้บอกอยู่นี่ไงเล่า ว่าคงถึงเวลาที่จะต้องหาหัวหน้าคนใหม่แล้ว” “อาเทียน!!!” อี้เหม่ยหลิงพุ่งเข้าใส่บุรุษร่างกำยำด้วยความไม่พอใจ นางตัวเล็กกว่าเขาแต่หัวใจไม่เคยคิดเกรงกลัว คนเป็นพ่อเมื่อเห็นลูกสาวทำเช่นนั้นก็รีบเข้าไปห้าม เขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่ฉูเทียนจิงกล่าวมามันไม่จริง ความโกลาหลวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อชาวบ้านประท้วงว่าจะเปลี่ยนหัวหน้า แต่อี้เหม่ยหลิงก็ไม่ยอม นางไม่เห็นว่าจะเป็นความผิดของพ่อตัวเองที่ตรงไหน แต่อี้เวยชิงกลับไม่คิดอย่างนั้น เขารู้สึกผิดเต็มอกและพร้อมจะสละตำแหน่งหากฉูเทียนจิงจะสามารถขึ้นมาเป็นหัวหน้ากองโจรได้จริงๆ ครอบครัวอี้แยกตัวกลับมาที่บ้านของพวกเขา เพราะต้องพาอี้มู่จ้าวมารักษาบาดแผลก่อน และขอเวลาคิดหาทางออกว่าจะเอาอย่างไรกันต่อไป “ท่านพ่อลูกไม่ยอมให้อาเทียนขึ้นเป็นหัวหน้าเด็ดขาด มิอย่างนั้นข้าตกต้องไปเป็นเมียมันเป็นแน่” เพราะชายหนุ่มเคยลั่นวาจาเอาไว้ ว่าหากสามารถขึ้นเป็นหัวหน้ากองโจรได้เมื่อไหร่ จะใช้สิทธิ์หัวหน้าเลือกเอาอี้เหม่ยหลิงมาเป็นภรรยา “พ่อคงไม่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้าแล้วจริงๆ” “ท่านพ่อ...นี่ไม่ใช่ความผิดท่านหรอก” “แล้วจะเป็นความผิดใครกันล่ะหลิงเอ๋อร์ ในเมื่อพ่อเป็นหัวหน้าแต่กลับพากองกำลังออกไปปล้นแล้วพ่ายแพ้กลับมา ผู้คนบาดเจ็บและล้มตายไปจนหมด คนที่ถูกจับตัวไปก็ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร” อี้เหม่ยหลิงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะคิดบางอย่างขึ้นมาได้ “เช่นนั้นข้าจะไปประลองกับฉูเทียนจิงเพื่อแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้ากองโจร” บุตรสาวพูดขึ้นด้วยความหนักแน่น “หลิงเอ๋อร์สตรีมิอาจจะท้าประลองชิงตำแหน่งหัวหน้าได้” อี้เวยชิงแย้งขึ้น เขารู้ว่าบุตรสาวของตัวเองนั้นฝีมือเก่งกาจไม่แพ้บุรุษ แต่กฎย่อมต้องเป็นกฎ กองโจรของพวกเขามีกฎที่สืบทอดกันมายาวนาน ว่าผู้นำกองโจรจะต้องเป็นบุรุษเท่านั้น อี้เหม่ยหลิงทำหน้าบึ้งตึงด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะหันมองพี่ชายเพราะหวังจะให้เขาลงประลองกับฉูเทียนจิง แต่เห็นบาดแผลตามเนื้อตัวของเขาแล้ว ก็คิดว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าจะหายดี หญิงสาวถอนหายใจและคิดว่าใครบ้างที่จะสามารถเป็นคู่ประลองกับฉูเทียนจิงได้ แต่เมื่อคิดทบทวนดูแล้วก็พบว่าคนมีฝีมือล้วนออกไปปล้นในวันนี้และไม่ได้กลับมาแม้แต่คนเดียว “พรุ่งนี้พ่อจะประกาศถอนตัวจากตำแหน่งหัวหน้ากองโจร แล้วจัดการท้าประลองหาหัวหน้ากองโจรคนใหม่” “ท่านพ่อ...” “หลิงเอ๋อร์...ที่พ่อทำแบบนี้ก็เพื่อไถ่โทษต่อดวงวิญญาณของพวกพ้อง พ่อไม่สามารถพาพวกเขากลับมากับเราได้แม้แต่ร่างที่ไร้ลมหายใจ หากพ่อไม่ทำเช่นนี้พ่อคงไม่กล้าหายใจต่อไป” อี้เหม่ยหลิงไม่อาจจะหาคำใดมาหักล้างเหตุผลที่พ่อของนางกล่าวออกมาได้เลย ทำได้เพียงแค่ทำใจยอมรับ ว่าหลังพระอาทิตย์โผล่พ้นยอดเขาในวันพรุ่งนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะมาถึง

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
31.6K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.7K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.6K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.1K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
4.7K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook