เพื่อน(แอบ)รัก นายวิศวะ ตอนที่ 6

1295 Words
ตอนที่ 6 เสียงช้อนกระทบจานดังแข่งกับเสียงคุยอื้ออึงรอบแคนทีน แต่ทันทีที่ประตูด้านหลังเปิดออก บรรยากาศทั้งหมดก็เหมือนเปลี่ยนไปในเสี้ยววินาที กลุ่มวิศวะเดินเข้ามาพร้อมกัน—ไค วิน ภู และเพื่อนอีกสองคน—ทุกสายตาแทบจะหันไปทางเดียวกันราวกับถูกแม่เหล็กดึงไว้ เสียงซุบซิบดังระงมขึ้นมาแทบจะทันที “นั่นไงพี่ไคมาแล้ววว” “โอ๊ยย หล่อชิบหาย เดินกันเป็นแก๊งเหมือนซีรีส์เลยว่ะ” “นี่แหละ ๆ ผู้ชายในคลิปนั่นแหละ!” “เพื่อนสนิทจริงเหรอวะ ดูไม่ออกเลยนะ…” ฉันชะงักช้อนในมือ หัวใจเหมือนเต้นผิดจังหวะไปทั้งดวง แค่เห็นเขาเดินเข้ามาก็ทำให้ร่างกายแข็งค้างไปหมด กลุ่มนั้นเลือกโต๊ะไม่ไกลจากโต๊ะเรามากนัก—เหมือนตั้งใจหรือบังเอิญก็ไม่รู้ แต่พอพวกเขาทั้งหมดนั่งลงพร้อมกัน เสียงซุบซิบก็ดังกว่าเดิมเป็นเท่าตัว แอลก้มหน้ากดมือถือเร็วจี๋ “โว้ย…ตอนนี้ทวิตแทบแตก แกเชื่อมั้ยว่ามีคนแท็กว่าพี่ไคกับแกอยู่โต๊ะเดียวกัน ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย!” มิ้นแทบจะกรี๊ดออกมา “แก! ไม่คิดว่าคนพวกนี้ทำเกินไปหรอ จะสนุกปากบนความทุกข์ของคนอื่นเกินไปป่ะ” คิอาร่าถอนหายใจ แต่แววตายังจับจ้องไปที่กลุ่มไค “เสียงรอบ ๆ นี่ไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะโมอา…แกต้องระวังมากขึ้นแล้วล่ะ” ฉันก้มหน้าลงมองข้าวในถาด พยายามไม่เหลือบสายตาไปทางโต๊ะนั้น แต่กลับยิ่งรู้สึกได้ชัด— สายตาคมคู่นั้นกำลังมองตรงมา ฉันไม่กล้าสบตา แต่หัวใจก็เต้นแรงจนรู้สึกเจ็บ เสียงซุบซิบยังดังระงมไม่หยุด แต่แล้วร่างสูงของไคก็ลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินถือแก้วเปล่าตรงไปทางเครื่องกดน้ำ—เส้นทางเดียวกับที่ต้องผ่านโต๊ะฉันพอดี หัวใจฉันเต้นแรงขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว รีบก้มหน้าลงทำเป็นตักข้าวเข้าปาก ทั้งที่ข้าวเต็มคำยังกลืนแทบไม่ลง เสียงรองเท้าหนังหนัก ๆ ก้าวผ่านใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนฉันเผลอกำช้อนแน่น ไคหยุดชะงักเพียงเสี้ยววินาทีตอนผ่านโต๊ะเรา แววตาคมกริบเหลือบมามองฉันเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบที่ชัดเจนจนโต๊ะเราเงียบลงทั้งโต๊ะ “กินข้าวด้วย อย่ามัวแต่เล่นโทรศัพท์” ฉันเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สบตาเขาเพียงวูบเดียวแล้วรีบก้มลงทันที ความร้อนวูบขึ้นแก้มจนแทบไหม้ ฉันไม่กล้าพูดอะไรกับเขาหรือทำเป็นเหมือนสนิท เพราะตอนนี้ขยับไปทางไหนก็เหมือนว่าจะทำให้เรื่องที่เป็นประเด็นในตอนนี้ยิ่งลุกลาม ไคไม่ได้พูดอะไรต่อ ก้าวขาเดินต่อไปยังเครื่องกดน้ำ แต่แค่นั้นก็ทำให้ทุกโต๊ะรอบข้างฮือฮาอีกระลอก “โอ๊ยยยยยย!! แกกกกกกกกกกก” มิ้นแทบจะตบโต๊ะ “นี่มันบทพระเอกในซีรีส์ชัด ๆ เขามองแกอะโมอา เขามองแกกกก!! ฉันจะไปปั่นในทวิตนะ เผื่อมีกระแสตีกลับไง เรื่องมันอาจจะออกมาดีก็ได้นะเว่ยยย” แอลรีบก้มพิมพ์มือถือ “ขอแคปชั่นด่วน ๆ … ‘แค่เดินผ่านยังใจละลาย #ไคโมอา’ ฟอลโลเวอร์กูต้องชอบแน่” คิอาร่าเหลือบตามองฉันที่หน้าแดงจัด แล้วยกคิ้วขึ้น “อย่าบอกนะว่าแกยังคิดว่ามันไม่มีอะไร…เพื่อนกันเฉย ๆ เขาไม่พูดแบบนั้นต่อหน้าคนทั้งแคนทีนหรอกนะ” ฉันกำช้อนแน่นกว่าเดิม พยายามปั้นสีหน้าให้เรียบเฉย แต่หัวใจกลับสั่นแรงเหมือนกลองรัว เพื่อน…จริงเหรอ? หลังจากเสียงฮือฮาในแคนทีนดังไม่หยุด เราทั้งกลุ่มก็แทบจะกินข้าวไม่ลง คิอาร่าถอนหายใจแรงเป็นคนแรก “ไปเถอะ อย่าไปนั่งเป็นเป้าสายตาให้เขามองเล่น ๆ เลย” “จริง! กูแทบจะเอาข้าวไปอุดหูอยู่แล้ว” แอลบ่นพลางเก็บโทรศัพท์ยัดลงกระเป๋า “เสียงซุบซิบน่ารำคาญฉิบหาย” มิ้นรีบพยักหน้าแรง “งั้นไปห้องสมุดกัน! กูยังมีการบ้านอังกฤษไม่เสร็จ แล้วก็ต้องลงชื่อเข้าชมรมด้วยใช่มั้ย?” ฉันเองก็ไม่อยากนั่งตรงนั้นให้อกสั่นขวัญแขวนไปมากกว่านี้ เลยพยักหน้าแล้วคว้ากระเป๋าลุกตามไปกับเพื่อน ๆ ห้องสมุดคณะอักษรเงียบสงบกว่าที่คิดไว้ กลิ่นกระดาษหนังสือเก่า ๆ และแอร์เย็น ๆ ทำให้ใจฉันค่อย ๆ คลายลงบ้าง เราเลือกโต๊ะไม้ริมหน้าต่างแล้วนั่งล้อมวงกันเหมือนทุกที “โอเค!” แอลตบโต๊ะเบา ๆ “มานั่งทำการบ้านให้เสร็จ จะได้ไม่ต้องปวดหัวทีหลัง” คิอาร่าลากสมุดออกมาอย่างตั้งใจ “ฉันจะเคลียร์งานวิชาภาษาเลือกโทก่อนเลย ครูตรวจละเอียดเกิน” มิ้นหอบชีทหนา ๆ มาวางตรงหน้า “ของกูคือการบ้าน grammar…โอ๊ยยยย ไม่ไหวแล้ววว ขอไปหาหนังสือมาเป็นเรฟก่อนนะ!” ฉันหัวเราะเบา ๆ “เอามานี่ เดี๋ยวช่วยดูให้” แล้วก็หยิบสมุดการบ้านมิ้นมากางข้าง ๆ ของตัวเอง เสียงขีดเขียนดินสอและการพลิกหน้าหนังสือดังเป็นจังหวะช้า ๆ บรรยากาศในห้องสมุดเหมือนตัดเราทั้งหมดออกจากความวุ่นวายในโลกข้างนอก แต่ในใจฉัน…ภาพสายตาคม ๆ ของไคที่เหลือบมองมาก่อนหน้านี้ยังวนเวียนไม่หาย ฉันกัดปาก ก้มหน้ากับโจทย์การบ้านตรงหน้า “ไม่สิ…อย่าคิดมาก โฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไว้ก่อน โมอา” หลายวันผ่านไป… จากที่ทุกครั้งที่ฉันเปิดไอจีหรือทวิตเตอร์จะมีแต่แท็กชื่อฉันเต็มไปหมด ทั้งเสียงด่า เสียงเชียร์ เสียงซุบซิบที่ทำให้ใจสั่นวุ่นวายไม่หยุด ตอนนี้กลับเงียบลงอย่างน่าประหลาด ฟีดที่เคยเต็มไปด้วยคลิปคืนนั้นเริ่มหายไปทีละน้อย ถูกกลืนด้วยดราม่าใหม่ ๆ ที่โผล่ขึ้นมาทุกวันแทน #ไคโมอา ที่เคยติดเทรนด์ก็เลื่อนหายไปในเวลาไม่กี่วัน เหมือนคลื่นซัดเข้ามาแรงแล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย “เห็นมั้ย กูบอกแล้ว” คิอาร่าพูดขึ้นขณะนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะห้องสมุด “โลกโซเชียลมันก็แบบนี้แหละ วูบวาบ เดี๋ยวก็มีเรื่องใหม่ให้เสพ คนสมัยนี้สมาธิสั้นจะตาย” คาอาร่าว่า แล้วโชว์หน้าจอมือที่ของเพจดังในโชเซี่ยลที่นักร้องหนุ่มนอกใจภรรยาตัวเอง กระแสแรงจนกลบเรื่องของเธอไปทั้งหมด แอลพยักหน้า “ใช่! ตอนนี้เค้าไปตามดราม่าดาราแทนแล้ว เห็นมั้ย feed ของฉันคือไม่มีแท็กแกเลย” มิ้นยิ้มโล่งอก “งั้นก็คือแกไม่ต้องเครียดแล้วไงโมอา~ ชีวิตกลับมาเหมือนเดิมแล้วเนี่ย” ฉันหัวเราะเบา ๆ “อืม…เหมือนจะเหมือนเดิม” แต่ในความเป็นจริง ไม่ได้เหมือนเดิมเลยสักนิด เพราะในหัวฉันยังวนเวียนกับเหตุการณ์วันนั้น—สายตาของไค เสียงทุ้มที่บอกให้ฉันกินข้าว หรือแม้แต่ฝ่ามือที่คว้าข้อมือฉันกลางวงคนมากมาย… ทุกครั้งที่หลับตา ภาพเหล่านั้นยังชัดเจนยิ่งกว่าคลิปในโซเชียลเสียอีก ฉันถอนหายใจแผ่ว ๆ ก้มลงเขียนการบ้านต่อ พยายามทำเป็นไม่คิดอะไร ใช่…กระแสมันหายไปแล้ว แต่ความรู้สึกที่ฉันมีต่อไค มันไม่หายไปไหนเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD