เพิ่งแต่งก็ต้องห่าง

1444 Words
เสียงนาฬิกาปลุกที่ถูกตั้งเป็นเวลาเท่าเดิมของทุกวันทำให้ร่างที่เพิ่งหลับไปได้ไม่นานต้องจำใจตื่น แม้ว่าในเวลาปกติเขาไม่เคยต้องลำบากในการตื่นนอน บางวันอาจตื่นก่อนเสียงนาฬิกาปลุกด้วยซ้ำเพราะความเคยชิน มือหนารีบควานหาโทรศัพท์มือถือเพื่อจัดการกับมันด้วยเกรงว่าจะรบกวนอีกคน แต่พอมองไปข้างๆ ธามก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อไม่เห็นร่างที่ควรจะหลับอยู่บนนั้น ตื่นแล้วอย่างนั้นหรือ…เมื่อคืนกว่าจะได้นอนกันจริงๆ ก็เกือบตีสาม แต่เธอยังอุตส่าห์ตื่นก่อนเขาได้อีก ธามส่ายหน้าเบาๆ เลิกสนใจเรื่องของภรรยาหมาดๆ ลุกลงจากเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำ แต่ก็ได้แปลกใจอีกรอบเมื่อเห็นว่าผ้าเช็ดตัว เสื้อคลุมอาบน้ำถูกเตรียมไว้อย่างดี ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเขาจำได้ว่าหามันไม่เจอ ธามใช้เวลาในการทำภารกิจส่วนตัวเป็นเวลาเท่าๆ กับทุกวัน พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นภรรยาที่หายตัวไปแต่เช้านั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มเล็กน้อยกับชุดเดรสลำลองทำให้เขารู้ว่าเธออาบน้ำเรียบร้อยแล้ว…นี่เขาหลับสบายไม่รู้ตัวขนาดนี้ได้อย่างไรกัน “คุณกลางตื่นเช้าจังเลยนะครับ” มันเป็นคำทักทายที่ได้เพียงแค่รอยยิ้มจางๆ ตอบกลับมา ธามเดินเลี่ยงไปที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อทำภารกิจของตัวเอง จบที่การหยิบดรายร์เป่าผมมาเสียบปลั๊ก ยอมรับว่าไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ปกติเขาเลยไม่ชอบสระผมตอนเช้า ส่วนมากจะสระตอนกลางคืนเช็ดหมาดๆ แล้วปล่อยให้แห้งเองโดยไม่ต้องเป่าให้เสียเวลา “ให้กลางช่วยไหมคะ” เหมือนว่าสุพรรณิการ์เองก็มองเห็นความลำบากของเขาจึงอาสาช่วย ซึ่งธามก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจ ผิวของเธอนุ่มแค่ไหนธามยังจำความรู้สึกยามที่สัมผัสมันได้ดี มันอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกดียามที่มือนุ่มนิ่มสัมผัสบนศีรษะ อืม บางทีเขาก็คิดว่าการเป่าผมให้แห้งหลังจากสระผมก็เป็นสิ่งที่เขาควรจะใส่ใจหลังจากนี้ “ขอบคุณครับ” เขาเอ่ยขอบคุณเธอก่อนลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า จัดการกับตัวเองก่อนจะกลับออกมาหาเธอ “คุณกลางผูกเนกไทเป็นไหมครับ” ธามที่ตอนนี้สวมเพียงเสื้อเชิ้ตตัวในเดินถือเนกไทมาหาเธอ สุพรรณิการ์ยิ้มรับก่อนจะรับมันมาจากเขา “ต้องลองดูก่อนนะคะ” เธอพูดยิ้มๆ ธามหัวเราะในลำคอเบาๆ เมื่อรู้ว่าเธอน่าจะทำมันได้ แล้วเธอก็ทำมันได้ดีตามที่เขาคิด “วันนี้คุณธามทานข้าวเช้าก่อนไหมคะ” เธอถามเขาหลังจากที่ช่วยเขาแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย “ที่ตื่นแต่เช้านี่คือลงไปทำกับข้าวมาสินะครับ” เขาไม่ได้ตอบคำถามแต่เอ่ยแซวภรรยาหมาดๆ อย่างอารมณ์ดี เธอยิ้มรับก่อนจะตอบคำถามเขา “ค่ะ กลางถามป้าอุ่นว่าปกติคุณธามทานมื้อเช้าแบบไหน” ปกติเขาก็ตามสะดวก แล้วแต่เวลา ตั้งแต่อาหารเช้าแบบง่ายๆ ไปจนถึงมื้อเช้าแบบจัดเต็ม แต่นับจากนี้ธามคิดว่าการใช้เวลาบนโต๊ะอาหารในมื้อเช้าคงไม่ได้ทำให้เขาเสียเวลาอะไรมากนักในแต่ละวัน “เราลงไปทานข้าวกันเลยไหมครับ ผมชักจะหิวขึ้นมาแล้วสิ ไม่ได้ทานฝีมือคุณกลางนานแล้ว” ทุกครั้งเวลาไปทานข้าวบ้านเธอ คุณพ่อของสุพรรณิการ์จะบอกเสมอว่าเธอเข้าครัวเอง แล้วสุพรรณิการ์ก็ฝีมือดีทีเดียว “ให้กลางช่วยถือให้ไหมคะ” คำถามของเธอทำให้ธามชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มจางๆ แล้วส่งสูทตัวนอกให้เธอ จากนั้นจึงเดินเคียงกันออกมาจากห้อง เขาเคยคาดหวังว่าสุพรรณิการ์น่าจะเป็นคนที่ใช่ในตำแหน่งภรรยา แต่ธามก็ยังไม่มีภาพเหล่านี้ในหัวเหมือนกัน ภาพของภรรยาที่ตื่นขึ้นมาทำกับข้าวแต่เช้า ทั้งๆ ที่มีแม่บ้านดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว ภรรยาที่เตรียมเครื่องอาบน้ำ ตลอดจนดูแลการแต่งตัวให้ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาก็ดูแลตัวเองได้ แต่ก็แปลกที่เขากลับรู้สึกชินกับมันอย่างง่ายดาย พอทั้งคู่เดินมาถึงโต๊ะอาหาร แจ๋นเด็กรับใช้วัยสิบแปดก็เดินมารับสูทของเขาจากสุพรรณิการ์ ป้าอุ่นแม่บ้านวัยห้าสิบปลายที่ดูแลเขามาแต่เด็กก็ยิ้มหน้าบานต้อนรับเขาทั้งคู่ “วันนี้คุณธามรับอะไรดีคะ คุณกลางเธอตื่นมาเข้าครัวแต่เช้าเลย” ดูเหมือนว่าป้าอุ่นจะถูกใจภรรยาของเขาอยู่มากทีเดียว “คุณกลางทำอะไรบ้างล่ะครับ ยกมาหมดเลยได้ไหมผมจะได้เลือกถูก” ปกติแล้วแม่ครัวจะทำเผื่อไว้อยู่แล้ว แล้วแต่ว่าเขาจะเลือกทานแบบไหน วันนี้ก็คงเหมือนกับทุกวันแต่ในเมื่อคนทำเป็นภรรยาของเขา ธามก็อยากเห็นหน้าตาของอาหารทุกอย่างที่เธอทำ แจ๋นทำหน้าที่เสิร์ฟกาแฟดำเหมือนทุกเช้า น้าปราณีแม่บ้านอีกคนตักข้าวต้มปลาใส่ถ้วยตามมา ซึ่งปกติเขาคงทานเพียงแค่นี้ถ้าวันไหนรีบๆ แต่วันนี้กับข้าวอีกสามอย่างถูกลำเลียงขึ้นโต๊ะพร้อมกัน เป็นกับข้าวที่เขาคุ้นเคยแต่ธามก็สังเกตว่าหน้าตาของมันแตกต่างออกไปเล็กน้อย ทำให้รู้ว่านี่คงเป็นฝีมือของสุพรรณิการ์ “คุณกลางล่ะคะ รับข้าวต้มหรือข้าวสวยดี” แจ๋นถามเจ้านายคนใหม่อย่างกระตือรือร้น “ขอเป็นข้าวสวยแล้วกันจ้ะ” ตลอดสามปีที่ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ ธามกินข้าวเช้าคนเดียวมาตลอด เขาไม่ค่อยมีแขกมาเยี่ยมในตอนเช้านักหรอก ปกติถ้ามีก็จะเป็นมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็น วันนี้จะเรียกว่าเป็นครั้งแรกก็ไม่ผิด และมันก็คงจะเป็นแบบนี้ในทุกๆ วัน “ผมลืมบอกคุณกลางหรือเปล่าว่าต้องไปภูเก็ตห้าวัน” เขาลืมเรื่องสำคัญแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน “ป้าอุ่นบอกแล้วค่ะเมื่อเช้า” เธอพูดยิ้มๆ ธามหันไปทางป้าอุ่นที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ด้านหลังเธอ ดูเหมือนวันนี้ป้าอุ่นของเขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ “ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ลืมบอก ยังไงผมคงต้องไปแล้วถ้าคุณกลางมีปัญหาอะไรบอกป้าอุ่นได้เลยนะครับ แล้วก็โทรหาผมได้ตลอด เวลา” เขาเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เตรียมตัวออกจากบ้าน แล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นป้าอุ่นยื่นสูทให้สุพรรณิการ์อย่างกระตือรือร้น “ไปส่งคุณธามกันค่ะคุณกลาง สามีอะไรทิ้งภรรยาที่เพิ่งจะแต่งงานกันหมาดๆ ได้ตั้งห้าวัน” ธามหัวเราะในลำคอที่ถูกแซวแบบนั้น เขาลุกออกมาจากโต๊ะแต่ก็ไม่ได้เดินออกไปในทันที ยืนรอจนสุพรรณิการ์เดินมายืนข้างเขาจึงเดินนำเธอออกจากบ้าน “ขอบคุณครับ” เขาเอ่ยขอบคุณขณะที่รับสูทมาจากเธอ การสัมผัสมือกันโดยบังเอิญทำให้ธามชะงักเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าตัวเธอน่าจะร้อนกว่าปกติ ประกอบกับใบหน้าซีดๆ ของคนตรงหน้าก็เริ่มทำให้เขาไม่สบายใจ เกรงว่ามันอาจไม่ใช่แค่ความเพลียจากการนอนดึกเพียงเท่านั้น “เอ่อ ผมจำได้ว่าคุณกลางมีร้านขนมที่ต้องไปดูแล” เขาได้ยินมาว่าสุพรรณิการ์ไม่ได้ทำงานที่บริษัทคุณพ่อของเธอ แต่มีร้านขนมของตัวเอง “ค่ะ” “วันนี้ต้องไปร้านไหมครับ” “สายๆ ว่าจะเข้าไปค่ะ” “คุณกลางขับรถเป็นไหมครับ” เขายังไม่เห็นว่าเธอเอารถมาไว้ที่บ้านของเขาเลย “กลางขับไม่เป็นค่ะ ปกติจะให้ที่บ้านขับไปส่ง” ธามนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น เริ่มคิดว่าตัวเองอาจจะแย่อย่างที่ป้าอุ่นแซวขึ้นมาจริงๆ เธอเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่วันแรกแต่เขากลับทิ้งเธอไปทำงานตั้งหลายวัน แล้วยังไม่ได้ดูแลเธอให้ดีอย่างที่ควรจะทำ…แม้ว่าเขาจะสามารถจัดการมันในเวลาอันรวดเร็วก็ตาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD