ดุจดอกไม้แรกแย้ม nc

1479 Words
“คุณธามจะนอนเลยไหมคะ กลางจะได้ปิดไฟ” คำถามของเธอทำให้ธามลอบยิ้มในใจ ห้องนอนของเขาเธอเพิ่งมาครั้งแรก แต่เธออาสาจะปิดไฟให้ “คุณกลางนอนก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมจะปิดไฟเอง” ธามเดินไปปิดสวิตช์ไฟที่อยู่ติดประตูห้อง พอเดินกลับมาก็เห็นว่าเธอยังนั่งอยู่บนเตียง ไม่ได้นอนตามที่เขาบอก ธามเลยนั่งลงข้างๆ เธอ “ยังไม่ง่วงเหรอครับ” เขาคิดว่าเธออาจจะง่วง แต่เธอแค่นั่งรอเขาไม่ยอมนอนก่อน ส่วนเขาก็ถามเธอไปอย่างนั้นเอง “ยังหรอกค่ะ” ซึ่งเขาก็เดาไม่ผิดว่าเธอจะปฏิเสธ แสงโคมไฟหัวเตียงส่งแสงนวลพอสลัวๆ หากยิ่งทำให้ใบหน้าสวยหวานหมดจดยิ่งน่ามอง ธามเริ่มคิดว่าตัวเองก็ยังไม่ได้ง่วงมากมายอะไร และนึกขึ้นมาได้ว่าคืนนี้เป็นคืนเข้าหอ บางทีเขาอาจจะต้องปฏิบัติตามธรรมเนียม “เหรอครับ อืม ผมเองก็ยังไม่ง่วง บางทีเราอาจจะต้องหาอะไรคุยกันไปพลางๆ เพราะจะว่ากันตามจริงเราสองคนก็เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน” เขาพูดแล้วก็หยุดไปชั่วขณะ “จะว่าอะไรไหมครับถ้าหากผมจะขอรู้จักคุณกลางให้มากกว่านี้” สายตาที่เขามองเธอในตอนนี้ ธามเชื่อว่าสุพรรณิการ์คงเข้าใจว่าเขาอยาก จะทำความรู้จักเธออย่างไร ซึ่งรอยยิ้มจางๆ ที่ตอบกลับมาก็ทำให้ธามคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ “รบกวนคุณกลางถอดเสื้อให้ผมได้ไหมครับ” พอถามออกไปแล้วก็อดที่จะสังเกตสีหน้าแววตาของคนตรงหน้าไม่ได้ เขาคิดว่าเธออาจประหม่าหรือขัดเขินบ้าง เพราะเขากับเธอแต่งงานกันโดยไม่ได้ศึกษาเรียนรู้กันและกันมาก่อน แม้ว่าเวลาหกเดือนอาจจะไม่ช้าไม่เร็วเกินไป แต่เขาก็ไม่ได้ใช้เวลานั้นในการทำความรู้จักกันหรือศึกษาดูใจกัน เขารู้แค่ว่าเธอจะต้องเป็นภรรยาของเขา และเมื่อเธอตอบตกลง ก็เหลือแค่รอจัดงานแต่ง เขาไปกินข้าวที่บ้านของเธอบ้าง แต่ทุกครั้งก็จบแค่กินข้าว พูดคุยกันเล็กน้อย ไม่มีความสัมพันธ์แบบคนรัก…จับมือกันเขายังไม่เคยกระทำกับเธอ หากสุพรรณิการ์ในเวลานี้ตั้งรับกับสถานการณ์ตรงหน้าได้ดีกว่าที่เขาคิด ไม่มีแววประหม่าให้เห็น เธอยิ้มจางๆ อันเป็นเอกลักษณ์ประจำ ตัว ก่อนจะขยับเข้าหาเขาเล็กน้อย ให้ได้ระยะที่สะดวกในการปลดกระดุมเสื้อให้เขา ธามไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะต้องใช้ความคิดกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เขาก็คิดว่าเซ็กส์ระหว่างสามีภรรยาเป็นเรื่องปกติ เมื่อกี้เขาเพิ่งบอกว่าสุพรรณิการ์รับมือกับเขาได้ดี หากตอนนี้เธอทำเพียงแค่ปลดกระดุมเสื้อของเขาจนครบทุกเม็ด แล้วก็นั่งมองเขา คล้ายกับว่าเธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ ไม่ใช่แค่เธอหรอก เขาเองก็เหมือนจะคิดอะไรไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ เหมือนกัน เขาเคยมีเซ็กส์กับผู้หญิง แต่ก็ไม่ใช่ในฐานะสามีภรรยา ทั้งเขาและเธอเหล่านั้นรู้กันดีว่าจะต้องทำอย่างไร ซึ่งก็ยังไม่เคยมีใครปลดกระดุมเสื้อแล้วเอาแต่นั่งมองเขาแบบนี้สักครั้ง ธามเลยเริ่มไม่แน่ใจว่ากับคนที่อยู่ในฐานะภรรยาเขาจะเริ่มต้นกับเธออย่างไร เขาควรต้องทำอะไรสักอย่าง ธามยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะเป็นฝ่ายจัดการกับเสื้อผ้าของเธอบ้าง เริ่มจากปลดชุดคลุมตัวนอก ตามด้วยกระดุมเสื้อนอนที่เขาให้เธอยืมใส่ อดไม่ได้ที่จะลอบสังเกตคนตรงหน้า และค่อนข้างจะแน่ใจว่าเขาเห็นความประหม่าในแววตาของเธอ กระดุมเม็ดสุดท้ายถูกปลดก่อนที่เขาจะแยกชายเสื้อออกจากกัน แล้วรั้งมันลงจากตัวเธอ เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าหมดจดปรากฏแก่สายตา ธามสูดหายใจลึก ถึงแม้เขาจะยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยสมบูรณ์แบบคนหนึ่ง แต่เขาไม่เคยคาดหวังกับสิ่งที่ปรากฏตรงหน้ามาก่อน เขาผ่านผู้หญิงมาพอสมควรจนไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่าง แต่เรือนร่างงดงามไร้ที่ติของเธอก็ทำให้เขาเริ่มคิดว่าบางทีมันอาจแตกต่าง คล้ายว่าเขาจะลืมข้อเปรียบเทียบไปแล้วว่าผู้หญิงคนอื่นที่ผ่านๆ มาจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไรกับเรื่องแบบนี้ ความคิดที่เขาอยากจะปฏิบัติต่อเรือนร่างนี้มีอิทธิพลเหนือกว่าอย่างเทียบกันไม่ติด แล้วเขาก็ทำ…มือหยาบกร้านไล้ไปตามผิวขาวผ่องที่ให้ความรู้สึกนุ่มละมุนมือ ซึ่งธามรู้สึกว่าผิวของเธอไวต่อสัมผัสของเขาเหลือเกิน ธามจำไม่ได้ว่าเขาเคยรู้สึกอยากจะซุกเข้าหาผู้หญิงสักคนด้วยความรู้สึกแบบนี้หรือไม่ มันเป็นความรู้สึกที่รุนแรงหากก็ไม่กล้าที่จะบุ่มบ่ามเอาแต่ใจ ริมฝีปากร้อนๆ จูบซับไปตามไหล่กลมกลึง มือหนาเริ่มสำรวจตรวจตราไปตามเรือนร่างอรชร อ้อยอิ่งในคราแรกก่อนจะฟอนเฟ้นหนักขึ้นตามแรงอารมณ์ “กอดผม” เขาเอ่ยเสียงพร่า เมื่อรับรู้ถึงอาการสั่นสะท้านของคนในอ้อมกอด มือเล็กๆ โอบกอดเขาอย่างว่าง่าย ธามไม่แน่ใจว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีอย่างนั้นหรือ...แต่มันทำให้เขาบดเบียดเข้าหาร่างนั้นให้สนิทแนบชิด ดันให้เธอนอนลงบนเตียงโดยตามติดไม่ว่างเว้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนตรงหน้าอีกครั้ง เขาไม่แน่ใจว่าบางทีอาการที่เหมือนจะเกร็งๆ ในบางครั้งของเธออาจเป็นเพราะความที่ยังไม่คุ้นเคยระหว่างกัน หากเมื่อพอได้มองเห็นสีหน้าแววตาของอีกคนชัดๆ ความลังเลของเขาก็แทบจะมลายหายไป ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำด้วยอารมณ์พิศวาสปะปนความเขินอายอย่างที่เขาไม่เคยได้เห็นจากผู้หญิงที่มีรอยยิ้มละมุนประดับบนใบหน้าตลอดเวลา “คุณกลางโอเคไหมครับ” หากเขาก็เอ่ยถามเธอด้วยความอาทร ถ้าเธอยังไม่พร้อมเขาก็ไม่อาจหักหาญน้ำใจ หากคำถามของเขาอาจทำให้คนตรงหน้ามีอาการประหม่าหนักกว่าเดิม ธามเผลอยิ้มออกมาเมื่อนึกได้ว่าสุพรรณิการ์คงไม่ปฏิเสธเขา อย่างที่เขาบอกว่าเธอตั้งรับทุกอย่างได้ดีเสมอ แต่คำถามของเขาอาจจะตอบยากไปหน่อย สุพรรณิการ์เลยทำอะไรไม่ถูก แววตาขัดเขินที่เจ้าตัวไม่อาจปรับอารมณ์ได้ทัน ริมฝีปากที่เผลอเม้มเข้าหากันทำให้ธามไม่อาจรอคำตอบได้อีกต่อไป เขาลืมไปเลยว่าตัวเองไม่ชอบการจูบ…ขณะที่บดริมฝีปากลงบนริมฝีปากสีเรื่ออย่างอดไม่อยู่ แล้วก็คงไม่คิดจะอดทนอีกต่อไป ทุกอย่างดำเนินจนถึงปลายทางที่ควรจะเป็น ธามจึงได้รู้ว่าอาการประหม่าของภรรยาของเขาไม่ใช่แค่เกิดจากความไม่คุ้นเคยระหว่างกัน แต่เธอไม่คุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้เลยต่างหาก…เธอบริสุทธิ์ดุจดอกไม้แรกแย้ม ธามยกตัวขึ้นมองคนข้างๆ อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นว่าเธอมองเขาตาปริบ คล้ายยังทำตัวไม่ถูกกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ไม่เคยเห็นเธอในมุมนี้จริงๆ สุพรรณิการ์ที่เขารู้จักคือผู้หญิงที่จัดการความรู้สึกทุกอย่างไว้ภายใต้รอยยิ้มละมุนของเธอ “เราคงต้องอาบน้ำกันอีกรอบ” เขาเอ่ยมาถึงตรงนี้คนข้างๆ ก็เหมือนยังไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไร เมื่อเห็นดังนั้นธามจึงตัดสินใจอุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ ถึงตอนนั้นสุพรรณิการ์ก็เริ่มจะปรับอารมณ์ได้แล้ว เขาจึงไม่ต้องอาบน้ำให้เธอ เลยต่างคนต่างอาบ หลังจากที่อาบน้ำใส่เสื้อผ้ากันเรียบร้อย สุพรรณิการ์ก็นั่งรอเขาไปปิดไฟเหมือนครั้งแรก ธามยังไม่ได้นอนในทันที เขานั่งลงตรงหน้าเธอ “นอนกันเลยนะครับ ดึกมากแล้ว” “ค่ะ” เธอรับคำสั้นๆ ด้วยรอยยิ้มประจำตัว ธามยิ้มให้เธอก่อนจะขึ้นนอนฝั่งตัวเอง ไม่นานต่อจากนั้นไฟหัวเตียงก็ถูกปิดโดยอีกคน ก่อนที่เจ้าตัวจะทิ้งตัวนอนข้างเขา ด้วยระยะห่างพอสมควรที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดกับการนอนบนเตียงเดียวกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD