บทที่3

2018 Words
มาร์คที่กำลังนั่งคุยกับสาวน้อยที่ทำให้เขาตกหลุมรัก เด็กอะไรทำไมน่ารักแบบนี้ เห็นแล้วอยากจะมีลูกสาวบ้าง ติดตรงหาคนช่วยทำไม่ได้ ส่วนแม่ของน้องพลอยเขาก็หมดสิทธิ์เพราะเขาจับความรู้สึกของคนด้านในห้องนั้นได้ว่ารู้สึกยังไง เขาก็อยากจะเห็นเหมือนกันถ้าคุณฟรานมาเจอกับน้องพลอยจะทำหน้าแบบไหน ฟรานเซสโก้ที่กำลังยุ่งกับการเซ็นเอกสาร แต่ตอนนี้เขาเจอปัญหาบางส่วนที่เขาจะต้องเรียกเธอเข้ามา “เอาไงดีวะ!! ฟรานแกพร้อมจะเจอหรือยัง แต่จริงๆ แล้วแกไม่ควรที่จะหลบเลี่ยงเขา ถ้านายทำแบบนี้เขาก็ต้องรู้ว่า นายรู้สึกผิด เอาว๊ะ!!” แพรววนิตที่กำลังนั่งพิมพ์รายงานการประชุมที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ตาก็คอยมองไปยังคู่หูต่างวัยที่ดูจะเข้าขากันได้ดีทีเดียว เธอไม่ห่วงว่าน้องพลอยจะฟังอังกฤษไม่ออกเพราะลูกสาวของเธอนั้นเรียนอินเตอร์ ถึงแม้ค่าเทอมจะแสนแพง แต่เธอก็อยากให้ลูกได้รับสิ่งดีๆ ไม่อยากให้ขาดถึงแม้ส่วนที่มันขาดเธอก็พยายามเติมเต็มให้กับลูกสาวคนนี้ และดูท่าทางว่าน้องพลอยจะชื่นชอบลุงมาร์คมากๆ หรืออาจจะเพราะว่า น้องพลอยไม่ได้เจอพ่อเลยก็ว่าได้ เพราะสามีเก่าเธอได้แต่งงานใหม่ไปแล้วและเธอก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งให้มันเป็นเรื่องเป็นราวอย่างที่ผ่านมา ตอนนี้เธอถือว่าชีวิตของเธอโอเคมากแล้ว “น้องพลอยค่ะ อย่ากวนลุงมาร์คมากนะคะเดี๋ยวลุงมาร์คจะรำคาญ” น้องพลอยได้ยินสิ่งที่คุณแม่เตือนก็รีบหันหน้าไปหาลุงมาร์คที่กำลังช่วยเธอระบายสี แล้วทำสายตาเศร้าๆ ส่งไปยังคุณลุงมาร์คถึงแม้จะพึ่งเจอกันได้ไม่ถึงชั่วโมงแต่เธอรู้สึกชอบคุณลุงมาร์คมากๆ “ลุงมาร์คขา...ลุงมาร์ครำคาญน้องพลอยหรือเปล่าคะ” มาร์คเห็นสีหน้าและท่าทางของน้องพลอยแล้วใจละลาย ทำท่าทางแบบนี้ตายเลยลุงมาร์คตายแน่ “โถ่ว!! ลุงมาร์คไม่รำคาญน้องพลอยหรอกครับ คุณแม่คงจะเกรงใจลุงมาร์ค แต่สำหรับลุงมาร์คดีใจที่น้องพลอยอยากจะเล่นกับคุณลุง อยู่เมืองไทย คุณลุงก็เหงาไม่มีเพื่อนเหมือนกัน น้องพลอยมาเป็นเพื่อนคุณลุงมาร์ค ดีไหมครับ” แพรรววนิตได้ยินคนสองคนที่อายุต่างวัยกำลังทำท่าทางอ้อนกันไปมาแล้ว เธออดที่จะยิ้มไม่ได้นี่พึ่งเจอกันไม่นานนะ น้องพลอยได้ยินสิ่งที่ลุงมาร์คพูดจึงลุกขึ้นยืนแล้วยื่นนิ้วก้อยส่งให้ลุงมาร์ค ซึ่งลุงมาร์คก็ทำหน้าตกใจ “ลุงมาร์คขา ... งั้นเรามาเกี่ยวก้อยสัญญากันนะคะว่า น้องพลอยจะเป็นเพื่อนกับลุงมาร์คเอง ลุงมาร์คไม่ต้องเหงานะคะ เดี๋ยวน้องพลอยจะเล่นกับลุงมาร์คเองค่ะ แต่เล่นได้แค่ช่วงที่น้องพลอยเลิกเรียนแล้วเท่านั้นนะคะ” มาร์คได้ยินเด็กน้อยพูดแล้วก็อดที่จะหัวเราะออกมาเสียงดังไม่ได้ เขารู้สึกแพ้ลูกอ้อนของน้องพลอยจริงๆ ฟรานเซสโก้ที่เดินออกมาก็เจอลูกน้องของเขากำลังทำท่าเกี่ยวก้อยสัญญากับเด็กผู้หญิงที่มีใบหน้าจิ้มลิ่ม แก้มสีชมพู ช่างดูน่ารักเหลือเกินคงจะเป็นลูกสาวของแพรววนิตแน่ ๆ แต่ลูกน้องเขาไปสมัครเป็นคุณลุงตั้งแต่เมื่อไหร่ นี้เขาทางเด็กเลยเหรอว๊ะ!! “อ๊ะ...ฮึม...อ๊ะ...ฮึม” ทุกคนที่ได้ยินเสียงกระแอ่มดังออกมาต่างหันหน้าไปตรงประตูท่านประธานบริษัทยืนอยู่ แพรววนิตจ้องมองเขาที่ยืนทำใบหน้านิ่ง เธอเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “ขอโทษนะครับ คุณแพรววนิตผมขอรายงานการที่คุณส่งไปให้ผม เมื่อครู่ใหม่นะครับ ส่วนนายว่างเหรอถึงได้ลงไปนั่งเล่นกับเด็กแบบนั้น” ฟรานเซสโก้หันไปต่อว่า ลูกน้องที่เสนอหน้าไปตีซี้ลูกสาวของแพรว ดูท่าทางจะเข้าขากันเลยทีเดียว “คุณฟราน ลองมาทำความรู้จักน้องพลอยก่อนครับ แล้วคุณ ฟรานจะรู้ว่าทำไมผมถึงมานั่งเล่นกับน้องพลอยแบบนี้” น้องพลอยมองใบหน้าผู้เป็นเจ้านายของคุณแม่ แล้วก็ทำการฉีกยิ้มที่มีเสน่ห์ของตัวเองส่งไปให้ ทันทีที่ฟรานเซสโก้เห็นรอยยิ้มนั่นแล้วรู้สึกเหมือนเขาเห็นรอยยิ้มของแพรววนิตด้วยเช่นกัน “น้องพลอยชื่อเด็กหญิง พลอยชมพู ภักดิ์สุดา ค่ะ อายุ 5 ขวบ สวัสดีค่ะเจ้านายของคุณแม่” แพรววนิตกับมาร์คได้ยินการแนะนำตัวของเด็กน้อยที่ช่างพูดเกินวัยในอายุประมาณนี้ ฟรานเซสโก้พอได้ฟังถึงกับทำตัวไม่ถูกเขาไม่เคยมีหลานและไม่เคยอยู่ใกล้เด็กเลยไม่รู้จะทำหน้ายังไงหรือทักทายตอบแบบไหน จึงได้แต่พยักหน้าไปให้แค่นั้น ทุกคนเห็นการกระทำของคนตรงหน้าก็รู้สึกเหมือนคนเป็นเจ้านายไม่ชอบใจหรือเปล่าถึงทำหน้าบึ้งแบบมาร์คหันหน้าไปดูน้องพลอยที่ยืนข้างๆ ถึงกับจับอารมณ์ของคนที่หนูน้อยอุตส่าห์ทักทาย น้องพลอยหันไปกระซิบที่ข้างหูลุงมาร์ค “ลุงมาร์คขา ทำไมเจ้านายของคุณแม่ถึงได้ดุ แบบนั่นไม่เห็นเหมือนลุงมาร์คเลย ลุงมาร์คยิ้มแล้วน้องพลอยว่าลุงมาร์คหล่อกว่ามาก ๆ เลยค่ะ” ผู้ใหญ่ทั้งสามได้ยินก็ความรู้สึกต่างกันไป แพรววนิตตกใจที่ลูกสาวเธอพูดจาตรงก็อย่างว่า เด็กคิดอะไรก็พูดแบบนั้น มาร์คได้ยินน้องพลอยชมตัวเองว่า หล่อกว่าเจ้านายก็รู้สึกภูมิใจที่น้องพลอยเห็นความหล่อของเขา ส่วนฟรานเซสโก้ที่ถูกเปรียบเทียบจากเด็กก็รู้สึกใบหน้าตึงขึ้นมาทันที นี่เขาโดนเด็กต่อว่าเหรอสายตาก็หันไปจ้องยังลูกน้องที่กำลังหัวเราะกับกับเด็ก “มาร์ค!!! นายว่างมากใช่ไหม ถึงได้มานั่งเล่นกับเด็กแบบนี้ ส่วนคุณเอารายงานที่ผมต้องการเข้าไปให้ผมด้วย” ฟรานเซสโก้พูดเสร็จก็หันหลัง ช่วงที่กำลังจะเดินเข้าไปยังห้องทำงาน หูของเขาก็ดันไปได้ยินเสียงของเด็กผู้หญิงที่พูดกระซิบกับลูกน้องเขาอีก “ลุงมาร์คไปทำงานก่อนเถอะ เจ้านายหน้าดุเขาจะทำโทษลุงมาร์คสุดหล่อของน้องพลอย” ฟรานเซสโก้ได้ยินจึงหันหน้ากลับไปหาไอ้ลูกน้องต้นเรื่องที่ทำให้เด็กมองเขาแบบนั่น มาร์คที่กำลังหัวเราะกับน้องพลอยในสิ่งที่เด็กตัวน้อยพูดออกมา หลงลืมไปว่าเจ้านายตัวเองยังไม่ได้เข้าไปยังห้อง พอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอ “อุ้ย!! ตกใจหมด ครับผม!! คุณฟราน ผมจะลุกไปทำเดี๋ยวนี้แล้วครับ” มาร์คเห็นสายตาของเจ้านายส่งมา อะไรว๊ะ คุยกับเด็กก็ไม่ได้ ทำหน้าแบบนั้นสมควรแล้วที่เด็กกลัว ฟรานเซสโก้กำลังจะเปิดประตูก็เห็นลูกน้องกับน้องพลอยยกมือสองนิ้วให้กำลังใจลูกน้อง แล้วรู้สึกหมั่นไส้มันจริงๆ แพรววนิตจับอาการของฟรานเซสโก้ได้ว่า เขาไม่ใช่ไม่ชอบลูกสาวของเธอ แต่เขาคงจะเขินที่น้องพลอยส่งยิ้มไปให้แล้วไม่รู้จะทำตัวยังไง เลยต้องทำท่าทางวางมาดแบบนั่น “โอเคค่ะ น้องพลอยนั่งรอคุณแม่ตรงนี้นะคะ เดี๋ยวคุณแม่มาค่ะ” “ค่ะคุณแม่ น้องพลอยจะนั่งตรงนี้รอ เดี๋ยวคุณน้าหน้าดุจะออกมาอีก” ทางด้านฟรานเซสโก้ที่รู้สึกนอยด์เด็กมองเขาแบบนั่น คิดๆ แล้วมันน่าโมโหลูกน้องของเขา ก็คนมันไม่เคยอยู่ใกล้เด็กก็ไม่รู้ว่า จะทักทายกับเด็กยังไง แล้วนี้เขาก็ติดลบไปแล้วในสายตาลูกของแพรววนิต ก๊อก ก๊อก “ขอโทษค่ะ ท่านประธาน ดิฉันเอารายงานมาให้ค่ะ” ฟรานเซสโก้พอได้ยินแพรววนิตพูดด้วยน้ำเสียงที่ห่างเหินมากกว่าพูดกับมาร์คก็พาลรู้สึกนี่ก็อีกคนทำไมเธอช่างวางตัวห่างเหินกับเขามาก แต่สายตาดันไปมองริมฝีปากที่เขาได้จุมพิตไปก็รู้สึกร้อนๆ ขึ้นมาแค่มองใบหน้าก็สร้างอารมณ์แปลกๆ ให้เกิดกับเขาแล้วเหรอ นี่คือสาเหตุที่เขาไม่อยากจะเรียกเธอ หรืออยู่ใกล้ชิด ใจมันก็คอยแต่จะหวั่นไหว “ลูกสาวคุณอายุเท่าไหร่ คุณแพรววนิต” แพรววนิตรู้สึกตกใจที่จู่ๆ เขาก็พูดถึงลูกสาวของเธอ หรือว่าเมื่อกี้เขาไม่พอใจลูกสาวของเธอ “ดิฉันขอโทษ แทนน้องพลอยนะคะ ที่ทำกิริยาไม่สุภาพกับท่าน เดี๋ยวดิฉันจะว่ากล่าวตักเตือนให้คะ” นี่ก็อีกคนอะไรแค่เขาถามก็ทำท่าตกใจ หรือว่าเขาจะดูเหมือนที่ลูกสาวเธอกล่าวออกมา “ผมถามอายุเฉย ๆ ผมไม่ได้พูดว่าลูกสาวคุณเลย นี่กะจะให้ลูกคุณมองผมเป็นคนโหดร้ายขนาดนั่นหรือไง” แพรววนิตเห็นสายตาที่ฟรานเซสโก้ส่งมาให้ เธอรู้สึกมันแปลกๆ ขนาดกับอดีตสามีที่เลิกกันไปเธอยังไม่รู้สึกร้อน และเขินขนาดนี้ แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ว่ามันไม่สมควร “น้องพลอยอายุ 5 ขวบค่ะ น้องพลอยอาจจะพูดมากไปนิดแต่เป็นเด็กน่ารักค่ะ” ฟรานเซสโก้ฟังแพรววนิตพูดถึงลูกสาวก็รู้สึกอิจฉาพ่อของเด็ก ที่มีภรรยาแสนสวยและลูกสาวที่น่ารัก เขาพยายามไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกลัวใจตัวเองเหลือเกินว่าจะคิดเกินเลยกับภรรยาคนอื่น แต่เขายอมรับว่าเขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน “แล้วทำไม ลูกสาวของคุณถึงมาอยู่ที่บริษัททุกวันเลยเหรอ สามีคุณไปไหน” แพรววนิตที่ได้ยินคำถามก็ทำสีหน้าสลด ที่เขาเอ่ยถึงน้องพลอยและอดีตสามี “โรงเรียนน้องพลอยอยู่ใกล้ ๆ ดิฉันเลยให้รถนักเรียนมาส่งที่นี่แล้วรอกลับบ้านพร้อมกัน ส่วนพ่อของน้องพลอยเขาไม่สะดวกที่จะมารับค่ะ” ฟรานเซสโก้แอบเห็นสายตาแปลก ๆ ยามที่เธอได้เอ่ยถึงสามี เหมือนคนที่ไม่ได้เจอกันหรืออาศัยอยู่ด้วยกันเลย มีแต่แววตาเศร้าๆ ที่เขาพอจะมองออก “ลูกสาวคุณจะต้องรอคุณทำงานแบบนี้ทุกวัน แล้วถ้าวันไหนคุณทำงานเลิกดึกลูกคุณก็ต้องอยู่กับคุณด้วยเหรอ” แพรววนิตจ้องมองไปยังคนที่สงสัย เรื่องลูกสาวของเธอ นี่เขาจะสื่อความหมายอะไรเหรอ หรือเขาจะไม่ให้ลูกสาวเธอมาวุ่นวายที่บริษัท “เออ ...ขอโทษนะคะ ท่านไม่พอใจที่ดิฉันให้ลูกมาอยู่ที่บริษัทเหรอคะ ถ้าท่านไม่พอใจขอเวลาสักระยะให้ดิฉันหาเด็กแม่บ้านได้ก่อน แล้วดิฉันจะให้ทางโรงเรียนไปส่งที่บ้านค่ะ” อะไรนี่เขารู้สึกงง ไปหมดแล้วเธอกลัวอะไรเขาแค่รู้สึกห่วง และ อยากจะรู้ เธอจะให้ลูกมานั่งคอยเธอทำงานทำไม ไม่ให้ไปส่งที่บ้านน่าจะสบายกว่ามานั่งรอแม่ทำงานแบบนี้ “คุณ!! ฟังผมนะ ผมแค่อยากจะรู้ ผมไม่ได้ห้ามให้ลูกคุณมาที่นี่ ผมแค่สงสารที่ลูกคุณต้องมานั่งรอคุณทำงานแบบนี้ เด็กควรจะได้นั่งเล่นของเล่น ดูการ์ตูนอยู่บ้านไหม ผมต้องการแค่อยากจะรู้แค่นั้นโอเคไหม คุณแพรววนิต” ฟรานเซสโก้ถึงกับถอนหายใจนี่เขาต้องมานั่งอธิบายเรื่องแบบนี้ให้กับเธอด้วยเหรอ ส่วนแพรววนิต ส่งสายตาขอโทษที่เข้าใจผิดไปให้เขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD