“คุณจะให้ฉันแสดงอะไรคะ ในเมื่อดิฉันมาตกลงเรื่องซื้อขายกิจการของคุณ”
ถึงแม้ว่าความตั้งใจแรกของเธอคือมา*อ่อยมาเฟียก็ตาม แต่ในเมื่อความเป็นจริงแล้ว นายมาเฟียคนนี้ก็อยากจะขายกิจการของตัวเองอยู่แล้ว งั้น อัญนิชาก็ไม่จำเป็นต้องใช้แผนนั้นแล้วนี่ ทำไมจะต้องเรื่องมากให้เธอแสดงโชว์อะไรอีก
“แมทธิว...นายเอาคนพวกนี้ออกไปก่อน ฉันต้องการจะดูการแสดงของคุณผู้หญิงท่านนี้เป็นการส่วนตัว”
นัยน์ตาคมดุของมาเฟียหนุ่มฉายประกายเพลิงร้อนที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างโจ่งแจ้งพร้อมกับแสยะยิ้มที่มีกลิ่นอายชวนเสียวสันหลังออกมา
“ได้ครับนาย”
แมทธิวส่งสัญญาณให้คนทั้งหมดออกจากห้องไป รวมไปถึงสาวสวยทั้งสองที่นั่งอิงแอบนายท่านอยู่ก่อนหน้า ทั้งสองแสดงสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ต้องยอมพ่ายแพ้ให้กับสาวสวยที่มาทีหลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ‘รู้สึกว่าลูกสาวนายเจตน์คนนี้จะเข้าตานายท่านของเขาเสียแล้ว’
“เอ่อ...” อัญนิชามองแต่ละคนเดินออกจากห้องไปอย่างตื่นตะลึง คำพูดของนายมาเฟียนั้นทำให้เธอรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันใด แม้เธอจะเตรียมใจมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ จะให้เธอแสดงอะไร อัญนิชาไม่ได้เตรียมการแสดงอะไรมาเลย
“มานี่สิ”
“เอ่อ...ไปไหนคะ”
“มานั่งข้างๆ ฉัน เธอนั่งแบบนั้นฉันจะมองเห็นอะไร”
เสียงทุ้มใหญ่ของมาเฟียหนุ่มมีร่องรอยสะกดกลั้นอารมณ์บางอย่าง ในขณะที่สายตาคมดุนั้นกำลังจับจ้องไปที่เรียวปากอวบอิ่มเย้ายวนนั้นตลอดเวลา ลำคอของเขาแห้งผากขึ้นมาทันใด ไม่คิดว่าเด็กสาวคนนี้จะมีอิทธิพลกับร่างกายเขามากถึงขนาดที่สามารถกระตุ้นสัญชาตญาณดิบของเขาออกมาได้
“คุณจะให้ฉันแสดงอะไรคะ?”
หญิงสาวเอ่ยถามเขาแบบงงๆ จะให้เธอโชว์อะไรกันนะ
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งตัว มือของอีกฝ่ายก็ยื่นมาด้วยความเร็วแสงพร้อมกับกระชากแขนของเธอจนทำเอาร่างบางถลาเข้าไปนั่งเกยอยู่บนตักกว้างทันที
“ทำไมจะต้องเรื่องมากด้วย เธอมานำเสนอข้อตกลงไม่ใช่เหรอ แสดงสิ...”
เสียงอันแหบพร่ากระซิบข้างหู ริมฝีปากหนาได้รูปจูบซับไปที่ใบหูเล็กราวกับอดใจไม่ไหวกับความเย้ายวนที่เกิดขึ้น
“ไม่นะ! ปล่อยค่ะ! ดิฉันไม่ได้มาให้คุณทำแบบนี้นะ!”
น้ำเสียงของเธอเข้มขึ้นอย่างมีโทสะ เขามีสิทธิ์อะไรทำแบบนี้กับเธอ อัญนิชาดีดดิ้นไปมาบนตักใหญ่ร่างอวบอิ่มกำลังเสียดสีเข้ากับเรือนกายกำยำ เธอรู้สึกถึงบางอย่างที่แข็งขันดึงดันอยู่ตรงสะโพกของเธอ ใบหน้างามร้อนเป็นไฟเมื่อรู้ความหมายนั้น ‘นายหื่นกาม ทุเรศที่สุด!’
“ดูจากการแต่งตัวของเธอมันก็บอกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าเธอมาทำอะไร ลองแสดงให้ฉันดูสิ ว่าเธอจะมีของดีหรือเปล่าเบบี๋”
ลำแขนแกร่งบีบรัดร่างอวบอิ่มเข้าหาตัวโดยไม่สนอาการดิ้นรนของอีกฝ่าย มือข้างหนึ่งของเขาเชยคางของเธอขึ้นเพื่อต้องการมองใบหน้าที่งดงามนี้อย่างชัดเจนอีกครั้ง ‘ยิ่งใกล้ ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความเย้ายวนจากกายสาว...เธอสวยจริงๆ แม่มดน้อย’
“คะ-คุณปล่อยดิฉันก่อนค่ะ”
น้ำเสียงของเธอเริ่มสั่นเครือ ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ใบหน้าคมคาย ระยะใกล้ชิดแบบแนบเนื้อขนาดนี้ทำให้อัญนิชามองเห็นเขาได้อย่างชัดเจนทุกกระเบียดนิ้ว โครงหน้าของเขานั้นออกไปทางอเมริกันอย่างแท้จริง สายตาคมกริบสีน้ำทะเลเข้มจ้องเธอเขม็ง เล่นทำเธอขนลุกซู่ในทันใด มือบางพยายามยันอกแกร่งเอาไว้เมื่อเธอรู้สึกว่าร่างของเธอกำลังจะถูกหลอมรวมเข้ากับกายกำยำ
“โอเค งั้นก็จบเรื่องเจรจา เชิญ! เธอไปได้”
ร่างของหญิงสาวถูกยกลงจากตักของชายหนุ่มทันที ในขณะที่เธอนั้นกำลังมึนงงกับเหตุการณ์อารมณ์แปรปรวนกะทันหันของมาเฟียใหญ่
“เอ่อ...”
ริมฝีปากบางเม้มจนเป็นเส้นตรง มือบางกำหมัดแน่นเมื่อเธอนั้นกำลังถูกกดดันด้วยสถานการณ์ที่คับขันอย่างนี้ มาถึงจุดนี้แล้ว ถ้าอัญนิชาถอยกลับ นั่นก็เท่ากับภารกิจของเธอล้มเหลวสินะ
“ไปสิ ฉันไม่ได้บังคับเธอนี่”
บรั่นดีชั้นเยี่ยมถูกสาดเข้าไปในลำคอทันที โดยที่เจ้าตัวไม่หันมองร่างอวบอิ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเลยสักนิด ผู้หญิงไทยเล่นตัวขนาดนี้เชียวหรือ
“แต่ว่า ฉันยังไม่ได้เจรจาเรื่องธุรกิจกับคุณเลยนะคะ”
อัญนิชาพยายามใจเย็นอีกครั้ง เธอพลาดพ่อจะต้องต่อว่าเธออย่างแน่นอน ไอ้มาเฟียบ้านี่จะเอายังไงกับเธอกันแน่ อย่าบอกนะว่าจะให้เธอยอมให้นายนี่ทำอะไรกับเธอ บ้าไปแล้ว
“ฉันต้องการขายธุรกิจ ไม่ใช่แค่พ่อของเธอที่อยากได้ เพราะฉะนั้น...กระต่ายน้อย...เธอพลาดโอกาสนำเสนอไปแล้ว”
ใบหน้าคมคายกระตุกยิ้มที่มุมปากฉายแววความเป็นต่อในสถานการณ์ตรงหน้านี้อย่างชัดเจน
“ฉันขอโอกาสอีกครั้ง...ได้ไหม?”
อัญนิชาต้องลุยต่อไม่รอฟังผลอะไรแล้ว นายมาเฟียนี่บอกว่าเธอพลาดโอกาสแรกไป เพราะฉะนั้นครั้งนี้เธอจะไม่เป็นแบบนั้นอีก เมื่อครู่อัญนิชาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เกิดมาจวบจนอายุ 22 ปีเธอไม่เคยใกล้ชิดแนบสนิทถึงตัวกับผู้ชายมากขนาดนี้มาก่อน
“อืม...เอาสิ! แสดงอะไร เชิญ!”
มาร์ตินเอ่ยสวนกลับทันควัน เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้จะปล่อยของอะไรออกมาให้เขาได้เห็นบ้าง นัยน์ตาคมกริบของมาเฟียหนุ่มกวาดมองร่างอวบอิ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า หุ่นเซ็กซี่นาฬิกาทรายนั้นมันทำให้มาร์ตินเริ่มคอแห้งกระหายน้ำขึ้นมาทันที
“เอ่อ...แล้วคุณต้องการจะให้ฉันแสดงอะไรล่ะคะ”
อัญนิชาไม่ได้เตรียมการแสดงอะไรมาเลย แผนการที่เธอเตรียมมาก็คือการ*อ่อยนายมาเฟีย ‘*อ่อยของเธอในที่นี้หมายถึง แค่ชงเหล้าและเอาใจอยู่ข้างกายพูดเรื่องกิจการที่เขาจะขายนี่’ อัญนิชาจะใช้การแสดงอะไร เต้นระบำโชว์ให้เขาดูอย่างนั้นหรือ
“อยากทำอะไรก็ทำสิ”
ร่างกำยำเอนกายไพล่ขาวางแขนทั้งสองข้างระนาบไปกับเบาะโซฟาวางมาดราวกับราชาก็ไม่ปาน ดวงตาสีน้ำทะเลคู่นั้นหรี่ลงอย่างหยอกเย้า กวาดไล้ไปตามต้นขาเรียวขาว ร่างอรชรสั่นสะท้านไปทั้งตัว หน้าหูเห่อแดงไปจนทั่ว
“ได้ค่ะ” อัญนิชารู้สึกเหมือนกับว่ามาเฟียคนนี้ กำลังต้องการเล่นสนุกกับเธออยู่ สายตาของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจน เธอรวบรวมความกล้าอีกครั้ง ก่อนที่สาวเท้าเดินเข้าไปหาเขา ‘ไม่มีเวลาทำใจหรอกนะยัยเฟย์ นาทีนี้แกต้องบุกแล้ว’
แต่...ยังไม่ทันที่สะโพกของเธอจะหย่อนถึงเบาะโซฟาร่างอวบอิ่มก็ต้องถลาเข้าไปเกยบนตักกว้างอีกครั้ง ความตื่นตะลึงครั้งนี้ทำให้หญิงสาวที่ไม่ทันได้ตั้งตัว อ้าปากหวอดวงตากลมโตเบิกกว้างมองไปที่ใบหน้าคมทันที
“คุณ!!” อัญนิชากลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบากเลยทีเดียว เมื่อได้สติมือของเธอก็ดันกับอกกว้างเอาไว้ ก้มหน้านิ่ง พยายามหลบสายตาของอีกฝ่าย ถ้าเธอดิ้นเกินงามไปกว่านี้ ก็อาจขัดใจนายมาเฟียบ้านี่ได้
“พ่อของเธอให้มาทำอะไร ไหนลองบอกฉันมาซิ”
เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบข้างใบหูเล็ก เอวบางถูกกระชับแน่นจนหญิงสาวรู้สึกถึงไอความร้อนที่ออกจากแผ่นอกแกร่งกำยำ มือใหญ่ที่สัมผัสตรงเอวของเธอนั้นถึงแม้จะมีอาภรณ์กั้นอยู่ แต่มันก็ทำให้เธอร้อนผ่าวจนรู้สึกได้
“เอ่อ ฉันนั่งแบบนี้ เกรงว่าจะตอบไม่สะดวก คุณช่วย...”
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เบิกตากว้างมองเขาอย่างตื่นตะหนก ใบหน้าคมคายนั้นอยู่ใกล้เธอเหลือเกิน ไม่ถึงคืบเลยด้วยซ้ำ อัญนิชารู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังจะสำลักลมหายใจของตัวเองเข้าแล้ว
“นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ เธอไม่ได้โง่นี่ ทำไมมองไม่ออก ว่าฉันต้องการอะไร เอาสิเบบี้ พ่อเธอสั่งให้มาทำอะไร!”
ใบหน้าคมคายหล่อเหลาราวกับเทพบุตรกรีกโบราณยื่นเข้ามาใกล้กันกับใบหน้าของเธอ หญิงสาวผงะออกแต่ก็โดนมือใหญ่รวบต้นคอเล็กเอาไว้ มือเขานั้นจับต้นคอของเธอเกือบรอบด้วยมือเพียงข้างเดียว
“เอ่อ...” เธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง มองเขาอย่างแปลกใจ ตอนนี้อัญนิชาเริ่มลังเล เธอสับสนกับคำพูดของเขา ความหมายของนายมาเฟียนี่ต้องการจะสื่ออะไร หรือว่า ต้องการให้เธอ.... ^-^’ จะทำยังไงดีล่ะ เธอไม่ได้เตรียมสถานการณ์ที่โดนรุกแบบนี้ไว้เลย
“เอาสิเบบี๋ ปล่อยของได้แล้ว...”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ จ้องตากับหญิงสาวซึ่งมีสีหน้าท่าทางระแวดระวังดุจเสือดาวตื่นภัย มาร์ตินรู้สึกพึงพอใจมากที่ได้เห็นความตกตะลึงพรึงเพริดในดวงตาสุกใสคู่นั้น เพราะมันทำให้เลือดในกายของเขามันพลุ้งพล่านในระดับเกินร้อย!
********************