“ยินดีต้อนรับครับนาย” [ชยุต : วัย 36 ปี : ผู้จัดการ]
เหล่าทีมงาน บริกร พนักงานทุกคนยืนเรียงแถวทำความเคารพผู้มาเยือน เจ้าของกิจการในนามของทายาทผู้สืบทอดมาครั้งนี้ ทุกคนต่างรับรู้ชะตากรรมแล้วว่า ในอนาคตกิจการที่พวกเขาทำอยู่ อาจจะกำลังเปลี่ยนมือไปเป็นของผู้อื่นได้
“เชิญครับนาย”
ชยุตสื่อสารเป็นภาษาสากลเพื่อเชื้อเชิญผู้เป็นนายใหญ่เข้าไปยังห้องรับรองที่เขาตระเตรียมไว้โดยเฉพาะ ชยุตเป็นผู้จัดการเกือบสิบปี ตั้งแต่เขาเรียนจบ นายท่านโรเบิร์ตก็รับเขามาเพื่อช่วยดูแลกิจการ เขาเคยเห็นลูกชายของนายโรเบิร์ตแค่เพียงรูปถ่าย ส่วนตัวจริงก็พึ่งจะเคยเห็นวันนี้ นายท่านมาร์ตินดูคล้ายกับผู้เป็นพ่อเป็นอย่างมาก รูปร่างสูงใหญ่ ผมสีบลอนด์ จมูกโด่งเป็นสัน นัยน์ตาสีน้ำทะเลเข้ม บ่งบอกสัญชาติอเมริกันชัดเจน เขาดูสง่าผ่าเผยเป็นอย่างมาก บุคลิกเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำอย่างแท้จริง
[เงียบ]
“...” สายตาคมกริบของมาเฟียหนุ่มกำลังกวาดมองไปบริเวณรอบๆ ด้วยความสนใจ กิจการของผู้เป็นพ่อก่อตั้งมาหลายทศวรรรษ ครั้งแรกของการมาเยือน มาร์ตินคิดว่ากิจการพวกนี้เป็นเพียงกิจการเล็กๆ แต่เท่าที่ดูวันนี้ มันไม่เล็กเลย กลับกัน มันดูยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก
“นายครับทางเราจัดเตรียมต้อนรับนายไว้แล้ว เดี๋ยวผมจะขอเชิญสาวๆ มาให้บริการนายนะครับ”
ชยุตบริการทุกระดับประทับใจ มันเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องทำ เพื่อให้ถูกใจผู้เป็นนาย
“นายไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ต้องเอามาเยอะ ยังไงก็เอามาแค่สองคนก็พอนะ”
แมทธิวออกตัวบอกผู้จัดการหนุ่มทันที เขารู้จักนายของเขาเป็นอย่างดี นายมาร์ตินไม่ชอบความวุ่นวายสักเท่าไหร่
“ได้ครับคุณแมทธิว”
ชยุตหันไปส่งสายตาให้ลูกน้องที่รออยู่ก่อนแล้วให้นำสิ่งที่เขาเตรียมไว้เข้ามา ผู้ชาย ยังไงก็แพ้ความเย้ายวนของสาวสวยเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
“นายเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะแมทธิว ฉันไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่นาน”
บรั่นดีสีเหลืองอำพันในแก้วใบสวยถูกยกกระดกรวดเดียวหมด มาร์ตินเพียงแค่มาเลือกคนซื้อที่เหมาะสมก็เท่านั้นเอง เพื่อที่บิดาผู้ล่วงลับไปจะได้สบายใจตามคำแนะนำของบอร์ดี้การ์ดมือขวาของเขาด้วย
“ตอนนี้ลูกค้าของเรามีสองรายครับนาย และวันนี้ทั้งสองรายก็ส่งตัวแทนมาเจรจากับนายแล้วครับ”
“ให้ผมตามมาเลยมั้ยครับ”
ชยุตรู้ว่าลูกค้าสองรายที่พูดถึงอยู่นั้น ได้ส่งลูกสาวลูกชายมาประกบเพื่อแย่งชิงในการซื้อกิจการ ใครจะได้นั้น ก็วัดดวงกันไปเลย
“ให้นายเลือกเลยล่ะกันแมทธิว ฉันมอบการตัดสินใจนี้ให้นายรับผิดชอบ ไหนๆ นายก็รับปากพ่อฉันมาแล้วนี่ ฉันไม่สนหรอก ว่าใครจะซื้อไป”
“ผมก็เลือกไม่ได้หรอกครับนาย เรื่องนี้นายตัดสินใจเองเถอะครับ เรามาลองให้สองรายนั่นมานำเสนอก่อนดีมั้ยครับ แต่สำหรับผมสนใจของทางด้านเสี่ยเจตน์มากกว่านะครับ”
แมทธิวเชื่อว่าถ้านายของเขาเห็นสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ลูกสาวสุดที่รักของเสี่ยเจตน์ล่ะก็ นายของเขาจะต้องถูกใจเป็นแน่ เผลอๆ อาจจะเปลี่ยนใจให้ฟรีๆ ก็เป็นได้นะ
“สองรายที่เสนอมา พวกนายก็คัดมาแล้วไม่ใช่เหรอ จะต้องให้ฉันเลือกทำไมอีก”
“งั้นเดี๋ยวผมจะลองเรียกรายแรกมานำเสนอก่อนนะครับ”
ชาร์ลีบอร์ดี้การ์ดมือซ้ายออกปากอาสา
“ไปสิชาร์ลี ว่าแต่นายพูดภาษาที่นี่ได้หรือไง ถึงเสนอตัวออกไปเชิญคนพวกนั้น”
“ก็พอได้อยู่ครับ ถึงผมไม่เคยมาไทย แต่ว่าก่อนมาผมก็เรียนรู้ภาษาไทยพอสื่อสารได้อยู่นะครับ อย่าดูถูกกันสิครับ”
อีกด้านหนึ่ง...
“นายไปทำหน้าที่ได้แล้วกาย ฉันรู้สึกว่าตอนนี้เราสองคนกำลังถูกจับตามองอยู่นะ หรือไอ้พวกมาเฟียมันจะรู้เรื่องที่ป๊าส่งพวกเรามากันนะ นายดูสิคนของพวกมันมองเราเหมือนกับรู้ว่าเราจะมาทำอะไรเลยนะ”
“มันก็ต้องรู้สิ พวกมาเฟียมันหูตาไวจะตาย...เอาล่ะฉันจะลุกไปพร้อมกับที่พวกของมันเดินเข้ามาหาเธอเลยล่ะกัน มันกำลังเดินตรงมาทางนี้พอดี”
ไม่นานเกินรอกานต์กายก็ลุกขึ้นพรวดทันที พร้อมกับชายร่างใหญ่ที่กำลังเดินตรงมาที่โต๊ะตามความคาดหมาย
“สา-หวัดดีครับ” ชาร์ลีโชว์สกิลการสื่อสารด้วยภาษาไทยที่เขาฝึกมาทันทีเมื่อเดินมาถึงเป้าหมาย
“ค่ะ...สวัสดีค่ะ” อัญนิชาเงยหน้ามองแขกผู้มาทักทายทันทีเช่นกัน เธอค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าพวกมาเฟียเหล่านี้รู้การมาของเธออย่างแน่นอน ก็ดีนะ เปิดกันไปเลย เธอจะไม่ได้ไม่กดดันกับสถานการณ์ตรงหน้าเท่าไหร่
“เอ่อ...นายของเราเชิญคุณไปร่วมวงสนทนาครับ”
ทันทีที่ชาร์ลีเห็นใบหน้าอันงดงามของสาวสวยคนนี้ มันทำให้ภาษาไทยของเขาใช้การไม่ได้ชั่วขณะ ชาร์ลีเลยต้องเปลี่ยนเป็นภาษาของตัวเองแบบอัตโนมัติ ^^
“ได้ค่ะ”
อัญนิชารับรู้และเข้าใจในประโยคเอ่ยชักชวนเป็นอย่างดี เพราะเธอพูดได้ถึงสองภาษา จีน และอังกฤษอย่างคล่องแคล่วเพราะตั้งแต่เล็กจนโตพ่อของเธอก็ส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาที่ดีมาตลอด เรื่องนี้สำหรับไม่เป็นปัญหา
“งั้น เชิญเลยครับ”
ชาร์ลีผายมือออกเพื่อเชื้อเชิญสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ทันที ขนาดชาร์ลียังใจสั่น ถ้านายเห็นเธอล่ะก็ กิจการที่ว่าจะขายคงต้องใช้เวลาคิดอีกนานแน่นอน
อีกด้านหนึ่ง...โต๊ะถัดไป
“สวัสดีครับ”
กานต์กายมุ่งตรงไปยังโต๊ะที่สองสาวสวยนั่งอยู่ เขาไม่จำเป็นจะต้องมีแผนการอะไร เข้าไปแบบตรงๆ อย่างนี้เลย ผู้หญิงคนนี้ดูแล้วเป็นคนฉลาด น่าจะมองเขาออกตั้งแต่ต้นแล้ว ความเป็นจริงกานต์กายก็แค่ใช้ความหน้าหนาของตัวเองก็พอ...
[เงียบ] สองสาวมองหน้ากันด้วยความฉงน เมื่อแขกผู้มาเยือนเดินเข้ามาทักทายประหนึ่งว่ารู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี
^^’ ชายหนุ่มยิ้มตอบกลับสาวสวยด้วยท่าทีเก้อเขินนิดหน่อย ความจริง*มุขนี้กานต์กายก็ไม่ได้อยากจะใช้มันสักเท่าไหร่หรอกนะ ถึงแม้มันจะดูเชยๆ แต่เขาก็ไม่รู้จะใช้วิธีไหนที่ดีกว่านี้แล้ว
“เรารู้จักกันเหรอคะ?”
นับหนึ่งอดขำกับ*มุขเสี่ยวๆ ของชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้ เธอรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร เป็นไปตามที่เธอคาดไว้ไม่มีผิดว่านายเจตน์จะต้องส่งลูกชายของเขามา เพื่อที่จะขัดขวางเธอไว้
“ครับ คุณอาจไม่รู้จักผม แต่ว่าผมรู้จักคุณครับ...คุณชื่อคุณนับหนึ่ง...ลูกสาวของคุณหญิงดารินเศรษฐีนีแห่งเมืองภูเก็ตไงครับ”
กานต์กายศึกษาข้อมูลของคู่แข่งมาพอสมควร ‘รู้เขารู้เรา’ ย่อมได้เปรียบกว่าแน่นอน^^
“แต่ว่าดิฉันไม่รู้จักคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ แค่ผมรู้จักคุณก็พอครับ”
กานต์กายแกล้ง*ตีเนียนต่อ เขานั่งลงทันทีทั้งที่ไม่ได้รับการเชื้อเชิญ ‘ด้านเข้าไว้...^^’
ถัดไปอีกเหตุการณ์หนึ่ง...
“เชิญครับ”
ชาร์ลีเดินนำหน้าพร้อมกับผายมือเพื่อเชื้อเชิญเมื่อเขาพาหญิงสาวเดินมาถึงจุดหมาย
“ค่ะ” อัญนิชากำมือตัวเองเอาไว้แน่นในขณะที่กำลังก้าวเข้าไปยังห้องวีไอพี สายตาของเธอเหลือบมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นั่งอยู่บนโซฟาโดยมีสาวสวยทั้งสองประกบด้านข้างซ้ายขวา ห่างออกไปยังมีเหล่าบอดี้การ์ดยืนอารักขาทั้งสองด้าน อัญนิชารู้สึกเหมือนกับลมหายใจติดขัดขึ้นมาทันที ความกลัวเข้าครอบงำจนมือไม้เย็นเฉียบ ทั้งบรรยากาศและทุกๆ อย่างนั้นมันส่งผลให้ ณ ที่ตรงนี้ดูน่ากลัวมาก
“เชิญครับคุณอัญนิชา”
ชยุตเห็นบุตรสาวของเสี่ยเจตน์ก็รีบเชื้อเชิญทันที ซึ่งก่อนหน้านี้เสี่ยเจตน์ก็โทรมากำชับกับเขาเรียบร้อยแล้ว
“ค่ะ” อัญนิชาค่อยๆ หย่อนสะโพกลงบนโซฟาตัวใหญ่ตรงข้ามกันกับมาเฟียที่น่ากลัวอย่างช้าๆ เขาไม่ได้เงยหน้ามองแขกผู้มาเยือนเลยสักนิด ‘ก็ดี...แค่นี้เธอก็กลัวจะแย่อยู่แล้ว’
“นายท่านครับ นี่คุณอัญนิชาลูกสาวของเสี่ยเจตน์ที่จะมาตกลงเจรจาขอซื้อกิจการของคุณท่านครับ”
“อืม...ความจริงพวกนายไม่ต้องเรื่องมากขนาดนี้ก็ได้ ฉันบอกแล้วไงว่าใครจะซื้อก็ได้ มันไม่สำคัญอะไร พวกนายมัน!...”
มาร์ตินกระชากเสียงออกมาด้วยความรำคาญ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองแขกผู้มาเยือนที่เป็นต้นเหตุให้เขายุ่งยากรำคาญใจ แต่ทว่าเมื่อมาเฟียหนุ่มมองบุคคลที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้วมันกลับทำให้เขาชะงักทันที ดวงตาคมดุเบิกกว้างออกเล็กน้อย เมื่อเห็นสาวสวยหุ่นเซ็กซี่สวมชุดสีดำรัดรูปอกอวบขาวของเธอโผล่พ้นมาเกือบครึ่งเต้า เธอกำลังนั่งจ้องมาที่เขาด้วยแววตาที่ตื่นตระหนกราวกับตกใจกับสิ่งที่เธอเห็น
“เอ่อ...งั้น...สรุปคุณจะขายให้พ่อดิฉันเลยใช่มั้ยคะ”
อัญนิชารีบคว้าโอกาสในคำพูดของเขาทันที ถึงแม้อัญนิชาจะกลัวมากแค่ไหน แต่นาทีนี้ถือเป็นโอกาสทองของเธอแล้ว สุดท้ายเธอก็ไม่ต้องลงแรงอะไรสักอย่าง ‘ภารกิจของป๊า...ไม่เห็นจะยากเลยสักนิด ^^’
“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกเด็กน้อย ยังไงพ่อของเธอก็ส่งเธอมาแล้ว งั้น ลองแสดงให้ฉันดูสักหน่อยสิ ว่าเธอมีของอะไรมาโชว์ให้ฉันดูบ้าง”
สายตาคมกริบจับจ้องไปที่ร่างอวบอิ่มอย่างไม่วางตา ความสวยของเธอคนนี้มันกระชากความรู้สึกของมาร์ตินอย่างแรง นี่สาวไทยสวยได้ขนาดนี้เชียวหรือ...