ณ ห้องอาหาร
ห้องอาหารของบ้านอัศวัตรตกแต่งด้วยโทนที่อบอุ่น คุณหญิงเติมเต็มนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะเพื่อรอลูกชายคนโตกลับมาทานข้าวด้วย ระหว่างที่นั่งรอคุณหญิงก็เหลือบสายตามาเห็นแป้งร่ำยกถาดอาหารลงมาจากห้องลูกชายคนเล็ก เธอก็เลยตะเบ็งเสียงเรียก
"แป้ง!!" แป้งร่ำชะงักจากนั้นก็หันมามองคุณหญิงป้าขณะที่มือของเธอกำลังถือถาดอาหารอยู่
"เอาถาดให้แม่บ้านไปเก็บก็ได้ แล้วหนูก็มานั่งทานข้าวกับป้า" คุณหญิงพูดจาอ่อนหวานมาก ส่วนแป้งร่ำเธอก็ยื่นถาดอาหารที่เก็บมาจากห้องคุณคงคา ยื่นส่งให้กับแม่บ้านอีกคน
หญิงสาวร่างสวยทอดน่องมาที่โต๊ะอาหาร จากนั้นก็หย่อนสะโพกลงนั่งที่เก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่
ระหว่างที่อาหารยกขึ้นมาเสิร์ฟ แป้งร่ำก็มองอยู่อย่างนั้น วันนี้เมนูค่อนข้างหลายอย่าง แต่ละอย่างค่อนข้างจะพิเศษมาก
"ปกติคุณป้าทานคนเดียว เยอะขนาดนี้ไหมคะ?"
เธอเอ่ยถามเสียงเรียบ แต่ก็รู้อยู่ว่าลูกชายคนโตจะกลับมาทานที่บ้าน ทว่า สิ่งที่เธอถามนั้น เธอแอบสงสัยเนื่องจากว่าคุณป้าเต็มทานคนเดียวบ่อยครั้ง ก็เลยอยากรู้เรื่องกับข้าวในแต่ละมื้อ
"ปกติป้าให้แม่บ้านทำแค่สองสามอย่าง หากวันไหนไม่รู้สึกหิวก็จะไม่ทาน"
แป้งร่ำยิ้มขึ้นประดับที่ใบหน้า รับทราบเรื่องที่คุณหญิงป้าบอกเมื่อครู่ หลังจากนั้นก็พร้อมจะลงมือทาน ทว่าเสียงทุ้มใหญ่ก็โพล่งขึ้นเสียก่อน
"มื้อนี้มีอะไรทานบ้างครับ กลิ่นหอมโชยออกไปถึงหน้าบ้าน"
น้ำเสียงที่โพล่งออกมา มันคุ้นหูแป้งร่ำมาก แต่เธอก็ยังไม่เห็นหน้าเขาหรอกนะ เพราะเธอนั่งหันหลังให้ทางเข้า
"มาแล้วเหรอ กว่าจะมาได้ แม่ให้เด็กตั้งโต๊ะรอแล้ว กว่าว่าแกจะหลอกแม่ให้รอเก้อน่ะสิ"
"ก็บอกว่าจะมาก็มาสิครับ"
อัคคีสาวเท้ามาอย่างช้า ๆ พร้อมคำพูดที่บอกแม่ ทว่าสายตาก็แอบมองหญิงสาวผมหยักลอนที่นั่งหันหลังอยู่ เขาก็คงรู้สึกแปลกใจมาก แต่ก็ยังไม่ได้ถามกระทั่งเขาเดินอ้อมมานั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอ
อัคคียังไม่ได้มองหน้าแป้งร่ำเต็ม ๆ ตา เขาเอาแต่มองอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ กระทั่งเขาหย่อนก้นลงที่เก้าอี้ แม่ของเขาก็พูดขึ้น
"วันนี้หนูแป้งพึ่งจะเข้ามาอยู่ คนที่แม่เล่าให้แกฟังนั่นแหละ"
พอแม่พูดแบบนั้นอัคคีก็รีบเงยหน้าขึ้นมาดู และสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าทำเอาหนุ่มหล่อร่างสูงขมวดคิ้วลงทันที
"แป้งร่ำ!!"
ส่วนเธอที่ได้ยินเขาเอ่ยชื่อเธอเต็ม ๆ แป้งร่ำรู้สึกหัวใจหวิว จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเขาเช่นกัน
และสิ่งที่เธอเห็นนั้น มันทำให้หัวใจของแป้งร่ำเต้นผิดจังหวะ รู้สึกเหมือนลมจะจับเสียดื้อ ๆ ก็ผู้ชายตรงหน้าคือคนที่เธอทิ้งเขามาเมื่อปีที่แล้ว
"รู้จักกันด้วยเหรอ?" คุณหญิงเต็มเอยถามส่วนแป้งร่ำเธอก้มหน้าต่ำลงกว่าเดิม มีเพียงสายตาของอัคคีเท่านั้นที่มองเธออย่างไม่ลดละ
"จะรู้จักได้ไงละครับแม่ ก็แม่เล่าให้ผมฟังนี่"
เขาพูดออกมาแบบนั้นก็จริง ทว่าสายตาที่เขามองแป้งร่ำมันดูอำมหิตแปลก ๆ ส่วนแป้งร่ำเธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองเขาสักนิด
"หนูแป้งนี่อัคคี ลูกชายคนโตของป้าเอง"
"อ๋อ..สวัสดีค่ะ" เธอเงยหน้าขึ้นมาพร้อมยกมือขึ้นไหว้ ส่วนเขาก็เอาแต่นั่งนิ่งไม่ได้รับไหว้แต่อย่างใด
"ทานเถอะเดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อย"
คุณหญิงเอ่ยบอกเสียงนุ่ม จากนั้นก็ลงมือทานเป็นคนแรก ส่วนแป้งร่ำเธอรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศ จะไม่ให้เธอรู้สึกแบบนั้นได้อย่างไร ก็ดวงตาคมกริบเอาแต่จ้องมองเธออยู่อย่างนั้น ทำให้เธอแทบจะตักอาหารไม่ถูกเลยทีเดียว
ขณะที่แป้งร่ำตักอาหารลงใส่จานตัวเอง สายตาของคนที่นั่งตรงข้ามเธอก็เอาแต่จดจ้องมองเธอไม่วางตา กระทั่งเสียงของคุณหญิงเต็มพูดขึ้น
"ว่าแต่ทานข้าวแล้วจะกลับเลยไหม"
หญิงวัยเกือบหกสิบเอ่ยถามลูกชายเสียงนุ่ม ส่วนคนที่ถูกถามก็หันมาตอบมารดาเช่นกัน
"คืนนี้ผมจะค้างที่นี่"
คำพูดของลูกชายทำให้คุณหญิงที่ก้มหน้าตักข้าวใส่ปากต้องเงยหน้าขึ้นมาพูดใหม่
"ร้อยวันพันปีไม่อยากค้างที่บ้านนี่ วันนี้สงสัยฝนจะตกหนัก"
พอแม่พูดแบบนั้นเขาก็ยิ้ม จากนั้นก็ช้อนสายตามามองหน้าของแป้งร่ำอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขายกยิ้มโดยที่เธอไม่เห็น
แป้งร่ำนั่งทานข้าวไปได้สักพัก ก็รู้สึกว่าอิ่มท้องแป้งร่ำเธอวางช้อนกับส้อมในมือลงที่จานลายหรู จากนั้นก็ยกน้ำขึ้นมาจิบเบา ๆ
ส่วนคุณหญิงที่เห็นอย่างนั้น ก็รีบเอ่ยถามเพราะเห็นว่าแป้งร่ำทานไปนิดเดียวเอง
"อิ่มแล้วเหรอ"
"ใช่ค่ะ"
"ทำไมทานน้อยจังเลย" เธอก็แค่ยิ้มแต่ก็ไม่ได้ตอบ ส่วนคุณหญิงเมื่อพูดจบก็หลบสายตามาที่ลูกชายคนโตเหมือนเดิม
"จริงสิ แม่ยังไม่ได้ให้แม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดเลย เดี๋ยวใช้เด็กไปดูความเรียบร้อยให้"
โดยปกติห้องของอัคคีแม้จะไม่มีคนอยู่ก็ต้องเข้าไปทำความสะอาดอยู่แล้ว ทว่าคุณหญิงก็กลัวว่าลูกชายจะบ่นก็เลยต้องเรียกให้แม่บ้านขึ้นไปทำความสะอาดอีกครั้ง
ส่วนแป้งร่ำเธอรู้สึกอิ่มและไม่รู้ว่าจะนั่งอยู่ทำไม อีกทั้งอยากขึ้นไปดูความเรียบร้อยของคงคาด้วยเช่นกัน
"หากคุณป้าไม่มีอะไร หนูขอขึ้นไปดูคุณคงคาก่อนนะคะ"
"อ้อ..ได้สิ"
แป้งร่ำลุกขึ้นจากเก้าอี้ แต่สายตาของอัคคีก็มองตามเธอไปอย่างไม่ลดละ นัยน์ตาคู่นั้นของเขามันแฝงเรื่องราวไว้หลายอย่าง เมื่อเห็นว่าแป้งร่ำเดินพ้นไปแล้ว ชายหนุ่มจึงหันมาถามผู้เป็นแม่อีกครั้ง
"ไม่คิดเลยนะครับว่าคู่หมั้นคงคาจะสวยขนาดนี้"
"แม่เคยเห็นเธอเมื่อตอนเด็ก ๆ นะ เห็นแค่ครั้งเดียวตอนนั้นก็ว่าหน้าตาน่ารัก โตขึ้นมาสวยเชียว"
อัคคียังไม่ได้พูดอะไร แววตาเขาดูนิ่งมากเป็นแม่ของเขาที่พูดขึ้นอีกครั้ง
"อันที่จริงเรื่องหมั้นหมายแม่ยังไม่ได้บอกคงคาเขาหรอก แม่อยากให้เขารักกันด้วยใจไม่ใช่บังคับเรื่องคำพูด อีกอย่างหนูแป้งเองก็น่าจะเป็นคนว่านอนสอนง่าย ดูเรียบร้อยด้วยซ้ำ อนาคตแม่ก็ไม่อยากให้เธอต้องจมอยู่ที่นี่ เว้นเสียแต่ว่าเธอเองจะรักคงคาเช่นกัน"
ชายหนุ่มร่างสูงที่ได้ยินแบบนั้น ก็ถึงขั้นขบสันกรามบ่อยครั้ง แววตาของเขาทอดมองไปทางที่แป้งร่ำพึ่งเดินผ่านไปเมื่อครู่