05

1548 Words
“มาพบใครนะครับ” “คุณสิงห์ค่ะ สิงห์ อคิรา วรเตชะ” หญิงสาวทราบดีว่าตอนนี้นั้นตนเองยืนอยู่ที่ไหน และเปอร์เซ็นต์ที่จะได้เจอหลานชายคนกลางของทายาทเจ้าของโรงแรมหรูรวมถึงคอนโดมิเนียมอีกหลายแห่งของทางฝ่ายคุณย่าอีกฝ่ายก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย ตอนเราคบกันก็ยังถือว่าเด็กมากทั้งคู่ ฉะนั้นพนักงานปัจจุบันของคอนโดที่นี่ไม่มีทางที่จะรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาอย่างแน่นอน “ได้นัดไว้หรือเปล่าครับ” พนักงานต้อนรับมีท่าทีลำบากใจเมื่อรู้ดีว่าบุคคลตรงหน้านั้นเป็นใคร ดาราสาวดาวรุ่งที่ช่วงนี้มีข่าวฉาวไม่เว้นวันมากล่าวของพบหลานชายเจ้าของคอนโดถึงที่ ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไปหรือมีคนพบเห็นก็คงจะกระทบต่อภาพลักษณ์วรเตชะอยู่ไม่น้อย รวมถึงเธอรู้ได้อย่างไรว่าคุณหนูคนกลางของบ้านนั้นพักอยู่ที่นี่เป็นหลัก ผิดกับพี่ชายคนโตที่เจอได้เฉพาะอู่ซ่อมรถเก่าของบิดา “ไม่ค่ะ แต่ฝากบอกเขาทีว่าฉันมีเรื่องที่จะมาตกลงด้วย” “อ่า งั้นสักครู่นะครับ” เขามีความอยากรู้อยากเห็นอยู่มาก ทว่ามันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย คราวก่อนเรื่องหลานชายคนโตที่เกิดขึ้นในโรงแรมก็จำได้ว่าคุณหญิงเรียกคุยหมดทุกสาขา เพราะถ้าหากอีกฝ่ายมีเจตนาไม่ดีถึงขั้นคิดจะเอาชีวิต พวกเขาก็คงจะไม่ได้กลับมายืนทำงานกันต่อตรงนี้ “ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณสิงห์สะดวกคุยไหมครับ” [ครับ มีอะไรหรือเปล่า ถ้าเป็นพวกซาแซงแจ้งตำรวจได้เลยนะครับ] “เอ่อ... ไม่ใช่ครับ คือว่ามีคนมาขอพบคุณสิงห์น่ะครับ” [ผมไม่เคยนัดใครไปที่นั่นนะครับคุณก็น่าจะทราบดี] “ครับ แต่น่าจะเป็นเพื่อนคุณสิงห์หรือเปล่าครับ เธอเป็นดาราน่ะครับ ชื่อเฌอริลิณญ์” [เขามาหาผม?] พนักงานชายชำเหลืองมองบุคคลที่จ้องตนเองอยู่อย่างเอาคำตอบ หลานชายคนกลางของบ้านตอบมาขนาดนี้แล้วทั้งสองคนก็คงจะรู้จักกันจริง ๆ “ใช่ครับ วันนี้คุณสิงห์จะเข้ามานอนที่นี่ไหมครับ เดี๋ยวผมให้คุณเธอขึ้นไปรอข้างบนก่อน” [ไม่ครับ ผมนอนสนาม ถ้าเขามีเรื่องจะคุยก็ให้มารอเจอผมที่นี่ครับ] “คุณสิงห์ว่ามาแบบนี้ครับ” เฌอริลิณญ์เคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง ตอนที่ใกล้จะตัดสินใจเลิกรากับนักแข่งหนุ่มไป ทุกอย่างยังคงเดิม คงจะมีแต่ใจคนที่เปลี่ยนไปแล้ว และการเรียกรถจากคอนโดหรูมาที่นี่มันก็ใช้เวลานานพอสมควร คำตอบของคุณลุงยามตรงทางเข้าสนามแข่งรถขนาดใหญ่ก็ทำเอาดาราสาวจำต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “ก็คือถ้าอยากจะเจอเขาหนูต้องนั่งรอตรงนี้เหรอคะ” ตรงนี้ที่หมายถึงพื้นข้าง ๆ ป้อมยาม ด้านในไม่มีเสียงของพวกรถสองล้อให้ได้ยินแล้วด้วยซ้ำ นั่นแสดงว่าเหล่านักแข่งคงจะเลิกซ้อมกันไปนานแล้ว ไม่แน่ว่าสิงห์อาจจะชำระร่างกายอยู่ก่อนจะกลับออกมา ทว่าพนักงานต้อนรับบอกเธอเองว่าชายหนุ่มจะนอนค้างที่นี่ไม่ใช่หรือ ถ้าเธอมานั่งรอเขาอยู่แบบนี้จะได้เจอจริง ๆ ใช่หรือไม่ ความไม่รอบคอบโดยที่ไม่ได้ขอช่องทางการติดต่อเอาไว้ก่อนส่งผลให้นึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อตั้งใจมาง้อเขาโดยการเอาเรื่องงานกับข้อตกลงมาอ้างแล้ว ถ้าสิงห์จะแกล้งกันไปเรื่อย ๆ เธอก็ไม่ย่อท้อหรอก “ครับ ลุงต้องขอโทษด้วยนะ แต่วันนี้ไม่มีใครค้างที่นี่หรอก เดี๋ยวก็คงจะออกมากันแล้ว ทางเรามีกฎไม่ให้คนนอกเข้าไปยุ่งวุ่นวายด้านในน่ะ แค่แฟนคลับพวกนักแข่งลุงก็ปวดหัวทุกวันแล้ว พกกล้องตามมาวุ่นวายทุกวันเลย” “เข้าใจค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ” เฌอริลิณญ์ยอมนั่งลงที่พื้นทั้งแบบนั้นอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่เข้าไปคุยกับอีกฝ่ายตั้งแต่ตอนเรียนบอกเลยว่ากลัวคนจะมองสิงห์ไม่ดีตามไปด้วย ฉะนั้นในรั้วมหาวิทยาลัยทำเป็นไม่รู้จักกันแบบส่วนตัวนั้นดีแล้ว หรือถ้ามีใครเคยเห็นเธออยู่กับอีกฝ่ายก็คงจะตอบว่ารู้จักกันแบบผิวเผินตามประสาเพื่อนที่เรียนร่วมคณะกัน เรียวขาเล็กขยับเหยียดปลายเท้าออกเมื่อนั่งมาสักพักแล้วเริ่มรู้สึกถึงความปวดเมื่อยไปตามร่างกาย อีกทั้งในเวลาต่อมาก็จำต้องคิ้วขมวดเข้าหากัน เมื่ออากาศที่ร้อนมาทั้งวันนั้นเริ่มเย็นขึ้น แล้วมีฝนเม็ดใหญ่ตกลงมาในช่วงดึกของวัน ไม่ต้องพูดถึงว่าคนที่นั่งรอนักแข่งอยู่ข้าง ๆ ป้อมยามนั้นต้องเปียกกะทันหันขนาดไหน เพราะที่ใช้หลบฝนมันก็มีแค่นี้ “หนู! เข้ามาหลบกับลุงก่อนไหม ถึงมันจะแคบไปหน่อยแต่ก็ช่วยได้เยอะอยู่นะ” “ไม่เป็นไรค่ะ ๆ ยังไงหนูก็เปียกแล้ว รออีกหน่อยคงไม่เป็นไรค่ะ” “เอาแบบนั้นเหรอ...” “ค่ะ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวหนูเรียกรถกลับเลยค่ะ” ลุงยามพยักหน้า ปิดบานหน้าต่างที่ตะโกนสอบถามเธอแข่งกับสายฝนเมื่อสักครู่ลง ก่อนจะมีแสงไฟจากรถยนต์นั้นกำลังขับเคลื่อนออกมา ทว่ามันก็ยังไม่ใช่เขา ทะเบียนรถสิงห์อย่างไรดาราสาวจะจำไม่ได้ เช่นนั้นก็คงจะอีกไม่นานในเมื่อเพื่อนร่วมทีมชายหนุ่มเริ่มทยอยกลับกันออกมาแล้ว และสภาพของเธอตอนนี้ก็คงจะดูไม่ได้เลย คงจะเหมือนลูกหมาตกน้ำแล้วมานั่งรออดีตเจ้าของมันน่าดู จะมาง้อสิงห์ทั้งทีแต่ตัวเองกลับดูไม่ได้เลยเฌอริลิณญ์ “หนู ยังอยู่อีกเหรอ” “ก็เขายังไม่ออกมาไม่ใช่เหรอคะ” “เอ้า ไม่ได้คุยกันกับเพื่อนเหรอ คันที่ขับออกมาเมื่อกี้ไง เขาออกมากันหมดแล้วนะ ลุงจะปิดระบบบางส่วนแล้ว” “เมื่อกี้เหรอคะ” “ใช่ ๆ ฝนเริ่มแรงแล้วด้วย ถ้าคาดกันลุงว่าหนูกลับก่อนไหม กลัวได้เป็นหวัดไปเสียก่อนน่ะสิ” เธอเป็นแล้วต่างหาก เพราะวันนั้นก็ตากฝนเช่นนี้ ทว่าวันนี้มันน่าจะเลวร้ายกว่า แต่จะทำอย่างไรได้ สิงห์ไม่ได้ขอให้เธอมาเจอเสียหน่อย เป็นเฌอริลิณญ์ที่ดั้นด้นมาเอง อีกทั้งยังนึกไปถึงวันที่บอกเลิกเขาแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายต้องตากฝนอยู่ด้านนอก เฌอริลิณญ์ในตอนนั้นไม่อยากที่จะคุยกับสิงห์ ตอนนี้หากเขาไม่อยากจะเจอกันก็คงไม่แปลก คิดได้ดังนั้นก็จำใจลุกจากพื้นที่นั่งอยู่ เธอรู้สึกเริ่มมึนศีรษะนิดหน่อย แต่อย่างไรก็ต้องเดินไปให้ถึงที่นั่งรอรถก่อน มือถือเจ้ากรรมก็ดันมาเปิดไม่ติดเอาตอนนี้ ไม่รู้เพราะแบตเตอรี่หมดหรือโดนน้ำฝนจนเครื่องพังชั่วคราวไปแล้วกันแน่น นั่นทำเอาหญิงสาวต้องผ่อนหายใจออกมา หากแต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นตกใจจนสะดุดล้มในตอนที่มีรถขับผ่านมาด้วยความเร็วนั้นบีบแตรไล่ ก็เธอมาเดินมืด ๆ แบบนี้ไม่โดนรถชนก็ดีเท่าไหร่แล้ว “เชี่ย มึงให้กูจอดรถดูอะไรเนี่ยสิงห์ มึงเป็นคนใจดำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ถ้ามึงไม่ลงไป กูจะไปดูเฌอเอง” รถคันที่สิงห์ติดออกมาด้วยยังจอดอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหนไกล นั่นก็เพราะเจ้าตัวบอกสองว่าให้จอดรอก่อน ไม่คิดว่าไม่นานคนที่เดินออกมาจะเป็นเพื่อนร่วมสาขาอย่างดาราสาว แล้วเมื่อสักครู่ถ้าเกิดว่าเฌอริลิณญ์โดนชนเฉี่ยวเข้าจริง ๆ จะทำอย่างไร ชีวิตคนคนหนึ่งเพื่อนเขาจะเอาไปคืนครอบครัวเขาได้หรือเปล่า “สิงห์ อันนี้กูว่ามึงทำเกินไปแล้ว ถ้าไม่อยากเจอก็น่าจะบอกเธอไปตรง ๆ” “เปิดรถหน่อย” สองกับลูติโน่หันมองหน้ากันอย่างโล่งอก ยอมทำตามที่เพื่อนบอก คนที่นั่งอยู่ด้านหลังจึงขยับเปิดประตูรถฝ่าฝนลงไปช้อนอุ้มเอาแฟนเก่าที่ล้มจากการตกใจด้วยใบหน้านิ่ง ๆ เป็นภาพที่พวกเขาเห็นจากกระจกหลัง “สักทีนะ” “มึงว่ามันจะพอแค่นี้เหรอ ถ้าเฌอยังตามมันไม่หยุดอยู่แบบนี้กูบอกเลยว่าได้เจ็บมากกว่านี้อีก” TBC.
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD