ตอนที่3เสน่ห์แรง

2012 Words
“จริงเหรอครับ ผมเป็นคนกรุงเทพครับ ไหนๆก็รู้จักกันแล้วเรามาแลกไลน์กันดีมั้ยเผื่อเราจะได้นัดเจอกันทานข้างด้วยกันครับ” “มุกจีบสาวหรือเปล่าคะ” “ไม่ๆครับ งั้นนี่นามบัตรของผมหากคุณหลิวมีอะไรให้ผมรับใช้ก็โทรหาได้ตลอดนะครับ” หมอทอยล้วงกระเป๋ามาเปิดออกแล้วหยิบนามบัตรของตัวเองออกมาให้สาวสวยที่เขาชอบ “นาวาโทนายแพทย์อนุเดช คชสารศิริสม..” ลัคนาอ่านนามบัตรและมองหน้าหนุ่มหล่อที่บอกว่าเป็นหมออย่างไม่อยากเชื่อว่าหมอจะหล่อขนาดนี้แล้วโรงพยาบาลจะไม่แตกหรือยังไงและนามสกุลของเขาเหมือนกับของเจ้านายสาวอีกด้วย “เอ่อ ขอโทษนะคะคุณทอยเป็นอะไรกับคุณไลลา เจ้าของไลลาเวดดิ้งแพลนเนอร์คะ” “คุณรูจักพี่ไลลาด้วยเหรอครับ” “คือว่าฉันทำงานที่บริษัทไลลาเวดดิ้งแพลนเนอร์ของคุณไลลาค่ะ” “โอ้ จริงเหรอครับ จุดไต้ตำตอเลยนะเนี่ยพี่ไลลาเป็นพี่สะใภ้ของผมเองแล้วคุณหลิวทำงานอยู่ฝ่ายไหนครับ” เขารู้ว่าบริษัทของพี่สะใภ้ทำหลายอย่างเป็นทั้งเอจนซี่ รับจัดงานอีเว้นท์งานเลี้ยงและงานแต่งงานรวมถึงออกแบบตัดเย็บชุดแต่งงานครบวงจร “ฉันอยู่ฝ่ายจัดเลี้ยงค่ะ” “งั้นเราได้เจอกันที่กรุงเทพแน่นอนครับ” “งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” “เดี๋ยวครับ คุณหลิวจะกลับกรุงเทพเมื่อไหร่ครับ” “พรุ่งนี้ค่ะ ฉันลาหยุดมาสี่วันแต่เพิ่งมาถึงได้สองวันผู้จัดการก็โทรมาตามตัวไปช่วยงานค่ะ” “มีอย่างนี้ด้วยเหรอครับ” “ก็ถ้างานมีปัญหาเราก็ต้องช่วยกันค่ะ ฉันต้องขอตัวก่อนค่ะ” “งั้นเอาไว้เจอกันที่กรุงเทพนะครับ ขอให้เดินทางปลอดภัยนะครับ” “ชอบคุณค่ะ ขอให้คุณทอย ไม่ใช่สิ ต้องคุณหมอทอยเที่ยวให้สนุกนะคะ” “เรียกหมอทอยก็พอครับ” “ค่ะ หมอทอย” ลัคนายิ้มให้หมอทอยก่อนจะเดินจากไป คุณหมอหนุ่มหล่อมองตามหลังสาวสวยแล้วยิ้มก่อนจะเดินไปหาเพื่อนที่ยืนมองเขาคุยกับลัคนาและเขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะทำงานในบริษัทของพี่สะใภ้ “เป็นไงล่ะ ตกหญิงได้อีกแล้วสิ” “ไม่ใช่ตกได้ แค่รู้จักกันและคุณหลิวเธอทำงานกับพี่ไลลาน่ะ” เขาไม่เห็นว่าลัคนาจะมีท่าทีสนใจเขาแม้จะรู้ว่าเขาเป็นน้องชายสามีของไลลาที่มีฐานะร่ำรวยติดอันดับในเมืองไทย “จริงเหรอ” เขาก็เห็นว่าสาวสวยที่เพื่อนหมายตานั้นสวยจริงเพราะสาวๆส่วนน้อยที่เวลาออกจากบ้านจะไม่แต่งหน้า แต่ผู้หญิงคนนี้เห็นไกลๆยังรู้ว่าเธอสวยธรรมชาติและท่าทางการคุยของเธอไม่ได้มีท่าทีสนใจเพื่อนของเขา “แล้วเธอสนใจมึงงั้นสิ” “เปล่า เธอดูเฉยๆและยังรู้ทันกูอีกด้วยนะ” “ก็แหงล่ะ มึงเล่นใช้มุกเดิมๆจีบสาวนี่” “อ่อเหรอ งั้นไอ้คนมีมุกใหม่ลองจีบสาวให้กูดูเป็นบุญตาหน่อนสิวะ” “เลิกเล่นได้แล้ว ไปโรงแรมกันดีกว่า” “อุ้ยต้าย มึงชวนกูเข้าโรงแรมอีกแล้ว” คุณหมอหนุ่มหล่อทำหน้าทะเล้นใส่เพื่อน “กูจะตึ้บมึงให้น่ะสิ เร็วเข้าอย่ามัวแต่เล่นอยู่เดี๋ยวดาวมึงจะหลุดจากบ่าโดยไม่รู้ตัว” น่านฟ้าว่าเพื่อนที่ทำตัวไม่เหมือนกับเป็นหมอ แต่เวลามันทำงานก็จริงจังมีความรับผิดชอบงานโดยไม่มีขาดตกบกพร่อง สองหนุ่มหล่อเดินไปทางโรงแรมขนาดกลางที่อยู่ริมแม่น้ำโขงเพื่อพักผ่อนและติดต่อเพื่อนที่ทำงานที่นี่และคืนนี้นัดประชุมกันที่สถานีเรือของหน่วยที่เพื่อประจำอยู่ บ้านผู้ใหญ่ระพิน เป็นบ้านปูนสองชั้นบนพื้นที่สองไร่มีต้นไม้น้อยใหญ่ล้อมรอบบ้านเป็นแนวรั้วและมีสำนักงานผู้ใหญ่บ้านอีกหนึ่งหลังและมีบ้านเรือนของญาติๆและเพื่อนบ้านที่เว้นระยะห่างแต่ละหลังประมานสามร้อยเมตรถึงห้าร้อยเมตรเพราะเป็นหมู่บ้านในชนบทแต่บางหลังก็อยู่ติดกันแล้วแต่ที่ดินของใครจะมีมากน้อยและผู้ใหญ่ระพินก็มีที่ดินมรดกของพ่อแม่ยกให้มาเป็นทุนก็เกือบร้อยไร่และเขากับภรรยาซื้อเพิ่มขึ้นอีกจนตอนนี้มีที่ดินผืนเดียวกันกว่าสามร้อยไร่กินพื้นที่หลังบ้านของเขายาวไปจนสุดแนวแม่น้ำโขงเรียกได้ว่าเป็นที่ดินทำเลทองราคาดีและตอนนี้เขาก็ปล่อยให้ชาวบ้านเช่าทำนาจ่ายค่าเช่าเป็นข้าวเปลือกและยังมีสวนผลไม้กว่าร้อยไร่ที่เขาลองปลูกทุเรียนและมันได้ผลผลิตที่น่าพอใจ “ยัยหลิวยังไม่กลับมาอีกเหรอแม่” ผู้ใหญ่ระพินถามภรรยาเมื่อกลับมาจากในสวนข้างบ้านถามหาลูกสาวที่ออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงสาย “เดี๋ยวก็คงมามั้งพ่อ แล้วได้อะไรมาล่ะนั่น” “ก็มีหน่อไม้กับผักนิดหน่อยน่ะแม่ จะเอาไปฝากบ้านพี่ต้อยกับบ้านของรินน่ะ” หากลูกสาวกลับมาบ้านผู้ใหญ่ระพินก็จะฝากของไปให้พี่น้องของภรรยาที่กรุงเทพเสมอและถ้าลูกสาวขับรถมาเองหรือว่ามีญาติคนไหนขับรถส่วนตัวมาเขาก็จะสีข้าวฝากไปให้ทุกคน “ลูกจะขนกลับกรุงเทพไหวมั้ยล่ะพ่อ ไม่ได้เอารถมาด้วยสิ” “งั้นก็ฝากขนส่งไปก็ได้แม่” “ก็ดีเหมือนกันพรุ่งนี้ให้คนขับรถบ้านพี่ต้อยไปเอา” คุณพิสมรพูดกับสามีเพราะฝากส่งไปกับรถทัวร์บ่อยๆ จากนั้นสองสามีภรรยาก็ช่วยกันแพ็คของลงกล่องเพื่อเอาไปฝากกับรถทัวร์ไปกรุงเทพพอเสร็จแล้วก็เข้าไปในเมืองที่อยู่ห่างไปประมาณสิบกิโลเมตร หลังจากที่ลัคนาขอตัวกลับเธอก็ไปชื้อของให้ป้าสะใภ้ก็กลับบ้านและไม่ได้คิดถึงเรื่องที่ได้เจอกับหมอทอยและเธอคิดว่าคนระดับเขาไม่ได้สนใจเธอจริงจังก็แค่หว่านเสน่ห์ใส่หยอกเล่นๆเท่านั้น เมื่อได้ของครบแล้วก็กลับบ้าน “ชื้อของให้ป้าเสร็จแล้วเหรอลูก” คุณพิสมรถามลูกสาวที่ลงจากรถคันเล็กของเธอที่ใช้ขับไปทำงานในเมืองที่ลูกสาวยืมไปใช้ “ค่ะแม่ แล้วพ่อล่ะคะ” “ไปส่งของให้ลุงต้อยกับน้ารินในเมืองเดี๋ยวก็มาแล้วลูก หลิวไปอาบน้ำอาบท่าก่อนแล้วลงมากินข้าวนะลูก” “ค่ะแม่” ลัคนาหิ้วถุงกระดาษมีโลโก้ร้านของเพื่อนติดอยู่เพราะร้านผ้าไหมของวรรณิสามีชื่อเสียงในจังหวัดนครพนมขึ้นบนบ้านเพื่อเก็บลงกระเป๋าเพราะเธอนั่งเครื่องบินมาจึงซื้อของฝากได้ไม่เยอะ และพ่อก็จัดการให้เธอทุกครั้งเรือ ที่ท่าเรือริมฝั่งโขง เวลา17.00 ท่าเรือสำราญล่องแม่น้ำโขงชื่อดังของเมืองนครพนมก็คึกคักคลาคล่ำไปด้วยนำท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาล่องเรือชมบรรยากาศยามเย็นสองฝั่งโขงซึ่งมีเรือสำราญทางอาหารมีดนตรีขับกล่อมบรรเลงสร้างบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวดื่มกินสนุกชิลล์ๆล่องไปตามแม่น้ำโขงแล้วกลับมาจอดที่ท่าเรือจนถึงเที่ยงคืน “บรรยากาศดีนะ” อนุเดชขึ้นเรือแล้วเดินตามพนักงานไปนั่งโต้ะที่จองไว้แล้วมองไปรอบๆท่าเรือยามเย็นที่แดดล่มลมตกสายลมพัดโชยเย็นสบาย “อือ..” น่านฟ้าเห็นด้วยกับเพื่อนว่าอากาศดีจริง “หือ มีสาวสวยด้วยนะไอ้น่าน” และคนตาดีก็เห็นสาวสวยหุ่นนางแบบสามคนเดินขึ้นมาบนเรือและพนักงานนอบน้อมกับพวกเธอมากด้วย “ลูกสาวของเจ้าของท่าเรือและเรือสำราญริมโขงริเวอร์ไซด์” “มึงรู้ได้ยังไง” “มึงมาทำงานไม่มีข้อมูลเลยหรือไงวะ” “ก็ไอ้นายมันบอกกะทันหันนี่หว่า แล้วมีอะไรที่กูต้องรู้บ้างล่ะแต่คงจะเกี่ยวกับลูกสาวเจ้าของท่าเรือด้วยใช่มั้ย” “ถ้าต้องการข้อมูลก็ต้องเกี่ยว” “มึงหรือกู..” “มึง..” “โอเค เรื่องล้วงเรื่องควัก ข้อมูลกูถนัด หึหึๆๆ..” “สั่งอาหารเถอะ เดี๋ยวค่อยอ่อยกได้” เขารู้ดีว่าเพื่อนหน้าตาหล่อมีเสน่ห์คุยสนุกและผู้หญิงก็ชอบและทุกครั้งที่ไปดื่มมันก็จะอ่อยสาวๆเผื่อเพื่อนๆ “มึงสั่งอาหารเผื่อกูเลย เดี๋ยวกูไปสั่งเครื่องดื่มเอง” อนุเดชยักคิ้วให้เพื่อนก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่บาร์เครื่องดื่มและต้องผ่านโต้ะของสามสาวจึงยิ้มให้อย่างมีมารยาท “จะรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มผมยาวถามลูกค้าสุดหล่อแล้วผลักเมนูไปให้เพราะลูกค้าส่วนมากจะสั่งเป็นแก้วแต่ก็มีไม่น้อยที่จะสั่งเครื่องดื่มเป็นขวด “ขอแบบนี้หนึ่งขวดครับ” อนุเดชจิ้มไวน์แดงขวดหนึ่งไม่ได้สนใจยี่ห้อเพราะเขาดื่มได้หมดจะไวน์ถูกหรือแพงยังไงมันก็เมาเหมือนกัน “ขวดนี้หนึ่งหมื่นสองพันเก้าร้อยบาทนะครับ” บาร์เทนเดอร์ถามนักท่องเที่ยวหนุ่มที่จิ้มไวน์โดยไม่ได้ดูราคาและเขาถามเพื่อความแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ได้ชดใช้ “ครับ เปิดให้ผมแล้วเอาไปที่โต้ะด้วยครับ” “ได้ครับ” เมื่อสั่งเครื่องดื่มเสร็จแล้วอนุเดชก็นั่งอ้อยอิ่งอยู่หน้าบาร์และกำลังจะลุกขึ้นก็มีสาวสวยคนหนึ่งในกลุ่มสามสาวเดินมาหาเขาก่อน “สวัสดีค่ะ เลือกเครื่องดื่มได้แล้วเหรอคะ” รัชนีกรเห็นหนุ่มหล่อล่ำกล้ามใหญ่ดูดีไม่เหมือนหนุ่มบ้านๆเขามีสง่าราศีเป็นลูกคนรวยมากกว่า “เอ่อ เลือกได้แล้วครับ สวัสดีครับคุณ..” หนุ่มหล่อยิ้มหว่านเสน่ห์ให้สาวสวย “กิ๊ฟค่ะ แล้วคุณ..” “ทอยครับ” “ยินดีที่ได้รู้จักคุณทอยค่ะ ว่าแต่คุณทอยมากับใครคะ” เธอเห็นแล้วว่าเขานั่งกับเพื่อนสองคนและหล้อกินกันไม่ลงคนหนึ่งหล่อเข้มและคนตรงหน้าเธอหล่อสไตล์หนุ่มเกาหลี “ผมมากับเพื่อนครับ แล้วคุณกิ๊ฟจะดื่มอะไรดีครับ” “จะเลี้ยงเหรอคะ” “แน่นอนครับ..” “งั้นกิ๊ฟไม่เกรงใจนะคะ” “เชิญครับ” สาวสวยก็ดูเมนูไวน์ก่อนจะสั่งไวน์ขาวตามรสนิยมของเธอแก้วหนึ่งก็หลักพันแต่ยังถูกกว่าไวน์แดงที่อนุเดชสั่งขวดละสองหมื่นกว่า “ขอบคุณนะคะที่เลี้ยงไวน์กิ๊ฟ” “ด้วยความยินดีครับ คุณกิ๊ฟมาเที่ยวเหรอครับ” อนุเดชชวนสาวสวยคุย “กิ๊ฟมาเที่ยวกับเพื่อนค่ะ คุณพ่อของเพื่อนของกิ๊ฟเป็นเจ้าของบริษัทริมโขง ริเวอร์ ไซด์ค่ะ” “จริงเหรอครับ” “ค่ะ แป้งนั่งอยู่ตรงนั้นค่ะ คุณทอยไปนั่งด้วยกันมั้ยคะ” เธอเห็นเพื่อนชอบผุ้ชายอีกคนจึงอาสามาทำความรู้จักกับหนุ่มหล่อสเปคของเธอ “จะดีเหรอครับ ผมมากับเพื่อนด้วยสิ” เขามานั่งอ่อยก็เพราะอยากรู้จักลูกสาวเจ้าของเรือสำราญที่มีอิทธิพลในเมืองนครพนมเผื่อจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม “ดีสิคะ ชวนเพื่อุณทอยมานั่งดื่มด้วยกันนะคะ” รัชนีกรถือโอกาสชวนหนุ่มหล่อไปดื่มด้วยกัน “งั้นผมไปถามเพื่อนก่อนนะครับ” “งั้นไปค่ะ” รัชนีกรยิ้มหวานให้หนุ่มหล่อแล้วลุกขึ้นเดินตามไปที่โต้ะของเขาและต้องผ่านโต้ะที่เธอกับเพื่อนทั้งสองนั่ง “เดี๋ยวฉันมานะ” สาวสวยขยิบตาให้เพื่อนแล้วเดินตามหนุ่มหล่อไปชวนเพื่อนสุดหล่อของเขามาให้เพื่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD