“เข็มไปก่อนนะคะพี”
“พรุ่งนี้ไม่มีงานนี้หน่า ทำไมรีบกลับจังครับ”
“เข็มอยากพักผ่อนน่ะคะ พีเองก็จะได้พักผ่อนด้วยไง” หลังจากเสร็จกิจพิชิตความเครียดดาราสาวก็ลุกขึ้นจากเตียง
น้อยครั้งที่เขมรินทร์จะค้างคอนโดพชร เธอมาระบายความต้องการเสร็จแล้วก็โทรเรียกผู้จัดการมารับไม่ว่าจะกี่โมง
“งอนอะไรคะ เหนื่อยเหรอที่ต้องขับรถไปรับเข็ม”
“เปล่าสักหน่อย! ผมแค่...”
“พี! แบบนี้ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ หึ่ม! คุณอยากโซ่ล่ามคอเหรอคะ เรามีอิสระเต็มที่ มีช่วงเวลาที่สนุกด้วยกันตอนที่ต้องการไม่มีใครเป็นเจ้าของกันทั้งนั้น เจอกันตอนที่อยากก็พอ”
“ครับ”
มันฟังดูดีสำหรับผู้ชายเจ้าสำราญ ไม่ต้องผูกมัดเจอกันแค่ตอนมีอารมณ์ แต่บางทีมันก็เหงาและไร้ค่าในเวลาเดียวกัน
“เข็มไปนะ”
“ครับ”
เป็นปกติเวลาที่ดาราเข็มแต่งตัวเสร็จแล้วเดินจากไป ทุกครั้งเจ้าของบ้านก็จะนอนหลับพักผ่อนตามสบาย แต่ครั้งนี้กลับมีเรื่องกวนใจจนข่มตาหลับไม่ลง
เวลาต่อมา GO Motor
“ดิฉันตัวแทนจากเดอะวันคะ”
“มาคนเดียวเหรอคะ”
“ค่ะ ใช่”
หน้าที่การทำงานของเออีสาวยังคงดำเนินไปตามปกติแต่ทว่าเอลี่ก็ไม่เคยเขาออฟฟิศสักวัน
แม้เจ้าตัวจะเป็นสาวมั่นใจในตัวเองเกินร้อยแต่เรื่องที่เกิดขึ้นกับอาร์ทก็ทลายทุกอย่างลง
จริงๆ แล้ววันนี้เอลี่มรเสนองานตัวอย่างกับบริษัทลูกค้าซึ่งควรจะเป็นครีเอดหนุ่มมาด้วยแต่วันนี้ฝ่ายขายมาลำพัง
“เชิญด้านนี้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ อ้าวคุณ!!”
“คุณอีกแล้วเหรอ”
“พูดเหมือนเจอกันบ่อยอย่างนั้นแหละค่ะ”
รอยยิ้มแบบฝืนๆ ส่งให้คนตรงหน้า ด้วยความบังเอิญในคืนนั้นพชรเจอเอลี่กำลังร้องไห้ในรถอย่างบ้าคลั่ง
ไม่ว่าเธอมีเรื่องทุกข์ใจอะไรอยู่ ชายหนุ่มรับรู้ได้แต่เพียงว่ามันต้องหนักมากๆ
“แต่ก็เจอกันอีกแล้วนะครับ” เขาเองก็ไม่เคยพูดถึงคืนนั้นที่เอลี่อ้วกรดใส่เสื้อ
“เชิญเสนองานตัวอย่างได้เลยนะคะ”
“กับคนนี้เหรอคะ” เออีสาวร้องถามคุณเลขาเพราะเอลี่ถูกเชิญมาที่ห้องผู้บริหาร
“ค่ะ เสนอคุณพชรได้เลย”
“คุณพชร?”
โดยปกติเอลี่จะทำการบ้านมาอย่างดีว่าใครเป็นอะไร ตำแหน่งไหนในบริษัทลูกค้าแต่เพราะช่วงชีวิตที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายจนหลงลืมข้อนี้ไปสิ้น
พชร อาชารักษ์ รองประธานบริษัทจีโอมอเตอร์หน้าตาเป็นแบบนี้ นี่เอง
คิดว่าคนช่างซะอีกเพราะครั้งแรกที่เจอเขาใส่ชุดเหมือนช่างยนต์ทั่วๆ ไป
“อา...ขออภัยที่วันนั้นเสียมารยาทนะคะ”
“พอรู้ว่าผมไม่ใช่คนขับรถถึงขอโทษนะ”
“ขออภัยค่ะ ขออภัยจริงๆ” ฤกษ์ไม่งามยามไม่ดีเสียแล้วสิเอลี่
เจ้าตัวได้แต่สบถในใจ
“ดิฉันตัดสินคนที่ภายนอกเอง ต้องขออภัยจริงๆ นะคะ”
“ผมก็เหมือนกัน คุณณิชาออกไปก่อนครับ ผมมีธุระจะคุยกับตัวแทนของเดอะวันลำพังสองคน”
“...”
สายตาเอาเรื่องจ้องเออีสาวราวกับมีเรื่องราวเป็นร้อยอยู่ในใจ งานนี้ไม่ได้ง่ายแล้วสินะ
เพราะเธอสร้างความประทับใจไว้หลายครั้งซะเหลือเกิน
20.00 น.
“อย่าเพิ่งถามกูไม่พร้อมตอบ ช่วยไปนั่งเป็นเพื่อนกูอย่างเดียว”
“ให้กูเก็บซากมึงกลับอีกสิ”
“ไม่ไปก็ได้นะ กูไปกับปิงสองคน”
เพื่อนร่วมงานสองคนกำลังชวนกันไปนั่งดื่มแก้เครียดทั้งกับงานและเรื่องส่วนตัว
เอลี่อยากปลดปล่อยเรื่องหนักๆ ในหัว แต่ก็กลัวจะกลับบ้านไม่ได้จึงชวนเด็กฝึกงานไป
แน่นอนว่าเด็กสาวเองก็ไม่รอช้าที่จะแจ้งข่าวให้อ้ายอันรับรู้ คนเดียวที่เอาเอลี่อยู่คงมีแค่พี่อัน
“เออ! ไปหาน้องมึงยัง”
“อืม”
“อย่ามาอืม เป็นไงบ้างอย่าบอกว่าทะเลาะกันอีกนะ” นึกขึ้นได้ว่ามีอีกคนที่ยังหาตัวไม่เจอ
และการกลับมาครั้งนี้ก็ไม่มีใครรู้จนกระทั่งมีคนแปลกหน้าพูดถึง
“เขาไม่ยอมบอกอะไรเลย พูดแต่ว่ามันลาออกไปแล้ว”
“ช่วงเวลาแค่แปบเดียวเนี้ยนะ”
“เออ! ที่ร้านนี้ก็แปลกๆ นะ กูว่ามันต้องไปสร้างเรื่องอะไรสักอย่างแล้วถูกเขาไล่ออกแน่ๆ เด็กในร้านถึงไม่มีใครอยากพูดเรื่องมันสักคน”
บุคคลปริศนายังคงลึกลับต่อไปอย่างที่ไม่สามารถหาตัวได้แม้แต่เขา
SAVAGE BAR
“เจอตัวแล้วครับคุณหนู”
“เฝ้าไว้นะ”
“แต่วันนี้เธอไม่ได้มาร้องเพลงนะครับ”
“แล้วเขาไปทำอะไร”
ถึงแม้เจ้าตัวจะยุ่งจนไม่มีเวลามาดูนักร้องสาวด้วยตัวเอง แต่วราริชยังส่งคนสนิทให้มาที่ร้านที่เขาเคยเจอเธอ
คอนโดก็รู้จักอยู่แต่ไม่กล้าเข้าไปหา
“กินเหล้ากับเพื่อนครับ”
“อีกแล้ว?”
“อีกแล้ว?”
คนฟังทวนคำของเจ้านาย แต่แล้ววราริชก็ไล่ให้คนขับรถนั่งดูต่อไป
ส่วนเจ้าตัวกำลังปฏิบัติภารกิจ พอเสร็จแล้วจึงรีบตามมา
“แดกสิ นั่งมองอยู่ได้ ชวนมาแดกก็แดกเลย”
“เมาเหรอมึง”
“เมา? อย่างกูเนี้ยนะเมา”
“อย่างมึงนี้แหละพี่ เรียกว่าเมา”
ฮาๆๆๆ
คนเครียดนั่งคลึงแก้วเหล้าปล่อยให้อันและปิงนั่งชนกันจนเมาปริ้น
สาวคอทองแดงซัดเต็มที่จนไม่เป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง
“น้องเลว! มันแม่งเกลียดอะไรกูนักวะ”
“น้องพี่นี้ใครวะ”
“กูจำหน้ามันไม่ได้วะ ไม่เจอกันตั้งห้าปี”
ฮาๆๆๆ
“กลับเถอะวะ กูรำคาญพวกมึงสองคน”
คนที่มีสติที่สุดฉุดแขนอ้ายอันและปิงปิง และก็เป็นหน้าที่ของเอลี่ที่ต้องไปส่งแต่ละคนให้ถึงบ้าน
“ฮะอึ๊ก!”
“อีอันอย่า”
“ขับรถเหี้ยมาก มึงรีบจอดเลย” คนเมาพุ่งถลาลงไปกองที่ฟุตบาทโกงคออ้วกจนหมดไส้หมดพุง
นานเท่าไรแล้วที่ไม่ได้เมาขนาดนี้เพราะภาระหนักหนาจนไม่มีเวลาให้ผ่อนคลาย
“ขึ้นห้องเองได้เปล่า”
“มึงไปส่งไอ้ปิงเถอะ ไม่ต้องห่วงกู”
“เอ่อๆ ไว้เจอกัน” สองขาสั่นๆ ก้าวเดินไปอย่างช้าๆ กำลังพาตัวเองกลับคอนโดที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่อึดใจแต่หารู้ไม่
ว่ามีรถอีกคันขับมาเจออ้ายอันพอดี
“หน้านายคุ้นจัง”
“จำผมไม่ได้แล้วเหรอ วันก่อนเราเพิ่งจะคบกันเอง”
“ห้ะ”
“เมาอีกแล้ว ไหนบอกว่าเมาแล้วดูแลตัวเองได้ไง”
“ไม่ได้ตรงไหน”
“ขึ้นรถสิ เดี๋ยวผมพากลับบ้าน”
“เยี่ยมมาก! ขอบใจ”
คนเมาเดินขึ้นรถตู้คันใหญ่ทิ้งลงเบาะนั่งแสนสบายตามคำเชิญ
ชายหนุ่มแค่อยากพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าการไม่ดูแลตัวเองให้ดีมันจะมีผลอะไรตามมา
“โอ๊ย! ปล่อยสิวะ”
“จะดิ้นทำไมห้ะ”
“ปล่อยสิเว้ย!!!”
บ้านหลังใหญ่ในเวลาดึกดื่น สมาชิกทั้งบ้านพากันตื่นเพราะเสียงโวบวายของคนขี้เมาคนหนึ่ง
ในอ้อมแขนของทายาทเจ้าของบ้านมีสาวร่างอ่อนปวกเปียกแต่เสียงดังร้องโวยไม่หยุด
“อะไรเนี้ยลูก”
“เพื่อนผมเขาเมาอะครับ”
“เดี๋ยว แล้วเราจะพาเขาไปไหน”
“ไว้พรุ่งนี้คุยกันนะครับแม่ ขอตัวก่อน”
ปัง!
ลูกชายไม่เคยพาสาวคนไหนมาบ้าน คนเป็นแม่ได้แต่มองสองร่างนั้นพากันหายเข้าไปในห้องนอน
ไม่ต้องเดาว่าเป็นเพื่อนกันแบบไหน
“ร้อน!”
“แม่คุณ! รอแอร์มันทำงานแปบ” ชายหนุ่มเร่งกดรีโมทเพื่อให้มันทำความเย็นให้เย็นทันใจเพราะกว่าจะกระเตงกันขึ้นมาได้เล่นเอาเหงื่อแตกเต็มตัวไปตามๆ กัน
“ร้อน! อึดอัด! โธ่เว้ย”
พอลงเตียงคนเมาก็โวยวาย
อ้ายอันสลัดรองเท้าผ้าใบสีมอมกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง ตามด้วยเสื้อที่ตนสวมแล้วก็กางเกงยีน
“เดี๋ยวนะ! ทำอะไรของคุณ”