24. คนโลเล

1370 Words
“เข็มไปก่อนนะคะพี” “พรุ่งนี้ไม่มีงานนี้หน่า ทำไมรีบกลับจังครับ” “เข็มอยากพักผ่อนน่ะคะ พีเองก็จะได้พักผ่อนด้วยไง” หลังจากเสร็จกิจพิชิตความเครียดดาราสาวก็ลุกขึ้นจากเตียง น้อยครั้งที่เขมรินทร์จะค้างคอนโดพชร เธอมาระบายความต้องการเสร็จแล้วก็โทรเรียกผู้จัดการมารับไม่ว่าจะกี่โมง “งอนอะไรคะ เหนื่อยเหรอที่ต้องขับรถไปรับเข็ม” “เปล่าสักหน่อย! ผมแค่...” “พี! แบบนี้ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ หึ่ม! คุณอยากโซ่ล่ามคอเหรอคะ เรามีอิสระเต็มที่ มีช่วงเวลาที่สนุกด้วยกันตอนที่ต้องการไม่มีใครเป็นเจ้าของกันทั้งนั้น เจอกันตอนที่อยากก็พอ” “ครับ” มันฟังดูดีสำหรับผู้ชายเจ้าสำราญ ไม่ต้องผูกมัดเจอกันแค่ตอนมีอารมณ์ แต่บางทีมันก็เหงาและไร้ค่าในเวลาเดียวกัน “เข็มไปนะ” “ครับ” เป็นปกติเวลาที่ดาราเข็มแต่งตัวเสร็จแล้วเดินจากไป ทุกครั้งเจ้าของบ้านก็จะนอนหลับพักผ่อนตามสบาย แต่ครั้งนี้กลับมีเรื่องกวนใจจนข่มตาหลับไม่ลง เวลาต่อมา GO Motor “ดิฉันตัวแทนจากเดอะวันคะ” “มาคนเดียวเหรอคะ” “ค่ะ ใช่” หน้าที่การทำงานของเออีสาวยังคงดำเนินไปตามปกติแต่ทว่าเอลี่ก็ไม่เคยเขาออฟฟิศสักวัน แม้เจ้าตัวจะเป็นสาวมั่นใจในตัวเองเกินร้อยแต่เรื่องที่เกิดขึ้นกับอาร์ทก็ทลายทุกอย่างลง จริงๆ แล้ววันนี้เอลี่มรเสนองานตัวอย่างกับบริษัทลูกค้าซึ่งควรจะเป็นครีเอดหนุ่มมาด้วยแต่วันนี้ฝ่ายขายมาลำพัง “เชิญด้านนี้ค่ะ” “ขอบคุณค่ะ อ้าวคุณ!!” “คุณอีกแล้วเหรอ” “พูดเหมือนเจอกันบ่อยอย่างนั้นแหละค่ะ” รอยยิ้มแบบฝืนๆ ส่งให้คนตรงหน้า ด้วยความบังเอิญในคืนนั้นพชรเจอเอลี่กำลังร้องไห้ในรถอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าเธอมีเรื่องทุกข์ใจอะไรอยู่ ชายหนุ่มรับรู้ได้แต่เพียงว่ามันต้องหนักมากๆ “แต่ก็เจอกันอีกแล้วนะครับ” เขาเองก็ไม่เคยพูดถึงคืนนั้นที่เอลี่อ้วกรดใส่เสื้อ “เชิญเสนองานตัวอย่างได้เลยนะคะ” “กับคนนี้เหรอคะ” เออีสาวร้องถามคุณเลขาเพราะเอลี่ถูกเชิญมาที่ห้องผู้บริหาร “ค่ะ เสนอคุณพชรได้เลย” “คุณพชร?” โดยปกติเอลี่จะทำการบ้านมาอย่างดีว่าใครเป็นอะไร ตำแหน่งไหนในบริษัทลูกค้าแต่เพราะช่วงชีวิตที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายจนหลงลืมข้อนี้ไปสิ้น พชร อาชารักษ์ รองประธานบริษัทจีโอมอเตอร์หน้าตาเป็นแบบนี้ นี่เอง คิดว่าคนช่างซะอีกเพราะครั้งแรกที่เจอเขาใส่ชุดเหมือนช่างยนต์ทั่วๆ ไป “อา...ขออภัยที่วันนั้นเสียมารยาทนะคะ” “พอรู้ว่าผมไม่ใช่คนขับรถถึงขอโทษนะ” “ขออภัยค่ะ ขออภัยจริงๆ” ฤกษ์ไม่งามยามไม่ดีเสียแล้วสิเอลี่ เจ้าตัวได้แต่สบถในใจ “ดิฉันตัดสินคนที่ภายนอกเอง ต้องขออภัยจริงๆ นะคะ” “ผมก็เหมือนกัน คุณณิชาออกไปก่อนครับ ผมมีธุระจะคุยกับตัวแทนของเดอะวันลำพังสองคน” “...” สายตาเอาเรื่องจ้องเออีสาวราวกับมีเรื่องราวเป็นร้อยอยู่ในใจ งานนี้ไม่ได้ง่ายแล้วสินะ เพราะเธอสร้างความประทับใจไว้หลายครั้งซะเหลือเกิน 20.00 น. “อย่าเพิ่งถามกูไม่พร้อมตอบ ช่วยไปนั่งเป็นเพื่อนกูอย่างเดียว” “ให้กูเก็บซากมึงกลับอีกสิ” “ไม่ไปก็ได้นะ กูไปกับปิงสองคน” เพื่อนร่วมงานสองคนกำลังชวนกันไปนั่งดื่มแก้เครียดทั้งกับงานและเรื่องส่วนตัว เอลี่อยากปลดปล่อยเรื่องหนักๆ ในหัว แต่ก็กลัวจะกลับบ้านไม่ได้จึงชวนเด็กฝึกงานไป แน่นอนว่าเด็กสาวเองก็ไม่รอช้าที่จะแจ้งข่าวให้อ้ายอันรับรู้ คนเดียวที่เอาเอลี่อยู่คงมีแค่พี่อัน “เออ! ไปหาน้องมึงยัง” “อืม” “อย่ามาอืม เป็นไงบ้างอย่าบอกว่าทะเลาะกันอีกนะ” นึกขึ้นได้ว่ามีอีกคนที่ยังหาตัวไม่เจอ และการกลับมาครั้งนี้ก็ไม่มีใครรู้จนกระทั่งมีคนแปลกหน้าพูดถึง “เขาไม่ยอมบอกอะไรเลย พูดแต่ว่ามันลาออกไปแล้ว” “ช่วงเวลาแค่แปบเดียวเนี้ยนะ” “เออ! ที่ร้านนี้ก็แปลกๆ นะ กูว่ามันต้องไปสร้างเรื่องอะไรสักอย่างแล้วถูกเขาไล่ออกแน่ๆ เด็กในร้านถึงไม่มีใครอยากพูดเรื่องมันสักคน” บุคคลปริศนายังคงลึกลับต่อไปอย่างที่ไม่สามารถหาตัวได้แม้แต่เขา SAVAGE BAR “เจอตัวแล้วครับคุณหนู” “เฝ้าไว้นะ” “แต่วันนี้เธอไม่ได้มาร้องเพลงนะครับ” “แล้วเขาไปทำอะไร” ถึงแม้เจ้าตัวจะยุ่งจนไม่มีเวลามาดูนักร้องสาวด้วยตัวเอง แต่วราริชยังส่งคนสนิทให้มาที่ร้านที่เขาเคยเจอเธอ คอนโดก็รู้จักอยู่แต่ไม่กล้าเข้าไปหา “กินเหล้ากับเพื่อนครับ” “อีกแล้ว?” “อีกแล้ว?” คนฟังทวนคำของเจ้านาย แต่แล้ววราริชก็ไล่ให้คนขับรถนั่งดูต่อไป ส่วนเจ้าตัวกำลังปฏิบัติภารกิจ พอเสร็จแล้วจึงรีบตามมา “แดกสิ นั่งมองอยู่ได้ ชวนมาแดกก็แดกเลย” “เมาเหรอมึง” “เมา? อย่างกูเนี้ยนะเมา” “อย่างมึงนี้แหละพี่ เรียกว่าเมา” ฮาๆๆๆ คนเครียดนั่งคลึงแก้วเหล้าปล่อยให้อันและปิงนั่งชนกันจนเมาปริ้น สาวคอทองแดงซัดเต็มที่จนไม่เป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง “น้องเลว! มันแม่งเกลียดอะไรกูนักวะ” “น้องพี่นี้ใครวะ” “กูจำหน้ามันไม่ได้วะ ไม่เจอกันตั้งห้าปี” ฮาๆๆๆ “กลับเถอะวะ กูรำคาญพวกมึงสองคน” คนที่มีสติที่สุดฉุดแขนอ้ายอันและปิงปิง และก็เป็นหน้าที่ของเอลี่ที่ต้องไปส่งแต่ละคนให้ถึงบ้าน “ฮะอึ๊ก!” “อีอันอย่า” “ขับรถเหี้ยมาก มึงรีบจอดเลย” คนเมาพุ่งถลาลงไปกองที่ฟุตบาทโกงคออ้วกจนหมดไส้หมดพุง นานเท่าไรแล้วที่ไม่ได้เมาขนาดนี้เพราะภาระหนักหนาจนไม่มีเวลาให้ผ่อนคลาย “ขึ้นห้องเองได้เปล่า” “มึงไปส่งไอ้ปิงเถอะ ไม่ต้องห่วงกู” “เอ่อๆ ไว้เจอกัน” สองขาสั่นๆ ก้าวเดินไปอย่างช้าๆ กำลังพาตัวเองกลับคอนโดที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่อึดใจแต่หารู้ไม่ ว่ามีรถอีกคันขับมาเจออ้ายอันพอดี “หน้านายคุ้นจัง” “จำผมไม่ได้แล้วเหรอ วันก่อนเราเพิ่งจะคบกันเอง” “ห้ะ” “เมาอีกแล้ว ไหนบอกว่าเมาแล้วดูแลตัวเองได้ไง” “ไม่ได้ตรงไหน” “ขึ้นรถสิ เดี๋ยวผมพากลับบ้าน” “เยี่ยมมาก! ขอบใจ” คนเมาเดินขึ้นรถตู้คันใหญ่ทิ้งลงเบาะนั่งแสนสบายตามคำเชิญ ชายหนุ่มแค่อยากพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าการไม่ดูแลตัวเองให้ดีมันจะมีผลอะไรตามมา “โอ๊ย! ปล่อยสิวะ” “จะดิ้นทำไมห้ะ” “ปล่อยสิเว้ย!!!” บ้านหลังใหญ่ในเวลาดึกดื่น สมาชิกทั้งบ้านพากันตื่นเพราะเสียงโวบวายของคนขี้เมาคนหนึ่ง ในอ้อมแขนของทายาทเจ้าของบ้านมีสาวร่างอ่อนปวกเปียกแต่เสียงดังร้องโวยไม่หยุด “อะไรเนี้ยลูก” “เพื่อนผมเขาเมาอะครับ” “เดี๋ยว แล้วเราจะพาเขาไปไหน” “ไว้พรุ่งนี้คุยกันนะครับแม่ ขอตัวก่อน” ปัง! ลูกชายไม่เคยพาสาวคนไหนมาบ้าน คนเป็นแม่ได้แต่มองสองร่างนั้นพากันหายเข้าไปในห้องนอน ไม่ต้องเดาว่าเป็นเพื่อนกันแบบไหน “ร้อน!” “แม่คุณ! รอแอร์มันทำงานแปบ” ชายหนุ่มเร่งกดรีโมทเพื่อให้มันทำความเย็นให้เย็นทันใจเพราะกว่าจะกระเตงกันขึ้นมาได้เล่นเอาเหงื่อแตกเต็มตัวไปตามๆ กัน “ร้อน! อึดอัด! โธ่เว้ย” พอลงเตียงคนเมาก็โวยวาย อ้ายอันสลัดรองเท้าผ้าใบสีมอมกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง ตามด้วยเสื้อที่ตนสวมแล้วก็กางเกงยีน “เดี๋ยวนะ! ทำอะไรของคุณ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD