บทที่ 1.1 - ความสุข (รักหวานชื่น)
ร่างบางในชุดนักศึกษามอบรอยยิ้มหวานส่งตรงถึงชายหนุ่มที่มารอรับถึงหน้าคณะ พร้อมกับดอกกุหลาบช่อโตทำเอาเหล่าบรรดาเพื่อนฝูงต่างส่งเสียงแซวจ้าละหวั่น ใบหน้านวลแดงซ่าน หล่อนเขินอายจนไม่กล้าสบตามองผู้ใด
“พี่ธีมารอนานหรือยังคะ?” เสียงหวานเอ่ยถาม กลุ่มเพื่อนแตกก้อนไปคนละทิศคนละทางเสียแล้ว พื้นที่กว้างใหญ่ในเวลานี้ดูจะมีเพียงเธอและเขาเท่านั้น
“ไม่นานครับ พี่รอได้” ชายหนุ่มตอบเสียงทุ้ม แววตานั้นหนาไม่ละห่างจากวงหน้าสวยหยาดฟ้า
“มุกเรทไปตั้งเกือบสองชั่วโมงเลย นี่ก็เย็นมากแล้วด้วย” เจ้าหล่อนยกข้อมือข้างซ้ายขึ้นดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนหรู
“พี่ธีทานข้าวหรือยังคะ หิวไหม”
เธอถามเนื่องจากทราบดีว่าเขาเป็นโรคกะเพาะ ถ้าวันใดทานอาหารไม่ตรงเวลาอาการก็จะกำเริบทุกครั้ง
“พี่รอทานพร้อมน้องมุกครับ” ชายหนุ่มปากหวาน
“อย่าทำแบบนี้อีกนะคะพี่ธี ถ้าถึงเวลาต้องทานก็เชิญทานก่อนได้เลยค่ะ มุกไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว”
เจ้าหล่อนดุเล็กน้อย เป็นห่วงสุขภาพเขามากกว่า
“ก็เวลาทานข้าวคนเดียวมันไม่อร่อยเหมือนมีคนนั่งทานด้วยนี่น่า” ร่างสูงได้ทีจึงออดอ้อนเสียหน่อย
“พี่ธีก็” หญิงสาวยิ้มละไม
“พี่หิวแล้วค่ะ เราไปทานข้าวกันดีกว่านะ” ชายหนุ่มยื่นมือไปตรงหน้าเจ้าหล่อน
“ไม่เอาค่ะ มุกอาย” ร่างบางมองซ้ายแลขวาแล้วเขิน แม้จะไม่ค่อยมีนักศึกษาเดินเพ่นพ่านเท่าไหร่เนื่องจากเย็นจวนจะมืดเข้าไปทุกทีแต่เธอก็ละอายฟ้าดินอยู่ดี
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย คนเป็นแฟนกันแล้วเราก็ไม่ได้ทำเรื่องเสียหายสักหน่อย” น้ำเสียงติดเอ็นดูเอ่ย
เพราะหล่อนรักนวลสงวนตัวเช่นนี้ไงเล่า เขาถึงหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น!
“พี่ธี” สาวเจ้าอึ้งไปชั่วขณะ “เมื่อครู่พี่ธีพูดว่าอะไรนะคะ ใครเป็นแฟนใครกัน” เธอและเขารู้จักกันมาเกือบสองปีเห็นจะได้ แม้ยังไม่มีสถานะที่แน่นอนแต่ชายหนุ่มก็ชัดเจนมาโดยตลอด ไม่เคยมีสักครั้งที่ร่างสูงจะละเลยเธอ เขาดูแลเอาใจใส่ร่างบางเป็นอย่างดี สัญชาตญาณของผู้หญิงมีกันทุกคนไม่เว้นหล่อน หากเพราะเป็นสตรีเรื่องแบบนี้จึงไม่อาจทำอะไรประเจิดประเจ้อได้ ต้องรอให้ถึงเวลาอันเหมาะสมเสียก่อน
“ก็น้องมุกไงครับ แฟนพี่”
“ขี้ตู่! มุกยังไม่เคยบอกว่าเป็นแฟนพี่ธีเลยสักคำ”
แก้มนวลแดงระเรื่อน่าสัมผัส ถ้าไม่เกรงใจสถานที่และชุดนักศึกษาที่เธอสวมใส่ เขาคงหอมแก้มสุกปลั่งให้ชื่นใจไปนานแล้ว
“งั้นก็เป็นเลยได้ไหมครับ” คนตัวโตเร่งเร้า เขาสัมผัสมือนุ่มเล็กขึ้นมากอบกุมแนบหน้าอกข้างซ้ายตรงตำแหน่งหัวใจ
“เราสองคนก็รู้จักกันมานานพอสมควรแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่ก็แสดงให้มุกเห็นว่าพี่จริงใจกับมุกมากแค่ไหน พี่ไม่เคยมองใครตั้งแต่วันที่เจอมุก ไม่เคยปันใจให้ใครนอกจากมุกคนเดียว พี่…” เสียงเข้มเว้นช่วงพลางสบดวงตากลมโต
“พี่รักมุกนะครับ”
หัวใจดวงน้อยกระตุกไหวรุนแรง มือไม้พลันเย็นเฉียบขึ้นมาฉับพลัน ประโยคที่รอคอยได้รับการยืนยันจากเรียวปากหยัก ผู้ชายตรงหน้ากำลังพูดในสิ่งที่หัวใจเธอก็ต้องการเช่นกัน หล่อนไม่เป็นตัวของตัวเองยามได้ยินคำสารภาพจากเขา
“ให้เกียรติเป็นแฟนกับพี่นะครับ มุกดา”
“ฉันดีใจจังเลยมุกที่พี่ธีขอเธอเป็นแฟน”
ธนิสร เพื่อนสาวคนสนิทที่พ่วงด้วยตำแหน่งน้องสาวสุดที่รักของ ธีภพ เอ่ย เจ้าหล่อนตื่นเต้นยิ่งกว่าสอบผ่านยามได้รู้ว่ามุกดาตกลงคบหาดูใจกับพี่ชายของตน
“ฉันเองก็ดีใจเหมือนกัน” เสียงหวานเขินอาย หล่อนไม่กล้าสบตาเพื่อนซี้ ธนิสรรู้ทันจึงแกล้งแซวเสียยกใหญ่
“แต่พี่ธีนี่ก็ตาถึงนะ มุกทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้จะไปหาผู้หญิงที่เพียบพร้อมได้แบบเธอคงไม่มีอีกแล้ว”
“มากไปน่ะสร ฉันเองก็ไม่ได้ดีเลิศขนาดนั้นเสียหน่อย” คนมีนิสัยเรียบร้อยเป็นเดิมทุนถ่อมตน
“มุกห้ามทิ้งพี่ธีเด็ดขาดเชียวนะ!” ธนิสรจ้องตาร่างบาง มุกดาอมยิ้มละมุน เธอไม่ได้รับปากแต่อย่างใด
“ถึงมุกอยากจะทิ้งพี่ พี่ก็ไม่มีวันปล่อยมุกไปจากพี่เด็ดขาด”
เสียงเข้มแสนคุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทั้งสองสาวหันไปมองตามกันปรากฏร่างสูงสง่าในชุดสูทสุภาพกำลังเดินส่งยิ้มกว้างมาแต่ไกล
“พี่ธี” มุกดาครางชื่อแฟนหนุ่ม
“ไหนสรว่าพี่ธีไปทำงานไง” เธอหันไปถามเพื่อนรัก ที่ยอมมาวันนี้ก็เพราะเจ้าหล่อนบอกว่าเขาไม่อยู่บ้าน ไม่เช่นนั้นคงไม่มาหรอก เธอยังคงไม่ชินกับสถานะใหม่ที่มีต่อชายหนุ่ม
“พอดีงานพี่เสร็จไวน่ะครับ ยัยสรโทร. บอกไปว่าน้องมุกมาช่วยติวหนังสือให้ที่บ้านพี่เลยรีบมาหา” มือหนาถือวิสาสะโอบไหล่คนตัวเล็ก ธนิสรยิ้มเจ้าเล่ห์
“พี่ธีปล่อยเถอะค่ะ” มุกดาขยับตัวออกห่างเล็กน้อย หล่อนไม่ได้รังเกียจรังงอนแต่อย่างใด ทว่าที่ตรงนี้ไม่ได้มีเพียงเขาและเธอ
ธนิสรนั่งจ้องตาเป็นมันจนหญิงสาวทำตัวไม่ถูก
“พี่ธีกับมุกคุยกันไปก่อนนะคะ เดี๋ยวสรไปเตรียมของว่างมาเพิ่ม พี่ชายกลับมาเหนื่อยๆ จะได้ทานขนมอร่อยๆ” น้องสาวคนสวยบีบหัวไหล่หนาของธีภพประกอบคำพูด
“จ้า” เสียงเข้มบอกกับสาวจอมทะเล้น ธนิสรรีบวิ่งเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว หล่อนแอบมองทั้งสองจากมุมหนึ่งของบ้านแล้วยิ้มระรื่นมีความสุข
“เวลาอยู่ด้วยกันนี่น่ารักชะมัดเลย” ธนิสรหัวเราะชอบใจ ร่างบางไม่ได้รีบไปเตรียมของว่างตามที่บอกกล่าว เจ้าตัวตั้งใจหลีกทางให้ธีภพได้มีโอกาสอยู่กับมุกดาตามลำพังสองต่อสอง
ตั้งแต่วันที่ขอเป็นแฟนพี่ชายของเธอก็แทบไม่ได้เจอเพื่อนรักเลย มุกดายังคงเขินอายจนไม่กล้าสู้หน้า อีกทั้งช่วงนี้ใกล้จบแล้วก็จะมีหน้าที่ทำวิจัยส่งอาจารย์ เลยยิ่งทำให้มุกดาไม่มีเวลาว่างให้กับแฟนหนุ่ม น้องสาวผู้แสนดีจึงต้องรับหน้าที่เป็นนางฟ้าช่วยหลอมรวมคนสองคนให้ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานๆ
“ทำอะไรน่ะ”
“ว๊าย! ตกใจหมด” ธนิสรสะดุ้งตัวโยน ดวงตากลมโตตวัดมองผู้ชายหน้าตายียวนที่ยืนซ้อนตัวเธอจากทางด้านหลัง
“แอบดูใครอยู่น่ะ” ศรุต เพื่อนชายคนสนิทอีกคนของกลุ่มเอ่ยถาม สายตามองตามเจ้าหล่อนก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งคุยส่งยิ้มหวานให้กันและกัน หัวใจแกร่งเจ็บปวดไม่น้อยเมื่อคนที่แอบรักปันใจให้ชายอื่น
“รุต” ธนิสรเข้าใจเขาดี เธอรู้มาตลอดว่าศรุตแอบชอบมุกดา แต่ถ้าให้เลือกระหว่างช่วยเพื่อนกับช่วยพี่ชายซึ่งเป็นคนในครอบครัวนั้น เธอขอเลือกช่วยสายเลือดเดียวกันดีกว่า อีกอย่างมุกดาเองก็ไม่ได้คิดกับศรุตมากเกินกว่าเพื่อนคนหนึ่ง
“เรื่องจริงสินะ” หลายวันที่ผ่านมาเขาเอาแต่หลอกตัวเองว่าข่าวลือที่มุกดาตกลงเป็นแฟนกับธีภพไม่ใช่ความจริง มุกดาจีบยากแค่ไหนบรรดาผู้ชายในมหาวิทยาลัยต่างรู้ดี ดีกรีดาวคณะแสนหวานอย่างเธอย่อมมีชายอื่นหมายปองเป็นของธรรมดา แต่ไม่เคยมีใครพิชิตใจอันเย็นชาของดอกไม้งามได้
“ใช่ ทั้งสองคนเป็นแฟนกันแล้ว” ธนิสรตอกย้ำความจริงแสนเจ็บปวด ศรุตมองเธอแล้วกำหมัดแน่น
“เธอปล่อยให้พี่ชายตัวเองจีบมุกได้ยังไงกัน ทั้งๆ ที่เขาก็มีคนรักอยู่แล้ว” ชายหนุ่มหงุดหงิด
“ยัยนั่นทิ้งพี่ฉันไปนานแล้วรุต นายเองก็รู้เรื่องนี้ดีกว่าใคร” ธนิสรเริ่มโมโหยามนึกถึงคนที่เกลียด
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นในเมื่อยัยนั่นเลือกเดินออกไปจากชีวิตของพี่ชายฉันเอง” ธนิสรนึกย้อนไปตอนที่ธีภพเจ็บปวดปางตายจากความรักครั้งก่อน เธอซึ่งเป็นน้องสาวและเป็นญาติเพียงคนเดียวต้องประคองหัวหน้าครอบครัวให้กลับมาหยัดยืนได้อีกครั้ง
สภาพของพี่ชายในเวลานั้นไม่ต่างอะไรกับหมาจนตรอก ซึ่งเธอจะไม่ยอมให้เขากลับไปอยู่ในจุดย่ำแย่อีกแล้ว
“มาถึงตอนนี้พี่ชายฉันรักมุก มันคือความสุขที่สุดแล้ว” ธนิสรเห็นด้วยกับธีภพทุกประการ
“เธอแน่ใจเหรอว่าพี่ชายเธอรักมุกจริงๆ”
ศรุตย้อนถาม ธนิสรขมวดคิ้ว