ขับชนมันเลย

1529 Words
ปัง!ปัง!ปัง! “อ้ากกก!!” ร่างชายชุดดำถูกกระสุนพุ่งเข้าใส่ถึงกับล้มตายลง คริสรีบวิ่งไปอีกทางแล้วเปิดฉากยิงใส่ลูกน้องของเอกพงศ์อย่างบ้าคลั่ง ใครที่มันกล้าลองดีกับพวกเขารับรองว่าไม่ตายดี “พวกมึงเป็นบ้าอะไรกัน พวกกูไปทำอะไรให้พวกมึง พวกมึงถึงได้เป็นบ้ามาถล่มพวกกูอยู่แบบนี้” ลูกน้องคนสนิทของเอกพงษ์ตะโกนด่าคริสเตียน “มึงไม่ได้ทำหรอก แต่นายมึงทำ” “นายกูไปทำอะไรให้พวกมึง ตอนนี้นายไม่เคยสั่งให้พวกกูไปทำอะไรที่เกี่ยวกับตระกูลของพวกมึงเลย ถ้านายกูทำจริงทำไมพวกกูจะไม่รู้” “กูไม่สน ทำแม่กูเจ็บปางตายกูจะฆ่าล้างโคตรพวกมัน” “ไอ้ระยำ” “ไอ้พวกหมากระจอกอย่ามาเห่ากับกู” ปัง!ปัง! เสียงปืนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ คริสเตียนยิงลูกน้องของเอกพงศ์ล้มลงกับพื้น ส่วนลูกน้องคนสนิทของเขาก็ทำงานอย่างดีเยี่ยม “อ้ากกก!!” ปัง!ปัง!ปัง! “เอาระเบิดปาใส่มันเลย” พีระตะโกนภิภพยิ้มแล้วดึงสลักระเบิดใส่เข้าไปในคฤหาสน์ ตู้ม!! เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เอกพงศ์กับภรรยาวิ่งหลบไปอีกทาง ส่วนพวกคนใช้หนีตายกันอลม่าน “อย่าคิดว่าพวกมึงจะรอด” คริสเตียนวิ่งฝ่าคมกระสุนเข้าไปในบ้านเขากวาดสายตามองหาเอกพงศ์กับครอบครัว เขาจำได้ว่าอลิสเคยแนะนำโมนาว่ามีพี่ชายชื่อโนอาห์ วันนี้แหละเขาจะฆ่ามันให้หมด ตึก!ตึก!ตึก! เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้เอกพงศ์ถึงกับตัวสั่นงันงก คริสเตียนมาถล่มเขาแบบไม่ทันตั้งตัว มันจึงทำให้เขาตั้งรับไม่ทัน หาอาวุธอะไรไม่ทันเลยแม้แต่น้อย “โมนา...” ชายวัยกลางคนเอ่ยอย่างตระหนก วันนี้ลูกสาวเพิ่งมาอยู่ที่บ้าน มันยิ่งทำให้เขากังวลในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น “ลูกอยู่ข้างบนจะทำอย่างไรดี” รตีเสียงสั่นมองสามีด้วยแววตาสั่นระริก รู้สึกกลัวจับขั้วหัวใจเมื่อคิดได้ว่าลูกสาวจะไม่ปลอดภัย “อย่าคิดว่าพวกมึงจะรอด” ตึก!ตึก!ตึก! คริสเตียนประกาศกร้าวเดินตรงเข้าไปต้นเสาที่ทั้งสองหลบซ่อนอยู่ คนสารเลวอย่างพวกมันอย่าหวังว่าจะรอด “พ่อคะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้คริสเตียนหันไปมอง เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของเอกพงศ์ตัดสินใจออกมาจากอีกมุมแล้ววิ่งเข้าแย่งปืน ถ้าเกิดยิงสวนคนที่จะเป็นอันตรายเห็นจะเป็นบุตรสาวของเจ้านาย ซึ่งเขายอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ ปัง!ปัง!ปัง! “กรี๊ด!” โมนากรีดร้องออกมา เมื่อปืนที่ลูกน้องบิดายื้อแย่งกับชายร่างสูงลั่นไปมา “พาคุณผู้หญิงหนีไป ไปห้องที่คุณหนูทำไว้สมัยเด็ก” “ค่ะ” โมนาพยักหน้า รีบไปหาบุพการี “เราต้องรอดด้วยกันสิ” “นายไปก่อนเดี๋ยวผมตามไป คุณหนูรีบพาท่านทั้งสองไป” โมนามองหน้านนท์แล้วจับมือของบุพการีให้วิ่งไปประตูลับหลังห้องครัวพอเปิดเข้าไปก็เจอกับอุโมงค์เล็ก ๆ ที่เธอกับพี่ชายเคยทำเอาไว้สมัยเด็ก “พวกมันทำแบบนี้กับเราทำไม?” “พ่อก็ไม่รู้ พ่อไม่เคยมีเรื่องกับไอ้คริสเตียน” “คริสเตียน ดำรงพงษ์เมธาเหรอคะ?” “ใช่” คำตอบของบิดาทำเอาหญิงสาวต้องเบิกโตโพลงอย่างตกใจ “ดูเหมือนน้องมันก็มาด้วย ตั้งตัวไม่ทันเลยถ้าโนอาห์อยู่ก็คงดี” “มันเป็นไปได้ยังไง ไม่เคยมีเรื่องอะไรแล้วเขาจะทำเราทำไม” “พ่อเกลียดพวกมันก็จริง แต่พ่อไม่เคยทำอะไรมัน พ่อก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” เอกพงศ์เอ่ยอย่างไม่เข้าใจพร้อมกับก้าวเดินไปที่อุโมงค์มืดๆ มีเพียงแสงรำไรจากแสงไฟดวงเล็กที่ถูกติดเอาไว้ด้วยความระมัดระวัง “แล้วเกิดเรื่องแบบนี้เราจะทำยังไงดี” “ไอ้เอกภพคงไม่รู้ว่าเราโดนถล่มแน่ๆ” “นั่นสิคะ” “เราควรรรีบไปนะคะ คริสเตียนเขาเป็นคนฉลาด อีกไม่นานเขาต้องเจออุโมงค์ที่เราเข้ามา” “เราน่าจะมีโทรศัพท์สักเครื่องส่งข้อความขอความช่วยเหลือที่ปลายอุโมงค์” “แต่สถานการณ์มันรวดเร็วไปหมด เลยไม่ได้หยิบมา เรารีบไปกันเถอะค่ะ ถ้าช้าจะไม่ทันการณ์” “อืม” เอกพงศ์พยักหน้า ทั้งสามรีบสาวเท้าไปเพื่อไปให้ถึงประตู “ระวังด้วยนะพ่อ” โมนาเดินไปตามอุโมงค์ที่เธอกับพี่ชายเคยให้คนงานมาขุดเอาไว้ตั้งแต่สมัยเด็ก ระยะทางที่ทำอุโมงค์เอาไว้ประมาน500เมตรทะลุออกไปข้างถนนนอกรั้วคฤหาสน์พอดี ตอนนี้เธอรู้สึกกลัวมากๆหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ กลัวผู้ชายใจร้ายนามว่าคริสเตียนมาฆ่าพ่อแม่ของเธอ ไม่เคยคิดฝันว่าเขาจะใจร้ายทำร้ายครอบครัวของเธอได้ ยิ่งพ่อแม่บอกไม่เคยไม่ทำอะไรครอบครับเขาเลย โมนาก็ยิ่งงงในสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งสามเดินมาจนถึงประตูเหล็กเก่าๆมีบันไดพาดไปจนถึงประตูด้านบน พอมาถึงที่นี่ทุกคนก็รู้สึกอึดอัดมากๆเพราะอากาศไม่ถ่ายเท เริ่มหายใจไม่สะดวก “พ่อจะดันเปิดขึ้นไปเอง” เอกพงศ์เอ่ยแล้วเดินขึ้นบันได ตอนนี้สภาพบันไดสภาพไม่ค่อยจะสู้ดีนัก พร้อมที่จะพังได้ทุกเมื่อ เขาจึงพยายามก้าวเดินอย่างระมัดระวัง “ดันขึ้นไปค่ะ” “อึบ มันดันไม่ขึ้น” พยายามดันประตูเหล็กที่มันปิดอยู่อย่างสุดความสามารถ แต่มันก็ขยับเขยื้อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตึก!ตึก!ตึก! เสียงฝีเท้าดังเข้ามาตามทางอุโมงค์เรื่อย ๆ หัวใจของโมนายิ่งเต้นรัวราวกับกลองชุด มันหวาดกลัวไปหมด ปึก!ปึก! “ออกแล้ว!” เอกพงศ์รีบขึ้นไปข้างบนแล้วยื่นมือลงมา “บันไดไม่ค่อยดีโมนาขึ้นมาก่อน” “ให้แม่ขึ้นไปก่อน” หญิงสาวรีบเอ่ยแย้ง เธอไม่ได้ห่วงตัวเองเท่าบิดามารดาของตนเอง ต่อให้เธอต้องตายแล้วบิดามารดารอดเธอก็ยินดี “เร็วสิคุณรตียื่นมือมา เร็ว” “ค่ะ” รตีก้าวขึ้นบันไดแล้วยื่นมือให้สามี แกรก! เสียงบันไดที่มีสนิมเกาะเกรอะกัง บวกด้วยน้ำหนักตัวที่มากของรตีทำให้บันไดรับน้ำหนักไม่ไหวมันเริ่มลั่นดังขึ้น ตึก!ตึก!ตึก! จากเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นเป็นจังหวะเริ่มกระชั้นขึ้น โมนาตัดสินใจขึ้นบันไดแล้วดันร่างของมารดาขึ้น กึกๆโคร้ม! “ว้าย!” บันไดพังลงทำให้ร่างเล็กของโมนากลิ้งลงไปกองกับพื้น เป็นจังหวะเดียวกันที่บิดาคว้ามือมารดาเอาไว้ได้ “รีบดึงขึ้นไป” เอกพงศ์พยายามดึงภรรยาขึ้นจนสำเร็จ จากนั้นก็โน้มตัวเพื่อดึงร่างบุตรสาวขึ้น ตึก!ตึก!ตึก! เสียงฝีเท้าตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว โมนาพยายามกระโดดคว้ามือบิดาแต่ทว่ามันไม่ถึง เธอพยายามอยู่นานแต่ก็ไม่สามารถคว้ามือของบิดาได้เลย เสียงฝีเท้าก็ยิ่งตรงเข้ามาเรื่อยๆ “ปิดประตูแล้วรีบหนีไป ถ้าพ่อกับแม่ช้าเราจะตายกันหมด สัญญาได้ไหมว่าจะหนีถ้าเกิดโมนาขึ้นไปไม่ได้” “ไม่..” “พ่อกับแม่ต้องรอด โมนาเป็นเพื่อนพี่สาวเขา เขาคงไม่ทำอะไรหรอก” “เราต้องไปด้วยกัน” “มันไม่ทันแล้ว พ่อกับแม่ไปหาพี่โนอาร์นะคะ พ่อกับแม่ต้องรอด” โมนาพูดเสียงสั่นเครือเป็นจังหวะที่คริสเตียนวิ่งมาถึงแล้วยิงไปที่ประตู ทำให้เอกพงศ์ถึงกับรีบพลิกกายออกจากช่องประตู ปัง!ปัง! โมนาจ้องไปที่ใบหน้าคมที่ประทะแสงสว่างจากช่องประตู แล้วถอยหลังเรื่อยๆเมื่อชายร่างสูงใหญ่กำยำเข้ามาประชิดตัว “ปิดประตูแล้วหนีไป!!” เธอตะโกนบอกสุดเสียง “อย่าคิดว่าจะรอด!” หมับ! “กรี๊ดด!” เอกพงศ์ปาดน้ำตาคว้าข้อมือของภรรยาให้วิ่งไปตามถนน เป็นจังหวะเดียวกันที่รถกระบะคันหนึ่งขับชะลออยู่ที่หน้าปากซอยเพื่อเลี้ยวไปที่ตลาด เขาไม่รอช้ารีบตรงเข้าไปขอความช่วยเหลือทันที “ช่วยเราด้วย” เอกพงศ์เคาะกระจกแรงๆ “มีเรื่องอะไรกันคะ?” “มีคนจะฆ่าเรา เราต้องรีบไปจากที่นี่” เอกพงศ์กับภรรยารีบขึ้นรถ “เดี๋ยวนะคะ ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าจะช่วยพวกคุณ” “ถ้าคุณไม่ช่วยเราจะตายกันหมด” ร่างกำยำในชุดสูทหรูดูดีของคริสปรากฏอยู่ตรงกลางถนน ในมือถือปืนเล็งมาที่พวกเขา ยิ่งทำให้เอกพงศ์กับภรรยารู้สึกหวาดกลัว “พวกคุณ...” “ขับชนมันเลย” “แต่...” คะน้าพยายามเอ่ยทักท้วง มันเกิดรวดเร็วไปหมดจนเธอตั้งตัวไม่ทัน “เร็ว!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD