ตอนที่1
ลำปาง
17.00 น.
“ลูกพีชขา”
พิมดาวคุยจ้อกับลูกสาววัยเก้าเดือนของเธออย่างอารมณ์ดีเพราะลูกสาวของเธอเป็นเด็กที่ยิ้มเก่งแถมยังชอบส่งเสียงอ้อแอ้คุยเล่นกับเธอตลอดเวลาเมื่อยามตื่นน้อยครั้งที่จะงอแง
“แอ้...แอ้...”
เด็กหญิงวัยเก้าเดือนที่นั่งอยู่บนรถเข็นเด็กทำท่ายื่นแขนให้คนเป็นแม่อุ้มพรางฉีกยิ้มออดอ้อนคงหวังว่าคนเป็นแม่จะอุ้มเดินเที่ยวสักรอบสองรอบ
“ว่ายังไงคะคนเก่งหิวหรือยังเอ่ยหม่ำๆข้าวกับคุณแม่นะคะ”
พิมดาวไม่ได้ยื่นมือไปอุ้มลูกสาวของเธอเพราะไม่อย่างนั้นก็จะห่วงแต่ให้แม่พาเดินเล่นไม่ยอมกินข้าวที่ป้อนกันพอดี
“แอ้..อื้ม”
เมื่อคนเป็นแม่ป้อนข้าวมีหรือเด็กหญิงจะไม่อ้าปากรับถึงแม้ดูท่าว่าใจจะห่วงเที่ยวแต่เมื่อเห็นถ้วยข้าวก็ต้องพักเรื่องข้าวไว้ก่อนอยู่ดี
“ทำอะไรกันอยู่จ้ะสองแม่ลูก..ป้าภากลับไปแล้วหรอ”
พิ้งกี้เพื่อนสาวของพิมดาวและเป็นหลานสาวของคนที่จ้างงานเธอเมื่อตกเย็นแทบทุกวันหลังจากเลิกงานที่ออฟฟิศก็จะแวะเขามาเล่นกับเด็กหญิงพีรินพัชนินน้องลูกพีชเด็กหญิงตัวอ้วนกลมที่เธอเห็นมาตั้งแต่อยู่ในท้องจนออกมาหน้าแป้นแล้นถึงตอนนี้
พรางถามหาคนเป็นป้าของเธอว่าเห็นพึ่งมาเมื่อตอนบ่ายแล้วกลับไปแล้วหรือ
“กลับไปแล้วล่ะ...เอางานมาไว้แล้วก็กลับไปเลยบอกว่ามีธุระต่อ”
อาภาหอบเอกสารบัญชีมาให้เธอเสร็จเมื่ออยู่เล่นกับลูกพีชไม่เท่าไรก็ต้องรีบไปทำธุระที่อื่นต่อ
“ลูกพีชขามาให้น้าพิ้งอุ้มหน่อยนะคะ”
พิ้งกี้รักและเอ็นดูลูกพีชมากเพราะรู้ว่าลูกพีชนั้นมีแต่แม่เท่านั้นแต่เธอเองก็ไม่เคยเอื้อนเอ่ยถามเรื่องพ่อของลูกพีชกับพิมดาวอีกเลยหลังจากที่เคยถามแต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร
.....ย้อนไปเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว
อาภาและและพิ้งกี้เป็นสองป้าหลานที่ชอบเที่ยวด้วยกันและตัวติดกันเสียเหลือเกินพิ้งกี้นั้นตัวติดกับอาภามากกว่าแม่ของเธอเองเสียอีกด้วยที่ว่าอาภานั้นเป็นสาวโสดไม่มีสามีเลยเที่ยวกับหลานสาวได้อย่างสะดวกและทางบ้านของพิ้งกี้ก็ไม่ค่อยห้ามพิ้งกี้เวลาไปเที่ยวกับคนเป็นป้าเพราะเห็นว่าปลอดภัย
สองป้าหลานนัดกันไปเที่ยววันฉลองวันเกิดของพิ้งกี้และที่พิ้งกี้เริ่มงานที่บริษัทของอาภาได้เป็นอย่างดีทั้งสองจึงนัดกันไปเที่ยวที่แพร่กันเพียงแค่สองคน
ในวันนั้นสองป้าหลานเลือกที่จะมาเที่ยวที่แพร่จึงได้เจอกับพิมดาวหญิงสาวร้องขอให้พวกเธอทั้งสองช่วยเธอให้ออกไปจากที่นี่และเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่มีที่ไปจึงให้ที่พักพิงอาภาจึงให้หญิงสาวมาอยู่ด้วยและได้เข้าทำงานที่บริษัทของตัวเองซึ่งเป็นบริษัทเล็กๆที่รับทำบัญชีด้วยเสียเลยจนมาถึงปัจจุบันบ้านที่พิมดาวอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นบ้านของอาภาอีกหลังที่เธอไม่ได้อยู่และงานที่พิมดาวทำกับอาภาก็คือบัญชีให้บริษัทที่จ้างบริษัทเธอมาอีกทีซึ่งตั้งแต่ท้องแก่จนคลอดลูกมาเธอก็รับงานมาทำที่บ้านตลอดจนวันนั้นจนถึงวันนี้
“เออดาวป้าภาบอกว่างานนี้ดาวทำเสร็จแล้วให้พักไปก่อนเพราะมีบริษัทที่พึ่งเปิดใหม่แยกสาขาออกมาจากสาขาใหญ่อะไรสักอย่างเห็นป้าภาบอกจะให้ดาวทำ”
“บริษัทอะไรหรอ”
“ฉันก็ยังไม่เห็นรายละเอียดนะแต่เดี๋ยวป้าภาคงจะบอกแกเอง”
เรื่องรายละเอียดลงลึกพิ้งกี้เองก็ไม่รู้เหมือนกันคงต้องรอให้ป้าของเธอมาบอกพิมดาวเองเธอแค่เกริ่นๆเอาไว้ให้หญิงสาวได้ฟังเฉยๆ
“อ๋อ..โอเค”
เรื่องงานพิมดาวไม่มีปัญหาอยู่แล้วขอแค่มีงานให้เธอทำเท่านั้นงานอะไรเธอก็ทำได้
“จะพาลูกพีชอาบน้ำยังเดี่ยวฉันช่วย”
พิ้งกี้เห็นว่านี่มันก็เริ่มเย็นแล้วเธอกับพิมดาวก็มัวแต่คุยกันเพลินปล่อยให้ลูกพีชคลานเล่นอยู่กับสนามหญ้านานแล้วหลังจากกินข้าวอิ่มตอนนี้เห็นว่าลูกพีชน่าจะได้เวลาอาบน้ำแล้ว
“นั่นสินี่ก็เย็นแล้วเดี๋ยวฉันไปเตรียมน้ำก่อนนะ”
พิมดาวก็คุยกับพิ้งกี้เพลินจนลืมดูเวลา
“ไปเถอะเดี๋ยวฉันดูลูกพีชให้”
“ก่อนกลับเอาผักในตู้เย็นไปให้น้าพรรณด้วยนะ”
พิมดาวมีผักที่เธอปลูกเองที่พึ่งเก็บเอาไว้เต็มตู้เย็นพิ้งกี้เข้ามาถูกจังหวะพอดีเธอจึงขอฝากผักพวกนี้ไปให้แม่ของพิ้งกี้ด้วยเพราะเธอเองก็ชอบเก็บไปฝากบ่อยๆด้วยเพราะกินเองก็นานกว่าจะหมด
“โอเค..เป็นแกนี่ก็ขยันจริงจริ๊ง...เลี้ยงลูกคนเดียวแถมยังทำงานไปด้วยยังจะมีเวลาปลูกผักปลูกหญ้ากินอีกฉันเห็นแล้วเหนื่อยแทน”
“ปลูกผักกินเองก็ยังมั่นใจว่ามันปลอดภัยใช่มั้ยล่ะ”
พิ้งกี้อดทึ่งในความขยันของพิมดาวไม่ได้เธอคิดว่าหากเป็นเธอต้องใช้ชีวิตอย่างพิมดาวเธอก็คงจะเหนื่อยมากกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่าแน่นี่แค่เธอทำงานอย่างเดียวเธอก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้วกับบัญชีกองโตๆ
อิตาลี
หลังจากที่ชายแดนบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เป็นฝีมือของพิมดาวพงศกรเห็นว่าเมื่อการรักษาที่ไทยยังไม่สามารถทำให้หลานชายของเขาฟื้นขึ้นมาได้จึงพาตัวมารักษากับหมอที่เขารู้จักเป็นการส่วนตัวที่อิตาลีและนี่ก็เป็นเวลาร่วมปีกว่าแล้ว
อาการภายนอกของชายแดนหายนานแล้วแต่หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาเขาก็ต้องค่อยๆรื้อฟื้นความจำมาเรื่อยๆเพราะหลังจากที่สมองได้รับกระทบกระเทือนอย่างหนักทำให้เขานั้นจำอะไรได้น้อยนิดมากตอนนี้ก็เริ่มจำอะไรได้มากขึ้นแล้วแต่ก็แค่เพียงก่อนหน้าที่เขาจะปรับความเข้าใจกับพ่อของเขาเท่านั้น
นอกจากนั้นเรื่องราวหลังจากนั้นที่เขารับรู้ก็จะเป็นเรื่องที่พงศกรเล่าให้เขาฟังเขารับรู้ได้แต่สมองของเขามันไม่มีเหตุการณ์เหล่านั้นในหัวแม้แต่นิดเดียว
เมื่อรู้ว่าตัวเองทำเรื่องแย่ๆลงไปมากมายเขาเองก็เฝ้าถามตัวเองว่าเขาเป็นคนที่ร้ายกาจขนาดนั้นเชียวหรือแปลกจากความรู้สึกตอนนี้เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาแล้วคนแรกที่เขาจะต้องไปหาก็คือพฤกษ์คนที่เขาทำเจ็บแสบเอาไว้มากเขาไม่รู้ว่าจะต้องโดนอะไรกลับมาแต่เขาก็จะยอมรับมันเพราะมันคือผลจากการกระทำของเขา