บทที่3 มะม่วงหวาน น้ำตาลเปรี้ยว
“ลินวันนี้ไปทำงานพร้อมผมนะ ผมมีนัดคุยกับคุณนฤมลข้างนอก ไปช่วยจดรายละเอียดให้ผมด้วย” เขมินทร์เอ่ยบอกหญิงสาวหลังจากที่ทานมื้อเช้าเสร็จ
“ค่ะ คุณเข้ม” หญิงสาวตอบรับชายหนุ่ม เธอทำงานกับชายหนุ่มมาได้ร่วมสามอาทิตย์แล้ว หญิงสาวไม่คิดเลยว่าการทำงานกับชายหนุ่มจะง่ายกว่าที่เธอคิดไว้ ชายหนุ่มมีวินัยและระเบียบในการทำงาน การที่เธอต้องช่วยงานเขาก็ไม่ได้ลำบากอย่างที่เธอเคยคิดกลัวเอาไว้ เธอเริ่มมีความสุขกับการทำงานกับชายหนุ่ม แม้ว่าการพูดคุยของเธอกับเขาจะยังคงถกเถียงกันและชายหนุ่มก็ยังทำหน้าราวกับจะหักคอเธอเหมือนเดิม แต่ถ้าเป็นเรื่องงานเขาจะจริงจังและไม่เอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
“พาน้องไปด้วยดีแล้วลูก อย่าให้น้องห่างตัวเชียวนะ แล้วก็ระวังๆยัยหนูน้ำตาลไว้ด้วยละ”
“ครับแม่ ผมไปคุยงานกับคุณนฤมลนะครับจะเจอน้ำตาลได้ไง”
“นี่ลูกคิดว่าคุณนฤมลเขาจะมาเจอลูกโดยที่ไม่พาลูกสาวเขามาด้วยเหรอ”คุณกนกกรเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วง
“โอเคครับ ผมจะรีบคุยงานแล้วรีบกลับนะครับ” เขมินทร์เข้าใจดีว่าทำไมมารดาถึงเป็นห่วงเขาขนาดนี้ เขาเองถ้าไม่จำเป็นต้องไปคุยเรื่องส่งขายปาล์มให้กับทางโรงงานปาล์มน้ำมันของคุณนฤมลเขาก็ไม่อยากเจอหน้าน้ำตาลสักเท่าไหร่ ผู้หญิงคนนั้นนับได้ว่าเป็นฝันร้ายของเขาทีเดียว
“น้องลิน อย่าออกห่างจากตาเข้มนะลูก ถ้าเห็นท่าไม่ดีหนูต้องช่วยตาเข้มด้วยนะ”
“อย่างคุณเข้มนี่มีใครกล้าทำอันตรายเขาด้วยเหรอค่ะแม่ ลินว่าโหดขนาดนี้แถมหน้าก็ดุออกอย่างนั้นใครจะกล้าทำอะไรเขาได้ค่ะ” กานดานลินไม่เข้าใจว่าเหตุใดคุณกนกกรถึงได้เป็นห่วงชายหนุ่มขนาดนั้น โหดปานนั้นใครจะกล้าทำร้ายเขา
“นี่คุณ”
“พอแล้วทั้งสองคนนะไปได้แล้ว เดี๋ยวจะสายเอานะ แล้วตาเข้มแกห้ามดุน้องลิน แม่บอกกี่รอบแล้ว”คุณกนกรเอ่ยห้ามหลังจากที่เห็นลูกชายกำลังจะดุหญิงสาว
“ครับแม่ ผมไปแล้วครับ” เขมินทร์เอ่ยบอกมารดาพร้อมหันมองหญิงสาวอย่างคาดโทษ
“หนูไปทำงานแล้วนะคะแม่”
“จ้ะ เดินทางดีๆกันนะ”
โรงแรม SUN&SEA’K RESORT
“พี่เข้มขาาาาาา” เสียงร้องเรียกของหญิงสาวดังจนกานดานลินที่กำลังก้าวขาลงจากรถต้องสะดุ้ง
“น้ำตาลคิดถึงพี่เข้มจังเลยค่ะ ส่งข้อความไปพี่ก็ไม่อ่าน โทรไปพี่ก็ไม่รับแถมเปลี่ยนเบอร์หนีน้ำตาลอีกด้วย นี่ถ้าพี่ไม่มาพบคุณแม่วันนี้น้ำตาลก็คงไม่ได้เจอพี่เข้มเลยใช่มั้ยคะ”ปารวีวิ่งมาเกาะแขนชายหนุ่มทันทีที่เห็นเขาลงมาจากรถ
“ปล่อย” เขมินทร์เอ่ยบอกเสียงเข้ม แต่หญิงสาวก็ไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน
“ไม่ปล่อย น้ำตาลคิดถึงพี่เข้มนี่คะ พี่ยังไม่หายโกรธน้ำตาลเรื่องครั้งนั้นอีกเหรอคะ หายโกรธน้ำตาลเถอะนะ”
“ปล่อย ผมจะไปคุยงาน” ชายหนุ่มสะบัดมือเธอออก เขาไม่ได้คิดโกรธเธอแล้วเรื่องที่เธอแอบวางยา จนเขาเกือบพลาดท่าเสียทีให้เธอ แต่เขาแค่ระวังตัวและไม่อยากเข้าใกล้เธอเกินความจำเป็น และอีกอย่างเขาก็รำคาญกับความเซ้าซี้ของเธอ
“ลิน ไปได้แล้ว” ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวที่ยืนมองอย่างอึ้ง พร้อมกับจับข้อมือหญิงสาวจูงให้เดินเข้าไปข้างในโรงแรม
“เอ่อ ไปค่ะไป”เธอยืนฟังหญิงสาวผู้มาใหม่อย่างอึ้งๆ เรื่องราวความร้ายของหญิงสาวที่เธอเคยได้ยินมาบ้างดูน้อยไปเลยเมื่อได้มาเจอกับตัว แต่ความโหดของชายหนุ่มยังคงโหดอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
“ยัยนี่เป็นใครคะพี่เข้ม ทำไมพี่ต้องจับมือเธอเดินเข้ามาด้วย”ปารวีเอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้ามาดึงมือของเธอที่ชายหนุ่มกำลังจูงอยู่ออกจากกัน
“ไม่ว่าแกจะเป็นใคร ฉันขอให้แกจำเอาไว้นะว่าอย่ามายุ่งกับพี่เข้มของฉัน จำใส่หัวแกไว้”
“นี่คุณ”พี่เข้มของฉันงั้นเหรอ ถ้าความจำเธอไม่เสื่อม เมื่อกี้เธอยังเห็นชายหนุ่มสะบัดมือหนีอยู่เลย แล้วนี่ผู้หญิงคนนี้คิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะดึงจะผลักใครก็ได้รึไง คิดเหรอว่าเธอจะยอมง่ายๆ
“อ้าว คุณเข้มมาถึงแล้วเหรอค่ะ น้าก็ว่ายัยน้ำตาลลูกสาวน้าหายไปไหน”เสียงของหญิงสาวสูงวัยดังขึ้นมาในระหว่างที่กานดานลินกับปารวีกำลังจะทะเลาะกัน
“สวัสดีครับคุณน้า ผมเพิ่งมาถึงเมื่อกี้ครับ เราไปคุยเรื่องงานของเรากันดีกว่าครับ พอดีผมต้องรีบกลับไปเคลียร์งานที่สวนต่อนะครับ”เขมินทร์เอ่ยบอกอย่างเคร่งขรึม
“ได้จ้ะ แล้วผู้หญิงคนนี้ใครเหรอจ้ะ” คุณนฤมลเอ่ยถามพลางหันไปมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า
“นั่นสิค่ะพี่เข้ม แม่นี่มันเป็นใคร” ปารวีเอ่ยถามอีกคนทั้งยั้งมองกานดานลินตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นเดียวกับมารดาของเธอ แต่ที่ต่างออกไปคือสายตาที่มองเหยียดเธอของหล่อนนั่นเอง กานดานลินคิดสงสัยว่าเธอไปทำกรรมอะไรให้สองแม่ลูกนี่เกลียดมาตั้งแต่ชาติปางไหนกัน
“สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อกานดานลิน เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณเข้มค่ะ”กานดานลินเอ่ยแนะนำตัวด้วยความสุภาพอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ผู้ช่วยส่วนตัวเหรอ ฮึ”ปารวีเอ่ย
“ครับ ลินเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของผมครับ เราไปคุยงานกันดีกว่าครับ”ชายหนุ่มรีบพูดตัดบทของทุกคน แล้วเดินนำออกไป
“เอาเป็นว่าจำนวนและก็ราคาก็เป็นไปตามที่เข้มเสนอมาก็แล้วกันจ้ะ น้าตกลงตามนั้นได้เวลาแล้วน้าขอตัวกลับไปประชุมที่บริษัทก่อนนะ ตาเข้มอยู่กินข้าวเป็นเพื่อนยัยน้ำตาลก่อนกลับนะจ้ะน้องยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงเลย น้าไปละ”คุณนฤมลเอ่ยลาชายหนุ่ม พร้อมเปิดทางให้บุตรสาวได้มีโอกาสใกล้ชิดกับชายหนุ่มมากขึ้น
“สวัสดีครับคุณน้า” ชายหนุ่มยกมือไหว้ลาผู้สูงวัยกว่า