นุ่มนิ่มตาโต หัวใจเต้นผิดจังหวะแทบจะหลุดออกมาเสียตรงนั้นให้ได้หากไม่ได้ยินประโยคถัดไปของรุ่นพี่ที่อยากจะแกล้งกัน
‘พี่หมายถึงว่าเป็นคอนโดที่อยากจะปล่อยเช่าอยู่พอดีค่ะ ถ้าหนูสนใจก็ติดต่อมาได้นะ มีสองห้องใหญ่เหมือนกัน พี่ไม่ค่อยได้เข้าไปอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่จะอยู่อีกที่หรือไม่ก็นอนร้านค่ะ’
เธอผ่อนลมหายใจ พยักใบหน้ารับรู้ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าชายหนุ่มมีร้านเหล้าในย่านดังซึ่งทำร่วมกับรุ่นพี่ที่จบไปแล้วอยู่ด้วย งานแบบนี้มันต้องนอนไม่เป็นที่เป็นเวลาอยู่แล้ว อีกทั้งยังสามารถบ่งบอกการเป็นเสือผู้หญิงของเขาได้เป็นอย่างดี
รวมถึงในบรรดาเพื่อนพี่ชายนั้นเกียร์ก็เป็นคนที่บ้านรวยสุด ๆ แล้ว ยังแปลกใจอยู่เลยว่าอย่างไรเขาถึงไม่เลือกเข้าเรียนที่นานาชาติซึ่งดีกว่าโรงเรียนเอกชนธรรมดาที่จบมาจากที่เดียวกัน ทว่านั่นมันก็เป็นสิทธิ์และเรื่องส่วนตัวของเขา
หมูกระทะยามเย็นที่มากไปด้วยนักเรียนและนักศึกษาเลยเป็นจุดสุดท้ายที่เหล่าศิษย์เก่าโรงเรียนเอกชนชื่อดังนั้นเลือกที่จะมาฝากท้องกันต่อหลังจากเดินตลาดแล้วหาร้านถูกใจทานมื้อเย็นไม่ได้
ที่น่าตลกไปว่านั้นคือหลังเจอประโยคหยอกล้อของเพื่อนพี่ชายเข้าไปเธอก็คิดว่าตัวเองต้องหน้าแดงมากแน่ ๆ จึงของตัวเดินออกมาจากสนามแล้วพาเรย์ไปเดินเล่นแถวนั้นรอพวกพี่ชายเตะบอลเสร็จแทน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กล้าแม้แต่วจะมองหน้าเขาตรง ๆ เลยด้วยซ้ำ
“ยัยนิ่ม พี่บอกว่าอย่าเขี่ยผักออกจากจานไงคะ เพราะถ้ายังกินแบบนี้อยู่เดี๋ยวก็ได้กลับไปเป็นยัยนุ่มนิ่มแก้มย้วยเหมือนเดิมหรอก”
“หนู...”
“จะดุน้องทำไม”
เด็กที่นั่งคั่นกลางระหว่างพี่ชายตัวเองกับคนที่ช่วงนี้ทำให้เธอใจเต้นแรงอยู่บ่อย ๆ ยอมเงยหน้าขึ้นจากจานใบเล็กของร้านหมูกระทะในที่สุด ก่อนจะต้องตกใจยามผักที่นายต้มแล้วตักใส่จานเอาไว้ให้ถูกเกียร์คีบขึ้นไปรับประทานแทนหน้าตาเฉย
“อ้าว ไอ้ห่านี่ ถ้าอยากแดกทำไมไม่ต้มเอาเอง มาแย่งของน้องกูแดกมันสมควรไหม”
“น้องไม่อยากกิน ทำไมต้องบังคับ”
ได้ยินแบบนั้นเป็นใครจะไม่คิ้วกระตุกบ้าง นายที่หวังจะเอื้อมมือไปประทุษร้ายเพื่อนตัวดีจำต้องเดาะลิ้นออกมาด้วยความขัดใจเมื่อน้องสาวที่นั่งระหว่างเขากับมันนั้นคว้าแขนตนเองเอาไว้ได้ทัน
ตามใจเขาก็ตามใจน้องอยู่หรอก แต่ไม่ใช่กับทุกเรื่อง
“ไม่ทะเลาะกันเพราะหนูนะคะ”
“อะไรล่ะนั่น พวกมึงจะตีกันทั้งที่น้องนั่งอยู่ตรงกลางเหรอวะ” ว่านที่เดินไปตักของสดมาเพิ่มกล่าวถามออกไปด้วยความเอือมระอา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่จะเห็นพวกมันหยิกหลังกัน เรียกได้ว่าเป็นเขาที่ต้องค่อยห้ามปรามตลอด ยังดีที่ไม่ลามไปถึงเรื่องผู้หญิง เนื่องจากถ้าทับไลน์กันขึ้นมาว่านที่เป็นคนกลางก็คงจะเอาไม่อยู่ เพราะมันก็สัตว์ล่าเนื้อกันทั้งคู่ แค่นายมันกินเงียบกว่าอีกฝ่าย
“เปล่า”
“เปล่ายังไง ตั้งแต่มานั่งมึงก็เอาแต่ตามใจน้องกูจนเสียระบบหมดละเนี่ย”
“ก็ถามไปแล้วว่าทำไมต้องบังคับ”
“บังคับยังไง ผักมันมีประโยชน์กูแค่อยากให้น้องกิน”
“โอ้ย พอเลยค่ะ ถ้าจะยังทะเลาะกัน หนูจะกลับแล้วนะคะ”
“งั้นพี่ไปส่งไปค่ะ”
“มึงยุ่งอะไรกับน้องกูอีก!”
“นาย มาทานร้านนี้ด้วยเหรอคะ เห็นไม่ตอบแซตเลย คิดว่ายังไม่ว่างซะอีกค่ะ”
ยังไม่ทันที่ว่านจะได้เอ่ยห้ามเพื่อนต่อ ทั้งโต๊ะที่เหลือเพียงพวกเขาสี่คนก็เงียบตามมารยาทเมื่อมีบุคคลที่ห้าเดินเข้ามาทักทาย อีกทั้งไม่ต้องรอให้นายมันส่งสัญญาณให้ ว่านกับเกียร์ก็รู้ได้ทันทีว่าต้องทำยังไงต่อ เนื่องจากคุ้นหน้าหล่อนอยู่บ้าง ไม่แน่ว่าที่เข้ามาทักทายแบบนี้อาจจะจบกันคืนเดียวแบบไม่เคลียร์
นั่นเลยเป็นเหตุให้เจ้าของร่างสูงที่กล่าวอาสาจะมาส่งน้องสาวนายตอนแรกนั้นได้สมดั่งใจอยาก รวมถึงถ้ามีปากเสียงกันนายมันก็คงจะไม่อยากให้น้องรับรู้วีรกรรมของตัวเองหรอก ฉะนั้นมันควรจะขอบคุณเกียร์
“ให้หนูเหรอคะ”
“ค่ะ”
นุ่มนิ่มรับเอาไอศกรีมที่อีกฝ่ายคงจะได้มันมาจากตู้ของร้านสะดวกซื้อที่ขับมอเตอร์ไซค์คันใหญ่มาได้ไม่นานตัวเองก็อยากจะเข้าห้องน้ำขึ้นมา ไม่เข้าใจสถานการณ์เหมือนกันว่าอย่างไรอีกฝ่ายถึงได้พาตัวเองออกจากร้านมาอย่างกะทันหัน
“ขอบคุณค่ะ แต่เห็นพี่เข้าไปแป๊บเดียว ไปซื้อแค่ไอติมให้หนูเหรอคะ”
“ธุระผู้ใหญ่นิดหน่อยค่ะ”
“ธุระผู้ใหญ่? ยังไงเหรอคะ”
“พี่ไปซื้อคอนด้อมน่ะค่ะ มันหมดพอดี”
“แค่ก ๆ” หญิงสาวต้องสำลักไอศกรีมเย็น ๆ ออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และเป็นเพื่อนพี่ชายอีกเช่นเคยที่ยื่นมือออกมารับเอาสิ่งที่เธอคายออกมาแล้วถือวิสาสะใช้มือข้างที่ล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ในตอนแรกขึ้นมาบรรจงเช็ดคราบน้ำลายออกให้นุ่มนิ่มอย่างไม่นึกรังเกียจ
นั่นทำเอาเธอถึงกลับต้องชะงักถอยหลังจนชิดกับรถจักรยานยนต์ของเขาทันที ไม่เข้าใจเลย ตัวเธอเองก็ไม่ได้สนิทกับเพื่อนพี่ชายขนาดที่เขาต้องมาทำแบบนี้ให้ อย่างที่บอกไปว่านุ่มนิ่มแอบปลาบปลื้มเขามาอยู่ห่าง ๆ ตลอด เพิ่งมีเหตุการณ์วันนั้นแหละที่ทำให้เราเหมือนจะได้พูดคุยกันมากขึ้น
“เลอะเทอะไปหมดแล้วค่ะ” เขากล่าวพร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เพื่อเช็ดของหวานที่เลอะอยู่ในมือ
“พี่...”
ขณะนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอศกรีมที่เหลืออยู่ในไม้มันละลายหยดลงพื้นไปเท่าไหร่แล้ว รับรู้แค่ว่าสายตาของเขาที่ส่งมาให้ทำเอาใบหน้าหวานร้อนผ่าวไปเสียหมด
ไม่รวมนิ้วหัวแม่มือที่ไล้แผ่วเบาบนริมฝีปากเล็กอย่างถือวิสาสะ แล้วเน้นเป็นช่วงหนักปลายคล้ายจะสื่อความหมายอะไรบางอย่างจนในที่สุดคนอ่อนประสบการณ์ก็ทนไม่ไหวแล้วเลือกเบือนหน้าหนีไปก่อน พร้อมกับได้ยินเสียงเปล่งหัวเราะขบขันออกมาจากเขาเบา ๆ
นาทีนั้นเธอไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเลย แต่แบบนี้มันก็สื่อไปได้ในทิศทางเดียว
“อ่า กลับไปล้างมือก่อนไหมคะ ไอติมหนู... ละลายหมดแล้วนะ”
“ทำแบบนี้ทำไมคะ”
ไม่รู้ว่าไปเอาความใจกล้าเอื้อนเอ่ยออกไปแบบนั้นจากไหน จึงทำได้แค่เม้มริมฝีปากเข้าหากันยามเขายอมผละออกห่างไปแล้ว
“หมายถึงยังไงคะ”
“พี่เกียร์...”
“จริง ๆ พี่สนใจหนูอยู่ค่ะ แต่ติดที่ว่าหนูเป็นน้องสาวเพื่อนนี่สิ”
“เจ้าชู้แบบที่เขาลือกันจริง ๆ ด้วย”
“แฟร์ ๆ กันไงคะ เอาเป็นว่าถ้าหนูสนใจห้องพี่… ก็ติดต่อมาได้ทุกเมื่อเลยนะคะ เอาล่ะ ถ้าไปส่งหนูกลับดึกมากกว่านี้ไอ้นายคงจะไม่เอาพี่ไว้แน่ งั้นเรากลับกันเลยดีไหมคะ”
“ได้ทุกเมื่อเลยเหรอคะ”
“หมายถึง?”
“ห้องพี่… น่ะค่ะ”
แม่ง ให้ตายสิ เหมือนเกียร์จะเจอของที่ถูกใจมากกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก เป็นลูกกระต่ายตาใสที่ใจสู้นักล่าแบบเขาเสียด้วยว่ะ
โคตรน่าสนใจเข้าไปอีก
“ค่ะ เพราะลำดับความสำคัญของพี่ไม่ได้ตายตัวอยู่แล้ว อย่างวันนี้ที่พี่เลือกจะมาเตะบอลมากว่าไปทำอย่างอื่น”
TBC.