๑๐ แค่ฝันไป2

1839 Words
“อืม” เสียงหวานๆ ดังออกมาจากลำคอระหง เมื่อนวลเนื้ออวบอิ่มถูกดอมดม บางครั้งก็ถูกลูบไล้ และเคล้นคลึง หนักสลับเบา ก่อนจะสะดุ้งขึ้นด้วยความรู้สึกหวามหวิวหนาวเหน็บ เมื่อปลายยอดสีสดถูกตวัดเลียแผ่วๆ ก่อนจะรวบดูดและขบเม้มด้วยริมฝีปากร้อนผ่าว เมื่อใบหน้าซบซุกอยู่กับทรวงอกนุ่มนิ่ม มือเรียวใหญ่ก็ลูบไล้ลำตัวอ้อนแอ้นเนียนมือ พลางสอดเข้าไปใต้แผ่นหลังบอบบาง ลูบไล้ แล้ววกกลับมาวางลงบนอกอิ่ม เคล้นนวดแผ่วเบา แล้วบีบคลึงปลายยอดสีหวาน ทำให้กายสาวเสียดเสียวซาบซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย “พี่อาร์ม” หญิงสาวครางหวิว พลางลูบไล้ศีรษะที่ซุกซบอกอิ่มของตนด้วยความเสียวซ่าน คลื่นความหฤหรรษ์สะท้านไปทั้งกาย อ่อนเปลี้ย ไร้เรี่ยวแรง ราวกับมีบางอย่างเสียดแทงลงบนผิวเนื้อนุ่ม ภายใต้หน้าท้องแบนราบราวกับมีปีกนับร้อยพันกระพือพัด ประเล้าประโลมด้วยสัมผัสร้อนรุ่ม เนื้อตัวร้อนผะผ่าว ร่างสั่นสะท้านราวกับถูกพายุโหมกระหน่ำซ้ำซาก อารัญดึงใบหน้าตนเองขึ้นมาจากทรวงอกนุ่มหอม เขากวาดตามองเรือนร่างบอบบางด้วยความชื่นชม แววตาฉาบฉายด้วยความเสน่หาล้ำลึก ก่อนจะขยับตัวขึ้นแล้วช้อนร่างบอบบางตรงไปยังห้องนอน เมื่อร่างเล็กถูกวางลงบนที่นอนหนานุ่มกว้างใหญ่ ร่างกำยำของเขาก็สลัดเสื้อเชิ้ตออกจากตัวพร้อมกับแนบกายตามลงมา กางเกงตัวสวยถูกดึงออกจากท่อนขาเรียวเสลา ทั้งเนื้อทั้งตัวของหญิงสาวจึงเหลือเพียงซับในตัวจ้อย เรือนร่างเล็กบอบบางของประกายดาวดึงดูดสายตาของอารัญเอาไว้จนไม่อาจถอนสายตาจากไปได้ หล่อนน่ารัก งดงาม น่าทะนุถนอม จึงแตะต้องอย่างเบามือมากกว่าจะทำด้วยสัมผัสหนักหน่วง ไม่ใคร่ใส่ใจเหมือนที่เคยทำกับคนอื่น เพราะประกายดาวไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความรู้สึกของเขาที่มีต่อหล่อนนั้นพิเศษเหนือใคร แต่ไม่มีใครรู้ และเขาก็ปรารถนาให้เป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด ทว่าเวลานี้อารัญกลับทิ้งความตั้งใจเดิมเสียสิ้น เขาลืมความตั้งใจที่จะไม่แตะต้องให้หล่อนต้องแปดเปื้อนราคี ลืมความปรารถนาดีไปชั่วขณะ หลงใหลอยู่กับเจ้าของเรือนร่างงดงาม กวาดตามองไปทั่วทุกมุมราวจะจดจำให้ขึ้นใจ เขาจดจมูกลงบนแก้มอุ่นทั้งสองข้าง แล้วจูบริมฝีปากลงบนหน้าผาก จมูกโด่งเล็ก ก่อนหยุดที่เรียวปากอิ่มสีเรื่ออย่างดูดดื่ม มือใหญ่ลามไล้ลูบคลำไปทั่วร่างกายนุ่มนิ่ม สอดเข้าไปใต้แผ่นหลังนุ่มที่แอ่นยกขึ้นตามความสยิวยามชิวหาฉกไล้ตวัดยอดถันสีเรื่อ ไม่ช้าไม่นาน ใบหน้าคมคายก็ไต่ต่ำลงผ่านหน้าท้องแบนราบ ฝังใบหน้าดอมดมกลิ่นกรุ่นสาวเจ้า พลันผ้าผืนน้อยที่ปกปิดส่วนสาวก็รูดต่ำลงไปตามต้นขาอวบ อวดปลีน่องเรียวเสลา หลุดพ้นจากปลายเท้าเรียวเล็ก เผยให้เห็นส่วนสตรีเพศที่งดงามเกินคำบรรยาย เสียงผ่อนลมหายใจพร่ากระตุ้นอารมณ์ดำฤษณาให้โลดโผน หัวใจดวงน้อยใต้อกอวบราวภูเขาขนาดย่อมเต้นกระตุกถี่รัว เรือนร่างแน่งน้อยกระสับกระส่ายไปมายามถูกแตะต้องละเลียดไล้ด้วยปลายลิ้นสาก เขาจุ่มจ้วงฉกเลียดูดดื่มน้ำหวานบริสุทธิ์ เรียกเสียงหวานครางกระเส่า ขณะที่เจ้าของเสียงทุ้มพึมพำพอใจในลำคอขณะเชยชมความงามที่เคยเป็นของต้องห้ามสำหรับเขามาเนิ่นนาน แต่วินาทีนี้ทั้งหมดที่เคยตั้งมั่นกลับพังทลายลงไม่มีชิ้นดี ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความวาบหวาม สะท้านใจ การแตะต้องของเขาเป็นไปอย่างชำนาญ ทั้งหนักเบาสลับกันไป เรียกเสียงครางกระเส่าจากลำคอระหงออกมาเป็นระยะ เรือนร่างเล็กนุ่มบิดส่าย พลางสั่นพลิ้วยะเยือกยามปลายนิ้วเรียวยาวของเขาแตะต้อง ทั้งริมฝีปากร้อนรุ่ม ไหนจะเรือนร่างกำยำที่แนบสนิทลงมา มัดกล้ามของเขาแข็งแกร่งอย่างคนที่ดูแลตัวเองอย่างดี ทุกการแนบชิดทำให้รู้ว่าตอนนี้ทั้งเขาและหล่อนไม่หลงเหลืออาภรณ์เป็นเกราะหุ้มกายอีกต่อไป อารัญสลัดผ้าชิ้นสุดท้ายออกจากร่างแกร่ง ทั้งที่แต่แรกเขาคิดแค่ว่าจะกอดจูบให้พอฉ่ำใจ แต่ทำไปทำมา ราวกับเขาเป็นวัวแล้วหล่อนเป็นหลัก ที่พันธนาการเข้าด้วยกันจนแยกไม่ออก มือเรียวไล้ลูบไปทั่วแผ่นหลังกว้างตึงแน่น ริมฝีปากขบเม้มสลับครางครวญยามถูกประเล้าประโลม อกอวบแอ่นระแน้ก่อนทิ้งร่างลงกับเตียงนุ่ม พยายามพลิกกายแผล็วหนี แต่แล้วก็เบียดตัวเข้าหาเขาอีกครั้งอย่างยอมจำนน “พี่อาร์ม” เสียงหวานราวกับดังมาจากที่ไกลๆ แต่อารัญยังดื่มด่ำอยู่กับความนุ่มนิ่มอ่อนหวานจากผิวเนื้อกายงามราวกับคนที่หลงอยู่ในทะเลทรายมานาน จนกระทั่งมาเจอกับแหล่งโอเอซิส จึงดื่มด่ำเสียอย่างเต็มที่โดยไม่คิดหลงเหลือเอาไว้ให้ใคร เขาเจอ เขาเท่านั้นที่เป็นเจ้าของ ความคิดนี้ทำให้อารัญวับไหวในใจ แต่ไม่มากพอจะหยุดพลังหนุ่มที่กำลังพลุ่งพล่าน แม้ว่าที่แห่งนี้จะเป็นวิมานส่วนตัว ไม่เคยคิดหิ้วสาวที่ไหนมาทำเรื่องอย่างว่า แต่สำหรับเกราะป้องกันสำคัญยิ่งสำหรับลูกผู้ชายกลับไม่เคยขาด เนื้อตัวแข็งกล้าชูชัน ครูดไล้ไปกับนวลเนื้ออวบงามที่แย้มกลีบอวดความงามฉ่ำชื้น เขาสูดปากครางต่ำลึกในลำคอ ขยับสะโพกเลื่อนไล้บดเบียดในลักษณะปราศจากช่องว่าง มือใหญ่ลูบไล้ร่างแน่งน้อย อกอวบอุ่นถูกขยำเคล้น บางทีก็หยอกเอินแผ่วเบา อีกข้างเลื่อนไล้ต้นขาอวบงามที่ตั้งชันแนบกับสะโพกที่ขยับเสียดสี ไม่กี่อึดใจต่อมา ร่างกำยำก็ผละห่างจนแทบจะเป็นกระโจนไปยังลิ้นชักโต๊ะข้างเตียง เขาหยิบเอาเครื่องป้องกันความผิดพลาดทั้งหมดทั้งมวลออกมา แล้วสวมครอบลงบนแก่นกายลุกโชน จากนั้นร่างอุ่นแทบจะร้อนราวกองเพลิงก็เข้าประชิดเรือนร่างอ้อนแอ้นที่สั่นผวาหนาวเยือกเมื่อเขาผละห่าง แต่กลับอบอุ่นร้อนผ่าวขึ้นทันทีเมื่อกายกำยำใหญ่โตเบียดชิดลงมา “อืม...” เสียงครางอย่างพอใจดังออกมาจากคนตัวโต เขารั้งร่างเล็กขึ้นมากอดจูบ แล้วตวัดชิมยอดถันสีหวานอีกครั้ง ก่อนจะเบียดแทรกกายท่อนร่างเข้าสู่หว่างขาเรียวเสลา คนตัวนุ่มที่ปิดตาพริ้มปล่อยเสียงครางออกมา อกอิ่มหยัดยก สองมือนุ่มขยุ้มผ้าปูที่นอน ท่อนขาเรียวยาวขยับยกตั้งชัน ฝ่าเท้าวางแนบที่นอนแล้วถูไถตามอารมณ์หวามลึก ก่อนครางหวานออกมาเมื่อสิ่งแปลกปลอมใหญ่โตชิดชำแรก ดวงตาสีเข้มหรี่มองคนใต้ร่างของเขาอย่างสองจิตสองใจ เขาทำดีมาโดยตลอด ไฉนจึงมาตกม้าตายเอาเวลานี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาไม่อาจยับยั้งอารมณ์ดำฤษณาลงได้ ยิ่งใกล้ชิดหล่อนด้วยลักษณะนุ่งลมห่มฟ้า เนื้อแนบเนื้อจนแทบแยกไม่ออก เขาก็หมดสิ้นกำลังใจจะห้ามปรามตนเองอีกต่อไป เสียงคำรามดังกระหึ่มออกมาราวจะโกรธตัวเอง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะทำตามอารมณ์ที่ถูกซ่อนเร้นมาเนิ่นนาน ฝากฝังกายแข็งแกร่งลงในใจกลางความอ่อนนุ่ม คับแน่น ที่บีบรัดจนเขาแทบขาดใจ ความสุขทางกายที่ได้รับกับหญิงอื่น คงไม่ต่างจากที่ได้รับจากประกายดาว แต่เมื่อรวมเข้ากับความรู้สึกลึกๆ ในหัวใจ เขาจึงรับรู้ว่ามันแตกต่างและไม่มีวันที่ผู้หญิงคนไหนจะทำให้เขารู้สึกเช่นนี้ได้เลย ความสุขชนิดที่แล่นปราดไปทั่วหัวใจทั้งดวง ก่อนจะอาบไปทั่วร่างกาย ทำให้เขาทำทุกอย่างด้วยความทะนุถนอม อ่อนโยน จะแตะหล่อนแรงไปสักนิดก็กลัวว่าจะทำให้ระคายผิวเนื้อ แต่เมื่อเขาหยั่งกายฝังลึกเสียงร้องครางก็ดังออกมา สีหน้าของคนงามเหยเกเจ็บปวด ริมฝีปากอิ่มสีจัดขบกัดกันแน่น เขาก้มลงจูบดวงหน้าหวานอย่างเอาใจ “เจ็บ” ได้ยินเสียงเล็กๆ ดังออกมาแผ่วเบาจากริมฝีปากจิ้มลิ้ม เขาจึงหยุดยั้งการตอกตรึงฝังกายลงชั่วคราว แล้วเปลี่ยนเป้าหมายไปยังทรวงอกอวบอิ่ม รุกเร้าละเลียดชิมอย่างหยอกเย้าเร้าอารมณ์ ใช้ความเสียดเสียวกลบฝังความเจ็บปวด เสียงหวานผะแผ่วดังออกมาอีกครั้ง คราวนี้เต็มไปด้วยความสุขสม นวลเนื้อที่ปริเปล่งคับแน่นชุ่มฉ่ำจนรู้สึกได้ เขาใช้ช่วงเวลานั้นกดชำแรกแก่นกายที่เหลือลงสู่ความอวบอิ่มแห่งวัยสาว ร่างเล็กเกร็งชะงักพร้อมเสียงครางออกมาอีกครั้งบ่งบอกถึงความเจ็บปวดครั้งสุดท้าย สองมือนุ่มกอดไปรอบลำคอของเขาแน่น ร่างใหญ่โตทิ้งกายทอดทับร่างอ้อนแอ้นแนบสนิท เพียงไม่นานเขาก็ขยับหยัดร่างยกตัว แล้วเริ่มการเคลื่อนไหว นำพาทั้งเขาและหล่อนสู่เส้นทางสุขสมที่รออยู่เบื้องหน้า เสียงหวานแหลมหวีดร้องออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นเดียวกับเขาที่ครางพร่ากระหึ่มในลำคอ พร้อมกับเคลื่อนไหวหนักหน่วงรัวแรง ดวงตาสีเข้มที่พร่าจัดไม่เลือนร้างไปจากดวงหน้างามที่แดงก่ำ บางครั้งก็ช้าลง แล้วซบกายแนบสนิท จูบริมฝีปากอิ่ม แก้มนวล หน้าผาก หัวไหล่มนและซุกซบซอกคอระหงหอมกรุ่น จากนั้นกลับมารุกเร้าเร่งกระชั้นด้วยจังหวะหฤหรรษ์ ขับเคลื่อนด้วยแรงพิศวาส ก่อนได้ยินเสียงหวีดร้องครั้งสุดท้ายพร้อมอาการสุขสมจากร่างแน่งน้อยใต้ร่าง เขาเร่งกายตามติดหล่อน เพียงไม่กี่อึดใจเพลิงอารมณ์ก็ระเบิดซัดสาด หัวสมองขาวโพลน กายแกร่งเกร็งสะท้านเป็นคลื่น ก่อนจะซวนซบกับอกอวบที่หอบสะท้านแผ่วเบา เสียงลมหายใจที่ดังเป็นจังหวะเสมอกันทำให้ชายหนุ่มยกตัวขึ้นมอง ใบหน้าคมที่เข้มไปด้วยความสุขสมแย้มพราย เพราะแม่ตัวดีคงจะหลับลงแทบทันทีที่เขาซบร่างลงกับหล่อน พลันเขาก็รู้สึกอิ่มเอิบซาบซ่านเมื่อกวาดตามองดวงหน้างามภายใต้กรอบผมสีอ่อน ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจยาว แล้วผละร่างออกมาจากเจ้าของร่างนุ่มแน่นที่ให้ความสุขกับเขาอย่างท่วมท้น ทั้งร่างกายและความรู้สึก แต่เพียงไม่กี่อึดใจ ดวงตาที่อ่อนโยนของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ทันทีที่กลับมาสู่โลกแห่งความจริง ดวงตาคมกริบหลุบมองคนข้างกาย แล้วหลับตาลงอีกครั้งเมื่อตระหนักได้ว่าเขาถลำทำเรื่องที่ไม่ควรทำที่สุดลงไปเสียแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD