๘ ยังเจ็บเมื่อได้รู้

1309 Words
๘ ยังเจ็บเมื่อได้รู้ การคบหากันระหว่างประกายดาวกับชนาธิปนั้นค่อนข้างอิสระ เขาทำให้ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงยอมรับและไว้ใจได้ในที่สุด สำหรับชายหนุ่มนั้นแสดงออกชัดเจนว่าเขารู้สึกเช่นไรกับประกายดาว ทว่าสำหรับหญิงสาวแม้จะรู้สึกดีกับเขาแค่ไหนแต่ก็ยังมีช่องว่างที่เว้นเอาไว้ และช่องว่างนี้ยังคงคั่นกลางระหว่างเขากับหล่อนเสมอ ชายหนุ่มเข้าใจดีจึงไม่คิดจะเร่งรัด แค่ผู้ใหญ่ไว้ใจทั้งยอมเปิดทางแค่นี้เขาก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว “เสาร์นี้หนูดาวว่างไหม แม่พี่บอกให้พี่ชวนหนูดาวไปกินข้าวด้วยกันที่บ้านครับ” ชนาธิปถามขณะเดินเข้าไปยังร้านอาหารพร้อมหญิงสาว “เสาร์นี้เหรอคะ” หญิงสาวทวนคำถาม พลางคิดว่าตนมีนัดอะไรกับใครเอาไว้หรือไม่ “ครับเสาร์นี้” ชายหนุ่มยิ้มให้หญิงสาว พอดีกับที่เดินมาถึงร้านและมีพนักงานนำไปยังโต๊ะที่จองเอาไว้ “หนูดาวนัดกับคุณแม่เอาไว้แล้วค่ะ คงไปไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยนะคะ” หญิงสาวบอกกับเขาอย่างใจจริงทั้งสีหน้าและแววตา “ไม่เป็นไรครับ เสาร์นี้ไม่ว่างเสาร์หน้าก็ได้” เขาบอกยิ้มๆ ไม่เคยยอมแพ้เลยสักครั้ง เป็นการกระทำที่ทำให้หญิงสาวใจอ่อนมาแล้วหลายครั้งเช่นกัน “ก็ได้ค่ะ หนูดาวจะลงตารางเอาไว้เลย ไม่รับนัดใครแน่นอน” คำตอบและรอยยิ้มอ่อนหวานทำให้ชนาธิปยิ้มตอบอย่างพอใจ แววตาที่มองหญิงสาวนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ทำเอาคนถูกมองรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เพราะบ่งชัดว่าคิดเช่นไรและรู้สึกอย่างไรกับหล่อน ทว่าหล่อนนั้นยังไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะตนเอง ยังไม่รู้ว่าคิดกับเขาเช่นไร แต่ที่แน่ๆ หล่อนรู้สึกดี ระหว่างที่คนทั้งสองกำลังนั่งรับประทานด้วยกันนั้น สายตาคู่หนึ่งลอบมองมาเป็นระยะ จากนั้นจึงกดโทรศัพท์ “ว่าไงเอิง” แพรวิตราร้องทักเพื่อน “ทำไรอยู่” เอิงเอยถามเพื่อน แต่สายตายังจับจ้องมองไปยังชายหญิงคู่หนึ่ง “กินข้าวอยู่น่ะสิ แกล่ะ” “ฉันมากินข้าวเที่ยงกับคุณจอม รู้ไหมฉันเจอใคร” คนปลายสายนิ่วหน้า “ใครล่ะ บอกมาเถอะ ขี้เกียจเดา” แพรวิตราบอกปัดพลางตักข้าวเข้าปาก “ก็พ่อยอดขมองอิ่มของแกน่ะสิ” คำตอบของเพื่อนทำให้แพรวิตราชะงักลงเล็กน้อย รอยยิ้มอ่อนๆ กระจายเต็มวงหน้างามเมื่อคิดถึงชายอันเป็นที่รัก “คุณเชนเหรอ” “ก็เออน่ะสิ แต่นี่แน่ะ เขาไม่ได้มาคนเดียวนะ” คำตอบของเพื่อนทำให้แพรวิตราใจหาย แต่แล้วก็กลับเป็นปกติ “เหรอ คราวนี้ใครอีก” คำตอบคล้ายไม่ยี่หระกับเรื่องที่ได้ยินทำให้เอิงเอยถอนหายใจ ทั้งสงสารระคนสมเพชเพื่อน “มากับผู้หญิงสาว หน้าตาดีทีเดียว ดูเขาให้เกียรติแม่นี่มากด้วย ท่าทางเป็นลูกผู้ดีอยู่นะ คุณเชนของแกเอาอกเอาใจเชียวล่ะ” คำบอกเล่าของเพื่อนทำให้คนฟังรู้สึกสั่นคลอนในใจ แม้จะพยายามบอกตนเองมาเสมอว่าหล่อนทำใจได้ แต่ทุกครั้งที่รู้ว่าเขาควงใครอื่น หัวใจของหล่อนก็ราวจะขาดรอนเสียให้ได้ แต่ก็ทำได้เพียงแค่เก็บงำความรู้สึกเอาไว้ลึกสุดใจเท่านั้น “ช่างเถอะ แกมีเรื่องบอกฉันแค่นี้ใช่ไหม” คำถามของแพรวิตราทำให้เอิงเอยเบ้ปากอย่างนึกหมั่นไส้ความยอมไปเสียทุกอย่างของเพื่อน “มีอีกอย่างที่ฉันอยากบอกแก” “อะไร” แพรวิตราเอ่ยถาม ทั้งที่หัวใจปลิดปลิวลอยไปไกลแล้ว “เลิกกับผู้ชายคนนี้สักทีเถอะ จะจมปลักอยู่กับเขาทำไม” เป็นคำถามที่ไม่เคยมีคำตอบให้เพื่อนและตนเอง แพรวิตราวางสายหลังจากนั้น ก่อนที่จะอิ่มข้าวและแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำเป็นครั้งที่เท่าไรไม่อาจรู้ ในขณะที่ประกายดาวคบหากับชนาธิปอย่างเปิดเผย อารัญเองก็มีผู้หญิงที่เขาคบหาอย่างเช่นอริศราหรือแอนนา ดารานางแบบสาวสวย แม้อีกฝ่ายพยายามเปิดตัวกับเขา แต่ชายหนุ่มไม่เคยสนใจ หล่อนอยากทำอะไรเขาไม่ว่า แต่ถ้ามีใครมาถามเขาก็ได้แต่ยิ้มไม่เคยตอบถึงสถานะระหว่างกัน “น้องแอนนาขา วันนี้ไม่มีนัดกับพ่อเทพบุตรเหรอคะ” พ่อเทพบุตรเป็นฉายาที่คนสนิทเหล่าสาวประเภทสองและทีมงานเบื้องหลังที่รู้เห็นกันดีว่าหล่อนกำลังคบใครอยู่แอบตั้งฉายาให้ลับๆ “วันนี้คุณอาร์มต้องไปงานเลี้ยงค่ะ เลยไม่ได้เจอกัน” ดาราสาวตอบพร้อมรอยยิ้ม พลางปรายตามองไปยังดาราสาวสวยร่วมค่ายรุ่นน้องที่ก้าวเข้ามาสมทบด้วยความรู้สึกเหนือกว่า เพราะตอนนี้อีกฝ่ายก็กำลังมีข่าวกับดาราหนุ่มหล่อที่มีดีกรีเป็นถึงพระเอกของช่องใหญ่ “อ้าวน้องขวัญ พี่นึกว่าหนูกลับไปแล้วเสียอีก” ขวัญหรือขวัญชนก นางเอกสาวหน้าใหม่ยิ้มอ่อนขณะนั่งลงข้างๆ “อีกสักพักค่ะ รอพี่เดี่ยว” “อ้อ น่ารักนะคะ เดี่ยวดูแลน้องขวัญจนพี่ยังอิจฉาเลย คุณอาร์มเสียอีก ไม่ค่อยจะดูแลพี่เหมือนคู่ของน้องขวัญ” อริศราจีบปากปรายตามองพลางหัวเราะเสียงพลิ้วราวจะขบขันนักหนา แต่ขวัญชนกกลับรู้ว่าอีกฝ่ายพยายามข่มตนอยู่เนืองๆ “ไม่จริงหรอกค่ะ ขนาดมาเองไม่ได้ยังให้คนขับรถมารับเลยนี่คะ คนที่น่าอิจฉาที่สุดในตอนนี้น่าจะเป็นพี่แอนนามากกว่า” ขวัญชนกเปรยอย่างยกยอ แต่ในใจนึกหมั่นไส้ ทว่าดวงหน้าเจือยิ้มอ่อนหวานไร้เดียงสา “ก็เพราะแบบนี้ไง พี่ถึงยังคบกันอยู่ คุณอาร์มน่ะบ้างานมากเกินไป วันๆ ทำแต่งานไม่ค่อยมีเวลานักหรอก” พูดจบก็ยกมือขึ้นทัดผม ทำให้ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองมองตาลุกวาวเมื่อหลุบตามองแหวนเพชรเม็ดงามที่ส่องแสงวาบสาดนัยน์ตาจนหน้ามืด “ต๊าย น้องแอนนาขา เพชรน้ำงามมาก อย่าบอกนะคะว่ากำลังจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้” เสียงกรีดร้องเอ่ยแซวดังเซ็งแซ่ ขณะที่ดาราสาวชื่อดังที่แสร้งยกมือซ้ายซึ่งมีแหวนเพชรเม็ดงามสวมอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายรีบหดชักมือกลับราวกับตกอกตกใจที่ถูกจับได้ “อุ๊ย ไม่ใช่หรอกค่ะ” ตอบหน้าแดงซ่าน ท่าทางเช่นนั้นยิ่งทำให้ผู้คนที่รายล้อมรอบกายอยากรู้อยากเห็น คาดเดากันไปต่างๆ นานาว่าอีกไม่นานนางเอกสาวจะต้องมีข่าวดีกับนักธุรกิจหนุ่มหล่อชื่อดังอย่างแน่นอน “วงนี้ คุณอาร์มซื้อให้เป็นของขวัญเฉยๆ” หลายคนหันมาพยักพเยิดให้กัน แล้วมีใครคนหนึ่งพูดขึ้น “แหม ไม่ต้องอายหรอกค่ะน้องแอนนา เอาเป็นว่าพวกพี่รอฟังข่าวดีจากน้องนะคะ” สิ้นเสียงสาวสอง เสียงหัวเราะก็ดังครืน นางเอกสาวหน้าใสแย้มยิ้ม แต่หากใครจะมองให้ดีๆ มุมปากกลับหักลงอย่างหยามหยัน ส่วนดาราสาวรุ่นพี่ชื่อดังยิ้มหวานเสียจนน่าหมั่นไส้ หางตาปรายมองไปยังรุ่นน้องอย่างมีนัยที่รู้อยู่ว่าต่างไม่ชอบหน้ากันอยู่ลึกๆ เพราะต่างช่วงชิงความเป็นเบอร์หนึ่งด้วยกันทั้งคู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD