ทำเป็นเมิน

4508 Words
Chapter 01 : ทำเป็นเมิน นี่เป็นเวลาเจ็ดโมงเช้า ฉันต้องตื่นขึ้นมาช่วยแม่เตรียมของในครัวเพื่อจะทำอาหารแบบนี้เป็นประจำทุกวัน คำว่านอนตื่นสายแบบตะวันโด่งมะลิคนนี้ไม่เคยรู้จักหรอก แม่มักจะชอบพูดกรอกหูทุกวันว่าเราเป็นเด็กผู้หญิงต้องตื่นเช้าและงานบ้านงานเรือนต้องหัดทำให้เป็น เอาจริงๆ เด็กผู้ชายก็ทำได้เปล่าวะ “แล้วนี่ทำไมพี่เมฆยังไม่ตื่นอีกล่ะมะลิ” แม่ถามฉันพลางหยิบพวกผักออกมาล้าง “หนูจะไปรู้เหรอจ๊ะแม่ เดี๋ยวนี้พี่เมฆเค้าได้เป็นถึงสารวัตรแล้วนิ จะไปทำงานสายก็คงจะไม่มีใครว่า” อันนี้ตอบแบบประชด “เป็นสารวัตรก็จริง แต่ก็ควรจะตรงต่อเวลา และอีกอย่างอย่าทำตัวอีโก้สูงและเย่อหยิ่งในตำแหน่ง” “แม่ก็ไปบอกกับพี่เมฆสิจ๊ะ” “แม่ก็แค่พูดให้ฟังเฉยๆ เราก็เหมือนกันนะมะลิ ไม่ใช่มีพี่เป็นตำรวจแล้วจะไปทำตัวกร่างหรือหาเรื่องใครไปทั่วไม่ได้นะ” “โถ่...แม่” พูดแล้วทำหน้ายู่ใส่แม่ มีพี่เป็นตำรวจก็จริง แต่เขาน่ะไม่เคยจะสนใจฉันเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่คำสั่งของแม่เขาก็จะไม่มีทางทำ อย่างเมื่อคืนที่พี่เมฆตามไปเฝ้าที่คลับก็เพราะว่าเป็นคำสั่งของแม่ให้ตามไปดูแลน้องสาวคนนี้เพราะพึ่งจะเคยเที่ยวและดื่มเป็นครั้งแรก และก็...ดันได้กินพี่เมฆครั้งแรกด้วย อุอิ ^^ พูดถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ คนอะไรปากไม่ตรงกับใจ ปากบอกไม่นะ...อย่าทำ แต่กระแทกสวนมาไม่ยั้ง ถ้าถามว่าผิดไหมที่พี่น้องจะเอากัน ในความคิดของมะลิคนนี้ขอตอบเลยว่าไม่ผิด! เพราะมั่นใจได้ว่ายังไงเราสองคนก็ไม่ใช่พี่น้องสายเลือดเดียวกันแน่ๆ ไม่ฉันก็พี่เมฆที่จะต้องเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง แล้วที่แม่เลี่ยงไม่อยากบอกอาจจะกลัวว่าคนใดคนหนึ่งจะเสียใจหรือเปล่าในความคิดฉันนะ อีกอย่างคนมันชอบก็คือชอบ มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยจริงๆ และฉันแอบชอบพี่เมฆมาตั้งนานแล้วด้วย ตั้งแต่ตอนที่แตกเนื้อสาวน่าจะช่วงอายุสิบสี่หรือสิบห้าประมาณนี้ แต่อีพี่เมฆจะชอบพูดดักและกันท่าใส่กันตลอด คอยดูเถอะสักวันจะต้องมาสยบให้น้องมะลิคนนี้แน่นอน ..... โต๊ะอาหาร ตอนนี้เราสามคนนั่งร่วมวงกินข้าวกันอยู่ที่โต๊ะ ฉันเอาแต่จ้องมองพี่เมฆอย่างไม่ละสายตา ทำไมกันนะทั้งที่เมื่อคืนเราสองคนพึ่งจะเอากันแท้ๆ แต่วันนี้เขาดันทำตัวแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และยังทำเมินเฉยใส่ด้วยนะ “แม่...วันนี้แพรจะมาค้างที่บ้านเรานะ” พี่เมฆพูดกับแม่ “ได้สิ ว่าแต่ทางพ่อแม่เค้าไม่ว่าอะไรใช่ไหม?” “แพรเป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่น่ะ” “อ่อ ได้ๆ แม่จะได้เตรียมห้องให้” “ไม่ต้องแม่ แพรจะนอนห้องเดียวกับเมฆ” เคร้ง! เสียงช้อนหล่นกระทบลงบนจานข้าวที่เป็นจานกระเบื้อง “เป็นอะไรน่ะมะลิ มือไม้อ่อนแรงหรือยังไงนะ แค่ช้อนยังทำหลุดมือได้” แม่หันมาดุใส่ฉัน พี่เมฆเองก็หันมามองเช่นกัน แต่แค่แว้บเดียวแล้วก็หันไปตักข้าวเข้าปากอย่างเพิกเฉยต่อ “หนูอิ่มแล้วนะแม่” พูดจบก็ลุกเดินเอาจานไปเก็บในครัว ให้ตายสิ! นี่พี่เมฆจะเอายัยแพรนั่นมานอนที่บ้านในคืนนี้งั้นเรอะ หึ! คบกันถึงเดือนยังเหอะพามานอนบ้านอะ ทำแบบนี้มันจะหยามกันเกินไปแล้วนะ “ฝากล้างด้วย” อยู่ๆ เสียงทุ้มเข้มก็พูดขึ้นแล้ววางจานลงในอ่างล้างจานที่ฉันกำลังล้างอยู่ “เดี๋ยว! พี่กินพี่ก็ล้างสิ หรือถ้าไม่อย่างนั้นก็เรียกแพรสุดที่รักของพี่มาล้างให้ก็แล้วกันนะ” พูดพลางเดินชนไหล่เขาออกไปและแม่ก็เดินสวนเข้ามาพอดี “เดี๋ยวก่อนมะลิ หยุดยืนอยู่ตรงนั้นก่อน นี่สองคนพี่น้องมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า แม่สังเกตเห็นเราตึงๆ ใส่กัน ทะเลาะกันเรื่องอะไรไหนบอกแม่มาสิ” แม่ถามอย่างคาดคั้นต้องการคำตอบ “เปล่านิแม่ เรารักกันดีอยู่นะ แม่อะชอบคิดมากไปเอง” พี่เมฆพูดพลางเดินเข้ามากอดคอฉันแล้วฉีกยิ้มให้แม่ “พี่ชายคนนี้รักน้องสาวจะตาย จะทะเลาะกันได้ยังไงเนอะมะลิ” “พี่เมฆโกหก แม่อย่าไปเชื่อนะ” ตอบตรงกันข้ามแล้วผละตัวออก ก่อนจะไปยืนหลบอยู่หลังแม่ ครั้งนี้อีมะลิไม่คล้อยตามไอ้พี่เมฆมันหรอกนะ “อะไรกัน แม่งง?” “ก็เมื่อคื่นนี้อะ พี่เมฆ...” “มะลิ!!” พี่เมฆเรียกด้วยน้ำเสียงดุดันและเพ่งสายตามองมาประมาณว่าห้ามพูด “ทำไม เมื่อคืนเมฆทำอะไรน้อง บอกแม่มาเดี๋ยวนี้!” “ปะ...เปล่านะแม่ มะลิก็พูดไปเรื่อยเปื่อย” น้ำเสียงเขาดูเลิ่กลั่กแล้วใบหน้าหล่อเริ่มมีเหงื่อซึมผุดออกมา “มะลิบอกแม่มาว่าพี่เขาทำอะไรเรา” “พี่เมฆทำหนูเลือดออก! หนูยังเจ็บไม่หาย...” “เฮ้ยมะลิ!!” เขามองหน้าคาดโทษแล้วพูดขึ้นอีก “แม่เดี๋ยวเมฆขอคุยกับมะลิแป๊บนะ” พี่เมฆรีบคว้าตัวฉันแล้วเอามือปิดปากก่อนจะลากขึ้นไปบนห้องของเขาทันที เมื่อเข้ามาในห้องเขาก็เอามือออกและปล่อยตัวฉันให้เป็นอิสระ “พูดบ้าๆ อะไรออกไปรู้ตัวรึเปล่า” “ลิก็แค่บอกแม่ว่าพี่เมฆทำลิเลือดออกแค่นั้นเอง” ทำหน้าใสๆ ซื่อๆ ใส่ แล้วนั่งลงตรงปลายเตียงนอน “พี่คิดมากไปนะ” “ก็นั่นแหละ ไอ้คำว่าพี่ทำมะลิเลือดออกมันก็หมายความว่าเลือด...” เขานิ่งชะงักไป “หมายความว่าอะไรเหรอ? จะใช่สิ่งที่ลิคิดปะ” “แล้วมะลิหมายความว่าอะไร?” “หมายความว่า...” “ว่าอะไร” “ไม่บอกพี่หรอก ลิไปบอกกับแม่ดีกว่า” เตรียมลุกขึ้นแล้วจะเดินออกไปแต่ก็โดนแขนแกร่งล็อกตัวไว้แน่นเสียก่อน “ห้ามบอกเรื่องนี้กับแม่เด็ดขาดนะมะลิ ถ้าแม่รู้ท่านคงจะเสียใจมากๆ ที่เราสองคนพี่น้อง เอ่อ...” “ที่เราสองคนเอากันเมื่อคืนใช่ไหม พี่เมฆวางใจเถอะน่า ลิไม่บอกหรอกนะ แต่กับคนอื่นก็ไม่แน่” “กับคนอื่นก็ห้ามบอก โดยเฉพาะแพร ห้ามให้เธอรู้เรื่องนี้เด็ดขาดเลยนะ ห้ามเด็ดขาดเลย!” กำชับและเน้นย้ำอย่างจริงจังว่าไม่ให้บอกเรื่องนี้กับผู้หญิงที่ดูใจกับเขาอยู่ “พี่เมฆแคร์เธอขนาดนั้นเลยเหรอ กับลิพี่เคยแคร์บ้างหรือเปล่า มีสักนิดไหมนะ” ดึงแขนแกร่งออกแล้วหันไปประจันหน้ากับเขา “ลิไม่ได้อยากเป็นแค่น้องสาว ลิอยากเป็นมากกว่านั้น” “มันเป็นไปไม่ได้...เลิกคิดแบบนั้นเถอะนะมะลิ” “พี่เมฆฟังให้ดีๆ นะ” สองมือประคองใบหน้าหล่อไว้ “ลิรักพี่แบบที่ผู้หญิงผู้ชายเขารักกัน ลิไม่ได้รักแบบพี่ชาย” ว่าจบก็ประกบริมฝีปากบดจูบ สอดแทรกลิ้นเข้าไปภายในแล้วลิ้มเลียความหวานของน้ำแดงที่เขาพึ่งจะดื่มกินไปก่อนหน้า อื้อ... ถอนริมฝีปากออกช้าๆ แล้วจ้องมองหน้าพี่เมฆด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ลุ่มหลง ในใจก็คิดหาวิธีที่จะทำให้เขากับยัยแพรนั่นเลิกกัน ยอมเสียพี่เมฆให้ผู้หญิงคนอื่นไม่ได้จริงๆ เขาจะต้องเป็นของมะลิคนนี้คนเดียวเท่านั้น! “.....” พี่เมฆยืนนิ่งแล้วเม้มริมฝีปากเข้าหากัน “ลิรักพี่เมฆมาก เลิกปิดกั้นตัวเองได้แล้วนะ ลิรู้ว่าพี่เองก็พอจะรู้อยู่แก่ใจว่าเราสองคนยังไงก็ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ กันอยู่แล้ว” “เราเป็นพี่น้องกัน พี่ยังคงเชื่อแบบนั้น มะลิต้องตั้งสติ” มือจับบ่าฉันไว้แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมใส่ “ยิ่งมะลิทำแบบนี้ พี่ก็จะยิ่งหาทางออกไปจากวงจรบ้าๆ นี้ให้เร็วขึ้น” “พี่จะหาทางออกยังไงเหรอ?” “พี่ก็จะแต่งงานกับแพร แล้วเราสองคนก็จะย้ายออกจากที่นี่ไปสร้างครอบครัวกันใหม่” “ขอบอกตรงนี้เลยว่า...ยิ่งตีตัวออกห่างเท่าไหร่ ลิก็จะยิ่งเข้าหาคุณสารวัตรเมฆเท่านั้น เผลอๆ อาจจะทำเรื่องบ้าๆ แบบเมื่อคืนกับคุณสารวัตรอีกก็ได้นะคะ” ปัดมือที่จับบ่าอยู่ออก “ต่อจากนี้ไปลิคนนี้จะรุกจนพี่คลั่งและต้องการแต่ลิคนเดียว” กระตุกยิ้มแบบร้ายๆ แล้วเดินออกมาจากห้องของเขา ให้ตายเถอะ! หายใจได้ทั่วท้องสักที ตอนยืนอยู่ใกล้ๆ พี่เมฆแล้วทำไมถึงต้องทำตัวเกร็งๆ ด้วยนะเรา ใจหวิวมากเลยอะเมื่อพี่เมฆบอกว่าจะแต่งงานกับยัยแพรถ้าฉันยังตามตื้อพี่เขา เอาจริงๆ มะลิคนนี้นี่สวยและเอ็กซ์กว่าผู้หญิงคนนั้นตั้งเยอะ นมเราก็ใหญ่กว่า ทำไมอีพี่เมฆถึงมองข้ามผ่านไปนะ อย่ามาอ้างว่าเป็นพี่น้องนะ! มั่นใจว่ายังไงก็ไม่ใช่แน่นนอน ไม่ใช่!! ..... ช่วงหัวค่ำ ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงเมื่อเรียนออนไลน์วิชาสุดท้ายเสร็จ ช่วงนี้โรคโควิด 19 ยังคงระบาดอยู่ ทางมหาวิทยาลัยเลยให้นักศึกษาเรียนออนไลน์ที่บ้านไปพลางๆ ก่อน รอโรคบ้านี่มันซาลง ก็จะได้กลับไปเรียนตามปกติ และฉันก็คงจะต้องย้ายไปอยู่หอ เพราะว่ามันเดินทางไปเรียนสะดวกกว่าอยู่ที่บ้าน เดินลงมาชั้นล่างก็เห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งควงแขนเดินยิ้มกันเข้ามาในบ้าน แล้วในมือพี่เมฆก็ถือกระเป๋าเป้ใบหนึ่งน่าจะเป็นกระเป๋าเสื้อผ้าของหวานใจเขาแหละ หมั่นไส้ อยากจะถีบให้หงายทั้งคู่! “อ้าว...น้องมะลิ” ยัยแพรเอ่ยทักเมื่อเห็นฉัน นางเป็นพี่ฉันถึงสองปีแหละนะ อายุน่าจะยี่สิบสองมั้ง เป็นรุ่นพี่ปีสี่ ส่วนฉันอายุยี่สิบ เป็นรุ่นน้องปีสองเรียนอยู่คณะเดียวกับนาง แต่พอดีว่าไม่อยากจะเคารพและก็ไม่อยากจะเรียกนางว่าพี่ด้วยอะนะ เลยเรียกห้วนๆ ว่าแพร หรือยัยแพร ฉันไม่ตอบอะไร มองด้วยหางตาก่อนจะเดินเข้าไปหาแม่ในครัว “แม่จ๋า” พูดพลางกอดแม่จากทางด้านหลัง “มาแม่จงแม่จ๋านี่มีอะไรจะขออีกใช่ไหมเราน่ะ” “แฮ่ๆ แม่ชอบรู้ทันตลอด” ยิ้มแป้นแล้นใส่แม่ แล้วเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นออกมาดื่ม “จะมาขออะไรอีกล่ะ แล้วนี่เรียนเสร็จแล้วเรอะ” แม่ถามพลางปอกแอปเปิ้ลแล้วจัดเรียงใส่จานอย่างสวยงาม “ก็...” “แม่สวัสดีค่ะ” กำลังจะอ้าปากพูดก็มีมารเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน เธอเดินเข้ามาหาแม่ในครัวแล้วยกมือไหว้สวัสดีพร้อมกับฉีกยิ้มหวานให้ ส่วนข้างหลังก็มีคุณสารวัตรเมฆตามติดไม่ห่าง “สวัสดีจ้ะ มากันแล้วเหรอ แม่กำลังปอกแอปเปิ้ลให้กินกันอยู่เนี่ย” แม่ตอบรับแล้วฉีกยิ้มกลับ “พึ่งมาเมื่อกี้เอง ว่าแต่แม่ไม่ต้องปอกแล้วก็ได้ แค่นั้นก็เยอะจนจะกินไม่หมดแล้ว” พี่เมฆบอกกับแม่แล้วปลายหางตามามองฉัน “ทำไมไม่มาช่วยแม่ปอก ชอบกินนักก็ควรจะทำเอง” “.....” ไม่ตอบอะไร แต่มองหน้าพี่เมฆแล้วเมินใส่บ้าง “น้องไม่ได้ใช้ให้แม่ทำหรอก แม่ทำเอง และอีกอย่างน้องมันก็ติดเรียนออนไลน์ด้วย เมฆก็นะ ชอบว่าน้องมันตลอด” ว้ายๆ เขาคงจะลืมไปสินะ ว่ามะลิเนี่ยลูกรักของแม่ ฉันยิ้มเย้ยๆ ใส่พี่เมฆก่อนจะแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ตามหลัง “แม่...มะลิเยาะเย้ยแล้วแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เมฆอะ” พี่เมฆฟ้องแม่แล้วขึงตาดุใส่ฉัน “โตป่านนี้แล้วยังจะฟ้องแม่อีกเรอะเราน่ะ และก็อย่าไปแอบทำน้องมันทีหลังนะ เรื่องเมื่อคืนที่ทำน้องเลือดออกแม่ยังไม่ได้เคลียร์เลย” แม่พูดปรามพี่เมฆแล้วหันไปมองสายตาดุๆ ใส่ “.....” พี่เมฆถึงกับยืนหน้าซีดเลยทีเดียว ส่วนยัยแพรก็ได้แต่ยืนทำหน้าเอ๋อๆ แบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขา “ดีนะขาน้องไม่เป็นอะไรมาก แค่มีแผลถลอกนิดหน่อย ทีหลังก็จับน้องมันนั่งดีๆ ไม่ใช่จับยัดใส่รถจนขาน้องไปครูดกับอะไรก็ไม่รู้จนมีแผล” แม่เดินมาแล้วนั่งยองๆ ลงดูแผลที่ขาของฉัน “พี่เมฆรุนแรงกับหนูมากเลยเมื่อคืน หนูทั้งเจ็บ ทั้ง...” “มะลิน้องรัก พี่ว่าเราเอาแอปเปิ้ลออกไปนั่งกินกันดีกว่า” Chapter 02 : กันท่า(หมา)NC+ ห้องนอนพี่เมฆ เราสองสามคนนอนอยู่บนเตียงเรียงรายเป็นแถวหน้ากระดาน เรื่องของเรื่องก็คือแม่ให้ฉันมานอนคั่นกลางระหว่างพี่เมฆกับอียัยแพร เพราะกลัวว่าสองคนนี้จะทำอะไรเกินเลยกันก่อนเวลาอันควร พอดีแม่เป็นคนหัวโบราณอะนะ ไม่ได้กลัวอะไร กลัวว่าลูกสะใภ้ในอนาคตจะมีข่าวเสียๆ หายๆ เอาได้ แต่หารู้ไม่ว่าหนูที่เป็นลูกสาวแม่...ได้กินพี่เมฆไปแล้ว ^^ ซึ่งมะลิคนนี้มีเหรอที่จะปฏิเสธ ถึงแม่ไม่สั่งอีลิคนนี้ก็ไม่ให้พี่เมฆนอนกับยัยนั่นกันสองต่อสองหรอกนะ แต่ว่า... ถ้าเกิดสองคนนั้นแอบไปนัดเจอกันสองต่อสองข้างนอกล่ะ เราจะทำยังไงดีวะ และจะรู้ได้ยังไงว่าสองคนนี้ไปไหนต่อไหนกันมาบ้าง ที่สำคัญคือสองคนนี้มีอะไรกันหรือยัง? “ขอโทษนะแพร...พอดีแม่พี่แกเป็นคนที่เคร่งนิดๆ น่ะ” พี่เมฆพูดบอกกับยัยแพรข้ามผ่านหัวฉัน “ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ แพรเข้าใจนะคะ และอีกอย่างแพรก็เขินๆ ด้วย” ยัยแพรก็พูดข้ามหัวฉัน แล้วยิ้มกว้างให้พี่เมฆ “เขิน? แต่ก็ยอมมานอนบ้านผู้ชายแบบง่ายๆ เนี่ยนะ” ปากฉันพูดแดกดันแต่ตาก็ยังคงดูซีรีส์เกาหลีในโทรศัพท์มือถือ “มะลิ! พูดจาไม่ดีกับพี่แพรเขาแบบนี้ได้เรอะ” “ลิไม่มีพี่ ลิเป็นลูกคนเดียว” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่เมฆ เดี๋ยวแพรขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะคะ” ยัยแพรหน้าเสียแล้วยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะลุกเดินไปห้องน้ำ “นี่มะลิ หัดพูดจาให้มันดีๆ บ้างสิ แพรเขาโตกว่าเรานะ” พี่เมฆพูดพลางหยัดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วมองมาทางฉันอย่างหงุดหงิด “กลับไปนอนห้องเถอะ แม่ไม่รู้หรอก ป่านนี้น่าจะหลับไปละ” “ถึงกับไล่ลิเลยใช่ปะ นี่พี่เมฆเห็นผู้หญิงคนอื่นสำคัญกว่าลิเหรอ คงอยากจะเอากันเต็มทนสินะ!” “มะลิ!” เขาเรียกชื่อเสียงดังแล้วขึงตาดุดันใส่ “ถ้าพี่เมฆไล่ลิอีกรอบ ลิจะบอกทั้งแม่และยัยแพรว่าเราสองคนเอากันแล้ว ไม่ได้ขู่นะคะ!” พูดพลางลุกขึ้นนั่งแล้วขึงตาใส่อีพี่เมฆเช่นกัน “พี่คบกับยัยนั่นเพื่อที่จะกันลิให้ออกห่างจากพี่ใช่ไหมคะ แต่ขอบอกไว้ก่อน ยิ่งพี่จะกันลิออกห่าง ลิก็จะยิ่งเข้าหา” ล้มตัวลงนอนดูซีรีส์ตามเดิม ส่วนยัยแพรก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี สีหน้านางดูซีดเซียวผิดปกติ หรือว่าคงจะได้ยินที่ฉันกับพี่เมฆคุยกันเมื่อกี้? ได้ยินจริงๆ ก็ดีเหมือนกัน จะได้เลิกยุ่งกับพี่เมฆ ..... 23 : 00 น. ภายในห้องนอนมีเพียงแสงไฟสลัวๆ พี่เมฆกับยัยแพรหลับเป็นตายไปแล้ว เหลือก็แต่ฉันที่ยังคงนอนตาสว่างจ้าดูซีรีส์เกาหลีอยู่ วัยรุ่นเขาไม่นอนดึกกันหรอก นอนเช้าทีเดียวเลย “หืม...พระเอกจูบนางเอกอีกแล้ว อ๊าย” ฉันเผลอพูดเสียงดังและทำท่าทีเขินอายเมื่อพระเอกกับนางเอกจูบกัน “ในชีวิตจริงอยากจะลองจูบกับผู้ชายแบบในซีรีส์บ้างจัง” “จูบกับผีก่อนไหมมะลิ! เอะอะเสียงดังไม่มีความเกรงใจ” “ก็คนมันฟินจนลืมตัวนิ โถ่...” “ปิดโทรศัพท์แล้วนอนหลับไปได้แล้ว” “ไม่ปิด ลิจะดูให้จบทีเดียวเลย ไม่อย่างนั้นมันจะค้าง คุณสารวัตรเมฆนั่นแหละปิดตานอนไปเลยค่ะ” อยู่ๆ พี่เมฆก็แย่งโทรศัพท์มือถือไปแล้วปิดหน้าจอก่อนจะเอาไปวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง “นอนซะไอ้เด็กดื้อ” “เอาโทรศัพท์ลิคืนมาเลยนะพี่เมฆ” พูดพลางจะเอี้ยวตัวไปหยิบแต่พี่เมฆก็จับมือไว้แน่น “ลิฟ้องแม่นะ” “เอะอะก็ฟ้องแม่อย่างเดียวเลยเนอะ อย่างว่า...เด็กน้อยก็แบบนี้แหละนะ ขี้แย ขี้ฟ้อง” “.....” จ้องมองหน้าแบบค้อนๆ และไม่พูดสวนกลับ “มานอนข้างนี้ได้ปะ พี่จะนอนกอดแพร” “ไม่!” ฉันปฏิเสธเสียงแข็งแล้วล้มตัวลงนอนตามเดิม “ถ้าเกิดอยากกอดก็มากอดลิแทนนะ” พูดพลางดึงแขนแกร่งมากอดตัวเองไว้ “แค่นี้ก็จบ” “มะลิปล่อยแขนพี่เดี๋ยวนี้ มาจับไปกอดแบบนี้ไม่ได้นะ!” พี่เมฆพยายามดึงแขนตนเองออก ในจังหวะนั้นยัยแพรก็ตื่นแล้วลุกขึ้นพรวดมานั่งก่อนจะมองมาที่ฉันกับพี่เมฆ แล้วนางก็นิ่งค้างไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดขึ้น... “เอ่อ...คือ...” “มะ...ไม่ใช่อย่างนั้นนะแพร คือมะลิ...” “ทำไม พี่ชายจะนอนกอดน้องสาวมันแปลกนักรึไง ทำหน้าตกใจอย่างกับเห็นผีไปได้ แต่ถ้านอนไม่ได้ก็กลับบ้านไปดิ” “นี่มะลิ!” ดึงแขนออกอย่างแรง “จะเกินไปแล้วนะ ขอโทษแพรเดี๋ยวนี้เลย” พี่เมฆดุเสียงดังใส่ แล้วบอกให้ฉันขอโทษยัยนั่น “พี่บอกให้ขอโทษแพร เดี๋ยวนี้!” เขาเน้นย้ำอีกครั้ง “ไม่เป็นไรค่ะพี่เมฆ...แพรไม่ถือสาหรอกค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวแพรกลับไปนอนที่บ้านก็ได้ค่ะ” ยัยแพรพูดพลางยิ้มแห้งๆ ใส่พี่เมฆ แล้วเตรียมจะลุกออกจากเตียง “ไม่ต้อง แพรนอนที่นี่แหละครับ ส่วนมะลิกลับไปนอนที่ห้องตัวเองเถอะนะ แม่ไม่รู้หรอก” “อ๋อ นี่พี่เลือกที่จะไล่ลิเพื่อที่จะให้ผู้หญิงคนนี้นอนที่นี่กับพี่ใช่ปะ พี่เมฆจะทำแบบนี้จริงดิ” มองหน้าพี่เมฆก่อนจะหันไปมองยัยแพรนั่น “คงจะคันมากสินะ” ว่าจบฉันก็ลุกพรวดลงจากเตียงแล้วเดินออกมาจากห้องของเขาทันที แม่งโคตรจะหัวร้อนเลยตอนนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินออกมา และใจเจ้ากรรมก็ดันลืมโทรศัพท์มือถือไว้ในห้องเขาอีก “เดี๋ยวเช้าค่อยไปเอาแล้วกัน” ..... นี่ก็ดึกมากแล้ว มะลิคนนี้เคลิ้มๆ กำลังจะหลับ หนังตาทยอยปิดลงมาเรื่อยๆ แต่เหมือนฟ้าจะกวนบาทา อยู่ๆ ก็มีคนมาเคาะประตูห้อง ก๊อก ก๊อก ดีดตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตูในสภาพที่ชุดนอนยุ่งเหยิง เกงในกับเสื้อในก็ไม่ได้ใส่ ถ้านอนคนเดียวหรือห้องตัวเองก็ไม่ใส่เป็นปกติอยู่แล้ว มันรู้สึกอึดอัด พอเปิดประตูห้องก็เห็นชายหนุ่มยืนทำหน้าเข้มอยู่ แล้วในมือก็ถือของบางอย่างก่อนจะยื่นให้ฉัน “เอาโทรศัพท์มาให้ มะลิลืมไว้ที่ห้องพี่น่ะ” “.....” ไม่พูดอะไรตอบ มองหน้าก่อนจะรับโทรศัพท์มือถือมา แล้วเตรียมจะปิดประตูห้อง มือใหญ่ดันประตูห้องไว้แล้วพูดขึ้น “ผู้ใหญ่เอาของมาให้ขอบคุณสักคำมีปะ มารยาทสะกดเป็นไหมฮะ” มองหน้าแล้วจิกสายตาก่อนจะตอบกลับ “แล้วมาเคาะห้องคนอื่นดึกๆ ดื่นๆ นี่มีมารยาทมากเรอะ เอามือออกไป!” “เด็กอย่างเธอนี่มันสอนยากสอนเย็น” “ค่ะ ไม่เหมือนเด็กของพี่ที่ชื่อแพรหรอก รายนั้นคงจะสอนง่าย ง่ายชนิดที่ว่ามานอนบ้านผู้ชายทั้งๆ ที่คบได้แป๊บเดียว” “ถามจริง แพรไปทำอะไรให้มะลิเหรอ มะลิถึงไม่ชอบ” “ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ไม่มีอะไรเยอะ กลับไปนอนกกกันได้แล้วไป ลิจะนอนแล้วอย่ามากวนดิ” พูดพลางจะปิดประตูลงแต่ก็โดนพี่เมฆผลักประตูต้านไว้ แล้วอยู่ๆ เขาก็เดินพรวดเข้ามาในห้องของฉันเสียอย่างนั้น อะไรวะเนี่ย อีมะลิงง? “จะนอนแต่เปิดไฟไว้เนี่ยนะ” เขาพูดพลางมองมาทางฉัน แล้วจ้องมองนมแบบรู้เลยว่ามองอะ ใบหน้าหล่อแดงซ่านขึ้นมา กลอกตามองบนแล้วเดินไปปิดไฟ “อะนี่...หนูปิดไฟแล้ว พี่เมฆกลับไปนอนกับแฟนพี่เถอะ หนูจะนอนแล้ว” เดินไปกระโดดคว่ำหน้าลงที่เตียงแล้วหลับตาพริ้มอย่างไม่สนใจ “เลิกประชดสักทีเหอะ” พี่เมฆพูดพลางเดินไปเปิดไฟ “โอ๊ย พี่เมฆ! ลิจะนอนแล้ว” เอาหน้ามุดลงหมอนแล้วกระดกก้นขึ้น “ปิดไฟแล้วออกไปเลย ไป!” ไล่เขาอย่างหงุดหงิด “เดี๋ยวนี้ไล่พี่เรอะ” “ทีพี่ยังไล่ลิออกมาเลย เพราะฉะนั้น...เชิญออกไป” ดีดตัวนั่งแล้วผายมือเชิญให้พี่เมฆออกไปจากห้อง “ออก...ไป” “พี่ขอโทษมะลิก็แล้วกันนะ” เดินมานั่งลงที่เตียงข้างๆ ฉัน แล้วใช้มือลูบหัวอย่างแผ่วเบา “หัดทำตัวให้อ่อนโยนบ้างสิเราน่ะ” “เดี๋ยวๆ ผีเข้าหรือเปล่าเนี่ย” สองมือจับใบหน้าหล่อให้อยู่นิ่งๆ แล้วมองซ้าย มองขวา “ก็ปกติดีนะ แต่ดูแปลกไป” ว่าจบก็ปล่อยมืออกแล้วล้มตัวลงนอนท่าเดิม เอาหน้ามุดลงหมอนแล้วก้นกระดกชี้ฟ้า (คือนอนท่านี้มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว) “มะ...มะลิ” เสียงพี่เมฆดูตะกุกตะกัก “นะ...นอนดีๆ สิ” “นี่มันห้องลิ ลิจะนอนยังไงก็ได้” ส่ายก้นไปมาเป็นการเย้ายวนไปในตัว ยิ่งเกงในไม่ได้ใส่ด้วยนะ คงจะเห็นถึงเนื้อเน้นๆ “ยะ...หยุดทำแบบนั้นก่อน” “พี่เมฆนั่นแหละถ้าไม่อยากเห็นก็ออกไปได้แล้ว” ส่ายก้นไปมาเพื่อเย้ายวนหนักกว่าเดิม ยั่วขนาดนี้ทนได้ก็ให้มันรู้ไปเซ่! “มะลิ พะ...พี่...” “.....” “พี่ขอโทษนะ” ว่าจบร่างสูงก็ขึ้นมาบนเตียงแล้วใช้สองมือจับเอวเล็กไว้แน่น “ยั่วกันเองนะ” “ลิไม่ได้ยั่ว แต่ถ้าพี่อยาก ก็เอาได้นะ” ยกก้นขึ้นสูงอีกนิด ภายในห้องนอนมะลิ ชายหนุ่มถาโถมกระแทกเอวใส่หญิงสาวแบบดุเดือดในท่าหันหลัง(ท่าหมา) เขาต้านทานแรงยั่วสวาทของเธอไม่ไหว ยั้บยั้งชั่งใจไม่อยู่ จับผู้หญิงที่คิดว่าเป็นน้องสาวมาอัดกระแทกแรงๆ แบบไม่ปราณี จนคนตัวเล็กถึงกับกำจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่นเป็นการยึดเหนี่ยว และร้องครวญคราญเสียงดังก้องห้อง อ๊าห์ ปัก ปัก! “พะ...พี่เมฆ บะ...เบาหน่อย ลิจะไม่ไหว” ร้องบอกกับคนข้างหลังที่ตอนนี้ซอยเอวใส่รูร่องอย่างป่าเถื่อน “อ๊ะ...อ๊าห์ เบาๆ” “มันเบาไม่ได้ มะลิมายั่วพี่เอง” ท่อนเนื้อขนาดใหญ่ผุบเข้าผุบออกร่องสวาทแบบเป็นจังหวะและเน้นๆ ถี่ๆ ฉันได้แต่นอนจุกท้องน้อยแล้วน้อมรับความเจ็บจากการที่เขาอัดกระแทกมาแบบแรงๆ แก่นกายของพี่เมฆมีขนาดใหญ่มาก ทั่วๆ ไปคือเต็มที่ก็ไซส์ห้าสิบเก้า แต่ของอีพี่เมฆคือไซส์หกสิบอะจ้า ใหญ่เกิน! ที่รู้เพราะว่าเคยได้ยินเขาคุยเรื่องถุงยางกับพี่คิมเพื่อนสนิทเขาอะ คุยประมาณว่าขนาดไซส์หกสิบไม่มีถุงยางเพราะคนไม่ค่อยผลิต ของฉันก็เล็กแค่เนี้ย ไม่ฉีกก็ให้มันรู้ไปสิ “อื้อ...ลิเจ็บ” “ทนหน่อย พี่กะ...ใกล้แล้ว อ่าห์ ตอดดีมาก” เสียงครางเล็ดลอดออกมาจากปากเขาเบาๆ แล้วซอยเอวถี่ๆ ปึก ปึก! อ้าห์ อ๊าห์ ร้องครางดังขึ้นกว่าเดิมจนพี่เมฆต้องเอามือข้างหนึ่งมาปิดปากฉันไว้แน่น เพราะกลัวว่าแม่กับยัยแพรจะได้ยินเข้า “เบาเสียงไว้ เดี๋ยวแม่ได้ยินแล้วจะเป็นเรื่อง” ก้มกระซิบที่ข้างใบหูขาวแล้วขบเม้มเบาๆ ก่อนจะซุกหน้าลงที่ไหล่บาง “อะ...อื้อ...” ได้แต่ร้องอู้อี้ภายในลำคอเพราะโดนปิดปาก ตับ ตับ! ปึก! กระแทกได้ไม่นานร่างกำยำก็กระตุกเกร็งสองสามทีแล้วแน่นิ่ง ก่อนจะปลดปล่อยน้ำกามสีขาวขุ่นเข้าสู่ร่างกายฉัน “สะ...เสร็จแล้ว อ่าห์” พูดพลางค่อยๆ ถอนแก่นกายใหญ่ออกจากรูร่อง “ละ...เลือดไหลด้วย พี่ขอโทษ” “อื้อ พี่เมฆเล่นกระแทกเอาๆ ไม่ยั้งแบบนี้ไม่ไหลไม่ฉีกก็ให้มันรู้ไปสิ” พูดออกมาในขณะนอนฟุบคว่ำหน้าอย่างหมดสภาพ “เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะซื้อยาคุมมาให้กินแล้วกัน พอดีปล่อยในไม่ได้ใส่ถุงยาง” พูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเรียบเฉยสุดๆ “ที่จริงเราสองคนไม่ควรพลาดเป็นครั้งที่สอง” “พี่เมฆพลาดเองต่างหาก ลิก็อยู่ของลิเฉยๆ แต่พี่ดันมาเอาลิเอง ทำไมไม่ไปเอายัยแพรของพี่ล่ะ” พูดแล้วค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นมานั่ง “ดูดิ น้ำไหลออกมาแฉะเต็มเลย กลิ่นคาวด้วย” “ก็พี่อยาก...” อยู่ๆ ก็ชะงักไป “อยากอะไรเหรอ?” ถามแล้วเอียงคอสงสัยเล็กน้อย “อยากไปนอนแล้ว มันดึก ไปก่อนนะ” พูดจบก็เดินไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD