ตอนที่ ๒ คุณชายธัณ
ชาลิสานั่งมองนาฬิกาภายในห้องรับแขก เธอแหกขี้ตาตื่นมารอธัณภัทรตั้งแต่ตีห้า ทั้งที่พึ่งนอนไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ร่างกายมันอ่อนเพลียยังปรับตัวกับเวลาของเมืองไทยไม่ได้
“คุณลิสา มานั่งอะไรตรงนี้ครับ” ผู้ชายที่เจอเมื่อคืนเอ่ยถาม “ผมชื่อชัยครับ”
“รอคุณธัณค่ะ” เธอปิดปากหาวนอนมองเวลาก็เจ็ดโมงเช้าแล้ว ธัณภัทรไม่ลุกไปเรียนหรืออย่างไร
“คุณชายยังไม่ตื่นหรอกครับ คงเที่ยงๆ ถึงจะตื่นครับ”
“แล้วไม่ไปเรียนเหรอคะ” ชาลิสานึกสงสัย วันนี้ก็เป็นวันเรียนปกติของเขา แล้วทำไมถึงต้องตื่นเที่ยงแล้ววิชาเรียนในตอนเช้าจะทำยังไง
“คุณชายไม่เคยเข้าเรียนวิชาเช้าเลยครับ ให้เพื่อนในห้องเช็กชื่อให้ตลอดครับ” ชัยไม่อยากพูดอะไรมากไปเกินกว่านี้แล้ว จึงขอตัวออกไปทำงานของตนเอง
ชาลิสาเดินขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองอีกครั้ง เธอไม่น่าตื่นขึ้นมารอเขาตั้งแต่ตีห้าเลย หากว่าเขาจะตื่นตอนเที่ยงงั้นเธอก็จะนอนยาวได้อีกสามชั่วโมงแล้วค่อยตื่นก็คงทัน
“คุณชายตื่นเร็วจังครับ คุณลิสามานั่งรอแต่เช้าแล้ว” ชัยเอ่ยขึ้นเมื่อมองเห็นธัณภัทรเดินออกมาจากบ้าน
“ขอกุญแจรถ” เขาชี้นิ้วไปยังรถยนต์คันหนึ่ง ก่อนที่ชัยจะรีบวิ่งไปยังที่เก็บลูกกุญแจรถยนต์ “อย่าให้เธอทำตัววุ่นวาย” เขารับกุญแจรถยนต์มาถือเอาไว้ กดปลดล็อกแล้วขึ้นมานั่งประจำที่คนขับ
“ขับรถดีๆ นะครับ” ชัยทำได้เพียงยิ้มเท่านั้น วันนี้คุณชายของเขาดูแปลกตอนนี้พึ่งสิบโมงเช้าก็ออกจากบ้านไปแล้ว แถมยังสวมใส่ชุดนักศึกษาอย่างเป็นระเบียบกว่าทุกวัน คงเป็นวันที่สำคัญมากถึงทำให้ธัณภัทรลุกออกจากเตียงได้เร็วถึงเพียงนี้
ชายหนุ่มเดินทางมายังมหาลัยที่ตนเองเรียนอยู่ เขากำลังศึกษาอยู่ชั้นปีสุดท้ายในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ขับรถเข้าจอดในโรงจอดรถยนต์เสร็จแล้ว เขารีบเดินไปหากลุ่มเพื่อนที่รออยู่
“ไอ้ธัณ มึงสายอีกแล้ว กูบอกแล้วไงว่าอย่างสาย” ชัยพลทำหน้าเครียดอยู่หลายนาทีเมื่อมองเห็นเพื่อนรักที่นัดเตรียมตัวนำเสนอรายงานกลุ่มหน้าชั้นเรียนไม่ยอมมาสักที
“กูก็มาแล้วไง” เขานั่งลงที่ม้าหินอ่อน
“เห็นใจมันหน่อย กว่ามันจะลุกจากเตียงได้” พิภพเอ่ยแล้วหัวเราะ “กูนี่เชื่อมึงเลย ไม่เข้าเรียนแต่กลับได้เกรดดี”
“เมื่อคืนเป็นไงบ้าง” เขาเอ่ยถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
“หูชา แม่กูบ่นตั้งแต่อยู่โรงพัก เมื่อเช้าก็ยังไม่เลิกบ่น ดีนะที่พ่อกูไปทำงานที่อื่น ไม่งั้นกูคงได้เลือดออกหูแล้ว” ชัยพลเอ่ยพร้อมกับยื่นกระดาษรายงานในส่วนของธัณภัทรมาให้
“มึงก็โหดเกิน มันพูดไม่กี่คำเอง” พิภพที่จ้องงานในมือยังคงไม่ละสายตาไปที่อื่น
“ใครบอกให้มันมาปากดีกับไอ้ธัณล่ะ เจอคนจริงเข้าให้เป็นไง ถ้าไม่หมาหมู่คงได้ไปนอนหยอดข้าวต้มแล้วป่านนี้” ชัยพลสนับสนุนในสิ่งที่ธัณภัทรทำตลอด เขาเชื่อเสมอว่าเพื่อนมีเหตุผล พอเกิดเหตุเขาเองก็รีบเข้าไปร่วมด้วยช่วยกันเสมอ
“ถ้าเมื่อคืนกูไปด้วยคงถูกแม่ด่าอีกรอบ ไปเที่ยวไม่ได้ไปหาเรื่อง อะไรที่เลี่ยงได้มึงควรทำรู้ไหม” พิภพเหมือนพี่ใหญ่ภายในกลุ่ม เขาส่ายหน้าเมื่อมองอีกฝ่ายแล้วอีกฝ่ายก็ยังนิ่งเงียบ รู้ว่าสิ่งที่พูดไปนั้นมันไม่เข้าหูของธัณภัทร
“ไอ้ธัณ มึงมองนั้น” ชัยพลพยักหน้าไปด้านหลัง ก่อนที่ธัณภัทรจะหันมองตาม “ใช่อย่างที่กูคิดใช่ไหม”
“อาจารย์เชียวนะมึง อย่าไปยุ่งจะดีกว่า” พิภพเอ่ยเตือน
“กูว่าไม่ทันแล้ว เดินมาทางไอ้ธัณแล้ว” ชัยพลทำเสียงตื่นเต้นเอากระดาษตีแขนเพื่อนๆ ทั้งสองคน “ยิ่งมองยิ่งสวย ต่อให้เป็นอาจารย์กูก็ไม่ถือ”
“เช็ดน้ำลายมึงหน่อย” พิภพไม่ได้มีท่าทีอะไรเหมือนกับธัณภัทรเองก็เงียบเสียง จ้องมองที่กระดาษในมือเท่านั้น
“ธัณภัทรตอนเที่ยงขึ้นไปหาครูที่ห้องหน่อยนะ” อาจารย์สายรักที่เดินผ่านทางมา มองเห็นนักศึกษาหนุ่มที่เป็นลูกศิษย์ในวิชาที่เธอสอน “พวกเธอไม่เกี่ยวนะจ๊ะ” เธอหันหน้ามายิ้มให้กับชัยพลและพิภพ ก่อนเดินจากไป
“เอาแล้วไง มีเรื่องอะไรอีกวะ” ชัยพลคิดดีไม่ได้ เมื่อถูกอาจารย์เรียกให้เข้าพบเป็นการส่วนตัวแบบนี้ “หรือจะเป็นเพราะมึงไม่เข้าเรียนวิชาที่แกสอน จะให้มึงไปลงเรียนใหม่เทอมหน้าหรือเปล่าวะ”
“ไม่ใช่หรอกมั้ง เช็กชื่อให้ตลอด สอบก็ได้คะแนนดี แต่ก็ไม่แน่” พิภพออกความคิดเห็น ต้องไปพบอาจารย์ดูก่อนถึงจะรู้ว่ามีเรื่องอะไร ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นพวกเขาต้องช่วยเหลือธัณภัทรแน่นอน
หลังจากที่ปรับแก้รายงานอยู่พักใหญ่ พวกเขาทั้งสามคนเดินตรงมาที่โรงอาหารเพื่อทานข้าว เพราะขี้เกียจขับรถออกไปนอกมหาลัย เพราะในตอนบ่ายจะรีบไปเตรียมตัวนำเสนอรายงานกลุ่ม
“มึงรีบเกินไปไหม เอ้าๆ มึงเคี้ยวบ้างก็ได้” ชัยพลขมวดคิ้วให้กับธัณภัทรที่ทานข้าวเหมือนไม่ได้เคี้ยว รู้ว่าเพื่อนกำลังทำเวลาเพราะต้องไปพบอาจารย์สายรัก
“เจอกันที่ห้องเรียน” เขารีบหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม แล้วลุกเดินตรงไปยังห้องพักครู่ที่อาจารย์นัดเอาไว้
ภายในห้องพักครูดูเงียบ เพราะนี้เป็นช่วงเที่ยงวันทุกคนต่างออกไปทานข้าวกันหมด เหลือเพียงสายรักที่กำลังนั่งตรวจงานของนักเรียนอยู่ในตอนนี้
“เข้ามาสิจ๊ะ” เธอเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับธัณภัทร “ไม่ต้องคิดมากหรอก มานั่งก่อน” เธอกวักมือเรียกให้เขาเข้ามานั่งเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เราไม่เข้าเรียนวิชาครู ทำไมถึงสอบได้คะแนนดีแบบนี้” เธอตั้งคำถามกับนักเรียนในคลาสของตัวเอง เธอนับครั้งได้ที่ธัณภัทรเข้าเรียนจริงๆ ไม่เกินห้าครั้ง
“ความสามารถพิเศษครับ” เขาตอบหน้าตาเฉย ไร้อารมณ์หรือรอยยิ้มใดๆ สายรักได้แต่ยิ้ม นักเรียนคนนี้ช่างพิเศษไม่เหมือนใครจริงๆ
“ครูไม่ให้เธอผ่านหรอกนะ ขาดเรียนเกินกว่าที่กำหนด ต้องลงเรียนเทอมหน้า” เธอเปลี่ยนท่านั่งด้วยการเอาขาขึ้นมาไขว่ห้าง ใช้ศอกค้ำลงไปที่โต๊ะจ้องมองเขาด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ได้
“หึ... กำลังขู่ผมหรือเปล่าครับ” ธัณภัทรจ้องตาเธอกลับ “อยากได้เท่าไหร่ครับ”
“โนๆๆ ไม่อยากได้….” เธอกวาดสายตามองเขา อิจฉาคนที่เป็นแฟนของธัณภัทรจริงๆ คงได้สัมผัสร่างกายสูงใหญ่อยู่ทุกวัน มือของสายรักเอื้อมไปตรงหน้า เธอใช้ปลายนิ้วไล้ลงไปที่ลำแขนของเขา
“หึ” ธัณภัทรทำเสียงในลำคอ “บอกผมมาสิครับว่าต้องการอะไร ยังไงเทอมนี้ผมก็ต้องจบพร้อมเพื่อนๆ” เขาตั้งเป้าเอาไว้ว่าต้องจบพร้อมกับเพื่อนๆ
“มันก็ง่ายนิดเดียวเอง…..” เธอส่งสายตาเหมือนแม่เสืออยากงาบเหยื่อตรงหน้า “นี่จ้ะ เอาไว้เราไปคุยข้อตกลงกันที่นี่แล้วกัน” คีย์การ์ดสีขาวถูกยื่นมาตรงหน้าของธัณภัทร
“ผมหวังว่าข้อเสนอของอาจารย์ ผมจะสามารถตอบรับได้นะครับ” เขาหยิบคีย์การ์ดเก็บใส่กระเป๋ากางเกงในทันที
“มาให้ตรงเวลานะ ไม่งั้นจะถือว่า…ข้อตกลงของเราเป็นโมฆะ” สายรักยิ้มมุมปาก ก่อนที่เธอนั้นจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งเอาไว้เพียงธัณภัทรที่นั่งอยู่บนเก้าอี้