ตอนที่ ๓ ใจดีสู้เสือ

1377 Words
ตอนที่ ๓ ใจดีสู้เสือ ธัณภัทรเดินออกมาจากตึกเรียนหลังจากที่นำเสนอรายงานกลุ่มเสร็จแล้ว เวลาสี่ชั่วโมงในการเรียนวิชาเพียงหนึ่งวิชาเท่านั้น ชัยพลและพิภพเดินตามหลังมาติดๆ ทั้งสามเดินตรงมาที่รถยนต์ของพวกเขาที่จอดอยู่ไม่ห่างกันมากนัก ธัณภัทรเดินเลี่ยงตรงไปที่รถยนต์ของตนเอง แต่ในตอนนี้กลับมีแขกไม่ได้รับเชิญยืนอยู่ข้างๆ กับรถยนต์ของเขา ชาลิสายืนส่งยิ้มมาให้ชายหนุ่มที่มองเห็นแต่ไกล เธอโบกมือให้เขาด้วยความดีใจเสมือนว่ากำลังมองเห็นเพื่อนที่จากกันไปนาน อีกคนที่มองเห็นชะงักฝีเท้าเพียงครู่ก่อนเดินตรงมาที่รถ “เรียนเป็นไงบ้าง” เธอถามพร้อมรอยยิ้มสดใส ใบหน้ารูปไข่ขาวเนียน ปากนิดจมูกหน่อยแถมยิ้มทีหวานจนมดขึ้น ผมยาวถูกรวบตึงเป็นหางม้าม้วนเป็นลอน “......” เขาเลือกที่จะไม่ตอบ กลับส่งสีหน้าไม่เป็นมิตรมาให้กับเธอแทน เมื่อปลดล็อกรถยนต์ได้ไม่รอช้าที่จะนำพาตัวเองขึ้นมานั่งบนรถ “ลงไป!” ธัณภัทรเอ่ยเสียงดุไล่ให้ชาลิสาลงจากรถยนต์ของตนเอง อีกฝ่ายกลับไม่ทำตามดึงสายคาดล็อกตัวเองอย่างแน่นหนา คิวเข้มขมวดชนกันมือหนาเอื้อมดึงสายล็อกให้ปลดออก การกระทำแข็งกระด้างของเขาทำให้เธอหวั่นใจกลัวว่าอีกฝ่ายจะใช้กำปั้นทุบตี ใบหน้าคมยังคงนิ่งเฉยแต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความดุดัน ชาลิสาจับสายคาดเอาไว้ไม่ยอมลงจากรถ “หูหนวกหรือไงลงไป!!” เขาตวาดเสียงดัง จนตัวของเธอสะดุ้งด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าธัณภัทรจะขึ้นเสียงใส่เธอเช่นนี้ “ไม่ลงค่ะ” เธอตอบเสียงเบา ให้ตายยังไงเธอก็จะไปกับเขา “ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหม…???” เขาทำสีหน้าตั้งคำถามกับหญิงสาวตรงหน้า ส่งสายตาไม่พอใจพร้อมกับกัดฟันจนสันกรามขึ้นนูนเป็นทางยาว “ฉันเป็นผู้ดูแลของคุณนะ คุณอดินให้ฉันมาดูแลคุณ รายงานทุกอย่างคุณไปไหนฉันก็จะไปด้วย” เธอบอกสิ่งที่ต้องทำในขณะที่อยู่ร่วมชายคาบ้านกับเขา และแน่นอนว่าเธอไม่มีทางออกไปพักอาศัยที่อื่น เพราะนี้คือคำสั่งของพ่อของเขา “ไสหัวออกไปจากรถของฉัน!!” เขาตวาดขึ้นอีกครั้ง คนตัวเล็กนั่งสั่นเพราะความกลัวมือที่กำสายคาดยังคงกำแน่นยึดเหนี่ยวเอาไว้ “บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าล้ำเส้น” “ฉันกำลังทำหน้าที่ของตัวเอง ฉันจะไม่รบกวนคุณจริงๆ” อันไหนที่บอกว่าไม่รบกวนธัณภัทรอยากถามเธอนัก ที่ทำอยู่ตอนนี้คือการรบกวนมากจนอารมณ์ตอนนี้อยากยกเท้าถีบเธอให้กลิ้งลงไปจากรถของเขาด้วยซ้ำ “พ่อให้เงินเธอเดือนเท่าไหร่ ฉันให้เป็นสิบเท่า แล้วอยู่ให้ห่างๆ ฉันซะ!!” ธัณภัทรยื่นข้อเสนอกับเธอ แน่นอนว่าความคาดเดาของเขามีสิทธิ์ถูกเกินแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เพราะผู้หญิงที่เข้ามาล้วนแล้วต้องการเงินทั้งนั้น รอยยิ้มที่ตรงมุมปากของธัณภัทรหุบลงทันที “ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ ฉันเป็นคนซื่อสัตย์กับงานของตัวเอง ขอร้องเถอะค่ะให้ฉันไปด้วยนะคะ” “โถ่เว้ย!!” ธัณภัทรเปิดประตูรถยนต์ของตัวเองเดินอ้อมมาอีกด้านที่เป็นฝั่งของชาลิสานั่ง ประตูถูกเปิดออกกว้าง “ลงมา!!” เขากดเสียงต่ำจ้องมองเธอให้อีกฝ่ายกลัว “ฉะ ฉันไม่ลงฉันจะด้วย” เธอรีบกำสายคาดให้แน่นมากยิ่งขึ้น หากว่าเขาไม่ให้เธอไปด้วยหรือทำอะไรไปมากกว่านี้เธอจะร้องให้ดังทั่วบริเวณแน่นอน “ผู้หญิงน่ารำคาญ ลงมา!!” เขาเริ่มพูดเสียงดังยืนเอาเท้าสะเอวด้วยอารมณ์โกรธ วันนี้เขาอารมณ์เสียเรื่องอาจารย์สอนวิชาคาบเช้ามาแล้ว ยังให้ต้องมาอารมณ์เสียกับชาลิสาอีก ในตอนนี้เขามองเห็นเธอตัวเท่ามด “ฉันจะไปด้วย ให้ฉันขับรถให้คุณก็ได้ ฉันมีประโยชน์นะมีประโยชน์มาก” เธอมองชายหนุ่มอายุน้อยกว่าสองปีด้วยสายตาอ้อนวอนให้อีกฝ่ายเห็นใจ ในการทำหน้าของเธอบ้าง “แต่เธอไม่มีประโยชน์อะไรกับฉัน จะลงมาดีๆ หรือจะให้ฉันลากเธอลงมาแทน” ธัณภัทรเอ่ยเสียงเกรี้ยวกราดอีกครั้ง สายตาคมที่จ้องมาชาลิสาถึงกลับกลืนน้ำลายลงคอ ขาทั้งสองข้างมันสั่นไม่เคยพบเจอผู้ชายเช่นธัณภัทรมาก่อน เขาแข็งกระด้างแล้วยังไม่ให้เกียรติผู้หญิงตัวเล็กๆ เช่นเธอ หรือว่าต้องงัดกลยุทธ์สาวงามมาใช้กับเขา “คุณ ฉันขอไปด้วยนะ นะ ฉันจะไม่รบกวนคุณจริงๆ นะ คิดซะว่าฉันเป็นคนรับใช้คุณแล้วกัน” ชาลิสาทำเสียงอ้อนแถมสีหน้าอ้อนให้เขาไปหนึ่งที “หูหนวก? บอกให้ลงมา” เขายังคงยืนยันที่จะไม่ให้ชาลิสาไปด้วย “จะทำยังไงคุณถึงจะให้ฉันทำหน้าของตัวเอง” ไม่รู้จะหาทางออกเรื่องนี้เช่นไร ทั้งที่หาข้อมูลของเขาก่อนที่จะมาดีแล้ว ไม่คิดว่าจะรับมือยากมากขนาดนี้ เสียงปิดประตูข้างชาลิสาดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ธัณภัทรจะเดินอ้อมมานั่งประจำที่คนขับ เขากระชากเครื่องยนต์ออกจากที่ด้วยอารมณ์โกรธ ภายในรถยนต์เงียบเหมือนกับป่าช้า หญิงสาวที่นั่งโดยสารมาด้วย ได้แต่ใช้มือกำสายคาดแน่น ธัณภัทรขับรถเหมือนชีวิตจะอยู่ได้ไม่เกินพรุ่งนี้ เธอเกร็งเท้าตามหลายครั้งและยังหัวใจเต้นแรงลุ้นว่ารถจะไปจิ้มตูดรถคันหน้าเมื่อไหร่ สีหน้าของธัณภัทรยังคงนิ่งเงียบ รถยนต์ขับไม่ได้ชะลอความเร็วลงแต่อย่างใด ชาลิสาไม่แม้แต่จะกล้าหายใจเสียงดังกลัวว่าจะทำให้เขาอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ ขับรถมานานเกือบสามสิบนาที รถยนต์จอดนิ่งที่หน้าไนต์คลับแห่งหนึ่ง ชาลิสามองภาพตรงหน้าแล้วตั้งคำถามต่างๆ เธอมองเสี้ยวหน้าของเขาเพียงเล็กน้อย หากเอ่ยคำพูดใดออกไปคงทำให้อีกฝ่ายหงุดหงิดใจแน่นอนในตอนนี้ ธัณภัทรดับเครื่องยนต์ดึงชายเสื้อสีขาวที่เหน็บเอาไว้ในกางเกงออกมา ชาลิสาเห็นเขาทำเช่นนี้ถึงกลับตาโตเอาแขนทั้งสองข้างกอดตัวเองไว้ แต่เขากลับเอี้ยวตัวไปด้านหลังเพื่อหยิบเสื้อหนังสีดำมาสวมแทน “ตามมา” เขาออกคำสั่งสั้นๆ ให้เธอเดินตามมาด้านใน เวลาใกล้พลบค่ำด้านหน้าป้ายไฟให้ความสว่าง มีคนเดินเข้าเดินออกอยู่ตลอด ธัณภัทรเดินเข้ามาด้านในมีชาลิสาตามมาติดๆ วันนี้เธอสวมใส่เสื้อยืดแขนยาวคอวีรัดรูปพร้อมกับกางเกงยีนเอวสูงขาบานห้าส่วน รองเท้าผ้าใบพร้อมกระเป๋าสะพายหลังใบเล็กสีดำใส่ของต่างๆ ที่จำเป็น เมื่อผ่านเข้าประตูใหญ่มาได้แล้ว มีทางแยกสามทางซ้ายขวาและตรงไปด้านหน้า ธัณภัทรเดินเลี้ยวมาทางซ้ายอย่างคุ้นเคย เดินลงบันไดปูนอย่างรวดเร็วไม่สนใจอีกคนที่เดินแกมวิ่งตามหลังให้ทัน “ไอ้ธัณทางนี่” ชัยพลโบกมือให้เขา แต่สายตากลับสะดุดเข้ากับผู้หญิงที่เดินตามมาด้านหลัง “ใครวะ น่ารักเป็นบ้า” เสียงกระซิบถามไม่ได้ทำให้ธัณภัทรเปลี่ยนสีหน้า “โรคจิต” เขาเอ่ยเสียงเย็นชา แล้วเดินไปหยิบไม้คิวที่วางเอาไว้ที่มุมห้องขึ้นมาเช็ด ห้องโถงใหญ่ที่มีโต๊ะสนุกเกอร์อยู่สิบกว่าโต๊ะ ตอนนี้มีคนอยู่ไม่มากนักส่วนมากจะมีแต่ผู้ชาย ผู้หญิงก็มีแต่น้อยพนักงานสาวก็ไม่มาก เธอมองด้วยความสนใจเพราะดูแปลกตาไม่เคยมาในที่แบบนี้ “โรคจิตอะไรน่ารักแบบนี้วะ งั้นกูหิ้วกลับห้องด้วยดีกว่า” “ก็แล้วแต่มึง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD