9 ก้าวแรก

1706 Words
๙ ก้าวแรก สถานบันเทิงของอธิคมน์ถูกปิดตามที่คาดการณ์เอาไว้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานที่จะสาวมาถึงตัวเขาได้ ส่วนตัวการสำคัญที่ทำให้ผับของเขาถูกค้นคราวนี้ไม่ผิดไปจากที่คาดคิดไว้แต่แรก ชายหนุ่มรับหลักฐานทั้งหมดมาจากใครบางคนที่นั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะตัวใหญ่ แล้วกวาดสายตามองดูคร่าวๆ กระทั่งเขาพยักหน้าเบาๆ ฝ่ายนั้นจึงก้าวออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ ชายหนุ่มมองตามไปจนประตูปิดลง มีคนของเขาเดินไปส่งด้านนอกเช่นทุกครั้ง คนคนนี้เป็นสายลับให้กับเขามาช้านาน มีคุณสมบัติที่เขาชอบมากคือพูดน้อย เก็บความลับเก่ง ข้อมูลที่ได้มาแม่นยำฉับไว แน่นอนว่าเขาเลี้ยงคนประเภทนี้เอาไว้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพื่อเป็นหูเป็นตาให้กับเขา เงินที่เสียไปจึงถือว่าคุ้มค่า... “ว่าไง” อธิคมน์กรอกเสียงลงไปในสมาร์ตโฟน ดวงตาของเขากร้าวขึ้นเมื่อได้ฟังรายงานจากนพ “ให้คนของเราจับตาดูมันเอาไว้ ช่วงนี้มันคงร้อนเงิน เลยทำได้ทุกอย่าง” ชายหนุ่มวางสายจากนพ สีหน้าของเขายามนี้หากใครมาเห็นเข้าแม้แต่หายใจดังก็ยังไม่กล้า ชายหนุ่มหยิบเสื้อคลุมขึ้นสวม พร้อมกับผุดลุกจากเก้าอี้ภายในอาคารแห่งหนึ่งซึ่งลึกเข้าไปคือบ่อนขนาดใหญ่ แต่ละวันมีเงินหมุนเวียนนับร้อยล้านบาท เป็นที่มั่นอีกแห่งซึ่งมีเขาเป็นนายใหญ่คอยคุมบังเ**ยน ริวและโดมมองไปรอบๆ พลางพยักหน้าให้กับลูกน้องมือดีที่เฝ้าประจำอยู่ที่นี่ จากนั้นก้าวตามเจ้านายออกไปอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ช่วงนี้ไม่ค่อยน่าไว้วางใจนัก เพราะมีคนคิดขัดแข้งขัดขาอธิคมน์อยู่บ่อยครั้ง หนึ่งในนั้นคือเสี่ยทรงชัย ขณะที่ศักดิ์ก็หาทางกำจัดชายหนุ่มทุกครั้งที่มีโอกาส จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เวลาเดียวกันกังสดาลกำลังเลือกชุดทำงานเพื่อใส่ในวันรุ่งขึ้น หญิงสาวหยิบเสื้อขึ้นมาทาบกับตัวแล้วเอียงซ้ายเอียงขวา ลองจนพอใจจึงนำเก็บเข้าตู้ รู้สึกตื่นเต้นกับการเริ่มต้นการทำงานในวันแรกอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นจึงออกจากห้องนอนตรงไปยังห้องครัว หยิบวัตถุดิบที่ซื้อติดมือมาจากวันก่อนที่ออกไปซื้อเสื้อผ้ากับเขาขึ้นมาวางเรียงบนเคาน์เตอร์ ตั้งใจทำอาหารให้อธิคมน์รับประทานเป็นพิเศษ เพื่อขอบคุณที่เขาเอาใจใส่หล่อนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ผ้ากันเปื้อนสีชมพูอ่อนถูกสวมลงมา จากนั้นก็เริ่มต้นเตรียมเครื่องปรุงและวัตถุดิบต่างๆ โดยไม่ลืมหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาถ่ายภาพเก็บเอาไว้ ไม่ได้จะลงอินสตาแกรมเหมือนอย่างใครๆ แค่อยากเก็บเอาไว้ดูในวันเหงาๆ เท่านั้น ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในห้องครัว หญิงสาวก็เก็บอาหารที่ปรุงสุกแล้วใส่ตู้เย็นไว้ เมื่อเขากลับมาก็แค่อุ่นอีกครั้งเป็นอันเสร็จ ร่างบางเดินไปนั่งรอที่หน้าทีวี ไล่ดูตั้งแต่สารคดีสัตว์โลก หนังรักหวานๆ ไปจนถึงการ์ตูน กระทั่งเผลอหลับไปกับโซฟานั่นเอง จนฟ้าเริ่มมืด เสียงทีวีที่ดังเบาๆ มาจากห้องนั่งเล่นทำให้คนที่เพิ่งก้าวเข้ามาภายในเพนต์เฮาส์หันไปมอง ริมฝีปากได้รูปยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนปิดประตูและใส่รหัสล็อก จากนั้นเดินตรงไปยังเจ้าของร่างเล็กที่นอนขดอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ชายหนุ่มยอบตัวนั่งลงบนพื้น แล้วกวาดสายตามองเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋ม ไล่ตั้งแต่หน้าผากมน คิ้วโก่งราวคันศร ขนตางอนยาวเป็นแพ จมูกโด่งเล็ก นวลแก้มสีหวานและริมฝีปากสีเรื่อ ลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดลงมา ทำให้คนที่เผลอหลับไปนานลืมตาขึ้นมอง เมื่อริมฝีปากนุ่มถูกบดเบียดแผ่วเบา หญิงสาวก็เกือบหวีดร้องด้วยความตกใจ แต่เมื่อสบตาคมกริบแสนคุ้นเคยหัวใจที่โลดขึ้นอย่างรุนแรงก็ค่อยๆ กลับสู่อาการปกติ “โทษที ฉันทำเธอตกใจหมดเลยใช่ไหม” อธิคมน์ยิ้มนิดๆ หญิงสาวจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับอุทานออกมาเบาๆ เมื่อชายหนุ่มยกร่างของหล่อนขึ้นไปนั่งบนตักกว้าง เขาชอบทำแบบนี้เสมอเวลาอยู่ด้วยกัน ชอบให้หล่อนนั่งตักแบบนี้แล้วจูบหล่อนอย่างหนักหน่วงเนิ่นนานราวกับอดอยากมาจากไหน ทั้งที่ทุกค่ำเช้าเขากับหล่อนแทบไม่ห่างจากกัน “ค่อยยังชั่ว” เขากระซิบออกมาเบาๆ ทำให้หญิงสาวยิ้มขำ ไม่บ่อยนักที่อธิคมน์จะหลุดมาดเข้มๆ ของตัวเองแบบนี้ “วันนี้กั้งทำอาหารเอาไว้ให้คุณกินด้วยนะคะ” บอกพลางเลื่อนปลายนิ้วลงบนแก้มสากที่เริ่มมีหนวดขึ้นเป็นตอๆ อย่างเพลิดเพลิน ชายหนุ่มจึงไล่งับปลายนิ้วเรียวของหญิงสาว ทำให้คนชอบยั่วหัวเราะคิกด้วยความจั๊กจี้ “ทำอะไรบ้าง” “ของที่คุณชอบทั้งนั้น” หญิงสาวตอบขณะที่หัวใจเริ่มเต้นแรงเมื่อปล่อยให้เขาขบปลายนิ้วเอาไว้เบาๆ จนเกิดความเสียวปราดจากปลายนิ้วลงไปยังหน้าท้องน้อย “เค็ม” เขาเอ่ยออกมาทำให้หญิงสาวค้อนขวับชักนิ้วออกจากปากเขาแล้วประคองใบหน้าคมเข้มเอาไว้ในมือทั้งสองข้างก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากร้ายกาจ แล้วมอบรสชาติอ่อนหวานจับใจ เกือบนาทีเลยทีเดียวหญิงสาวจึงยอมผละใบหน้าออกมา “แล้วแบบนี้ล่ะ ยังเค็มอยู่ไหมคะ” เจ้าของดวงตากลมโตคู่สวยสบนัยน์ตาสีเข้มที่มีแวววิบวับอยู่ในนั้น “หวานมาก” คำตอบของเขาทำให้คนรอฟังหัวเราะเสียงใสพร้อมกับซบหน้าลงบนซอกคอแกร่งแล้วกอดเขาเอาไว้แน่น ชายหนุ่มกอดตอบ หัวใจของเขาผ่อนคลายลงอีกครั้งเมื่อกลับมาเจอหล่อน ได้จูบริมฝีปากหวานๆ และได้ฟังเสียงอ้อนๆ ชายหนุ่มลูบแผ่นหลังนุ่มของหญิงสาวแผ่วเบา รอยยิ้มเมื่อครู่ค่อยๆ จางลง จากนี้ไปชีวิตของกังสดาลคงไม่ง่ายเหมือนเก่า แต่เขาจะไม่ยอมปล่อยหล่อนให้ตกอยู่ในอันตรายเหมือนกับเขาที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมของพวกหมาป่าล่าเนื้อเด็ดขาด บางทีวันข้างหน้าเขาและหล่อนอาจต้องแยกกันชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของตัวหล่อนเอง เมื่อคิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ช้อนร่างกลมกลึงลุกขึ้นจากโซฟา หญิงสาวทำหน้าตื่นเมื่อเขาอุ้มหล่อนตรงไปยังห้องนอนแทนที่จะพากันไปรับประทานอาหารเย็นที่หล่อนตั้งใจเตรียมไว้ให้เขาโดยเฉพาะ “ไม่กินข้าวก่อนเหรอคะ” กังสดาลเอ่ยถาม เพราะเมื่อสบนัยน์ตาคมที่มองมาหญิงสาวก็รู้ว่าเขาต้องการอะไร “ไว้ค่อยกินทีหลัง” ประตูห้องนอนถูกปิดเพียงอึดใจ เสียงลมหายใจของทั้งสองหอบออกมาเบาๆ จากนั้นเปลี่ยนเป็นครวญครางที่คลอไปกับเสียงเสียดสีของเนื้อหนั่นแน่นที่กระทบกันจากบนเตียงภายในห้องนอนที่เปรียบดั่งสรวงสวรรค์ บนดิน เขาจะตักตวงความสุขจากหล่อน พอๆ กับที่มอบความสุขให้หล่อนอย่างเต็มที่... ในวันแรกของการทำงาน กังสดาล กุ๊ก แอน หยาด ต่างรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งหมดถูกพาไปรายงานตัวกับหัวหน้างานที่ดูแลพวกหล่อนโดยตรง ทั้งหมดรู้สึกได้ว่าหัวหน้าคนนี้สุภาพอ่อนโยนต่อกังสดาลเป็นพิเศษ แม้แต่ตัวผู้จัดการเองก็ยังมีท่าทีที่เรียกว่าให้เกียรติเกินกว่าที่พวกตนจะคาดหวังเอาไว้ “ไม่น่าเชื่อว่าพวกเราสี่คนจะได้ทำงานด้วยกันหมดเลย ดูสิ โต๊ะยังตั้งติดๆ กันอีก” หยาดเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มยินดี ในแผนกบัญชีนั้นมีพนักงานอยู่แล้วสิบสามคน เพิ่มมาอีกสี่ รวมเป็นสิบเจ็ดคน ดูครึกครื้นในสายตาของหยาด “ยินดีต้อนรับน้องๆ ทั้งสี่คนนะคะ มีอะไรไม่เข้าใจก็ถามพี่ๆ ได้เลยนะจ๊ะ พวกพี่ทุกคนยินดีให้คำแนะนำจ้ะ” ริสาเป็นพนักงานบัญชีรุ่นพี่ กล่าวต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ทว่าสายตาที่มองกังสดาลนั้นออกจะแปลกไป สักหน่อยในความรู้สึกของเพื่อนๆ “ขอบคุณมากค่ะ” ทั้งสี่สาวร้องบอกออกมาพร้อมกัน จากนั้นทั้งหมดก็เริ่มเรียนรู้งานในขอบเขตของตนเองผ่านสายตาของผู้จัดการสาวใหญ่ที่อยู่ในห้องส่วนตัว มณีมาศใช้ปลายนิ้วกดมู่ลี่ที่บังสายตาลงเล็กน้อย แล้วดึงปลายนิ้วออกมาเมื่อประตูห้องถูกเคาะพร้อมกับร่างของใยไหมที่ก้าวเข้ามาหา “เป็นไงบ้าง” มณีมาศเอ่ยถามพลางกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตนเอง “เรียบร้อยดีค่ะ สาวๆ กระตือรือร้นดีมาก แต่ดูเหมือนจะมีคนกังขาเรื่องการเข้ามาทำงานของสี่สาว” ผู้จัดการสาวใหญ่ยกยิ้มนิดๆ ทว่าแววตายังคงราบเรียบดุจทะเลน้ำลึกดังเดิม “ปล่อยไป ตราบใดที่ไม่พูดหรือทำอะไรที่เสียหายต่อสาวๆ พวกนั้นก็เฉยไว้ก่อน หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลให้รีบมาบอกกับพี่ทันที” “ค่ะ” ใยไหมรับคำพร้อมกับก้าวออกไปจากห้อง ทันทีที่ประตูปิด เสียงจากโทรศัพท์ตั้งโต๊ะก็ดังขึ้น “สวัสดีค่ะท่าน เรียบร้อยค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ ได้ค่ะ สวัสดีค่ะ” มณีมาศวางสายจากบุคคลสำคัญแล้วผ่อนลมหายใจยาว ช่วงพักเที่ยง ทั้งสี่สาวรับประทานอาหารพร้อมกันที่ร้านอาหารใกล้กับอาคารสำนักงาน ด้วยหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรากันทุกคน ทำให้มีหนุ่มๆ ที่อยู่บริษัทเดียวกันและบริษัทใกล้เคียงให้ความสนใจไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือบุคคลที่กังสดาลเคยเดินชนกับเขาที่หน้าร้านกาแฟชื่อดังเมื่อไม่นานมานี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD