EP.1 ความรักที่พังทลาย
บทที่ 1
"นั่นขิมจะทำอะไร" คำถามธรรมดา ๆ ของภูผาทำให้เพลงขิม หญิงสาวร่างบางที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องส่วนตัวของเขาถึงกับสะดุ้งเฮือกใหญ่ ก่อนเธอจะค่อย ๆหันกลับมามองชายร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอ
"ขิมเห็นพี่ภูไม่ได้ล็อกห้องนี้ก่อนจะออกไป ขิมเลยว่าจะเข้าไปทำความสะอาดให้ค่ะ" เพลงขิมตอบอย่างตรงไปตรงมา ในมือของเธอทั้งสองข้างก็กำลังถืออุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่
"พี่เคยบอกแล้วนี่ ว่าถ้าพี่ไม่อนุญาตให้ขิมเข้าไป ขิมก็ไม่มีสิทธิ์" ชายร่างสูงพูดขึ้นพลางจ้องมองไปยังเพลงขิมด้วยสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาไม่ชอบให้เธอเข้ามาวุ่นวายกับของส่วนตัวเลย โดยเฉพาะห้องๆนี้
"ขิมแค่จะเข้าไปทำความสะอาดให้ ถ้าพี่ภูไม่พอใจที่ขิมจะทำ ขิมก็จะไม่ทำอีกค่ะ" เพลงขิมกล่าวขอโทษชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงสั่นคลอเล็กน้อย เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา แม้ว่าตอนนี้มันเกือบจะล้นขอบตาแล้วก็เถอะ
"ถ้าขิมจะทำก็ทำไป แต่อย่ามาวุ่นวายกับห้องของพี่อีกนะ"
ว่าจบ ภูผาก็เดินเข้าไปในห้องของเขาพร้อมกับปิดประตูใส่หน้าเพลงขิมเสียงดังปั้ง หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ได้แต่มองตามเขาด้วยแววตาละห้อย จริง ๆ เขาก็เคยบอกเธอแล้วแหละว่าเขาไม่ชอบใครให้เข้าไปยุ่งวุ่นวายในห้อง ๆ นั้น ทุกครั้งที่เขาจะไปไหนเขาก็จะล็อกมันไว้ มีก็แต่วันนี้แหละที่เขาไม่ได้ล็อก เธอจึงคิดว่าเขาคงจะให้เธอเข้าไปทำความสะอาดให้ แต่เธอคงคิดผิด...
หลังจากที่ภูผาเข้าไปในห้องได้ไม่นาน เขาก็เดินออกมาพร้อมกับซองเอกสารสีน้ำตาลเข้ม เขาหันไปมองเพลงขิมที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าครุ่นคิดอะไรสักอย่าง ก่อนจะหันกลับมาล็อกประตูห้องไว้
"พี่ภูมองหน้าขิมแบบนั้น มีอะไรจะพูดกับขิมเหรอคะ" เป็นเพลงขิมที่ตัดสินใจถามเขาก่อน เพราะเธอสงสัยกับสีหน้าของเขาเมื่อครู่นี้มาก ดูเหมือนว่าเขาอยากจะพูดอะไรกับเธอเลย
"พี่มองเฉย ๆ ไม่มีอะไร"
"จริงเหรอคะ แต่ดูพี่มีอะไรนะ" หญิงสาวยังคงคะยั้นคะยอถามต่อด้วยความอยากรู้
"พี่บอกไม่มีก็คือไม่มีสิขิม ขิมจะถามเซ้าซี้อะไรนักหนา"
"ขิมขอโทษค่ะ แล้ววันนี้พี่จะกลับมานอนที่นี่ไหมคะ ถ้าไม่กลับ ขิมจะได้กลับไปนอนที่บ้าน"
"ขิมนอนที่นี่แหละ เสร็จธุระแล้วพี่จะกลับมา"
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถามต่อ เขาก็เดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เธอยื่นอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง เพลงขิมยืนมองเขาออกไปด้วยแววตาเศร้าเล็กน้อย เธอสะบัดหัวไปมาเบา ๆ เพื่อไล่ความคิดบางอย่างออกไป ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะรู้สึกน้อยใจหรือสงสัยอะไรเธอก็เลือกที่จะเก็บมันไว้ จะไม่เอามาเป็นปัญหาทำให้เธอกับภูผาต้องทะเลาะกันเด็ดขาด
ในขณะที่เธอกำลังเดินเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดไปเก็บที่ห้องเก็บอุปกรณ์ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอรีบวางอุปกรณ์ทั้งหมดลง ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูด้วยความสงสัยว่าใครโทรเข้ามา
"หมอพรีมนี่นา"
ติ๊ด!
"สวัสดีค่ะหมอพรีม มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ" เพลงขิมเอ่ยถามปลายสายด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
"สวัสดีค่ะคุณขิม หมอจะโทรมาถามว่าคุณขิมสะดวกเข้ามาฟังผลตรวจวันนี้เลยได้ไหมคะ พอดีว่าหมอทำเรื่องลาพักร้อนไว้น่ะค่ะ เลยอยากรีบเคลียร์คนไข้ให้หมดก่อนจะพักยาว"
"โอ๊ะ! ขิมลืมเรื่องตรวจไปเลยค่ะ มัวแต่ยุ่งอยู่กับงานแล้วก็เรื่องที่บ้านอีกนิดหน่อย" เพลงขิมบอกกับปลายสายด้วยความตกใจเล็กน้อย เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องไปฟังผลตรวจก็ตอนนี้แหละ ให้ตายเถอะ...เธอกลายเป็นคนขี้ลืมไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
"นั่นแหละค่ะ คุณขิมสะดวกเข้ามาเลยไหมคะ หมอจะได้รออยู่ที่โรงพยาบาล แต่ถ้าไม่สะดวกจะเข้ามาพรุ่งนี้ก็ได้นะคะ หมอยังอยู่อีกหนึ่งวัน"
"สะดวกค่ะคุณหมอ เดี๋ยวขิมเข้าไปวันนี้เลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ " หลังจากวางสายคุณหมอ เพลงขิมก็รีบเข้าไปในห้องนอน เธอหยิบเอาผ้าขนหนูผืนนุ่มออกมาจากที่แขวนแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำทันที
สองชั่วโมงต่อมา...
รถเก๋งสีขาวสวยของเพลงขิมถูกขับเคลื่อนมาจอดยังที่จอดรถของโรงพยาบาล หญิงสาวที่อยู่ในตัวรถกำลังจัดการเก็บกระเป๋าส่วนตัวพร้อมกับจัดระเบียบร่างกายให้เรียบร้อยก่อนที่เธอจะเปิดประตูแล้วก้าวขาลงมาจากรถด้วยสีหน้าที่ดูสดใส
"วันนี้รถติดเป็นบ้าเลย" เพลงขิมเดินไปบ่นไป เธอไม่ชอบการจราจรในกรุงเทพเลยเพราะมันทำให้เธอไปไหนมาไหนสายตลอด นี่อุตส่าห์เผื่อเวลาออกมาแล้วนะ แต่ก็ยังไม่วายสายไปตั้งหลายนาที
"มาฟังผลตรวจกับหมอพรีมค่ะ" เพลงขิมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มพร้อมกับยื่นบัตรประจำตัวให้กับหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งประจำอยู่หน้าช่องยื่นบัตร
"คุณเพลงขิมใช่ไหมคะ หมอพรีมแจ้งแล้วค่ะ คุณเพลงขิมเข้าไปหาคุณหมอในห้องได้เลย ตอนนี้ก็คงจะรอคุณเพลงขิมอยู่ เพราะว่าไม่มีคนไข้ที่คุณหมอจะต้องตรวจแล้ว"
เมื่อเพลงขิมได้ยินที่หญิงสาวคนนั้นบอก เธอก็ยกยิ้มให้อีกฝ่ายพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ ก่อนจะเดินไปที่ห้องประจำของหมอพรีมที่อยู่ไม่ไกลกันนัก
ก๊อกๆๆ...
"สวัสดีค่ะหมอพรีม" เพลงขิมยกมือขึ้นสวัสดีคุณหมอวัยกลางคนที่นั่งอยู่ในห้องอย่างนอบน้อม
"เหงื่อโชกมาเชียว นั่งให้หายเหนื่อยก่อนนะคะคุณขิม" หมอพรีมพูดด้วยรอยยิ้ม
"ขอบคุณค่ะ" ว่่าจบ หญิงสาวก็นั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะของคุณหมอด้วยสีหน้ารู้สึกผิดอะไรบางอย่าง
"คุณขิมทำหน้าแบบนั้นทำไมคะ มีอะไรไม่สบายใจไหมเอ่ย" หมอพรีมเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง
"เอ่อ! ขิมรู้สึกผิดน่ะค่ะ ที่วันนั้นไม่ได้อยู่รอฟังผลตรวจ วันนี้เลยต้องรบกวนคุณหมอแท้ ๆ " เพลงขิมตอบอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะคิดย้อนไปถึงสองวันก่อนที่เธอมาตรวจสุขภาพที่นี่ วันนั้นเธอรู้สึกเพลียแล้วก็เหนื่อยกับร่างกายมาก ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เลยขับรถมาที่โรงพยาบาลคนเดียว แต่ในขณะที่กำลังรอผลตรวจอยู่นั้น แม่ของเธอก็ดันโทรเข้า บอกว่าให้ไปรับน้อง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องด่วนมาก เธอเลยตัดสินใจเดินออกจากห้องไป โดยบอกกับหมอพรีมว่าวันหลังจะกลับมาฟังใหม่
"อ๋อ! ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณขิม หมอเข้าใจค่ะ" หมอพรีมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ขณะที่เธอกำลังจัดเตรียมเอกสารอะไรบางอย่างอยู่ "ช่วงนี้อาการเป็นยังไงบ้างคะ มีอาเจียนหรือปวดหัว เวียนหัวหรือเปล่า"
"ไม่มีอาเจียนค่ะ แต่เวียนหัวบ่อยมาก"
"โอเคค่ะ งั้นเรามาฟังผลตรวจกันเลยนะคะ"
"ค่ะ" เพลงขิมตอบกลับด้วยประโยคสั้นๆพร้อมกับรอยยิ้มที่เบ่งบานไปทั่วใบหน้า
"จากผลตรวจนะคะ" หมอพรีมพูดขึ้นพลางมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ทำเอาเพลงขิมกับถึงรอลุ้นไม่ไหว
"อะไรเหรอคะ"
"คุณเพลงขิมตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วค่ะ"
พรึ่บ!!
สิ้นสุดเสียงของคุณหมอ เพลงขิมได้ยินดังนั้นก็ถึงกับนั่งอึ้งไปชั่วขณะ เธอท้องได้สามเดือนแล้วอย่างนั้นเหรอ แน่นอนว่านี่มันคือข่าวดีที่สุดในชีวิตของเธอเลย น้ำตาแห่งความดีใจไหลพรากออกมาจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัว เธอยกมือขึ้นมาสัมผัสกับหน้าท้องที่แบนราบของตนอย่างอ่อนโยน นี่สินะ...ความรักของแม่ที่มีต่อลูกเมื่อรับรู้ว่ามีเด็กตัวน้อย ๆ อยู่ในนั้น
"ร้องออกมาเลยค่ะคุณขิม ตอนหมอรู้ว่าตัวเองท้อง หมอร้องไห้ดังก๊ากจนครอบครัวตกใจเลยค่ะ" หมอพรีมเล่าถึงประสบการณ์ของตัวเอง
"ฮึก! ขิมดีใจจนร้องไม่ออกค่ะ" เพลงขิมพูดไปลูบท้องตัวเองไป เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการมีลูกมันจะมีความสุขมากขนาดนี้ ถ้าพี่ภูผาของเธอรู้ เขาก็คงดีใจไม่แพ้กันแน่ๆ เพราะเขาเคยบอกเธอว่าเขาอยากมีลูกตัวเล็กๆมาเดินวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้าน แค่คิดก็มีความสุขมากแล้ว
"ฮ่า ๆ หมอดีใจด้วยอีกครั้งหนึ่งนะคะคุณขิม"
"ขอบคุณมากค่ะหมอพรีม แล้วนี่ขิมต้องทำอะไรต่อบ้างคะ เรื่องฝากครรภ์"
"อ๋อ เรื่องฝากครรภ์ คุณขิมจะฝากกับหมอตั้งแต่วันนี้เลยก็ได้นะคะ แต่หมอว่าถ้าจะให้ดีต้องให้คุณพ่อมาเซ็นยืนยันด้วย เวลาทำอะไรต่าง ๆ มันจะได้ไม่ยุ่งยากน่ะค่ะ"
เมื่อได้ยินที่คุณหมอบอก เพลงขิมก็พยักหน้ารับทราบในทันที เธอคิดว่าถ้าให้เธอฝากเองคนเดียวพี่ภูคงไม่พอใจมากแน่ ๆ ถ้าอย่างนั้นเธอก็ควรจะกลับไปบอกพี่ภูเองแล้วกัน เมื่อคิดได้อย่างนั้น..หญิงสาวก็ยกมือขึ้นไหว้คุณหมอพรีมพร้อมกับกล่าวลาคุณหมออย่างนอบน้อมเช่นเคย
"ขิมขอบคุณคุณหมอมากนะคะ"
"เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วค่ะ นี่เป็นใบเสร็จรับยานะคะ คุณขิมสามารถเดินไปรับยาที่ช่องรับยาพิเศษได้โดยไม่ต้องรอคิวนะคะ"
"ค่ะ ขอบคุณค่ะ"
หลังจากที่ออกมาจากห้องตรวจของหมอพรีม เพลงขิมก็เดินไปยังช่องรับยาพิเศษตามคำสั่งของคุณหมอทันที พอเธอได้รับยาเสร็จ หญิงสาวก็เดินกลับไปที่รถของเธออย่างสุขใจ "วันนี้แม่มีความสุขมากที่สุดในโลกเลย"
เพลงขิมพูดกับเจ้าตัวเล็กในท้องด้วยสีหน้าสุขใจ เธอพึ่งเข้าใจความหมายของคำว่าแม่ก็วันนี้แหล่ะ เพียงแต่มีเจ้าตัวเล็กอยู่ในท้อง เธอก็เฝ้าฝันถึงวันที่ต้องคลอดเจ้าตัวเล็กเสียแล้ว ถึงตอนนั้นหน้าตาของเด็กน้อยจะเหมือนพ่อหรือแม่ก็ไม่รู้ "โทรหาคุณพ่อดีไหมคะ เจ้าหมูน้อย"
เพลงขิมยังลังเลอยู่เล็กน้อย เธอควรจะโทรบอกภูผาตอนนี้เลยหรือจะกลับไปบอกที่บ้านเลยนะ แต่ถ้าโทรบอกตอนนี้มันก็ดีอีกอย่าง เธอจะได้ไม่ต้องมานั่งรอเวลา เพราะยังไงมันก็เป็นการเซอร์ไพส์ซะอย่างหนึ่ง เมื่อคิดได้แบบนี้แล้ว เพลงขิมจึงหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วกดโทรหาภูผา ชายคนรักของเธอทันที
ติ๊ด!
"อ้าวขิม มีอะไรหรือเปล่า" ปลายสายเอ่ยถามเธอด้วยความเฉยชา
"พี่ภูยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ พอดีขิมมีเรื่องอะไรคุยด้วย มันสำคัญมาก" เพลงขิมตอบด้วยความตื่นเต้นสุดขีด
"เอ่อ...ก็ยุ่งอยู่นะ แต่ก็คุยได้ ขิมมีอะไรเหรอ"
"คือว่า เอ่อ!"
"ไอ้ภู ฉันว่าแกควรเลือกได้แล้วนะ แบบนี้มันทำให้พวกฉันอึดอัดว่ะ"
เพลงขิมถึงกับชะงักเมื่อเธอได้ยินเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกเข้ามาในสายของภูผา และเสียงของผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอจำได้ว่าเสียงนั่นเป็นเสียงของ"ขวัญดาว" พี่สาวคนโตของเธอเอง ว่าแต่พี่เธออยู่กับภูผาได้อย่างไร ภูผาไปที่บ้านเธออย่างนั้นเหรอคำถามมากมายหลายอย่างมันไหลเข้ามาในหัวของเธอเต็มไปหมด หญิงสาวพยายามตั้งสติให้ดีแม้ว่าตอนนี้ความคิดของเธอมันจะเกินเลยไปมากแค่ไหนก็ได้