02
มาเฟียหนุ่มเดินย่างกายเข้าไปประชิดร่างหญิงสาวที่ยืนอยู่คนเดียวเงียบเงียบ
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
“อยากรู้จัก”
“จริง ๆ ไนล่า แนะนำตัวกับคุณแล้วนะคะ”
“อยากรู้จักเป็นการส่วนตัว”
อึก~~
หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อมาเฟียหนุ่มยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ใบหูของเธอ ก่อนจะเอ่ยประโยคเมื่อครู่ ลมหายเบา ๆ ค่อย ๆ รดลงที่ตรงลำคอของเธอ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงของเขาจะคงติดอยู่ที่ปลายจมูกของเธอ
“ไนล่า ก็แนะนำตัวไปแล้วไงคะ”
หญิงสาวเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วลง ก่อนที่เสียงใครบางคนจะดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“ไนล่า!”
“คะ ค่ะ แม่ใหญ่”
“มายืนเกะกะอะไรอยู่ตรงนี้”
“ไนล่า ยืนรอคุณพ่อค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยตอบ แม่เลี้ยงของเธอด้วยความเสียงที่หวาดกลัว ท่าทีของไนล่า แตกต่างออกไปเมื่ออยู่กับพ่อและแม่ของเธอ
“แล้วคุณละนะ มายืนทำอะไรตรงนี้ กับลูกสาวของฉัน”
“ ถูกใจน่ะครับ เลยอยากรู้จัก น้องน่ารักดี”
คำพูดที่ตรงไปตรงมาของมาเฟียหนุ่ม ทำเอาไนล่่่าก้มใบหน้าด้วยความหวาดกลัว
“งั้นเหรอคะ”
“ครับ”
“ต้องขอโทษที พอดีพวกเราต้องกลับบ้านแล้วน่ะค่ะ”
“เดี๋ยวผมไปส่งครับ”
“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ พอดีบ้านเรา มีคนขับรถ”
น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่เต็มไปด้วยความไม่พอใจเอ่ยขึ้นตรง ๆ กับมาเฟียหนุ่ม ทำเอาไนล่าเม้มริมฝีปากเข้าหากันด้วยความอึดอัด เธอเกลียดช่วงเวลาที่ต้องยืนอยู่ท่ามกลางสงครามประสาทแบบนี้ที่สุด
“…”
@บ้านเศรษฐวีรยะธรรมรงค์
ร่างหญิงสาวถูกเหวี่ยงลงโซฟาหรูภายในบ้านอย่างรุนแรง มือบางคว้าร่างตัวเองขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
“อะ…โอ๊ย!”
“แรด ! แรดเหมือนแม่ มันไม่มีผิด!”
“ไนล่า ทำอะไรผิดคะ แม่ใหญ่”
ริมฝีปากบางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อเธอสีหน้าของคนที่เป็นแม่เลี้ยงจ้องมองเธอ
“เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมต้องทำรุนแรงแบบนั้นกับไนล่าด้วย”
เสียงไพลินแม่ของไนล่าเอ่ยขึ้น ด้วยความเป็นห่วงลูกสาว ทว่าจู่ ๆ มือของอีกฝ่าย กลับเข้าไปกระชากเส้นผมของเธออย่างแรง
“อะ…โอ้ยย อะไรคะเนี่ย”
“ คงจะสอนวิชาโสเภณีชั้นเลิศ มาให้กันเป็นอย่างดีน่ะสิ สันดานกระหรี่ มันถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบนี้นี่เอง ลูกมันถึงได้ แรด ๆ ๆ ไปอ่อยผู้ชายเขาถึงที่”
“ปึด!!! โอ้ยยย”
“อย่าทำแม่นะคะ”
ไนล่าตัดสินใจผลักร่างแม่เลี้ยงของเธอเต็มแรง ก่อนจะจ้องมองด้วยสายตาโกรธเคือง
“อย่ามองฉันแบบนั้นนะ อีเด็กอกตัญญู!”
เสียงแหลมสูงตวาดลั่น ก่อนที่ฝ่ามือจะเงื้อขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไนล่ากลับก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ดวงตาที่เคยหวาดกลัวกลับแข็งกร้าวขึ้นมาแทน
“ไนล่าไม่เคยทำอะไรผิด! อย่ามากล่าวหาแบบนี้อีก”
น้ำเสียงของเธอสั่นน้อยๆ แต่ชัดเจนพอให้ทุกคนในห้องได้ยิน
“หึ…ปากเก่งไม่ต่างจากแม่แกจริงๆ” แม่เลี้ยงหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน ก่อนจะหันไปมองไพลินด้วยสายตาดูถูก “สอนลูกให้ดีเถอะ ก่อนจะเดินตามรอยแม่ไปขายตัว”
“พอเถอะ!” ไพลินตวาดเสียงแข็ง แม้สีหน้าจะซีดเผือด แต่ก็พยายามยืนขวางลูกสาวเอาไว้
ไนล่ากำมือแน่น ความเจ็บจากร่างกายไม่เท่ากับความแค้นที่ค่อยๆ ก่อตัวในใจ เธอรู้ว่าต่อให้เถียงไปก็ไม่มีใครเชื่อเธออยู่ดี แต่ในหัวกลับมีภาพของชายคนนั้น—ดวงตาสีเทาคมกริบที่มองเธอราวกับจะกลืนกิน—ลอยขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้ ในเงามืดนอกกำแพงบ้าน รถยุโรปสีดำเงาวับคันหนึ่งจอดนิ่งอยู่ เงาของชายร่างสูงในชุดสูทเข้ารูปกำลังยืนพิงรถ สูบบุหรี่ และมองตรงไปยังหน้าต่างชั้นสองของบ้าน…
ริมฝีปากหยักยกขึ้นเล็กน้อยอย่างพอใจ—เพราะเขาเพิ่งเห็นเหยื่อของตัวเองแสดงสายตาแบบ “สู้” ออกมาเป็นครั้งแรก
“ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!” เสียงแม่เลี้ยงของไนล่ากรีดแหลมลั่น หลังถูกผลักจนเซถอยไปสองก้าว
“นี่บ้านพ่อฉัน ไม่ใช่บ้านคุณ” ไนล่าโต้กลับ ดวงตาที่เคยหลบเลี่ยงกลับจ้องอย่างไม่เกรงกลัว
เพียงเสี้ยววินาที บรรยากาศในห้องก็เย็นเยียบลงทันที
แม่เลี้ยงขบกรามแน่น ก่อนจะก้าวกระชากแขนไนล่าเต็มแรง ร่างบางถูกดึงจนเสียหลักล้มกระแทกกับโต๊ะกลาง ปัง! เสียงแก้วบนโต๊กราวกับจะตกแตก
“ไอ้สันดานเนรคุณ! คิดว่ามีแม่คอยปกป้องแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ!”
มืออีกข้างฟาดเข้าที่ใบหน้าของไนล่าอย่างแรง เสียงดังจนไพลินรีบพุ่งเข้ามาขวาง
“หยุดนะ! นี่มันเกินไปแล้ว” ไพลินตะโกนด้วยเสียงสั่น แต่แววตายังเต็มไปด้วยความโกรธ
“เกินไปงั้นเหรอ” แม่เลี้ยงหัวเราะเย้ยหยัน “ฉันแค่สั่งสอนเด็กสำส่อนที่กล้าไปยั่วผู้ชายต่อหน้าฉัน”
ไนล่ากำหมัดแน่น หัวใจเต้นแรงด้วยทั้งความเจ็บและความแค้น เธออยากตะโกนปฏิเสธ แต่รู้ดีว่าคำพูดของเธอไม่มีทางเปลี่ยนความคิดของคนพวกนี้ได้
เลือดร้อนผ่าวซึมออกที่มุมปาก กลิ่นคาวคลุ้งอยู่ในลมหายใจ
เธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง แววตาที่เคยหวาดกลัวเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว
“จำไว้นะคะ ฉันอาจจะไม่สู้ตอนนี้…แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะแพ้ไปตลอด”
คำพูดนั้นทำให้แม่เลี้ยงนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะกระแทกไหล่ใส่ไนล่าแล้วเดินออกไป เสียงส้นสูงกระทบพื้นดังก้องในห้องโถงที่กลับมาเงียบงัน
เหลือเพียงเสียงลมหายใจถี่ของหญิงสาว และหัวใจที่เต้นแรงเหมือนกำลังประกาศสงคราม
แม่เลี้ยงยังยืนหอบหายใจแรงหลังถูกไนล่าผลัก ใบหน้าที่แต่งจัดบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
“แกนี่มันไม่ต่างจากแม่แกจริงๆ…จ้องแต่จะเอาตัวรอด” น้ำเสียงเย้ยหยันบาดลึกเข้าไปถึงขั้วหัวใจ
ไนล่าเม้มปากแน่น สองมือกำจนเล็บจิกลงในฝ่ามือ แต่ไม่ยอมตอบโต้ ไพลินก้าวเข้ามายืนข้างลูกสาว ดวงตาแข็งกร้าว
“ถ้าจะพูดกับลูกฉันแบบนี้อีก ฉันก็จะไม่อยู่เฉย”
“หึ…แล้วคิดว่าคนอย่างฉันจะกลัวพวกแกเหรอ”
แม่เลี้ยงเชิดหน้าขึ้นอย่างท้าทาย
“อย่าลืมว่านี่บ้านของใคร”
เสียงฝีเท้าหนักดังขึ้นจากทางบันได ทุกคนหันไปมองเศรษฐวีรยะธรรมรงค์ก้าวลงมาด้วยสีหน้าขรึม
“เกิดเรื่องอะไร”
น้ำเสียงนิ่งแต่แฝงแรงกดดัน ทำให้บรรยากาศในห้องยิ่งตึงเครียด
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่สั่งสอนเด็กดื้อให้รู้จักที่ต่ำที่สูง” แม่เลี้ยงเอ่ยเสียงหวานขึ้นมาทันที
พ่อของเธอหันมามองไนล่า เพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะเลื่อนสายตาไปทางไพลิน
“พวกเธอสองคน…อย่าทำให้บ้านนี้มันวุ่นวายไปมากกว่านี้ได้ไหม”
หัวใจไนล่ากระตุกวูบลงไปในความว่างเปล่า คำพูดนั้นไม่ได้ตัดสินว่าใครถูกหรือผิด เพียงแต่สั่งให้เธอกลืนความเจ็บปวดนั้นลงไปอย่างเงียบๆ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา