03 ชายชุดดำในเงามืด

1190 Words
หลังจากทุกอย่างจบลงหญิงสาวตัดสินใจ เดินกลับห้องตัวเองหัวใจที่ร้าวระบมจากคนเป็นพ่อ ไนล่านั่งนิ่งอยู่บนเตียงในห้องนอนเล็กของตัวเอง เสียงหัวใจเต้นแรงดังอยู่ในหู รอยแดงบนแก้มยังแสบวาบ แต่เจ็บปวดที่สุดสำหรับเธอ คือความรู้สึกที่ไม่มีใครยืนอยู่ข้างเธอจริงๆ นอกจากแม่ แสงไฟนอกหน้าต่างสาดเข้ามาบางส่วนกลบความมืดภายในห้อง เธอคว้ากระเป๋าสะพายเล็กๆ พร้อมกับกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ และเสื้อคลุมบางๆ ก่อนจะค่อยๆ แง้มประตูออก เสียงภายในบ้านเงียบสนิท มีเพียงเสียงนาฬิกาแขวนบนผนังดัง ติ๊ก…ต๊อก เป็นจังหวะ ไนล่าเดินลงบันไดอย่างระมัดระวัง กลั้นหายใจทุกครั้งที่ส้นรองเท้าสัมผัสกับพื้น ประตูเล็กด้านข้างเปิดออก พร้อมกับลมกลางคืนที่พัดเข้ามาปะทะใบหน้า เธอก้าวออกไปอย่างเร็วเหมือนกลัวว่าหากช้ากว่านี้จะถูกดึงกลับเข้าไป ถนนหน้าบ้านเงียบสงัด ไนล่าเดินเรื่อยๆ โดยไม่สนใจว่าจะไปที่ไหน รู้เพียงแค่ว่าต้องหนีออกมาจากบ้านหลังนั้นให้ได้สักพัก แม้เพียงชั่วครู่ก็ยังดี แต่เธอไม่ทันสังเกตว่า…ในเงามืดของตรอกตรงหัวมุมถนน มีประกายไฟจากบุหรี่จุดหนึ่งลุกวาบขึ้น ราวกับมีใครบางคนกำลังจับตาดูทุกย่างก้าวของเธอ ไฟหน้ารถยังคงส่องตรงมาไม่ขยับ เหมือนแช่ภาพไว้ให้ทุกคนอยู่ในกรอบเดียวกัน พวกชายฉกรรจ์แปลกหน้าสองคนยืนกะพริบตาไม่หยุด พยายามปรับสายตาให้คุ้นกับความสว่างนั้นอย่างกะทันหัน แต่ก็เหมือนกำลังถูกจับจ้องโดยอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น “กรี๊ดดดดดดด!!!! ช่วยด้วย ” เรียวแขนสองข้างของเธอถูกพันธนาการอย่างรุนแรงจากชายแปลกหน้า ก่อนที่เสียงบางอย่างจะดังขึ้น เครื่องยนต์ยังคำรามทุ้มต่ำ วื้นนน… เสียงนั้นต่างจากรถทั่วไปมันไม่ดังโฉ่งฉ่าง แต่แฝงแรงสั่นสะเทือนหนักแน่น เหมือนหัวใจของใครสักคนกำลังเต้นอยู่ในจังหวะเดียวกับมัน ไนล่าหยุดหายใจชั่วครู่ เธอไม่รู้ว่าทำไม แต่มีบางอย่างในเสียงนั้นทำให้รู้สึกทั้งปลอดภัยและระแวงในเวลาเดียวกัน รถเริ่มเคลื่อนช้าๆ ล้อบดกับพื้นถนนเปียกน้ำค้าง เสียง กรอบแกรบ ของเศษกรวดดังอย่างชัดเจนในตรอกแคบ แสงไฟหน้าก็เคลื่อนตาม มันไม่ใช่การขับพุ่งมาอย่างรีบร้อน แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่ช้า เย็น และมั่นคงเหมือนผู้ล่าที่รู้ดีว่าเหยื่อหนีไม่พ้น ชายฉกรรจ์แปลกหน้ามองหน้ากันอย่างลังเล มือที่จับแขนไนล่าเริ่มคลายแรงลงนิดหนึ่งโดยไม่รู้ตัว “ใครวะ…” หนึ่งคนในนั้นพึมพำ เสียงสั่นเล็กน้อย รถหยุดตรงปากตรอก ก่อนที่เครื่องยนต์จะดับลงอย่างเงียบกริบ ความเงียบนี้กลับทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งกว่าเสียงคำรามเมื่อครู่ เสียงเปิดประตูรถดัง แกร๊ก จากนั้น…ความเงียบก็กลับมาอีกครั้ง ไนล่าเพ่งมองผ่านแสงไฟที่ยังสาดตรงมา เห็นเพียงเงาร่างสูงใหญ่ก้าวลงจากรถอย่างช้าๆ เขาสวมชุดสูทสีเข้ม เนื้อผ้าตัดเนี้ยบจนเงาวาวเล็กน้อยในแสงไฟ ทุกการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างมั่นคง ไม่มีความรีบเร่ง แต่กลับมีน้ำหนักเหมือนทุกก้าวเหยียบลงบนหัวใจคนมอง ส้นรองเท้าหนังกระทบพื้นดัง ตึก…ตึก…ตึก ก้องไปทั่วตรอก ทำเอาชายฉกรรจ์แปลกหน้าขยับถอยเพียงก้าวเดียว ทั้งที่เขายังไม่ได้เอ่ยสักคำ ไนล่ารู้สึกถึงแรงกดดันในอากาศ เหมือนออกซิเจนรอบตัวน้อยลงทุกที ดวงตาของเธอเริ่มคุ้นกับแสงจนเห็นชัดขึ้น ใบหน้าคมเข้ม เส้นกรามชัด ดวงตาสีเทาเย็นจัดที่เหมือนจะมองทะลุเข้าไปในจิตใจของคน เขาไม่ได้มองพวกชายคู่นั้นทันที แต่สายตากลับหยุดอยู่ที่ไนล่าเพียงครู่เดียว เพียงพอให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกอ่านทุกความคิดโดยไม่ต้องพูดออกมา เมื่อเงาด้านหลังของชายแปลกหน้าลับตา เสียงฝีเท้าของพวกมันก็หายไปพร้อมกับแรงกดดันที่คลายลงเล็กน้อย แต่บรรยากาศไม่ได้ผ่อนคลายจริง เพราะร่างสูงในชุดสูทยังคงยืนอยู่ตรงหน้าไนล่า โทบี้ไม่ได้ขยับเข้าใกล้เธอในทันที เขาเพียงยืนอยู่ในระยะที่เธอยังได้ยินเสียงลมหายใจของเขา เสียงนั้นสม่ำเสมอ มั่นคง ต่างจากของเธอที่สั่นไหวและถี่รัว ไนล่าไม่รู้ว่าควรทำอะไร มือกอดกระเป๋าไว้แน่น สายตาของเธอหลบเลี่ยงใบหน้าคมนั้นโดยสัญชาตญาณ แต่ก็อดเหลือบมองไม่ได้ ราวกับเหมือนแรงดึงดูดที่มองไม่เห็น “กลัว?” คำถามสั้นๆ เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แฝงแรงสะกดจนเธอเผลอกลืนน้ำลายก่อนตอบ “…ค่ะ” เสียงเธอเบาและสั่นกว่าที่ตั้งใจ เขาไม่ได้ขยับเข้ามาใกล้ แต่เพียงก้าวเท้าเล็กน้อย ร่างสูงก็กลายเป็นเงาที่บังแสงไฟด้านหลัง ทำให้ใบหน้าของเขาอยู่ในเงามืด เหลือเพียงดวงตาสีเทาที่มองตรงมา “ดี” คำตอบนั้นทำให้ไนล่าเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง “ทำไม…ถึงดีคะ” โทบี้ไม่ตอบเธอในทันที แต่กวาดสายตามองรอบตรอก เหมือนกำลังประเมินอะไรบางอย่าง แล้วจึงหันกลับมาสบตาเธออีกครั้ง “เพราะมันทำให้เธอต้องระวังตัว” ไนล่าเม้มปากแน่น ไม่รู้ว่าควรโกรธหรือรู้สึกขอบคุณ น้ำเสียงของเขาไม่ได้เหมือนคนปลอบ แต่ก็ไม่ใช่คำตำหนิ มันเหมือนคำประกาศความจริงที่ไม่เปิดช่องทางให้เธอได้โต้เถียง เขามองเธออีกครั้ง ดวงตานั้นไม่ได้เร่าร้อน แต่กลับหนักแน่นและมีแรงกดเหมือนค่อยๆ ปิดประตูรอบตัวเธอทีละบาน “กลับบ้าน” เขาพูดเพียงเท่านั้น แล้วหันหลังเดินกลับไปที่รถ ไนล่ามองตามร่างสูงที่ก้าวอย่างมั่นคง ฝีเท้าของเขาไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย ประตูรถเปิดออก เสียงเครื่องยนต์คำรามต่ำอีกครั้ง เธอยังยืนอยู่ที่เดิม หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ราวกับเพิ่งหลุดออกมาจากฝันที่ทั้งน่ากลัวและ…ดึงดูด เสียงเครื่องยนต์คันหรูค่อยๆ เลือนหายไปในความมืด เหลือเพียงสายลมยามพลับค่ำที่พัดผ่าน กลับหนาวเย็นจนไนล่ารู้สึกเหมือนถูกทิ้งอยู่ลำพัง เธอสูดลมหายใจลึก พยายามเรียกคืนสติกลับมา ก่อนจะรีบก้าวออกจากตรงนั้น เส้นทางกลับบ้านในคืนนี้สั้นกว่าทุกครั้ง…หรืออาจเป็นเพราะใจเธอเต้นแรงเกินไปจนไม่ทันสังเกตว่าผ่านอะไรมาบ้าง ทันที ที่เข้าไปในบ้านกลับเห็นแม่ใหญ่ของเธอนั่งอยู่บนโซฟา มือถือแก้วไวน์คริสตัล แววตาเย็นชาไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้า “กลับดึก…อีกแล้ว” น้ำเสียงเต็มไปด้วยการตำหนิ แม้จะไม่ได้ตะโกน แต่ก็หนักพอจะทำให้ไนล่าก้มหน้าและเดินจากไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD