ร่างบางที่ถูกกันให้ออกมาจากการสนทนาเดินไปมาอยู่ภายในห้องรับแขกด้วยท่าทางกระสับกระส่าย กิดาการเองที่เพิ่งได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากการคาดคั้นหญิงสาวตรงหน้ามองภาพกระวนระวายของเพื่อนรักด้วยสายตาที่ทั้งหนักใจและเห็นใจไม่น้อย ใจหนึ่ง...เธออยากจะต่อว่าอีกฝ่ายหนักๆ ที่รับงานแผลงๆ จนทำให้ตัวเองเดือดร้อนได้ขนาดนี้ แต่อีกใจหนึ่ง...เธอเองก็รู้ดีว่าสิ่งที่เพื่อนทำไปทั้งหมดนั้นมันเป็นเพราะความจำเป็นที่ไม่อาจหาทางออกอื่นได้ทัน และผลที่ตามมาจากเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมันก็ยิ่งใหญ่จนเกินกว่าที่เพื่อนของเธอจะรับมือไหวอยู่แล้ว
“ใจเย็นๆ ก่อนเถอะไอ้หวา”
“แกจะให้ฉันใจเย็นได้ยังไงกิดา คุณป้ากับปุณณ์เขาคุยกันตั้งนานแล้วนะ ไม่รู้ว่าตอนนี้ปุณณ์จะพูดกล่อมอะไรคุณป้าไปบ้าง แล้วถ้าเกิดคุณป้าอยากให้ฉันแต่งงานขึ้นมาจริงๆ ฉันจะทำยังไง” ร่างบางตอบกลับด้วยท่าทีที่ยังอยู่ไม่สุข พอได้เล่าทุกอย่างให้เพื่อนรักฟังและอีกฝ่ายมีท่าทีที่พร้อมจะยืนเคียงข้างเธอ หญิงสาวจึงคลายกังวลและมีกำลังใจขึ้นมามาก หากจะมีเรื่องที่หนักใจที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องนี้
“แกก็แต่งงานไง”
“กิดา”
“ดวงยิหวา...เรื่องนี้มันใหญ่เกินกว่าที่แกจะหาทางออกได้เพียงคนเดียวนะ ถ้าแกท้องขึ้นมาจริงๆ ล่ะ แกต้องคิดถึงลูกของแกสิว่าเขาต้องการอะไร แกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าครอบครัวที่สมบูรณ์มันมีค่าสำหรับเด็กคนหนึ่งมากแค่ไหน” เหยี่ยวข่าวสาวโน้มน้าวเพื่อนรักด้วยประโยคที่ทำให้คนฟังหน้าเสีย ดวงยิหวาเม้มปากแน่นพลางพยายามหาคำโต้แย้ง ก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างเพื่อนสนิทของตนด้วยท่าทีอ่อนแรง
“แกก็รู้นี่กิดา ว่าฉันไม่อยากแต่งงาน ไม่...แม้แต่จะเคยคิด”
ตากลมสวยวูบไหว ภายในมีความร้าวลึกจนคนมองสะท้อนใจ
“ฉันรู้ แต่นั่นมันก่อนจะเกิดเรื่องนะ” กิดาการย้ำอีกครั้งจนคนฟังหน้าเสียมากขึ้น แต่เธอเลือกที่จะมองข้ามเพื่อเกลี่ยกล่อมให้เพื่อนเข้าใจในความหวังดีของตน
“หวา...ความจริงที่ฉันพูดกับแกแบบนี้ไม่ใช่เพียงเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นหรอกนะ ถ้าคนที่เป็นข่าวกับแกเป็นคนไม่เอาไหนฉันก็คงไม่สนับสนุนหรอก แต่นี่เป็นคุณปุณณ์ ฉันเลยอยากให้แกลองเปิดใจให้เขาบ้าง”
นักข่าวสาวพูดต่อ และประโยคของเธอก็เรียกความสนใจจากเพื่อนสาวได้ไม่น้อย
“คุณปุณณ์เป็นดาราที่ดีคนหนึ่งเลยนะไอ้หวา ขนาดฉันเพิ่งทำงานได้ไม่นาน แต่ก็ยังพอรู้มาบ้างว่าเขาน่ะดีทั้งในและนอกจอเลยล่ะ ตั้งแต่อยู่วงการมา ผู้ชายคนนี้ไม่เคยมีข่าวเสียหายให้นักข่าวได้ขุดคุ้ยเลยสักครั้ง ตรงกันข้าม เขากลับมีแต่เรื่องดีๆ ให้นักข่าวได้เอ่ยชมอยู่เสมอ ทั้งเรื่องความทุ่มเทและความรับผิดชอบในงาน นิสัยส่วนตัวที่เป็นมิตร ไม่ถือตัว แถมยังเป็นสุภาพบุรุษมากๆ อีกด้วย ตอนแรกฉันก็ไม่อยากจะเชื่อว่าใครมันจะดีขนาดนั้น แต่พี่ๆ หลายคนเขาก็นั่งยันนอนยันมาแบบนั้น และฉันเองก็เคยได้เจอเขาที่งานบ้างสองสามครั้ง ก็เลยพอจับสังเกตได้ว่าเขาเป็นคนดีจริงๆ ฉันเลยไม่แปลกใจที่เขาจะสามารถคว้าใจสาวๆ เอาไว้ได้จนเกือบทั้งประเทศ ชายในฝันครบสูตรเลยแหละแก”
ร่างเล็กรับฟังพลางคิดตามไปถึงชายหนุ่มที่ถูกเอ่ยถึง พระเอกหนุ่มคนนี้มีดีทั้งรูปร่าง ทั้งหน้าตา และดูจากบ้านที่เธอได้ไปมา ฐานะของเขาก็จัดว่าร่ำรวยพอตัว แถมการกระทำของเขาที่ปฏิบัติต่อเธอหลังจากเกิดเรื่องนั้นก็ช่วยยืนยันถึงความเป็นสุภาพบุรุษแบบที่เพื่อนของเธอพูดออกมาได้เป็นอย่างดี คำว่า ‘ชายในฝัน’ ที่เพื่อนของเธอพูดมาจึงดูไม่เกินจริงไปเลยสักนิด
“แต่จะว่าไปก็มีเรื่องหนึ่งที่แปลกมากคือเรื่องที่เขาไม่เคยมีแฟน จะมีก็แต่ข่าวกับยายไมร่านางเอกที่เขาแสดงด้วยบ่อยๆ เท่านั้น ซึ่งนั่นไม่ต้องนับหรอก เพราะใครๆ เบื้องหลังเขาก็รู้กันว่าฝ่ายสาวเป็นฝ่ายพุ่งเข้าหา ทั้งๆ ที่ฝ่ายชายเขาไม่เคยมีท่าทีตอบรับเลยสักครั้ง ก็คุณปุณณ์น่ะเขาขึ้นชื่อเรื่องความสุภาพและให้เกียรติผู้หญิงจะตาย ฉันว่านี่แหละคือ จุดที่ทำให้คนไม่หวังดีคิดจะทำร้ายเขาโดยการสร้างข่าวฉาวที่ขัดกับภาพลักษณ์ของเขามากๆ ด้วยวิธีนี้ แล้วพอมันสำเร็จ เรื่องมันถึงได้ใหญ่โตแบบนี้ยังไงล่ะ”
“เขาต้องมาเดือดร้อนเพราะความโง่และเห็นแก่ตัวของฉันแท้ๆ”
ดวงยิหวาเอ่ยย้ำความผิดพลาดของตัวเองด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอย่างรู้สึกผิด กิดาการหันมองหน้าเพื่อนอย่างเห็นใจ ก่อนจะกุมมือเพื่อนสาวแน่นเพื่อส่งผ่านกำลังใจไปให้
“เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว แกอย่าโทษตัวเองอีกเลย ตั้งสติแล้วแก้ไขดีกว่านะ ยังไงฉันก็อยู่ข้างแก”
“ขอบใจนะกิดา” ดวงยิหวาหันไปยิ้มให้อย่างขอบคุณ เพื่อนของเธอจึงรั้งตัวหญิงสาวเข้ามากอดแน่นๆ ก่อนจะคลายวงแขนแล้วส่งยิ้มอย่างจริงใจให้กันและกัน
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นและเรียกความสนใจของสองสาว กิดาการเป็นฝ่ายลุกขึ้นไปดู ก่อนจะหันกลับมามองเจ้าของบ้านด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ
“ฉันว่าตอนนี้ได้เวลาที่แกจะต้องรับมือกับความวุ่นวายอีกเรื่องแล้วล่ะ”
คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างแปลกใจกับคำพูดของเพื่อน ร่างบางพาตัวเองไปยืนข้างๆ แล้วมองไปทิศทางเดียวกันแล้วทำสีหน้าปั้นยากขึ้นมาทันที ดวงยิหวาลอบถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะเดินออกไปต้อนรับสาวสูงวัยร่างท้วมที่ยืนยิ้มแปลกๆ ให้เธออยู่บริเวณประตูรั้วบ้านอย่างเสียไม่ได้
“ป้าทำแกงเขียวหวานมาฝากน่ะ” แขกไม่ได้รับเชิญเอ่ยพลางยื่นหม้อใบย่อมมาตรงหน้าราวกับยัดเยียดจนดวงยิหวาต้องยื่นมือไปรับ
“ผีนางฟ้าเข้าสิงหรือคะป้ากลอย” กิดาการเอ่ยแซวจนอีกฝ่ายส่งค้อน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าคนตรงหน้านี้ต้องการอะไร ร้อยวันพันปีคนขี้งกอย่างหญิงสูงวัยตรงหน้าเคยมีน้ำใจให้กับใครเสียที่ไหน เรื่องเดียวที่หญิงร่างท้วมคนนี้สนใจก็มีแค่ ‘เรื่องลับๆ’ ของชาวบ้านเท่านั้น
“แหม หนูกิดาก็ บ้านเราก็อยู่ติดๆ กันหมด ป้าก็อยากจะแวะมาเยี่ยมเยียนบ้าง” อีกฝ่ายตอบพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วพาตัวเองเข้าไปนั่งบริเวณเก้าอี้หินอ่อนของสวนภายในบ้านอย่างไม่ใส่ใจรอฟังคำเชิญ สองสาวลอบมองตากันอย่างหน่ายใจ ก่อนจะพากันเดินไปนั่งตรงเก้าอี้รอบโต๊ะหินอ่อนที่ตั้งถัดจากเก้าอี้ของสาวใหญ่แล้ววางหม้อไว้บนโต๊ะตัวตรงกลาง
“ว่าแต่หนูยิหวาเถอะ แหม...ราศีคนดังจับนะ ในข่าวน่ะ ใช่หนูใช่ไหม” กลอยเปิดประเด็นที่พาเธอมาถึงที่นี่ทันที ดวงยิหวาหน้าถอดสีในขณะที่กิดาการเริ่มทำท่าไม่พอใจ
“ป้าจำได้ไม่ผิดคนแน่ นี่คนแถวนี้เขาก็มาถามป้ากันใหญ่เพราะเห็นว่าเราสนิทกัน ว่าคนที่ไปนอนกับพระเอกหนุ่มคนนั้นใช่หลานสาวแม่นวลหรือเปล่า ตอนแรกป้าก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่อย่างว่าแหละ รูปที่ส่งต่อกันมาชัดออกซะขนาดนั้น จะปฏิเสธก็คงไม่ได้หรอกจริงไหม”
ดวงยิหวาเม้มปากแน่นเมื่อคนตรงหน้าเริ่มพาดพิงไปถึงป้าของตน แต่ยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไร ร่างของเธอก็ถูกกระชากให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจนเพื่อนสาวและหญิงร่างท้วมที่นั่งอยู่ด้วยอุทานขึ้นมาอย่างตกใจ
“ยายยิหวา” เสียงขู่คำรามของชายสูงวัยดังขึ้นอย่างไม่พอใจ ก่อนที่มือหนาของเขาจะฟาดเข้าที่แก้มของหญิงสาวอย่างแรงจนเธอหน้าหัน กิดาการปราดเข้าไปประคองเพื่อนของเธอที่เกือบจะทรงตัวไม่อยู่เอาไว้ด้วยความตกใจ ก่อนที่คนในอ้อมแขนนั้นจะค่อยๆ หันกลับมาเผชิญหน้ากับคนที่ตบหน้าของเธออย่างตื่นตะลึง
“พ่อ...”
ตากลมโตเบิกกว้าง ดวงยิหวาครางออกมาอย่างแทบหมดเรี่ยวแรงเมื่อได้รู้ว่าคนที่เพิ่งทำร้ายเธอเป็นใคร
“หน้าด้าน”กำพลเอ่ยออกมาพลางจ้องหน้าลูกสาวที่ตนเองไม่เคยเหลียวแลด้วยความโกรธเกรี้ยวระคนผิดหวัง คนเป็นลูกเจ็บหนึบไปทั้งใจเมื่อได้ยินคำว่าขานของเขา คำเดียวกันกับเมื่อเช้าแท้ๆ...แต่ทำไมตอนนี้เธอถึงได้เจ็บเจียนตายขนาดนี้นะ เจ็บ...จนไม่มีแรงที่จะใช้ตอบโต้ได้อย่างตอนนั้นเลยสักนิด
“ทำไมแกถึงได้ทำตัวแบบนี้ คิดยังไงถึงได้ไปนอนกับผู้ชายจนเป็นข่าวใหญ่โตขนาดนั้นฮะ ดูซื ชาวบ้านชาวช่องเขานินทากันทั่วแล้ว”
คนเป็นพ่อยังคงตะคอกใส่อีกฝ่ายเสียงดังพลางชี้ไปรอบๆ ตัวที่เริ่มมีคนในละแวกนั้นเดินมามุงดูเหตุการณ์ ร่างบางกวาดตามองตามจึงได้เห็นแต่สายตาที่พากันจ้องมองมาที่เธออย่างดูแคลน จิตใจดวงเล็กจึงยิ่งบอบช้ำมากยิ่งขึ้น
“จะยังไงซะอีกล่ะคะพี่พล หนูยิหวาเขาคงกะจะใช้วิธีเดียวกันกับแม่ของเขาจับผู้ชายดีๆ อย่างพระเอกหนุ่มคนนั้นยังไงล่ะคะ” ปรางทิพย์ หญิงสาวข้างกายของกำพลที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงของดวงยิหวาเอ่ยพาดพิงถึงอดีตคนรักของสามีพร้อมกับส่งรอยยิ้มเชือดเฉือนให้ลูกเลี้ยงของตน
“ใจเย็นๆ ก่อนเถอะลุงพล ฟังไอ้หวามันบ้าง” กิดาการเอ่ยขัดพร้อมกับพยายามข่มอารมณ์ เพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของเพื่อนรัก
“จะให้ข้าใจเย็นยังไงไหววะ มีลูกทำตัวน่าอับอายแบบนี้ ทำอะไรทำไมไม่คิดถึงศักดิ์ศรีของตัวเองบ้าง”
“นั่นสิคะพี่พล เฮ้อ...อย่างว่าล่ะค่ะ แม่ของตัวเองก็ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีเท่าไหร่ ถ้าลูกจะออกมาเป็นแบบนี้ก็คงไม่แปลก”
“อย่ามาว่าแม่ของหวาแบบนั้นนะ” ดวงยิหวาตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างเหลืออด เมื่อสาวใหญ่ข้างกายพ่อเอาแต่ลามปามไปถึงแม่ของเธอโดยไม่คิดจะหยุดเลยสักนิด
“ทำไมแม่ปรางเขาจะพูดไม่ได้ ในเมื่อมันเรื่องจริงทั้งนั้น ข้าหรืออุตส่าห์วางใจว่ามีพี่นวลคอยดูแล แต่ดูมันทำตัวสิ ทำตัวเลวๆ ไม่ต่างจากแม่” กำพลตะคอกใส่ลูกสาวเสียงดัง แรงโทสะทำให้เขาเอ่ยคำพูดที่ขาดสติยั้งคิดจนคนฟังสะอึกไปกับคำพูดของเขา ตากลมโตที่เริ่มมีน้ำใสๆ คลอหน่วยตวัดมองคนเป็นพ่ออย่างตัดพ้อเมื่อคิดไปว่าตัวเองคือหนึ่งในเครื่องมือเลวๆ ของผู้เป็นมารดาในสายตาของเขา