ตอนที่2 เสียความมั่นใจ

1114 Words
“โอ้ย! ปวดหัวจัง” เสียงงัวเงียของหญิงสาวดังขึ้นในช่วงสายของวันพร้อมกับร่างกายที่ขยับเพื่อบิดไล่ความปวดเมื่อย หมับ! แต่มือของเธอก็ดันไปสัมผัสถูกความแข็งอุ่นบางอย่าง สิ่งที่ทำให้คนที่สติยังกลับมาไม่ครบถ้วนถึงกับคลำสัมผัสดูอีกครั้งจนสมองค่อย ๆ ประมวลให้นึกถึงร่างกายของคน ‘เพื่อนเธอไง เมื่อคืนเธอมานอนห้องเพื่อนก็ไม่เห็นแปลก’ เมื่อคิดได้แบบนั้นเธอก็ไม่ได้สนใจจะตื่นขึ้นมายังคงนอนจมอยู่บนเตียงนุ่มด้วยความเกียดคร้านกระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้น “เอามือออกไปซะ” เสียงทุ้มใหญ่ในแบบฉบับผู้ชายดังขึ้นสั่งเธออย่างราบเรียบติดจะหงุดหงิด แต่มันกลับปลุกสติเธอได้อย่างดี พรึ่บ! เพราะเธอไม่มีเพื่อนผู้ชายทำให้เธอดีดตัวลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงผู้ชาย เมื่อเธอลุกขึ้นนั่งกวาดตามองรอบ ๆ กลับเห็นเพียงความมืดสลัวจนมองอะไรไม่ออก แต่ไม่นานความสว่างในสีวอมไวท์ก็สาดส่องให้เธอได้เห็นภาพเบื้องหน้าของห้องที่ไม่คุ้นตาและผู้ชายที่... “พี่ผา” เสียงแผ่วเบารอดริมฝีปากของเธอออกมาด้วยความรู้สึกอื้ออึงที่เธอตื่นขึ้นมาเห็นรุ่นพี่ที่รู้จักอยู่ร่วมห้องและบนเตียงด้วยกัน ผู้ชายที่เหมือนจะไม่ได้ใส่เสื้อ สัญชาตญาณแรกที่เธอนึกได้คือก้มมองตัวเอง ตัวเองที่มีสภาพสมบูรณ์ด้วยเสื้อชุดเดิมพร้อมกับร่างกายที่ไม่รู้สึกถึงความหนักอึ้งนอกจากหัวที่เดียว “.....” หินผาที่นอนอยู่ที่เดิมปรายตามองเธอเล็กน้อยกับท่าทางที่ทำราวกับว่าจะถูกเขาล่วงเกินในตอนเมาทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายเข้าห้องเขามาเอง แม้เกือบจะผิดพลาดเพราะถูกคนเมาปลุกเร้าอย่างไม่รู้ตัวและคงไม่ได้ตั้งใจแต่เขาก็ยังข่มใจตัวเองได้และไม่ได้ทำอะไรเธอ “ขอโทษนะคะที่มาสร้างความเดือดร้อนให้” หลังจากเธอพยายามทบทวนเรื่องราวเมื่อคืนดี ๆ ทำให้เธอรู้ว่าเธอเผลอทำอะไรลงไปบ้าง “กลับไปได้แล้ว” เขาหลับตาลงอีกครั้งก่อนจะเอ่ยปากไล่เธอเรียบ ๆ “.....” พลับพลึงมองร่างสูงตรงหน้าโดยไม่ได้พูดอะไร มองเขาเพียงเล็กน้อยก่อนจะลงจากเตียงเดินออกจากห้องนอนของเขาไปหยิบโทรศัพท์และกระเป๋าตัวเองออกจากห้องของเขาไป ห้องเพื่อนเธออยู่ชั้นยี่สิบเอ็ด ห้องของหินผาอยู่ชั้นที่ยี่สิบเจ็ด แต่เลขห้องกลับเหมือนกันนั่นเลยทำให้เธอที่เมาตาลายมองเลขหนึ่งกับเลขเจ็ดสับสนไปหน่อย และแม้ว่าห้องชั้นบนจะใหญ่กว่าแต่โครงสร้างถูกวางมาคล้าย ๆ กันทำให้เธอไม่ได้สับสนในตอนเข้าห้องน้ำ พลับพลึงไม่ได้กลับคอนโดของตัวเองในทันทีแต่เธอลงไปยังห้องเพื่อนของเธอก่อน ลงไปเพื่อให้เพื่อนเห็นว่าเธอยังปลอดภัยดี และที่สำคัญกว่านั้นเธอมีเรื่องคาใจจะถามเพื่อนของเธอด้วย “พลับ! แกทำพวกฉันตกใจแทบแย่ นี่รอว่าถ้าวันนี้ติดต่อแกไม่ได้พวกฉันจะแจ้งความแล้วนะ!” ใบหม่อนพูดขึ้นอย่างตื่นตระหนกและโล่งใจกับการปรากฏตัวของเพื่อนเธอ “โทษที เมื่อคืนเมาไปหน่อย” เมื่อคืนพวกเธอไปร้านนั่งชิวมาเลยค่อนข้างเมา แต่ก่อนจะเข้าคอนโดซีนกลับเกิดหิวแล้วพาไปร้านสะดวกซื้อที่อยู่ไม่ไกล แต่เพราะเธออยากเข้าห้องน้ำเลยทำให้เลือกขึ้นมาก่อนโดยที่เพื่อนทั้งสองพากันไปร้านสะดวกซื้อด้วยกันเลยได้พลาดขึ้นชั้นผิดได้ “เข้ามา ๆ พวกฉันมีเรื่องจะถามแก” ซีนเจ้าของห้องพูดขึ้นทำให้ทั้งสามเดินเข้าห้องไปนั่งอยู่ที่โซฟากลางห้อง นั่งโดยเพื่อนทั้งสองกำลังสอบปากคำเธอ “บอกมาว่าเมื่อคืนแกไปห้องใคร แล้วเกิดอะไรขึ้นพวกฉันจำได้ว่าแกเรียกเขาว่านาย” ใบหม่อนเริ่มซักไซ้เธอทันที “พี่ผา” เธอตอบกลับอย่างไม่ปิดบัง “ห๊ะ!/อะไรนะ!” ทั้งใบหม่อนและซีนอุทานออกมาพร้อมกันอย่างตกใจเพราะพวกเธอก็รู้จักเขา รุ่นพี่ในมหาลัยที่คณะติดกัน “พวกแก ฉันสวยไหม” ไม่รอช้าพลับพลึงก็ถามความคาใจของตัวเองออกไป “ทำไม อย่าบอกว่าพี่เขาว่าแกไม่สวยนะ” ซีนได้ยินแบบนั้นก็ถามขึ้น “เปล่า พวกแกตอบมาก่อน” เธอค่อนข้างมั่นใจนะว่าตัวเองหน้าตาดีเรียกว่าสวยเลยก็ได้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอไม่มั่นใจในเสน่ห์ตัวเอง “ถ้าอย่างแกไม่สวยแล้วพวกฉันจะเรียกอะไร!” ใบหม่อนว่าออกมาทั้งที่จริงตัวเองก็สวยไม่น้อย “เมื่อคืนฉันเมาใช่ไหม ฉันเลยเผลอทำอะไรไม่มีสติออกไปหลายอย่าง” พลับพลึงเกริ่นนำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกมาอย่างกระดากอาย แต่สุดท้ายก็พูดต่อ “แล้วฉันจำได้ว่าฉันดึงพี่ผามาจูบ” “ห๊ะ!/ห๊ะ!” สองเสียงประสานพร้อมกันอย่างตกใจกับสิ่งที่เธอพูด และเธอก็ตกใจเหมือนกันที่ตัวเองทำอะไรแบบนั้นลงไปอย่างไม่รู้ตัว แต่ที่น่าตกใจกว่านั้น “หลังจากฉันจูบเขา สุดท้าย...” เธอเงียบก่อนจะลอบมองเพื่อนตัวเองอย่างกระดากอาย แต่ก็พูดสิ่งที่ทำให้เธอคาใจที่สุดออกมา “เขาผลักฉันออก แล้วฉันก็น่าจะหลับไปเลย” ใช่ นี่คือสิ่งที่เธอคาใจที่สุด สิ่งที่ทำให้เธอขาดความมั่นใจในตัวเองไปเลยว่าเธอไม่มีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายเลยอย่างนั้นเเหรอ เธอไม่สวยพอจนแม้แต่จูบกันแล้วเขายังผลักเธอออกได้ลงคอและไม่ทำอะไรเธอทั้งที่นอนอยู่ห้องเดียวกันแท้ ๆ แบบนั้นได้เหรอ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีที่เราปลอดภัย แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่าเพราะอะไร “แกสวย” ใบหม่อน “แกมีเสน่ห์” ซีน “แล้ว...” พลับพลึง “เขาอาจจะเป็นสุภาพบุรุษไม่ฉวยโอกาสผู้หญิงตอนไม่มีสติก็ได้” ใบหม่อนเอ่ยขึ้น “แต่พี่เขาเจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น?” เธอย้อนกลับไปอย่างที่เพื่อนก็รู้เหมือนกัน “.....” และนั่นก็ทำให้ใบหม่อนและซีนหันหน้ามองกันอย่างไร้คำตอบ “.....” พลับพลึงเองที่เห็นแบบนั้นก็เงียบไปอย่างไร้คำพูดไม่ต่างกัน กระทั่ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD