ตอนที่3 ขอจีบได้ไหม

831 Words
พลับพลึงเข้าลิฟท์ส่วนจอดรถในชั้นใต้ดินอย่างชั้น LG ก่อนจะกดไปยังชั้น 21 ที่เป็นชั้นของเพื่อนเธอ แต่ลิฟท์เคลื่อนตัวได้เพียงสองชั้นประตูลิฟท์ก็เปิดออกจากผู้กดในชั้น 1 ที่เป็นชั้นจอดรถซูปเปอร์คาร์ และคนกดก็ทำให้พลับพลึงชะงักงันไปทันที หินผา ผู้ชายที่ทำให้เธอขาดความมั่นใจไปหลายวัน “วันนี้ไม่เข้าห้องผิดอีกนะ” หลังประตูลิฟท์ปิดลงพร้อมกับความเงียบชั่วขณะ ในที่สุดเสียงราบเรียบของเขาก็พูดออกมาทำให้พลับพลึงเงยหน้าไปมองเขาและก็เห็นว่าเขามองไปข้างหน้าอย่างไม่ได้มองเธอเลยสักนิด แต่ในลิฟท์มีอยู่สองคนและเธอก็เคยเข้าห้องผิดแน่นอนว่าเขาต้องพูดกับเธอ “แล้วถ้าวันนี้เปลี่ยนมาตั้งใจเข้าได้ไหมคะ” ไม่รู้อะไรดลใจให้ปากเธอพูดออกไปแบบนั้น แต่พอพูดแล้วเธอก็ยังมองหน้าเขาอยู่แบบนั้นไม่ละสายตาจนได้รับสายตาจากเขากลับมา “ก็ไปสิ” ผ่านไปกว่าหลายวินาทีที่เขามองเธอนิ่ง ๆ ในที่สุดก็พูดออกมาด้วยท่าทีเรียบนิ่งจนไม่รู้ว่าพูดเล่นหรือพูดจริงกันแน่ “พลับคิดจริงนะ” เธอหยั่งเชิงเขาออกไป “.....” เขาไม่ได้ตอบรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธยังคงยืนนิ่งราวกับรูปปั้นที่งดงาม ยิ่งมองข้าง ๆ ยิ่งเห็นความโด่งตรงของสันจมูกที่รับกับปากบางเฉียบ ดูมีเสน่ห์และหล่อเหลาอย่างมาก ไม่แปลกเลยที่ดูเย็นชาแบบนี้แต่ผู้หญิงกลับเข้าหาไม่เว้นหน้า ร่างสูงที่รู้ว่าตัวเองถูกจ้องมองนานสองนานสุดท้ายก็หันกลับมาสบตากับเธอเลิกคิ้วซ้ายขึ้นเชิงมีคำถาม แต่ท่าทางแบบนี้กลับขับให้เขาดูเจ้าเล่ห์ตัดกับความนิ่งขรึมของเขาได้เป็นอย่างดี “พี่มีแฟนหรือยังคะ” ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่มี(ตามที่คนอื่น ๆ พูดต่อกันมา)แต่เธอก็อยากถามเผื่อว่าเขาจะมีซ่อนไว้อย่างไม่เปิดเผย แต่คงไม่มีหรอก ถ้ามีแฟนแล้วไม่น่าจะเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่นแบบนี้แม้แต่เพื่อนร่วมห้องของเธอก็ยังมีคนที่เคยคุยกับเขาช่วงหนึ่งและก็เป็นช่วงสั้น ๆ เท่านั้น “.....” คำตอบจากเขาคือการไหวไหล่เบา ๆ อย่างน่าหมั่นไส้ “พลับจีบพี่ได้ไหม” ทำไมปากเธอถึงได้พูดไม่รู้จักคิดแบบนี้นะ ทำไมพอเห็นเขานิ่งยิ่งทำให้เธออยากเอาชนะขึ้นมาจนพูดอะไรโง่ ๆ ออกไปแบบนี้ล่ะ “หึ!” คำตอบของเขากลับทำให้หน้าเธอถอดสีขึ้นมาไม่น้อย รู้สึกเหมือนถูกเย้ยหยันยังไงก็ไม่รู้ “สองครั้ง” แล้วเธอก็พูดในสิ่งที่สมองคิดออกไปด้วยแววตาติดจะไม่พอใจ “.....” อีกครั้งที่เขาเลิกคิ้วขึ้นเชิงคำถาม “สองครั้งที่พี่ทำให้พลับรู้สึกเสียความมั่นใจ” การที่เธอโพล่งออกไปว่าจะจีบเขาแล้วได้รับเสียงแค่นเยาะเย้ยมันคือการดูถูกดี ๆ นี่เอง “จำไม่ได้” เขาพูดขึ้นราวกับไม่รู้ว่านี่คือครั้งที่สองและเป็นการกระทำที่ทำให้เธอเสียความมั่นใจ ส่วนอีกครั้ง “.....” และครั้งนี้ก็เป็นเธอที่หันออกแล้วไหวไหล่เบา ๆ อย่างไม่ได้พูดออกไปว่าครั้งไหนบ้าง แต่การหันกลับมามองเบื้องหน้าของเธอมันทำให้เธอพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองได้เลยชั้นของเพื่อนมาแล้ว ตอนนี้ลิฟท์กำลังเคลื่อนตัวมาถึงชั้น 24 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอพูดกับเขาและจดจ้องเขาจนไม่ได้สนใจประตูลิฟท์เปิดปิดเลยอย่างนั้นเหรอ บ้าจริง สุดท้ายภายในลิฟท์ก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เงียบจนลิฟท์เคลื่อนตัวมาหยุดอยู่ที่ชั้น 27 เป็นที่เรียบร้อย ชั้นที่เธอจำได้ดีว่าคือชั้นของคนข้าง ๆ เธอยืนนิ่งเพื่อรอให้เขาก้าวออกไปก่อนและค่อยก้าวตามไป แต่เธอไม่ได้เดินตามเขาไปหรอกนะ เพราะแค่นี้เธอก็รู้สึกเสียหน้าเพราะเขาไปแล้วรอบหนึ่งหากเดินตามเขาไปแล้วเขาหันกลับมาถามว่าไปไหน ใครชวน นั่นคงทำให้เธอไม่มีหน้าไปเจอเขาอีก ที่เธอออกจากลิฟท์ก็แค่จะกดปุ่มเพื่อลงไปข้างล่างก็แค่นั้นเพราะถ้าไม่ได้กดลิฟท์ก็คงไม่ทำงานจนกว่าจะมีคนกดมันอีกครั้ง เพียงแต่เธอกลับคาดไม่ถึงเมื่อได้ยินเสียงราบเรียบของเขา “ไหนว่าจะตั้งใจมาห้องฉัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD