ตอนที่4 การกลับมาอีกครั้ง

919 Words
เพราะคำพูดนั้นของเขาคำเดียว เพราะการหยุดหันมาพูดของเขาประโยคเดียวทำให้ตอนนี้เธอนั่งอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้องของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่งอยู่เงียบ ๆ อย่างไม่รู้จะพูดอะไร นั่งอยู่ราวกับคนขี้ขลาดทั้งที่ตอนในลิฟท์กลับพูดอะไรกับเขามากมายแท้ ๆ ร่างสูงนั่งไขว่ห้างโชว์เรียวขาที่ยาวราวกับนายแบบ มือข้างหนึ่งยกพาดพนักพิงโซฟา มืออีกข้างวางไว้ที่ตักแกร่งพร้อมกับสายตาคมเฉี่ยวที่จ้องมองมาทางเธอนิ่ง ๆ ตั้งแต่เขาและเธอนั่งลงโซฟาตัวติดกัน ตัวเดียวกับที่เธอและเขานั่งในคืนวันนั้น “พี่จะมองพลับอีกนานไหม” เธออดไม่ได้ช้อนสายตาขึ้นไปมองเขาแล้วพูดขึ้นอย่างทำตัวไม่ถูก ตอนเป็นฝ่ายมองเขาไม่รู้ทำไมถึงได้กล้ามองนานสองนานอย่างไม่เกรงกลัว แต่พอเป็นฝ่ายถูกเขามองบ้างไม่รู้ทำไมกลับทำตัวไม่ถูกไปได้ “เธอเป็นฝ่ายมาห้องฉันเอง ฉันต้องถามเธอมากกว่าจะเงียบอีกนานไหม” เขาย้อนกลับมาคืนราวกับที่นั่งมองเธออยู่นั้นก็เพราะรอฟัง “.....” เธอหลบสายตาอย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อเพราะเธอก็ไม่รู้แล้วว่าต้องพูดอะไร แต่ทนต่อสายตาเขาไม่ได้จึงพูดต่อ “พี่ชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ” ทั้งที่อยากถามออกไปว่าเธอไม่ได้สวยแบบที่เขาชอบหรือไม่มีเสน่ห์มากพอดึงดูดเขาเหรอแต่ก็ไม่กล้าถาม “พลับจีบพี่ได้ไหม” เมื่อเห็นว่าเขายังเงียบเธอก็พูดต่อ “ชอบฉันเหรอ” เขาไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่กลับย้อนถามเธอคืน “ไม่รู้สิ” ไม่รู้จริงเหรอ ในเมื่อหลังจากวันนั้นเวลาเจอเขาหัวใจก็เต้นไม่เป็นระส่ำเลย “กล้าได้กล้าเสียพอไหมล่ะ” เขามองเธอก่อนจะถามออกมานิ่ง “หมายถึงได้อะไรเสียอะไร” คำพูดแบบนี้เธอคิดดีไม่ได้เลย กล้าได้กล้าเสียนี่หมายถึงเรื่องนั้นใช่ไหม “.....” เขาไม่ตอบแต่มองเธอนิ่ง “กล้าสิ” แล้วเธอก็ตอบออกไปด้วยหัวใจที่เต้นระรัวอย่างเข้าใจดีแล้วว่าทำไมผู้หญิงหลายคนถึงต่างหลงใหลเขา เพราะแม้แต่เธอที่รู้ดีว่าเขาส่อไปทางไหนเธอก็ยังพูดอะไรแบบนี้ออกไป แต่ทำไมกันนะเขาถึงได้มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามได้ขนาดนี้ ทำไมเขาถึงได้ทำให้อยากเข้าไปเล่นทั้งที่รู้ว่าอันตราย “แน่ใจ?” เขาเลิกคิ้วถามอีกครั้งพร้อมกับดวงตาคมที่หรี่เล็กลงราวกับกำลังพิจารณาเธอเข้าไปถึงข้างในจนมันวูบวาบกับสายตานั้น “ขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหม” บ้าหน่า! แค่สายตานี้ของเขากลับทำให้เธอนั่งไม่ติดเลยเหรอ แล้วที่พูดไปล่ะ “ตามสบาย” เขาพูดด้วยท่าทีสบายๆทำให้เธอรีบลุกไปทันที “บ้า! ๆๆ บ้าที่สุดเลย!!” เมื่อเข้ามาถึงห้องน้ำเธอก็กร่นว่าตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ ทั้งคำพูด ความคิด ความรู้สึก ทั้งที่ตัวเองรู้สึกหวาดหวั่นไม่น้อยแต่ไม่รู้ทำไมถึงยังอยากรู้อยากลองจนพูดอะไรแบบนั้นออกไป แล้วถ้าสุดท้ายเขาตอบรับความมุทะลุนี้ของเธอขึ้นมาล่ะ “คนบ้าอะไรเหมือนแม่เหล็กจริง ๆ” ราวกับว่าเขาคือแม่เหล็กที่เอาแม่เหล็กอีกชิ้นมาติดไว้ที่ตัวเธอ(หรืออาจจะรวมถึงผู้หญิงหลายๆคน) พอเข้าใกล้เขามันก็มีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ไม่อยากออกห่าง ไม่อยากถอยหนี ตรงข้ามมันยิ่งอยากเข้าใกล้ อยากตามแรงดึงดูดนั่น พลับพลึงยืนอยู่ในห้องน้ำครู่หนึ่งสุดท้ายก็ตัดสินใจออกจากห้องน้ำมาและนั่งลงที่เดิมโดยที่เจ้าของห้องดูช่องกีฬาในทีวีพร้อมเบียร์กระป๋องในมือและโต๊ะกลางอย่างไม่ได้หันมาสนใจเธอ นั่นเลยเป็นโอกาสให้เธอได้มองเขาอีกครั้ง พวกลูกรักพระเจ้านี่มักใช้หน้าตาและรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองตกผู้หญิงเป็นว่าเล่นกันหมดเลยไหมนะ น่าหมั่นไส้จริง ๆ แล้วเจ้าชู้แบบนี้ถ้าเกิดเธอตกหลุมรักเขาเข้าจะทำยังไงล่ะ จะยอมรับได้เหรอถ้าเขาไม่ได้หยุดที่เธอ แล้วจะทนได้ไหมถ้าเขาก็เห็นเธอเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาที่แค่ชั่วครู่ชั่วคราว อยากลอง อยากเสี่ยง แต่ก็ไม่อยากเสียใจเปล่า “สักกระป๋องไหม” เขายกเบียร์ในมือชวนเธอ “อืม” เธอตอบรับออกไปทำให้เขาขยับวางเบียร์ในมือตัวเองแล้วหยิบเปิดเบียร์อีกกระป๋องที่โต๊ะกลางยื่นมาให้เธอ “ขอบคุณค่ะ” เธอรับมาถือไว้พร้อมกับเขาที่หยิบกระป๋องของตัวเองมาถือกระดกดื่มพร้อมกับสายตาจับจ้องไปยังทีวีจอใหญ่ตรงหน้าอีกครั้ง นั่นเลยทำให้เธอยกกระป๋องเบียร์เย็น ๆ ขึ้นจิบบ้าง ‘อ่า! เบียร์เย็น ๆ นี่หวานดีจัง’ แม้ว่าเธอจะไม่ใช่พวกคอแข็งเท่าไหร่แต่ก็ถือว่ากินบ่อยหนึ่งกระป๋องนี่ทำอะไรเธอไม่ได้หรอก แต่สุดท้ายมันกลับไม่ได้จบแค่คนละกระป๋อง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD