CHAPTER 3 ต่อกรคนฝีปากกล้า

1818 Words
“คุณทั้งสองคนจะยอมรับกันและกันเพื่อใช้คู่ชีวิตหรือไม่” “รับครับ” “รับครับ” ‘หลังผ่านงานวิวาห์หวานเกือบสัปดาห์ แต่ทั้งสองตระกูลดังยังถูกจับตามองเมื่อผนึกเป็นทองแผ่นเดียวกัน..’ ‘ทายาทสองตระกูลดังซุ่มปลูกต้นรัก อ่านประวัติได้ที่นี่’ แสงแดดสาดส่องกระทบลงบนใบหน้าเนียนละเอียด ปลุกคนที่ฟุบหลับคากองเอกสารให้รู้สึกตัว เปลือกตาบางขยับอย่างเชื่องช้าส่งเสียงครางอือในลำคอหลังถูกขัดจังหวะในการนอน ก่อนจะตื่นลืมตาแล้วหรี่ลงเล็กน้อยเพื่อปรับโฟกัสสู้กับแสงแดดอันแรงกล้าที่ส่องมายังเจ้าตัว ภาพพิธีวิวาห์ยังฉายชัดในความทรงจำ แม้ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยเกือบเดือนแล้วก็ตาม แต่เรื่องราวก็ยังคงถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์จากสำนักข่าวหลายสำนัก ทั้งซีบีดีและเอเอ็นเอ็นทีกรุ๊ปต่างก็กำลังไปได้สวยเลยทีเดียว เพียงพายในวัยย่างสามสิบปีกำลังนึกห้วนไปในวันที่เข้าพิธีแต่งงานกับชายคนหนึ่ง แหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายเป็นเหมือนสัญลักษณ์แทนใจว่าเขามีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนแล้ว ดวงตาเรียวสวยเหม่อมองมันด้วยความรู้สึกว่างเปล่า ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร แต่ก็ยังไม่ค่อยชินกับการสวมใส่มันไว้ตลอดเวลาอยู่ดี ใช้เวลางัวเงียได้ไม่นานเพียงพายก็เดินออกจากห้องทำงานไปที่ห้องครัวด้วยสีหน้าอ่อนเพลีย ร่างสูงโปร่งสะโพกผายในชุดทำงานเมื่อวานยับยู่ยี่ยกมือขึ้นนวดท้ายทอย ก่อนจะหยุดสายตาวางไว้ที่เจ้าของไหล่กว้างอย่างเพลิงกัลป์ที่ยืนหันหลังให้อยู่ “ตื่นแล้วเหรอครับพี่พาย” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ทว่านัยน์ตาคู่คมกลับฉายแววความเจ้าเล่ห์ยามไล่สายตามองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า นัยน์ตาสีนิลของเพลิงกัลป์ดูมีอำนาจแม้จะไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เฉกเช่นเดียวกันกับเพียงพาย ดวงตาเรียวสีเข้มที่ดูเบื่อโลกทำให้เจ้าตัวดูน่าค้นหาไม่แพ้กัน “หิวมั้ย พี่อยากทานอะไรหรือเปล่า” “ไม่เป็นไร” “แล้วนี่พี่ยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าอีกเหรอครับ นอนคากองเอกสารอีกแล้วเหรอ เมื่อวานผมสั่งอาหารให้ไปส่งที่บริษัทพี่ได้ทานบ้างหรือเปล่าครับ” เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันเป็นปมกับคำถามร่ายยาวดูจุกจิกกับเขา แต่น้ำเสียงของเพลิงกัลป์มันเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “นายอย่าทำเหมือนว่าเราสนิทกันหน่อยเลยเพลิงกัลป์ อย่าวุ่นวายกับชีวิตฉันให้มาก” “แต่ครอบครัวเราสนิทกันนะครับ” “แต่ไม่ใช่ฉันกับนายไง ไม่เข้าใจเหรอ” เพลิงกัลป์สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงเกรี้ยวกราดผ่านสีหน้าเรียบเฉยของอีกฝ่าย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยืดอกต่อกรกับคนฝีปากกล้าอย่างเพียงพายอยู่ดี “ที่จริงเราก็สนิทกันไม่ใช่เหรอครับ ตอนเด็กผมยังวิ่งตามพี่อยู่เลย” ไม่มีเสียงตอบรับจากเพียงพาย มีแต่สายตาเย็นชาจากเขาที่มองมาเท่านั้น ถึงทั้งสองครอบครัวจะไปมาหาสู่ช่วยเหลือเจือจุนในเรื่องของธุรกิจจนสนิทกัน แต่ด้วยความที่เพียงพายอายุมากกว่า มันก็เลยมีช่องว่างความห่างระหว่างอายุเกือบสิบปีอยู่ดี “ผมคิดว่าเราจะสนิทกันเหมือนตอนเด็กซะอีก” “มันหมายถึงนายฝ่ายเดียวหรือเปล่า” “นั่นสินะครับ ผมน่าจะเป็นฝ่ายวิ่งตามพี่มาตลอดเลย” น้ำเสียงที่ตัดพ้อดูหม่นลง ก่อนที่เพลิงกัลป์จะระบายยิ้มบนใบหน้าทันทีที่เพียงพายมองมา เมื่อก่อนเขาเคยยิ้มให้พี่ชายคนนี้ยังไง เวลานี้เพลิงกัลป์ก็ยังมีรอยยิ้มแบบนั้นติดอยู่ที่มุมปากอยู่เสมอมา “แต่ว่าทำไมเวลาพี่เจอผม พี่ต้องทำหน้ายักษ์ตลอดเลย ทำไมพี่ถึงดูเกลียดผมขนาดนั้น” ประโยคตัดพ้อจากเพลิงกัลป์ทำเอาเพียงพายถึงกับชะงักไปชั่วขณะ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนอกจากหยิบแอปเปิลที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมากัดกินหนึ่งคำแล้ววางเข้าที่เดิมเพราะรสชาติไม่ถูกปาก มันอาจจะไม่ใช่ความผิดของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เพียงพายก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทำดีให้มากมายกับคนที่ไม่ได้รัก เพราะยังไงภาพรวมก็ยังคงเป็นการแต่งงานเพื่อเอื้อผลประโยชน์ทางธุรกิจอยู่ดีที่ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไป เวลานี้เพียงพายมีอีกหลายอย่างที่อยากจะทำ มีอีกหลายสิ่งที่เขายังไม่ทันได้สะสางให้เสร็จ แค่เรื่องงานเขาก็เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด ไม่พ้นต้องแสดงละครต่อหน้าสังคมว่ารักกันอย่างชื่นมื่นอีกต่างหาก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงธุรกิจเท่านั้น พวกเขาไม่ได้รักกัน.. ไม่เคยรักกัน “แล้วนี่ป้านวลไปไหน ทำไมไม่เตรียมอาหารเช้า” เพียงพายเอ่ยขึ้น พลางกวาดสายตามองหาแม่บ้านประจำ “ป้านวลเตรียมแล้วครับเมื่อเช้า” เพลิงกัลป์ตอบกลับเสียงเรียบ ขณะเดียวกันก็หยิบขนมปังปิ้งจากเครื่องวางไว้บนจานเตรียมทาแยมก่อนเข้าเรียนภาคบ่าย เรียวคิ้วของเพียงพายขมวดเข้าหากัน ท้องที่ว่างกำลังเรียกร้องหาอาหารทำให้เจ้าตัวเผลอชะเง้อหน้ามองว่าอีกคนทำอะไร เพราะตั้งแต่เมื่อวานเขาก็แทบจะไม่ได้แตะของกินเลยนอกจากกาแฟดำ เพลิงกัลป์ยกข้อมือดูเวลา โดยที่มีสายตาของเพียงพายคอยมองอยู่ “แต่ตอนนี้เที่ยงกว่าแล้ว พี่ยังจะรับอาหารเช้าอยู่มั้ยครับ” “เที่ยงเหรอ” เพลิงกัลป์พยักหน้ารับพร้อมกับยกนาฬิกาข้อมือให้ดู อีกคนที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับเบิกตาโตด้วยความตกใจ ท่าทางดูลนลานจนเขาต้องรีบคว้าแขนเอาไว้ เพราะเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มจากคนใจร้อนซะก่อน “แล้วนี่พี่จะไปไหน ทำไมดูรีบร้อนขนาดนั้น” “ฉันต้องเข้าบริษัทช่วงบ่าย” “เดี๋ยวก่อนครับ” พลันเรียวคิ้วสวยก็ขมวดเข้าหากันเมื่อถูกเพลิงกัลป์ยกแขนขึ้นกั้นไม่ให้ผ่านไป เพียงพายหลุบสายตามองเพลิงกัลป์ที่ถือวิสาสะสัมผัสตัว ก่อนจะขยับฝีเท้าถอยหลังแล้วถอนหายใจทิ้ง เพลิงกัลป์ทำหน้ามุ่ยเมื่อถูกดุผ่านสายตาถึงได้ยอมลดมือลง แต่ยังคงไม่ยอมปล่อยให้เพียงพายหลีกหนีเขาไปได้ “งั้นเดี๋ยวผมทำอะไรให้ทาน พี่ไปอาบน้ำก่อนก็ได้” “ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันไปหากินระหว่างทางเอง” คนที่ถูกปฏิเสธหุบยิ้ม ก่อนจะคว้าแขนของเพียงพายอีกครั้งจนเจ้าตัวส่งเสียงในลำคอคล้ายว่าใกล้หมดความอดทนเต็มที เพียงพายไม่ใช่คนใจร้ายอะไร แค่เขาเป็นบุคคลยิ้มยากแล้วก็ซีเรียสกับทุกอย่างเกินไปก็แค่นั้น เพราะงั้นสีหน้าของเพียงพายที่เพลิงกัลป์มักจะได้เห็นอยู่บ่อยครั้งก็คือสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมเรียวคิ้วที่มักจะขมวดเข้าหากันอยู่เสมอ “ห่วงตัวเองบ้างเถอะครับ พี่นอนคากองเอกสารมากี่วันแล้ว ข้าวเช้าก็ไม่ค่อยได้กิน ใช้ชีวิตแข่งกับนาฬิกาแบบนี้ไม่เหนื่อยหรือไง” เพลิงกัลป์เอ่ยปากเตือน ก่อนจะยอมปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ แต่ก็เหมือนว่าความหวังดีของเขาจะไม่ได้ทำให้เพียงพายรับฟังเลยแม้แต่น้อย “แล้วต้องใช้ชีวิตแบบนายเหรอเพลิงกัลป์” มุมปากสวยแสยะยิ้มเหมือนรู้อะไรมา “แบบผมมันทำไมครับ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นในเชิงท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว แม้ว่าจะกำลังต่อกรกับคนอายุมากกว่าถึงสิบปีก็ตาม เพียงพายแค่นหัวเราะเสียงดังเฮอะในลำคอ “แล้วนายหายไปไหนตอนกลางคืนล่ะ ป้านวลบอกว่านายไม่ค่อยอยู่บ้านนี่” “ผมบอกพี่แล้วนะว่าผมมีอ่านหนังสือกับเพื่อน” “แน่ใจเหรอว่าอ่านหนังสือ ออกไปอ่านแทบทุกวันแบบนี้ สงสัยที่มหา’ลัยเขาสอบถี่มากเลยสินะ” ถึงจะรู้ถึงการเคลื่อนไหวของชีวิตอีกฝ่าย แต่เพียงพายก็ไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งจับผิดเพลิงกัลป์ขนาดนั้น เขาไม่อยากเอาเวลาที่มีค่ามาเสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ขอแค่อย่าสร้างความเดือดร้อนให้เขาก็พอ “ผมไม่ได้หายไปทำเรื่องที่ไม่ดีแน่นอนครับ พี่พายไม่ต้องกังวล” คำตอบจากเพลิงกัลป์ดูจริงจัง แต่สีหน้าของเพียงพายกลับเรียบเฉยเดาออกได้ยากว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “แล้วนี่พี่กำลังจับผิดผมอยู่เหรอ ผมว่าผมรายงานพี่ทุกฝีก้าวนะ มีแค่พี่นั่นแหละที่ไม่เคยเปิดไลน์อ่านข้อความผมเลย” คนอายุน้อยกว่าเบะริมฝีปากอย่างน้อยใจ แต่กลับได้รับเพียงสายตาเมินเฉยมองกลับมา “ไม่ต้องทำตัวดีเวลาอยู่ต่อหน้าฉันก็ได้นะ นายเป็นวัยรุ่น คงมีอะไรที่อยากจะทำเยอะแยะเลย” “ผมไม่ได้ทำดีกับพี่เพราะเอาหน้านะ ผมก็แค่อยากให้พี่ลองผ่อนคลายดูบ้าง ตึงเกินไปแบบนี้เดี๋ยวก็ล้มป่วยกันพอดี” “ตึงแค่ไหนก็ชีวิตฉัน นายสนใจแค่เรื่องเรียนกับเรื่องของตัวเองก็พอเพลิงกัลป์” ดวงตาเรียวสวยตวัดมองเพลิงกัลป์ ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบขึ้นบันไดไปด้านบน เหลือทิ้งไว้เพียงเพลิงกัลป์ที่ยืนยกมือขึ้นลูบท้ายทอยแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก ถึงจะรู้สึกหน้าชาไม่น้อยที่ถูกตอกหน้ากลับมาแบบนั้น ทว่าใบหน้าคมคายกลับผุดรอยยิ้มร้ายบนมุมปาก ยามนึกถึงสีหน้าของคนที่มักจะส่งสายตาเย็นชาดูเกรี้ยวกราดเมื่อครู่ “คนอะไรปากร้ายจังหวะ” เขาสบถพลางหยิบขนมปังขึ้นมาทาน เสียงปิดประตูดังขึ้นพร้อมร่างของเพียงพายที่ทรุดเข่าทิ้งตัวหลังพิงประตูอย่างอ่อนแรง ดวงหน้าดูอิดโรยจากการพักผ่อนน้อย สายตาที่ทอดมองอย่างไร้จุดหมายกำลังบ่งบอกว่าเขามีเรื่องให้คิดมากมายในหัว อธินันท์พันธสกุลจำเป็นต้องพึ่งราชาฉัตรบดินทร์ เพราะงั้นเพียงพายถึงไร้ทางเลือกและจำยอมต้องเข้าพิธีแต่งงานกับคนอายุน้อยกว่า แม้จะถูกมองว่าเป็นโคแก่กินหญ้าอ่อน แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดเหล่านั้นมากนัก ทว่ามีสิ่งเดียวที่กำลังทำให้ท่านประธานถึงกับเข่าทรุด คงจะเป็นการ์ดงานแต่งที่ถูกส่งมาเมื่อปลายเดือนที่แล้ว คนอย่างเพียงพายมันเก่งไปหมดทุกเรื่อง ยกเว้นกับเรื่องของหัวใจที่ไปแทบจะไม่เป็น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD