ความเดิม- "มันคนละส่วนกันลูก แต่ข้างในนี้ของแม่มันบอกว่ามันมีความเกี่ยวข้องกันอยู่ ไม่รู้ซิ ทันทีที่เห็นหน้าแม่หนูนี่แม่ก็คิดถึงยัยนิขึ้นมาจับใจเลย แม่อธิบายไม่ถูกเลยลูก" นางจันทราได้แต่รำพึงรำพันจนคนฟังคล้อยตามไปด้วย
………………………………….
@บ้านวรรณวัฒน์
..ยัยนางเปิดเทอมเมื่อไรเหรอ..จะทำงานพิเศษถึงเมื่อไรล่ะ..
..เปิดเทอมกลางเดือนหน้าก็กะว่าจะทำงานสัปดาห์หน้าเป็นสัปดาห์สุดท้ายค่ะ พักก่อนเปิดเทอมสัก 2 สัปดาห์ พี่นพมีอะไรหรือเปล่าคะ..
..ก็ไม่มีอะไรหรอกแค่ถามดูน่ะ ก็ดีแล้ว วันธรรมดาก็สังเกตเคสกับพี่ ๆ พยาบาล วันเสาร์อาทิตย์ก็ไม่หยุด เหนื่อยนะ ไม่รู้จะทำตัวเองให้ยุ่งไปทำไม.. มานพบ่นกระปอดกระแปดเพราะเป็นห่วงน้องสาวะเหนื่อยล้าจนเกินไปทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
..ไปสังเกตเคสก็ได้ความรู้ แถมพี่ ๆ พยาบาลยังเลี้ยงข้าวเลี้ยงขนม เผลอ ๆ คุณหมอที่อยู่เวรก็ยังซื้อขนมให้กินอีกไปทำงานพิเศษก็ได้ตังค์นะคะ วันละตั้งห้าร้อยเนี่ยได้หลายพันแล้วเนี่ย อยู่ในบัญชีเนี่ย.. หญิงสาวยื่นโทรศัพท์พร้อมเปิดแอพฯ ให้พี่ชายดู
..เออ..เก็บไว้ใช้จ่ายของตัวเองเถอะ เรื่องไปเข้าเคสก็อย่าไปรบกวนพี่ ๆ เค้าให้มากเพราะเราไปส่วนตัว พี่ ๆ เค้าก็มีค่าใช้จ่ายของตัวเองอยู่ จะไปก็ซื้อกินเอง ดูแลตัวเอง.. มานพบอกน้องสาวเพราะกลัวว่าจะทำให้คนอื่นลำบากใจที่ต้องควักเงินในกระเป๋ามาดูแลน้องสาวของตน
..ไม่หรอกค่ะ หนูห่อข้าวไปด้วยแต่คุณหมอที่หนูขอไปสังเกตเคสด้วยเลี้ยงหนูเอง บอกว่าช่วยพี่เค้าได้เยอะเลย ถือว่าเป็นค่าน้ำใจที่ช่วยงานพี่เค้าค่ะ
..อื่ม..เหรอ..ก็ดีแล้ว..เออ..นาง..พี่ว่าพี่จะซื้อรถยนต์สักคันให้เราเอาไว้ใช้ที่ ม.น่ะ อยู่บ้านแล้วนิ่ จะได้ขับไปเรียน..
..ไม่ดีมั๊งคะ นางขับยนต์ไม่เป็น ขับเป็นแต่ มอ'ไซค์นี่แหละ..
..ก็หัดซิ..เดี๋ยวพี่ส่งไปเรียนขับรถเลยดีมั๊ย แบบสอบใบขับขี่พร้อมเลย..
..มันหลายตังค์อยู่น๊า..เสียดายตังค์ ถ้าผ่อนก็หลายงวด ต้องเป็นหนี้หลายปีอยู่ไม่ใช่เหรอคะ..
..เอาแบบราคากลาง ๆ ห้าหกแสน พี่มี โบนัสพิเศษที่ท่านเจ้าสัวเปรมชัยให้มาไง ส่วนเงินในบัญชีที่เก็บไว้ให้เราเรียนก็ยังเหลือไม่ได้เอามาใช้อะไร..
..แล้วพี่นพไม่ซื้อไว้ขับเองละคะ นางขับ มอ'ไซค์ ก็ได้สะดวกดีพี่นพขับรถยนต์เป็นก็ขับไปไง..
..ช่างเถอะ ยังไงก็ซื้อไว้สักคันเผื่อวันไหนฝนตกฟ้าร้องก็ดีกว่าขับ มอ'ไซค์ นะ เอาตามนี้นะเดี๋ยวพี่จะไปดูที่ศูนย์..
..ก็ได้ค่ะ แล้วแต่พี่นพเลย นางยังไงก็ได้..
..อืม..งั้นเอาตามนี้..
ฤดูกาลเปิดเทอม
มานิดาออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อไปมหาวิทยาลัยโดยมีพี่ชายขับรถจักรยานยนต์ไปส่งหญิงสาวที่คณะเพราะเขาต้องไปติดต่อเรื่องต่อเรื่องจ่ายค่าเล่าเรียนให้หญิงสาวอยู่แล้ว แต่เมื่อมาถึงฝ่ายการเงินเมื่อเขามาทวงถามปรากฎว่าสถานะจ่ายค่าเล่าเรียนแล้ว นั่นทำให้เขางงหนัก
"เอ่อ ขอโทษครับไม่ทราบว่าใครเป็นคนจ่ายค่าเล่าเรียนให้นางสาวมานิดา วรรณวัฒน์ เหรอครับ"
"อ๋อ พอดีมีผู้ชายแต่งตัวสุภาพท่านนึงบอกว่าตัวแทนของคุณเปรมกิจ อนันตวรรณาวงษ์ บอกว่าญาติของนักศึกษาซึ่งก็เหลือเพียงพี่ชายคนเดียวยินยอมจะให้จ่ายค่าเล่าเรียนให้ค่ะ แต่ติดว่านักศึกษายังอายุเพียงสิบเก้าปีเท่านั้น จึงฝากรบกวนให้พี่ชายช่วยเซ็นยินยอมตรงนี้ด้วยค่ะแล้วทางมหาวิทยาลัยจะประสานไปทางตัวแทนของคุณเปรมกิจและเรียกเก็บเองค่ะ รบกวนเซ็นตรงนี้ด้วยค่ะ"
"อ๋อ..ได้ครับ" มานพจรดลายเซ็นลงไปแล้วนึกโล่งใจอยู่เหมือนกันเพราะถ้าเขาตัดสินใจออกรถยนต์สักคันจะได้ไม่เบียดเบียนเงินเก็บที่เก็บไว้ให้น้องสาวเล่าเรียน ส่วนที่เก็บไว้ก็ไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้อีก เขาไม่คิดลังเลหรือปฏิเสธใด ๆ สำหรับครั้งนี้ เพราะถ้าเขาปฏิเสธนั่นคือการตัดอนาคตของน้องสาว ชายหนุ่มได้แต่ให้เหตุผลตัวเองในใจ หลังจากจัดการธุระเรื่องน้องสาวเสร็จ มานพได้เดินดูรอบ ๆ อาคาร และแวะเวียนไปยังตึกต่าง ๆ ที่เคยทำงานรู้สึกคิดถึงอยู่เหมือนกันแต่จะทำยังไงได้ โอกาสที่เขาจะหาเงินได้จำนวนมาก ๆ ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ
ตัดมาที่มานิดา
หลังจากที่พี่ชายกลับไปเธอก็เดินมานั่งที่โรงอาหารเพื่อรอเพื่อนสาวที่เคยพูดคุยกันถูกคอ แต่ต้องผิดหวังเพราะเพื่อนสาวของเธอไม่มาที่โรงอาหารเสียแล้ว หญิงสาวจึงคิดว่าควรขึ้นไปรอบนห้องจะดีกว่าแต่บังเอิญได้ยินเสียงใครบางคนเอ่ยทักขึ้นเสียก่อน
"ไม่กินข้าวก่อนล่ะ แล้วค่อยขึ้นอาคาร ยังเหลือเวลาอีกตั้งเกือบชั่วโมงแน่ะ เดี๋ยวอาจารย์เลี้ยง" ธันทรเอ่ยยิ้ม ๆ อย่างเป็นมิตรความจริงเขาจ้องหาโอกาสอยู่ก่อนแล้วและรู้ว่าหญิงสาวคงปฏิเสธอีกตามเคย
"กินมาแล้วค่ะ แต่มารอเพื่อนค่ะ แต่เค้าคงยังไม่มาหรือขึ้นห้องไปแล้วมั๊งคะ งั้นหนูขอตัวก่อนนะ.." มานิดารีบตัดบทแต่ยังไม่ทันจะพูดจบดี
"เดี๋ยว..นั่งด้วยกันหน่อยซิ ยังไม่ได้กินข้าวเลย ออกเวรมาหิวมาก ไปสั่งราดหน้าหมี่กรอบให้อาจารย์หน่อยซิ ไม่ต้องปรุงนะ อะ..นี่ตังค์" ชายหนุ่มเอ่ย ๆ ยิ้ม ๆ แล้วยื่นธนบัตรฉบับละหนึ่งร้อยให้หญิงสาว
"อ๋อ..ได้ค่ะ" มานิดารีบลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ร้านอาหารประเภทเส้นทันที
"ได้แล้วค่ะราดหน้าหมี่กรอบ ไก่หมักนุ่ม ๆ แม่ค้าบอก" หญิงสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับจานอาหารที่สั่งตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมกับเงินทอน
"ผมอิ่มแล้วกินไม่ไหวช่วยกินหน่อยซิ เงินทอนก็เก็บไว้เลยขี้เกียจเก็บแบงค์ย่อยกับเงินเหรียญ" ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ และคะยันคะยอให้หญิงสาวกินอาหารตรงหน้าเสียเอง