ความเดิม- "สวัสดีค่ะ/สวัสดีค่ะ/สวัสดีค่ะ" มานิดายกมือกระพุ่มไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสามอย่างนอบน้อม
………………………………..
ด้านคุณนายจันทราได้แต่รับไหว้อย่างอึ้ง ๆ เมื่อเห็นเด็กสาวตัวเป็น ๆ นั่นทำให้เธอยิ่งมั่นใจว่านี่คือเลือดเนื้อเชื้อไขของน้องสาวคนละสายเลือดของเธอเป็นแน่
"หนูชื่ออะไรหรือลูก ไหนเข้ามาใกล้ ๆ ป้าซิลูก" คุณนายจันทรากวักมือเรียกเด็กสาวเข้ามาใกล้ด้วยหัวใจพองฟู
ด้านมานิดาหันไปสบตาธันจิราเพียงครู่และหญิงสาวได้พยักหน้ายิ้ม ๆ เป็นการส่งสัญญาณบอกให้เธอเดินเข้ามาได้ไม่มีอะไรน่ากังวล เธอจึงเดินเข้าไปหาผู้ใหญ่ของบ้านอย่างเกร็ง ๆ อยู่บ้าง
"หนูรู้จักกับพี่จิราเค้าได้ยังไงหึ๊ลูก ถึงได้มาทำงานพิเศษที่คลินิกพี่เค้าได้"
"รุ่นพี่ที่เคยทำงานพิเศษที่คลินิกคุณหมอแนะนำมาค่ะ พอดีพี่เค้าเริ่มเรียนหนักก็เลยแนะนำหนูให้รู้จักกับคุณหมอค่ะ"
"แล้วจิราก็รับน้องเข้าทำงานเลยน่ะเหรอ" คุณจันทราหันไปถามลูกสาวบ้าง
"ใช่ค่ะคุณแม่" ธันจิราตอบอย่างเสียไม่ได้
"เหรอ..ลูก" คุณจันทราพึมพำอย่างไม่อยากจะเชื่อเพราะลูกสาวของเธอค่อนข้างคัดสรรคนทำไมรับเด็กสาวเข้ามาง่าย ๆ น่าจะมีคลื่นใต้น้ำมากกว่า จึงเหลือบตาไปมองลูกชายแล้วยิ้มในหน้า
ในส่วนของจันทราแม้ว่าเธอยังไม่ได้รับความคืบหน้าเรื่องข่าวคราวที่ให้เพื่อนฝูงช่วยสืบ แต่ในใจของเธอมันอิ่มเอมแล้วเหมือนพบสิ่งที่ตามหามานาน เพียงแต่อยากปลงใจด้วยหลักฐานเสียมากกว่า
"ไหนใครสั่งเครื่องส้มตำพ่อมาทำไมเนี่ย ไปตำซิ จะได้กินข้าวกัน"
"หนูเองค่ะพ่อ/ปะ น้องนางไปช่วยพี่หน่อย ได้ข่าวว่าเรามือตำไม่ใช่เหรอ อร่อยเสียด้วย" ธันจิราตอบบิดายิ้ม ๆ แล้วชวนมานิดาไปช่วยปรุงเพราะเธอกินเป็นอย่างเดียว
"อ๋อ..ก็แค่พอทานได้แก้ขัดค่ะ" มานิดาเอ่ยอย่างถ่อมตัวไว้ก่อน
"เอาส้มตำเด็กให้อาจารย์ด้วยนะมานิดา" ธันทรร้องบอกเด็กสาวไล่หลังแล้วเดินตามไปสมทบสาว ๆ ในครัวบ้าง
ด้านธนาประมุขของบ้านได้แต่สังเกตอาการลูกชายอยู่เงียบ ๆ พอจะรู้แล้วว่าไม่ใช่แค่สนใจเสียแล้ว และเรื่องงานพิเศษที่คลินิกของลูกสาวก็คงเป็นฝีมือของเจ้าลูกชายนี่แหละ ชายวัยเกษียณได้แต่นั่งมองเด็ก ๆ แล้วยกยิ้มมุมปาก
ต่อไปนี้เป็นเสียงกระซิบของสองสามีภรรยานะคะ
/คุณธนา คุณดูซิ ฉั๊นว่าลูกชายเราน่ะไม่ใช่แค่สนใจแล้วนะฉั๊นว่า..พามาบ้านขนาดนี้..มันเป็นการเปิดตัวหรือเปล่า..
/แล้วคุณว่าไงล่ะ ชอบมั๊ย.. คุณธนาเอ่ยถามภรรยากลับบ้าง
/ก็ไม่แย่นิ่คุณ ดูนั่นรู้จักทำอาหารกินเองเป็นนะ ดูคนของเราซิ่ ดูจะคล้อยตามเค้าซ๊ะหมดนะนั่น ดูซิ่..แค่แม่หนูนั่นปลายตามองก็หงอแล้ว มันแพ้ทางเด็กแล้วน่ะนั่น.. คุณจันทราได้แต่กระซิบบอกสามีอย่างนึกชอบใจ
/นู่น..เด็ก ๆ เดินมากันแล้วอย่าเสียงดังซิ่คุณ.. คุณธนากระซิบเตือนภรรยาเพราะกลัวว่าเด็ก ๆ จะรู้ว่ากำลังจับผิดพวกเขาอยู่
/รู้แล้ว..ก็นั่งดูอยู่ด้วยกันนี่แหละ ฉั๊นรู้หรอกว่าต้องวางตัวยังไง.. คุณจันทราประท้วงสามีขึ้นเบา ๆ
/หึหึ.. คุณธนาได้แต่หัวเราะเบา ๆ ในลำคอเพราะรู้อารมณ์คนข้าง ๆ แล้ว เงียบปากไว้เสียดีกว่า
จบบทกระซิบกระซาบค่ะ
อีกด้านของผู้มาใหม่
..มาแล้วค่า..ส้มตำเด็กฝีมือลูกศิษย์ของพี่ธัน อร่อยนะคะคุณพ่อคุณแม่ ไม่ต้องกลัวท้องอืดหรือท้องเสีย เพราะจิราเตรียมโพรไบโอติกมาแล้ว ถ้ากลัวก็กินน้องโพรตามไป รับรองช่วยบรรเทาอาการได้หายห่วง.. ธันจิราชวนชิม
..ไหน แม่ขอชิมหน่อย..ส้มตำเด็กเหรอหน้าตาดีนิ่..อื้มอร่อยนะ เผ็ดนิด เปรี้ยวหน่อย เค็มตาม ใช้ได้นิ่หนู ใครสอนเหรอ ใส่มะเขือเทศเยอะแล้วไม่เลี่ยนจนเสียรสชาตินี่หายากอยู่นา ชอบกินมะเขือเทศเหรอลุก..
..ชอบค่ะ พี่นพบอกว่าแม่ก็ชอบกินมะเขือเทศ หนูคงชอบเหมือนแม่ค่ะ.. มานิดาบอกอย่างแสนซื่อทำเอาคนฟังถึงกับสะอึก
..ได้ข่าวว่าแม่หนูเสียไปแล้วตั้งแต่หนูยังเด็กไม่ใช่เหรอ เสียใจด้วยนะลูก..
..ค่ะ ตั้งแต่หนูอายุห้าหกขวบค่ะ ส่วนพ่อเพิ่งมาเสียตอนหนูอยู่ประถม ก็เลยอยู่กับพี่ชายแค่สองคน..
..เหรอ แล้วแม่เราเป็นคนจังหวัดไหนล่ะ ทำไมเราถึงละม้ายคล้ายคนภาคเหนือจัง..
..อ้อ..พี่นพบอกว่าแม่เป็นคนเชียงรายค่ะ มาพบกับพ่อที่เชียงใหม่ แล้วก็มาทำมาหากินตั้งรกรากที่กรุงเทพฯ ค่ะ.. มานิดาบอกตามที่ได้รับรู้มา
ด้านคุณนายจันทราที่นั่งฟังอยู่รู้สึกตื่นเต้นระคนลุ้นนิด ๆ เพื่อรอคำตอบ เมื่อได้ยินคำตอบก็เชื่อแล้วหนึ่งเปราะเหลือเพียงแค่หนึ่งเปราะก็คือหลักฐานทางทะเบียนราษฎร์เท่านั้น เธอได้สบตากับสามีอย่างรู้ความนัย ส่วนธันทรและธันจิราถึงกับอึ้ง ๆ ที่ได้ยินคำตอบจากเด็กสาวที่ตอนนี้กำลังเอร็ดอร่อยกับส้มตำเด็กของเธอ
ธันทรเมื่อเห็นว่าทุกคนรวบช้อนหมดแล้วจึงส่งสายตาเป็นเชิงขอความร่วมมือทุกคนแล้วเอ่ยขึ้น
"เอ่อ มานิดาอิ่มแล้วใช่มั๊ยงั้นไปถ่ายรูปตรงนู้นเลย เสร็จแล้วไปรอที่ห้องทำงานผมเลย ให้พี่จิราพาไปนะข้อมูลอยู่ในคอมห้องนั้นแหละ/ฝากหน่อยนะจิรา เดี๋ยวพี่ตามไป" ธันทรบอกคนตัวเล็กยิ้ม ๆ แล้วส่งสายตาให้น้องสาว
"อ๋อได้ค่ะพี่ธัน..มะ..มานิดา ตามพี่หมอมาเร้ว.." ธันจิราอือออด้วยอย่างรู้งานส่วนเด็กสาวก็เดินตามไปอย่างว่าง่าย
ตัดมาที่ธนา จันทราและธันทรที่ตอนนี้ย้ายมานั่งที่ห้องนั่งเล่นแล้ว
"มีอะไรจะสารภาพมั๊ยจ๊ะพ่อลูกชาย รักน้องแล้วซิ"
"ถ้าผมบอกว่าใช่ล่ะครับ"
"วุ๊ย..ฉั๊นละเบื่อจริง ๆ คุณพวกเด็กสมัยนี้ ทำไมต้องมีถ้า ทำไมต้องท่าโน้นท่านี้ คอยดูเถอะถ้าพบหลักฐานว่าพนิดา วรรณวัฒน์ คือคนเดียวันกับ พนิดา เวียงวงค์ ละก็ ฉั๊นจะขอมาเป็นลูกบุญธรรมแล้วหาหนุ่ม ๆ ให้เสียเลย" คุณจันทราหันไปบ่นกับสามีกระทบลูกชายแล้วเดินหายเข้าไปในครัวทันที