@ บริษัท H Group
ณ. ห้องประธานบริษัททอตะวันถูกเรียกเข้าพบโดยด่วนหลังจากยื่นใบลาออกกับแผนกบุคคลเมื่อเช้าที่ผ่านมา
ก็อก ก็อก ก็อก .....เสียงเคาะประตูจากด้านนอกบอกว่าคนที่ต้องการพบมาถึงแล้ว ประธานหนุ่มวางเอกสารวาระสำคัญลงอย่างไม่สบอารมณ์เท่าที่ควร ใบหน้าดูมีความยุ่งยาก ก่อนปรับอารมณ์ให้เป็นปกติวางมือประสานกันบนโต๊ะไม้หรูหราราคาแพง
"เชิญครับ" เสียงนุ่มเปล่งออกมาในมือยังถือใบลาออกของหญิงสาว
เมื่อทอตะวันเปิดประตูเข้าไปพบกับประธานบริษัทหนุ่มไฟแรง ธีทัต ด้วยวัยเพียง 35ปี รออยู่ด้วยใบหน้าที่บอกได้ว่าไม่พอใจ
หลังจากสานต่อธุรกิจจากรุ่นพ่อ รุ่นลูกก็ถือเป็นยุคทองของวงการโฆษณาไทยด้วยวิสัยทัศน์ก้าวไกล การตลาดยุคดิจิตอลบวกกับทีมงานที่เก่งกาจมากประสบการณ์ เขาสามารถก้าวขึ้นเป็นแนวหน้าธุรกิจโฆษณาได้ไม่ยาก
"ผมไม่อนุญาตให้คุณลาออก " บอสกล่าวสายตาดุดันคมกริบใบหน้าเรียบเฉยส่งสายตามาทางหญิงสาวนิ่งนานแต่ในใจกลับเดือด ปุด ปุด อย่างกับภูเขาไฟประทุพร้อมที่จะพ่นลาวาเถ้าถ่านออกมาในตอนนี้
"เขาให้เงินเดือนคุณเท่าไหร่" บอสถามในใจเขาไม่เชื่อว่าทอตะวันจะออกเพื่อไปดูแลบ้านไร่อย่างที่เขียนไว้ในใบลาออก
ก่อนหน้าที่ทอตะวันจะมาเป็นผู้จัดการเขาต้องสูญเสียพนักงานฝีมือดีให้กับบริษัทคู่แข่งมาแล้วหลายคน จนเขาต้องระแวงทุกครั้งไป กว่าจะเจียระไนให้ส่งประกายได้ขนาดนี้ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร
ตอนนี้บริษัทเขาก็นับได้ว่าลงตัวที่สุดมากกว่าเท่าที่ผ่านมานับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท
"คือตะวัน ออกไปดูแลไร่องุ่นที่บ้านต่างจังหวัด จริงๆ นะคะ บอส"
"ไม่มีเหตุผลอื่นแอบแฝงจริงๆค่ะ "
บอสยังคงนั่งนิ่งสองมือประสานกันบนโต๊ะ สายตาจับจ้องที่ใบหน้าหวาน ไม่วางตาพยายามมองให้ทะลุเข้าไปในจิตใจ
"ก็ไหนคุณบอกว่าจะอยู่อีกซัก10ปี ไม่ใช่ เหรอ"
"นี่เพื่งจะผ่านมา 4 ปี ผลงานคุณก็มากมาย คุณจะทิ้งมันไป"
"ผมควรทำอย่างไรดี คุณทอตะวัน"
ธีทัตทบทวนถึงผลงานของทอตะวันในหลายปีที่ฝ่าฟันกันมาเธอมีส่วนช่วยบริษัทอย่างมาก งานเข้าอย่างต่อเนื่องเมื่อส่งทอตะวันไปเจรจากับลูกค้า มักได้งานกลับมาทุกครั้งไป
"เอาอย่างนี้นะคุณต้องการเงินเดือนเพิ่มอีกเท่าไหร่คุณเขียนมาเลย" แล้วบอสหนุ่มยื่นกระดาษโน๊ตใบเล็กพร้อมปากกาให้กับทอตะวัน
"มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินหรืออะไรทั้งนั้นค่ะ ทุกวันนี้เงินเดือนของตะวันก็สูงอยู่แล้วตะวันไม่ต้องการเรียกเงินเดือนเพิ่มค่ะ"
หญิงสาวพยายามอธิบายคนอย่างทอตะวันเงินซื้อไม่ได้
"คุณทิ้งผมไปตอนนี้ผมจะหาพนักงานฝีมือดีแบบคุณได้อีกไหม"
"บอสคะ คนเก่งในแผนกมีอีกตั้งหลายคนวีณาเขาก็เหมาะนะคะ ครบเครื่อง"
ทอตะวันเรียบเฉย แววตาแน่วนิ่ง
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่....ยอมแพ้ คนจะไปทำอย่างไรก็รั้งไว้ไม่อยู่
"ถ้าคุณเห็นว่าเหมาะสม ผมก็โอเค"
"ผมจะแต่งตั้ง คุณวีณาเป็นผู้จัดการแทนคุณ"
"แต่ผมอยากขอร้องคุณเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทก่อนในช่วง1ปีแรก”
"จะได้ไหม? เพื่อเห็นกับพ่อผม" เอาพ่อมาอ้างแล้วดูซิจะใจแข็งไหม
"เอาอย่างนั้นเลยเหรอคะบอส" หญิงสาวลำบากใจจัง
"คุณไม่ต้องห่วงนะผมจะจ่ายเงินเดือนคุณเท่าเดิมหรือจนกว่าวีณาเขาจะสามารถทำงานได้มาตรฐานเท่าคุณ"
สรุปแล้วฉันทอตะวันยังต้องรับใช้บอสอยู่อีก1ปี
บอสเห็นว่าทอตะวันไม่ขัดข้องอะไรกับข้อเสนอ จึงบอกลักษณะการทำงานคร่าวๆ
ตกลงตามนี้ เราจะประชุมออนไลน์กันเป็นหลัก ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
"มันเป็นความผิดของคุณที่ปุบปับ..ลาออก"
"เราจะประชุมแผนงานกันเดือนละ1ครั้งอยู่แล้ว ใช่ไหม?
"วันจันทร์แรกของเดือนหรือไม่เกินวันที่ 3 ของทุกเดือน เราจะประชุมออนไลน์กัน"
"แล้วระยะเวลาที่คุณอยู่บ้านคุณก็ทำงานของคุณไป แต่คุณยังอยู่ในไลน์กลุ่มเหมือนเดิมคอยให้คำปรึกษาก็แค่นั้นผมจะเป็นคนสรุปงานให้คุณเอง"
"เอาล่ะ คุณกลับไปสอนงานคุณวีณาได้"ทอตะวันเองก็ไม่เห็นด้วยซักเท่าไหร่
"ไม่เอาเปรียบบริษัทเกินไปเหรอคะ" ก็พูดไปตามความรู้สึก
"ผมคิดดีแล้วตกลงตามนี้ครับคุณทอตะวัน" บอสกล่าว
@ SP คอนโด
วันนี้อาหารมื้อเย็นง่ายๆ แต่อร่อยถูกใจทอตะวันมากๆ ก็มาจากฝีมือของน้องชายสุดที่รัก ข้าวคลุกกะปิร้อนๆ ถูกตักจากกระทะตกแต่งด้วยผักเครื่องเคียงคู่กันตัดรสเค็มของกะปิด้วยหมูหวานนุ่มลิ้น
บนโต๊ะอาหารขนาดเล็ก
"วันนี้พี่ยื่นใบลาออกแล้วนะเมฆ"
"ออกสิ้นเดือนนี้เลยเหรอครับพี่ตะวัน"
"อืม ใช่ๆ"
"อยู่สอนงานวีณาเขาตามข้อตกลงอีกหนึ่งเดือนพี่ก็กลับบ้านแล้ว” ทอตะวันเมื่อนึกถึงอาการของพ่อแล้วสีหน้าไม่สู้ดี ทางนี้ก็เป็นห่วงน้องชายเอามากๆ เหนือเมฆก็พอจะรู้ว่าพี่สาวคิดอย่างไร
"เมฆอยู่คนเดียวได้ พี่ตะวันไม่ต้องห่วง"
"สบายมาก"
"เอาอย่างนี้นะ พี่อนุญาตให้เมฆมีสาวๆ มาอยู่เป็นเพื่อนได้นะ"
เหนือเมฆได้ยินแทบสำลักข้าว
"แค่ก แค่ก โอ้ย ข้าวติดคอ”
"ขอน้ำหน่อยพี่ตะวัน" เหนือเมฆยื่นมือรับแก้วน้ำจากตะวันแล้วดื่มไปอึกใหญ่
"พอจะไปล่ะทิ้งระเบิดไว้เลยนะ"
ทอตะวันเมื่อเห็นน้องชายมีอาการให้ชวนสงสัย ในเมื่อทุกคนก็ต้องการความรักเพื่อหล่อเลี้ยงจิตใจ
"ก็น้องชายพี่ออกจะหล่อขนาดนี้ สาวๆ ก็ต้องมีมาบ้างแหละ"
"เล่นตัวนัก ระวังจะขึ้นคานแบบพี่นา ป่านนี้แล้วยังขายไม่ออกเลย"
" 55 จริงด้วย" เหนือเมฆน้องชายเริ่มเห็นด้วยแล้วขยุบขยิบตาล้อเลียน
"กลัวจังเลย ขึ้นคาน" สองคนพี่น้องหยอกล้อกันอีกสักพักแล้วนั่งดูข่าวค่ำจบแล้วก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอน
เช้าวันรุ่งขึ้น
@บริษัท H Group
บอร์ดประชาสัมพันธ์ของบริษัทที่เนืองแน่นไปด้วยพนักงาน เสียงอื้ออึง อึกทึกและต่อมาก็ได้เคลื่อนตัวมาที่แผนกโฆษณา
ตัวแทนกกระจอกช่างซ่อกแซ่กถูกดันตัวออกมาจากกลุ่มคนซึ่งถือเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติ
"พี่ตะวันคะ พี่จะลาออกจริงๆ เหรอคะ?
สีหน้าพนักงานสาวๆจากทั้งแผนกใกล้เคียงและแผนกโฆษณาดูจะไม่อยากเชื่อหลังจากดูประกาศบนบอร์ดประชาสัมพันธ์
"จริงๆ เหรอคะ"
บลา บลา บลา...
ส่วนวีณาเองที่เพิ่งจะรู้ตัวก็ดึงมือของทอตะวันมาซักถามเป็นการด่วน"พี่ตะวัน พี่ลาออกแล้วจริงๆเหรอคะ”
“นาจะทำได้เหรอคะทุกครั้งมีพี่ช่วยแนะนำ......นาถึงมั่นใจค่ะ”
สถานการณ์ตอนนี้ยิ่งกว่าเมื่อวานอีก ทอตะวันยืนนิ่ง ยิ้มเย็น
"เอาล่ะ เอาล่ะ ทุกคน พี่ลาออกน่ะใช่แล้ววีณา ขึ้นตำแหน่งแทนพี่ก็ใช่อีก"
"แยกย้าย กันได้แล้ว พี่จะทำงาน"
ทอตะวันตัดบทไปก่อนที่บอสจะมาเห็นความวุ่นวายนี้ ทำให้ทุกคนแยกย้ายกันไปโดยปริยาย
"คืออย่างนี้นาพ่อพี่ประสบอุบัติเหตุต้องรักษาตัวไร่ต้องมีคนดูแลมันถึงเวลาแล้วและนาก็ทำได้"
"พี่เชื่อมั่นว่านาทำมันได้ดีไม่แพ้พี่หรอก"
วีณาสาวรุ่นน้องยังคงอิดออดอีก
"แล้วนาจะไหวเหรอคะ?"
"ยังมีป็อปคอร์น อีกคนที่จะช่วยงานนานะ" หญิงสาวให้กำลังใจรุ่นน้อง ที่ปลุกปั้นมาตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาฝึกงาน ความที่หน่วยก้านดีพอเรียนจบก็ถูกเรียกให้มาทำงานทันที
ด้วยมีดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งพ่วงท้าย มีทัศนคติที่ดีเฉลียวฉลาดบุคคลิกหน้าตาดีหัวไวสอนง่ายไม่นานจึงได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้จัดการในที่สุด