เนตราจำไม่ได้ว่าตัวเองวิ่งจากตรงนั้นมาด้วยความเร็วแค่ไหน และกำลังวิ่งไปทิศทางใดกันแน่ และไม่รู้ว่าห่างจากโรงแรมที่พักมาไกลเท่าไรแล้วด้วย เธอได้ยินเสียงเรียกของ ‘รวิ’ แว่ว ๆ เท่านั้น แต่ไม่หันหลังกลับไปมอง
‘จดทะเบียนกับคุณคาร์ล? นี่คุณหมายความว่ายังไง’ เธอจำได้ว่าพยายามอย่างยิ่งที่จะระงับสติอารมณ์ให้นิ่งที่สุด ทั้งที่ตอนนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวอะไรสักอย่าง แล้วแต่ใครจะโยนไปทางไหน โดนป้าบังคับให้แต่งงานแทน มาตอนนี้ว่าที่เจ้าบ่าวไม่แต่ง แต่กลับโยนไปให้ลูกน้องของเขา
‘หนี้ทั้งหมดก็จะถูกชำระ’ เขาไม่ตอบคำถามเธอ แต่อธิบายเพิ่มเติม
‘ตกลงดิฉันเป็นหนี้คุณหรือคุณคาร์ลกันแน่คะ แล้วเขามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง’
‘คุณไปถามเขาเอาเอง แต่นี่เป็นหนทางเดียวที่คุณจะชำระหนี้ได้ในตอนนี้ เพราะฉะนั้นจงทำมันซะ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป’
‘ดิฉันถูกส่งตัวมาในฐานะว่าที่เจ้าสาวของคุณ แต่ในเมื่อคุณผู้ซึ่งเป็นว่าที่เจ้าบ่าวไม่สามารถแต่งงานได้ ดิฉันก็จะไม่ขอแต่งกับคนอื่น จะไม่ยอมดึงคนอื่นมาลำบากยุ่งยากกับเรื่องนี้ ส่วนเรื่องหนี้ ดิฉันจะทำงานหาเงินมาใช้คุณให้จงได้’
เขาโคลงศีรษะ ‘กว่าคุณจะหาได้ครบ ผมอาจจะแก่ตายไปซะก่อน ไปหาคาร์ล แล้วเขาจะอธิบายทุกอย่างให้คุณเข้าใจเอง’
ความอดสูตัวเองนั่นละที่ทำให้เธอวิ่งออกจากตรงนั้นมา
เธอร้องไห้จนน้ำตากบตา และไม่ทันสังเกตว่ามีผู้ชายสองคนเพิ่งมองมาทางเธอ แล้วก้มลงมองรูปที่ดึงออกจากกล้องวงจรปิดภายในรีสอร์ตของเจ้านายเพื่อความแน่ใจ
เขาเป็นลูกน้องของกำนันไข่นั่นเอง
“ใช่หรือเปล่าวะ” คนหนึ่งเอ่ยขึ้นก่อน
“กูว่าใช่ว่ะ ตัวเล็ก ๆ บาง ๆ หน้าแบบนี้ ทรงผมแบบนี้แหละ”
“ผู้หญิงทรงนี้ก็มีเยอะแยะนี่หว่า ถ้าผิดตัว พวกเราจะลำบากนะเว้ย” ทำท่าหวาดกลัว
“ใครบอกมึงล่ะ จะยิ่งดีล่ะไม่ว่า เพราะต่อให้ไม่ใช่ เราก็ได้ผู้หญิงไปให้คุณต๊อบ...และถ้าคุณต๊อบถูกใจ รับรองพวกเราสบาย”
ตกลงกันได้แล้ว ทั้งคู่ก็เดินตามหญิงสาวไปเงียบ ๆ
รวิและอังศุธรชะงัก เมื่อเข้าไปในล็อบบี้โรงแรมแล้วพบว่าปภาดาปรี่เข้ามาดักหน้า เธออยู่ในชุดแต่งกายค่อนข้างเปิดเผยเนื้อตัว และลากกระเป๋าเดินทางมาด้วย
“สวัสดีค่ะ คุณคาร์ล” เธอส่งยิ้มหวานให้รวิก่อน แล้วจึงส่งให้อังศุธร ซึ่งสองหนุ่มก็เหลือบมองตากันแวบหนึ่ง ก่อนอังศุธรจะเดินเข้าไปในโรงแรมก่อน
“ครับ” รวิทักทายกลับ
“เนตรล่ะคะ”
“น่าจะอยู่บนห้องนะครับ”
“ปอยโทร.หาไม่รับสายน่ะค่ะ ก็เลยไม่รู้ว่าเขาพักห้องไหน”
คิ้วเข้มของรวิเลิกขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงถามว่าเธอมีธุระอะไรกับเนตราหรือ? ปภาดารีบตอบสายตาเขา
“ปอยจะมาพักอยู่กับเนตรน่ะค่ะ...คือ จะคุยกับเนตรเขาเรื่องแต่งงาน”
“ครับ?”
“คือ” หญิงสาวช้อนสายตาขึ้นมองเขาด้วยแววตาหวานฉ่ำ “คุณคาร์ลคงจะทราบว่าจริง ๆ แล้ว คนที่ต้องแต่งงานกับคุณรวิคือปอย”
คราวนี้รวิเหยียดยิ้ม เริ่มเข้าใจอะไรได้ลาง ๆ แล้ว
“ครับ แต่คุณก็ให้เนตรแต่งแทน”
“ใช่ค่ะ ตอนนั้นปอยตกใจ ทำอะไรไม่ถูกน่ะค่ะ ก็เลยตัดสินใจไปอย่างนั้น แต่ตอนนี้ปอย...”
“เฮ้ย คาร์ล...” อังศุธรหวนกลับมาหาเพื่อนรัก สีหน้าบ่งบอกความโมโหและโกรธเกรี้ยว “ไอ้กำนันไข่มันโทร.หากู”
“ใครวะ กำนันไข่”
“ไอ้เจ้าของรีสอร์ตที่มึงจะซื้อให้เจ้าสาวมึงไง ตอนนี้ว่าที่เจ้าสาวของมึงอยู่กับมัน”
รวิวิ่งออกจากตรงนั้นทันทีด้วยความเป็นห่วงเนตราสุดหัวใจ อังศุธรวิ่งตามทันที ไม่มีใครสนใจปภาดาอีกเลย
รวิกับอังศุธรไปถึงบ้านหลังใหญ่ของกำนันไข่หลังจากได้รับโทรศัพท์ไม่ถึงสามสิบนาที รวินั้นขบกรามแน่นตลอดเวลา
ถ้าเนตราเป็นอะไรไป เขาจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย
เพราะไอ้เกมลับลวงพรางบ้า ๆ ที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ เพราะเขาไม่ยอมบอกเธอไปตรง ๆ ตั้งแต่แรกว่าเขาคือรวิ เธอคิดว่ามาโนชญ์เป็นเขา พอมาโนชญ์บอกให้เธอจดทะเบียนกับเขา เธอจึงน้อยใจคิดว่ามาโนชญ์โยนเธอไปทางนั้นทีทางนี้ที
เมื่อทั้งสองไปถึง ก็พบว่ากำนันไข่กำลังคุยเล่นกับนกเขาในกรงทองสวยงามด้วยท่าทางสบายอกสบายใจ มีลูกน้องยืนคอยคุ้มกันอยู่รอบ ๆ
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกเขา ก็ส่งยิ้มกวน ๆ มาให้
“ไง นายหัวตะวัน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ทักทายอังศุธรด้วยท่าทียียวนกวนประสาท “วันนี้นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่นายหัวตะวันมาเยี่ยมบ้านผม”
“ความจริง ผมตั้งใจจะมาหากำนันอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมาเรื่องนี้...ผู้หญิงอยู่ที่ไหน” อังศุธรถามเสียงเรียบ ๆ มองหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา เช่นเดียวกับรวิ ท่าทางของพวกเขาดูสงบนิ่ง แต่ขณะเดียวกันก็ดูอันตรายสำหรับศัตรู อันทำให้กำนันไข่นึกครั่นคร้ามไม่น้อย ทั้งคู่ดูเหมือนเสือกับสิงห์ที่เตรียมจะขย้ำเหยื่อ แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว จะแสดงความกลัวให้เห็นก็ไม่ได้ ที่นี่บ้านของเขา เขามีอำนาจมากกว่า และเขาก็มีเจ้านายคอยคุ้มครอง ไม่จำเป็นต้องกลัวใคร