ปภาดากรีดร้องด้วยความคับแค้นใจในความผิดพลาดที่แสนโง่งมของตัวเอง ของแม่และของทุกคนในบ้านที่ดันไปเข้าใจผิดคิดว่าชายร่างท้วม ผิวคล้ำคนนั้นคือรวิ คือคนที่จะมาเป็นเจ้าบ่าว เธอเลยผลักภาระให้เนตรา ไม่นึกเลย เจ้าบ่าวตัวจริงจะหล่อชวนใจละลายแบบนี้ กลายเป็นเนตราโชคดีไปเสียฉิบ!
ไม่ได้! ไม่ยอม! เธอจะต้องเป็นเจ้าสาวของเขาให้ได้ เธอจะปล่อยให้คนหล่อ เซ็กซี่แบบนั้นหลุดไปเป็นของคนที่ไม่มีอะไรสู้เธอได้อย่างเนตราไม่ได้
จริงสิ! เธอต่างหากคือว่าที่เจ้าสาวตัวจริง เนตราก็แค่ตัวแทน แต่ตอนนี้ตัวจริงพร้อมจะแต่งแล้ว ตัวแทนก็ต้องหลบไป!
“เป็นอะไรหรือเปล่า ตั้งแต่กลับจากโรงแรม คุณก็ดูแปลก ๆ” ณัฐพัชร์ทักขึ้น ขณะเก็บเสื้อผ้าเพื่อเช็กเอาต์
“ปอยมานึก ๆ ดูก็สงสารเนตรเขานะคะ ต้องแต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก แถมยังหน้าตาอัปลักษณ์อีกต่างหาก” เธอยังไม่ได้บอกเขาว่าว่าที่เจ้าบ่าวตัวจริงคือรวิ คาร์ล คนที่เขาเข้าไปเจรจาธุรกิจคนนั้น ปล่อยให้เข้าใจว่าเป็นทนายมาโนชญ์นั่นละ ไม่อย่างนั้น แผนของเธอพังเละเทะไม่เป็นท่าแน่
ณัฐพัชร์เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อหู “คุณนี่นะ สงสารเนตร? นี่ล้อเล่นใช่ปะ”
“ไม่ได้ล้อเล่นค่ะ” เธอถอนใจยาว “เมื่อเช้าคุยกับเนตร เห็นตาบวม ๆ คงจะร้องไห้หนักมาก ปอยสงสารเขาจริง ๆ นะคะ ตั้งแต่เล็กจนโต ปอยร้ายกับเนตรมาตลอดเลย แต่เนตรก็ทน ไม่เคยปริปากบ่น ไม่เคยโกรธปอยเลยมั้ง”
ชายหนุ่มหรี่ตามองเธออย่างพิจารณา “แล้ว?”
“ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็สงสารน่ะค่ะ เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ของผู้หญิงเรา บางที ปอยอาจจะหาทางไม่ให้เนตรต้องแต่งงานกับตานั่น”
“ฮ้า! นี่คุณเป็นนางฟ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำได้เหรอที่รัก ในเมื่อบ้านคุณเป็นหนี้เขา เงื่อนไขของเขาคือต้องแต่งงานอะ”
“ได้ไม่ได้ก็ต้องลองดูค่ะ” หญิงสาวพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ตื่นเต้น ไม่แสดงอาการอะไรออกไปให้เขาจับได้
ณัฐพัชร์มองเธออย่างไม่เชื่อใจในความนางฟ้านั้นสักนิด มันต้องมีอะไรแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นคนที่เห็นแก่ตัวอย่างเธอ ไม่มีทางนึกถึงใจเนตราหรอก
ชายเลยกลางคน ร่างท้วม ผิวขาวจัดอย่างคนจีน แต่มีดวงตาที่โตและแข็งกร้าวดุดันตวัดมืออวบอูมของตนลงบนใบหน้าของชายร่างผอม ผิวคล้ำ เต็มแรง ใบหน้านั้นหันตามแรงตบ แล้วก็ไม่กล้าหันมาสบตาคนตบ ได้แต่ยืนก้มหน้านิ่ง
“กระจอกฉิบหาย เลี้ยงเสียข้าวสุก กะอีแค่หญิงชายคู่หนึ่ง ทำไมเอาตัวมาไม่ได้วะ” เจ้าของร่างท้วมกระชากเสียงถามด้วยสำเนียงแบบชาวใต้ แววตาเต็มไปด้วยความโมโหและหงุดหงิด ข้าง ๆ เขาเป็นชายหนุ่มร่างยักษ์ ที่ตามใบหน้ามีสีม่วง ๆ เขียว ๆ อย่างคนที่โดนหมัดหนัก ๆ มา
ผู้ชายที่พยายามจะข่มขืนเนตรานั่นเอง!
“ขอโทษครับนาย พวกผมก็ตามพวกเขาตลอด แต่ไม่มีจังหวะเลย พอมีจังหวะก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมีบอดี้การ์ดกระจายตัวคอยดูแลเงียบ ๆ หลายคนเลยครับ น่าจะเป็นการ์ดของเจ้าผู้ชายครับ”
“มันจะยิ่งใหญ่มาจากไหนกูไม่สน แต่มันต่อยหลานกู พวกมึงต้องเอาตัวมันมากราบตีนหลานกูให้ได้” สั่งแล้วก็หันไปทางชายร่างยักษ์ มองเขาด้วยความรักความสงสาร เหมือนเขาเป็นเด็กชายตัวน้อยโดนรังแก
หลานชายของเขาเป็นเด็กกำพร้า เขารับมาดูแลและรักเหมือนลูกแท้ ๆ เพราะเขาเองไม่สามารถมีลูกได้ ความรักจึงมีให้เต็มที่ ตามใจทุกอย่างและสรรหาสิ่งที่เขาต้องการมาให้เขาได้เสมอ
“ผมยังเจ็บอยู่เลยครับลุง” ชายร่างยักษ์เอ่ยเสียงอ้อน ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ได้ยินมั้ย หลานกูเจ็บ ฉะนั้น ไปลากตัวมันมาสังเวยความเจ็บหลานกูให้ได้ ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม ถ้ามึงพามันมาไม่ได้ มึงนั่นแหละ จะหายไปตลอดกาล”
ลูกน้องรับคำแล้วลนลานจากไปด้วยสีหน้าเหมือนจะตายตรงนี้เสียให้ได้ เพราะรู้ว่าเจ้านายเป็นคนเด็ดขาด พูดจริงทำจริง เขาเคยยิงลูกน้องบางคนตายต่อหน้าต่อตามาแล้ว ทั้งที่ความผิดพลาดไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น
“เอาผู้หญิงคนนั้นมาด้วยนะเว้ย กูต้องได้เว้ย” ชายร่างยักษ์ตะโกนไล่หลัง ก่อนจะหัวเราะด้วยความสะใจ “เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับหลานกำนันไข่”
“หลานเองก็เบา ๆ หน่อยนะ เดี๋ยวไปสะดุดตอเข้า เราจะลำบาก”
“กลัวอะไรล่ะครับลุง ยังไงเราก็มีนายเป็นแบ็ค ใครจะใหญ่กว่านายล่ะ” นายที่เขาว่า คือลูกชายนักการเมืองใหญ่ของจังหวัดที่กำนันไข่ทำงานให้ ซึ่งที่ผ่านมา เวลากำนันมีปัญหา ทางนั้นก็ช่วยเคลียร์ให้หมดจดเสมอ
“แต่นายเขาไม่ชอบให้มีเรื่องจุกจิกกวนใจเขาบ่อย ๆ ถ้านายเขารำคาญขึ้นมา เรานั่นละที่จะลำบาก”
ยังไม่ทันที่หนุ่มร่างยักษ์เอ่ยอะไร ลูกน้องที่เพิ่งจากไปเมื่อครู่ก็วิ่งกลับมา “นายครับ คนของเราเห็นไอ้ผู้ชายคนนั้นที่ร้านเพชรครับ จัดการเลยมั้ยครับ”
กำนันไข่ทำหน้าเบื่อหน่าย อยากจะถีบคนถามเข้าให้สักเปรี้ยง
“นี่กูเลี้ยงคนโง่อย่างมึงได้ยังไงวะ มึงยังจะต้องถามอีกเรอะ!”
“คือเขาไม่ได้ไปคนเดียวครับ แต่ไปกับนายตะวัน”
กำนันไข่ชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อได้ยินชื่อนั้น ก่อนตะโกนกลับ
“กูบอกแล้วไงว่ากูไม่สน ต่อให้สิบไอ้ตะวัน กูก็ไม่สน”
“แล้วนังผู้หญิงล่ะ ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอวะ” หนุ่มร่างยักษ์ถาม
“ไม่เห็นครับ”
“นี่ถ้าเราจับตัวนังผู้หญิงได้ เราก็ล่อไอ้หมอนั่นมาให้คนของเรากระทืบได้นะลุง” เขาเสนอความคิดเห็น ซึ่งกำนันไข่ก็พยักหน้า
“จริงด้วย หลานลุงนี่ฉลาดจริง ๆ...ได้ยินที่หลานข้าพูดแล้วใช่มั้ย ไปจัดการเดี๋ยวนี้!”