bc

กูร้ายแล้วสุดท้ายรักมั๊ย

book_age18+
507
FOLLOW
2.7K
READ
sex
one-night stand
badboy
dare to love and hate
CEO
student
bxb
campus
city
turning gay
like
intro-logo
Blurb

สวัสดีครับผม คิว...เป็นพี่ของไอ้โค้กที่มีเรื่องกับไอ้กานต์ ไอ้เด็กมารยาททรามนั่น

ผม...

ยอมรับว่าไม่ชอบหน้ามันเท่าไหร่ไม่ใช่เพราะผมเข้าข้างน้องมากไปแต่เพราะนิสัยปากเก่ง อวดดีของมันเองต่างหากแถมแม่งยังเป็นพวกเหยียดเพศครับ

การที่กูเป็นเกย์แล้วมันไปหนักส่วนไหนของมึงกู...ไม่ได้ไปเอากันบนหัวมึงนะหรือว่าที่มึงชอบพูดเรื่องรสนิยมกูนี่เพราะจริงๆแล้วมึงเองก็อยากจะ...

ให้กูเอา?...

chap-preview
Free preview
#1นิสัยกานต์
นิสัยกานต์ เสียงดนตรีในสถานที่เที่ยวดังสอดประสานกับเสียงสนุกสนานเฮฮาตามประสาวัยรุ่นขาเที่ยว เฮน่า หญิงสาวผิวขาวร่างเล็กที่แต่งตัวน่ารักโชว์ส่วนสัดในร่างกายให้ใครต่อใครเห็นได้อย่างชัดเจน เธอมอบเป็นอาหารตากับเสื้อจั้มอกที่คว้านต่ำจนเห็นอกที่เบียดชิดอยู่ในร่มผ่าอย่างชัดเจนในทุกจังหวะที่ขยับร่างกายตามจังหวะเสียงเพลง เฮน่ามาเที่ยวกับเพื่อนสาว เพราะเธอทั้งเหงาและเบื่อกับชีวิตรักที่จำเจของตัวเองและเบื่อที่ต้องแสดงเป็นสาวคิคุน่ารักทั้งๆ ที่ตัวจริงเรียกได้ว่าแรงจัดจนหาตัวจับได้ยาก “มึง…” เสียงเพื่อนในกลุ่มดังขึ้นพร้อมกับสะกิดเพื่อนทุกคนให้สนใจ “อะไรวะมึง!” เฮน่าสงสัยหันไปมองแนตตี้ที่ดูดีด้าสดชื่นขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าตัว “บนนั้น…” “ไหน?” เฮน่าไม่สนคนที่แนตตี้พูดถึงเพราะสายตาเธอตรึงอยู่กับผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงกลางโซฟาตัวยาวสีแดงสด รอยสักเล็กๆ ที่อยู่ตรงท่อนแขนเป็นดาเมจที่รุนแรงสำหรับเธอ ไหนจะสายตาที่ดูเหมือนไม่แคร์ไม่สนหัวใครและบางครั้งก็ส่งประกายความร้ายกาจเมื่อใครเผลอบังอาจไปจ้องมองเขาดูพร้อมบวกกับทุกคน ไม่นับรวมท่าทางที่นิ่งเสียจนคนที่เข้าหาเดาสีหน้าอารมณ์ไม่ออก ถ้าไม่บอกเฮน่าก็คิดว่าเขากำลังหมดสนุก มือที่ยื่นไปยกแก้วชนกับเพื่อนและยิ้มบางๆ ที่มุมปากกระตุ้นให้เฮน่าอยากจะเข้าไปทำความรู้จักมากขึ้น เธอรู้จักเขา พี่กานต์ เขาบอกกันว่าถ้าอยากได้ต้องเป็นฝ่ายเข้าหาพี่เขาก่อน ‘ได้ยากแต่ก็ได้…’ คือสิ่งที่ใครๆ พูดกัน เฮน่ารู้ดีว่านี่คือที่เที่ยวประจำของแกงค์หนุ่มโฉด เธอลุกจากโต๊ะอย่างมั่นใจเดินตรงไปเต้นตรงหน้าโต๊ะของสามหนุ่ม “ไอ้กานต์…” โอมที่นั่งมองอยู่นานหันไปเรียกเพื่อน “เออ…เห็นแล้ว” กานต์ว่าแต่ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ เรื่องอะไรเขาจะต้องลุกออกไปทำตัวเป็นผู้ชายแสนดีเพื่อช่วยชะนีที่ต้องการผสมพันธุ์ ไม่ผิดหรอก… อาจฟังดูหยาบแต่ผู้หญิงคนนั้นส่งสายตาว่าอยากจะกินเขาอย่างชัดเจน ที่มาเต้นข้างหน้าและตั้งใจร่อนสะโพกขนาดนี้ก็รู้ดีว่าคิดอะไร แต่ไม่สำเร็จหรอกนะ ปล่อยให้โดนล้อมอยู่อย่างนั้น “มึงก็ไปดิวะไอ้โอม “เสียงหนึ่งแทรกเข้ามา ผู้ชายที่มีใบหน้าเหมือนกับผู้ชายที่เขาเอ่ยปากสั่งทุกอย่างต่างกันตรงที่แว่นเลนส์หนาที่เขาสวมใส่ เขาชื่อโอ เป็นพี่ชายฝาแฝดแม้จะเกิดนำไปก่อนสามนาทีนิดๆ ก็ตาม แต่อำนาจของคำว่าพี่มันมีภาษีเหมือนห่างกันสักสามปีเห็นจะได้ เขาชอบให้น้องเคารพเชื่อฟังเขา โอมไม่ตอบเลือกที่จะหันไปมองกานต์ที่ยังนิ่งเพื่อนเขาหยิ่งเกินกว่าที่จะลดตัวลงไปช่วยหญิงสาวคนนั้น โอมวางแก้วลุกออกจากที่นั่งข้างพี่ชายเดินตรงไปสะกิดหญิงสาวตัวเล็กที่แต่งตัวน่ารักใสๆ แต่ซ่อนความร้ายและร้อนแรงเอาไว้จนไม่สามารถปกปิดได้มิด “ไปนั่งพักที่โต๊ะพี่มั้ย” โอมยิ้มมองหญิงสาวด้วยสายตาที่ละมุนละไมอบอุ่น แม่สอนไว้ว่าต้องให้เกียรติผู้หญิงเขาเลยเลือกจะจำสิ่งที่แม่สอน ไม่ว่าจะน่ารัก สวยเผ็ด เด็ดร้อนแรงแค่ไหนสายตาที่โอมมีให้มันไม่เคยเปลี่ยน อบอุ่นอ่อนโยนเท่าเทียมกันทุกคนจนเขาเคยโดนผู้หญิงด่าว่า หลอกลวง… “ค่ะ” เธอยิ้มเหมือนเขินอายแต่กลับรีบเดินตรงไปนั่งข้างไอ้กานต์อย่างไม่ลังเล ผมหันไปมองหน้าพี่โอก่อนจะนั่งลงข้างพี่ดังเก่า ไอ้กานต์ก็เอาแต่นิ่งไม่มีล่ะที่จะหันไปสุงสิงเสวนากับน้องที่เขาอุตส่าห์มาเสนอตัวให้ถึงที่ “ร้อนจังเลยนะคะ” เธอบ่นพร้อมกับดึงเสื้อกระพือขยับขึ้นลงตรงหน้าอก ได้ผล… ไอ้กานต์หันไปมองมันกำลังจ้องหนองโพ โฟโมสต์ของน้องเขา เทสแรกถือว่าผ่านเพราะนมนำพุงไปหลายขุมเลยล่ะเรียกว่าพกมาเยอะเกินตัวสมัยนี้ก็ไม่มีใครมัวมาสนว่าของแท้แม่ให้มาหรือว่าของเทียม หญิงสาวเริ่มเข้าหาและแสดงออกอย่างชัดเจนว่าอยากไปต่อกับกานต์สองแฝดทำเป็นไม่สนใจคิดซะว่าวันนี้กานต์ไม่ได้มาด้วยเมื่อเห็นทั้งสองเริ่มจะนัวเนียคลอเคลียกัน “เวรเอ๊ย…ดูมันไปเฉย” โอบ่นกับมองหันไปมองกานต์ที่ลุกออกจากโต๊ะไปพร้อมกับน้องคนนั้นที่เดินตามไปห่างๆ แต่โอก็ไม่ได้รู้สึกโกรธกานต์เหมือนที่พูดออกมาจริงๆหรอกนะ แค่รำคาญกันสันดานเพื่อน โอมยิ้มยกแก้วขึ้นชนกับพี่ชายและหันไปสนใจสาวๆในร้านแทน โรงแรม… มือบางลูบไล้หน้าท้องของผมก่อนจะขยับอ้อมลงไปลูบบางอย่างที่เริ่มขยายตัวขึ้นมาดุนดันแก้มก้นของเธอ ปังๆ!! ปังๆ!! เสียงเคาะประตูรัวดังทำเอาเราทั้งสองสะดุ้ง ทั้งผมและเธอต่างตกใจแต่ก็แสร้งพยายามจะไม่ใส่ใจนอกจากอารมณ์หวามไหวในกายตัวเอง “อะ…อื้อ…” เธอหลุดครางเมื่อผมกดส่วนหัวผ่านเข้าไปเพียงนิด ดัจจริตแสร้งทำเป็นเจ็บแต่ผมน่ะเห็นเขี้ยวเล็บที่เธอซ่อนไว้หมดแล้ว ปังๆ!!! ... ปังๆ!!! เสียงเคาะประตูรัวดังถี่ขึ้นกว่าเก่าจนผมชักหงุดหงิด “อย่าสนใจเลยค่ะ” เธอว่าพร้อมกับยื่นมือมาลูบแขนผม “ฉันจะไปดู!” ตอบเธอด้วยความรู้สึกที่ยังหงุดหงิดไม่หาย ลงจากเตียงหยิบกางเกงมาใส่ลวกๆ ในใจก็แอบคิดว่าอาจเป็นพนักงานโรงแรมที่ถูกแม่บังคับให้รีบมาห้ามศึกรักของผม ไม่น่ามาที่นี่เลย! ... ผมบ่นคนเดียวในใจก่อนจะเดินไปเปิดประตู แกร๊ก… ผมเปิดประตูออกมองชายร่างสูงอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมด้วยความสงสัย ใครวะ? ไม่ใช่พนักงานโรงแรม ยังไม่ทันได้ถามเขาก็กระแทกแขนชนผมเพื่อพุ่งตรงเข้าไปข้างใน “เฮ้คุณ!” ผมไม่พอใจเดินตามไปจับผู้บุกรุกที่ไร้มารยาท “เฮน่า!” เขาเรียกผู้หญิงคนนั้นด้วยความตกใจ สถานการณ์พลิกกลับไปคนละทาง ผัวยัยนี่มาตามงั้นเหรอ? ... “ไหนว่าอยู่ห้องแล้วนี่อะไร! ... ไอ้เชี่ยนี่มันเป็นใครห๊ะ!” เขาตวาดใส่เธอเสียงดังท่าทางหัวเสียแถมยังชี้มือมาที่หน้าผม “คะ…โค้ก! ...ฮือ…ช่วยเฮน่าด้วย! ...เขาบังคับเฮน่ามาฮือๆ …ที่ร๊ากกก” เธอบีบน้ำตาปั้นแต่งเรื่องโกหกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว งงครับ? ... นี่ผมกลายเป็นคนหื่นจัดที่ล่อลวงเธอมาแล้วงั้นเหรอ? “มึง!” ชายตรงหน้าหันมาง้างหมัดใส่จนผมที่ไม่ได้ตั้งตัวล้มลงไปนั่งงงต่อที่พื้น “มึงจะทำอะไรแฟนกู!” มันตวาดเสียงดังและขึ้นมานั่งคร่อมตัวผม เชี่ยแล้วไง! ... วันซวยอะไรวะเนี่ย! ผมยกมือขึ้นป้องกันตัวก่อนจะเอาเข่ากระแทกก้นจนมันเสียหลักล้มหน้าขะมำข้ามหัวผมไป “เมียมึงมากับกูเอง!” “โกหก! ...มึงหลอกแฟนกูมา!!” เขาไม่ฟังเหมือนโดนยัยนั่นล้างสมองไปเรียบร้อย คนรึควายพูดอะไรก็เชื่อฟังไปหมด ผมไม่สนก้มลงไปหยิบเสื้อมาใส่ไม่อยากมีเรื่องเพราะแย่งผู้หญิงกับใครหรอกนะ “งั้นมึงก็เอาแฟนมึงคืนไปกูยังไม่ได้จิ้ม!” ผมพูดใส่หน้าและหันไปหาผู้หญิงที่แสดงละครว่ากำลังตกใจขวัญเสีย เหตุผลแม่งฟังย้อนแย้งทุกอย่างแต่ไอ้นี่แม่งยังเชื่อฟังแฟนโดยไม่ระแวงสงสัยอะไร แล้วแม่งตามมาถึงนี้ได้ไง รึว่าคนที่คุยกันเมื่อกี้ก็ยังไม่ใช่มัน แม่ง! ... ยัยแรดนี่มีผัวกี่คนวะ! ผมด่าเธอทางสายตาและหันกลับไปมองผู้ชายตรงหน้าที่กำลังเป็นหมาบ้าเพราะหึงเมีย “อยากได้ก็พากลับไป!” ผมตะคอกใส่มันและเป็นฝ่ายเดินออกมา “มึงจะไปไหน!” มันไม่ฟังยังคงเข้ามาหาเรื่องผม “เมียมึงมากับกูเอง! ...ฟังมั้ยเนี่ย!” ผมปัดมือมันออก “มึงหลอกเฮน่ามา!” เอ๊าไอ้ห่า…เมียมึงมีขาแถมยังฉลาดกว่ามึงกับกูเยอะ! … “หึ! ...แรดกับควายเจอกันสินะ!” ผมประชด “มึงด่ากูเหรอ!!!” มันต่อยผม! ผมเสียหลักล้มไอ้นี่แม่งใช้อารมณ์ล้วนๆ แถมยังเล่นทีเผลอ เออ…มึงเก่งก็ได้ เจ็บจมูกชิบหาย! ... ผมเอามือลูบสันจมูกก็มีเลือดติดปลายนิ้วกลับมา นั่นไงจนได้มั้ยล่ะ! ผมทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอพอถึงเลือดแล้วมันก็ยอมไม่ได้ซะด้วยสิ! “ลุกขึ้นมาดิวะไอ้กระจอก!” “มึงว่าไงนะ!” เลือดลมในตัวผมเดือดขึ้นมาช้าๆ ขยับลุกขึ้นพรุ่งตรงไปหาและ ไม่มีคำว่ายอมให้กันและกันไม่สนไม่ฟังแม้ตอนนี้จะมีคนเข้ามาอยู่ในห้องเต็มไปหมด สถานีตำรวจ สุดท้ายก็มาจบที่นี่ครับ… มันไม่ยอมผมก็ไม่ยอมแม้พนักงานโรงแรมจะกล่อมให้คุยกันดีๆ “ไม่มีทาง!” เราพูดพร้อมกันและท้าทายกันมาที่โรงพักทันที ตอนนี้กำลังรอร้อยเวรสอบปากคำ “กูจะลากมึงเข้าคุกที่มึงทำกับแฟนกู!” ไอ้ครกนั่นมันหันมาชี้หน้าผม “แน่ใจ? ...ถามเมียมึงก่อนมั้ยอย่าพึ่งโชว์กร่าง” “หลักฐานมันก็เห็นกันอยู่มึงติดคุกหัวโตแน่ๆ!” “เหรอ? ...กูใช้อะไรขู่บังคับเมียมึงล่ะ? ...เมียมึงถึงได้เดินตามกูมาถึงโรงแรม” ผมย้อนมันก็หันกลับไปมองเมียที่ยังทำหน้าตกใจเสียขวัญตัวสั่นอยู่ในอกผัว ยอดเยี่ยม… อยากลุกขึ้นปรบมือให้กับการแสดงอันสมบทบาท “แรดเงียบก็พูดไป…เปิดกล้องมานี่โป๊ะเลยนะ!” ผมพูดลอยๆ “มึงหุบปาก!” ไอ้ครกมันตวาดผม “โค้ก…” เธอรีบบีบน้ำตาเรียกสาตัวเอง “อ้าวชื่อโค้กเหรอ? นักว่าไอ้หัวครกซะอีก!” “มึง!! ...” มันชี้หน้าผม “อะไร! ...ชี้หาญาติผู้ใหญ่มึงรึไงวะ!” เอาไงวัดกันได้นะตอนนี้พยานมีพร้อมบวก! “ที่รักไม่เอา…” เธอกดมือสาลง “ไม่ต้องร้องนะที่รัก…เค้าจะปกป้องศักดิ์ศรีที่รักเอง..” มันพูดอย่างเชื่อมั่นและดึงเมียมันไปกอดดังเก่าเล่นเอาผมหลุดขำ ควายก็ยังเป็นควายครับ… เธอผลักออกพร้อมทำหน้างอใส่ “แค่นี้ยังอายไม่พอเหรอที่รัก…ถ้าพ่อแม่เค้ารู้…เพื่อนที่มอรู้เค้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนที่รักแน่ใจว่ากำลังปกป้องเค้างั้นเหรอ?” เธอปาดน้ำตา แม่ง… ออสการ์ต้องมาถึงไทยล่ะ เนียนเชี่ยๆ “โอ๋ๆ …ที่รักอย่าร้องนะเค้าขอโทษไม่แจ้งแล้วนะ…ไม่แจ้งความแล้ว” มันปลอบพร้อมกับเช็ดน้ำตาอย่างอ่อนโยนให้เมีย แต่ผมเพลียจริงๆ พึ่งเคยเห็นมารยาหญิงว่าแท้จริงแม่งเฉียบคมแค่ไหน พลิกคำจากดำเป็นขาวได้ใสๆ เลยครับ ร้อยเวรเดินเข้ามาหลังจากปล่อยให้นั่งรอมานาน “ตกลงเรื่องอะไรกันครับ” “ทะเลาะสิวาทค่ะ…เข้าใจผิดกัน!” เธอหันไปบอกร้อยเวรและจับมือแฟนควายๆ ไว้แน่น ผมก็ฟังนิ่งๆ อันไหนที่มันเกินจริงก็เถียง ยัยเฮเน่าเล่าเป็นตุเป็นตะนอกจากแสดงละครเก่งแล้วยังเขียนพล็อตเก่งอีกต่างหากผมล่ะไม่อยากจะชม “คุณล่ะครับ?” คุณตำรวจหันมามองผม “ผมไม่ได้เริ่ม…เธอเข้าหาผมก่อนและแฟนเธอก็ต่อยผมก่อน” “จริงอย่างที่น้องผู้ชายบอกมั้ยครับ?” ตำรวจหันกลับไปถามมัน “คะ…ครับผมต่อยมันก่อน!” มันเสียงอ่อนเพราะโดนเมียบังคับ ผลสรุปของการสอบปากคำคือเราเสียค่าปรับกันทั้งคู่ครับ แต่ผมที่ได้รับปาดเจ็บสามารถเรียกค่าทำขวัญได้เพราะต้องไปโรงพยาบาลหาหมอทำแผล… ขอบพระคุณกฏหมายไทยที่ใครหลายคนมองว่าอ่อนแอไม่เด็ดขาดแต่มันก็มีข้อดีเหมือนกันนะเนี่ย “หมื่นนึง!” “หมื่นพ่องมึงดิ!” มันไม่พอใจคิดว่าผมได้โอกาสเอาคืนมัน แต่… กูนี่แหล่ะฝ่ายถูกกระทำที่แท้จริง! “กรุณาพูดจาให้มันดีๆ ด้วยครับนี่อยู่ต่อหน้าเจ้าพนักงานนะ!” พี่ตำรวจขู่ มันก็หูลู่เป็นหมาโดนดุไม่มีผิด “ไอ้โค้ก!” เสียงหนึ่งดังขึ้นทำเอาคนทั้งห้องหันไปมองรวมถึงผมด้วย ผู้ชายสูงตัวหนาที่เดินเข้ามาใหม่ส่งสายตาอาฆาตเดือดจัดใส่คู่กรณีผม “มึงนี่แม่ง!” เขายกมือจะทำร้ายไอ้ครกแต่คุณตำรวจพูดห้ามไว้ก่อน “ผมเป็นพี่ชายเขาครับ” ผู้ชายคนนั้นแนะนำตัว พี่นี่เองมิน่าดูท่าจะใจร้อนพอๆกัน “ครับ…ตกลงจ่ายค่าปรับกันเรียบร้อยเหลือแค่ค่าทำขวัญที่ยังตกลงกันไม่ได้น้องชายคุณทำร้ายร่างกายจนคู่กรณีได้รับบาดเจ็บ” คุณตำรวจพูดจบสายตาอาฆาตก็มาจบที่ผม อะไรวะ? ... น้องมึงนะที่ทำกูก่อน! ... ผมมองเขากลับอย่างไม่พอใจ “เท่าไหร่ครับค่ารักษาพยาบาลของคุณ” ผิดคาดสายตาอาฆาตหายไปเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้มแถมเขายังพูดกับผมซะสุภาพนุ่มนวล “หมึ่นนึง!” ผมย้ำคำเดิมตั้งแต่ต้น “ห้าพัน!” พี่ชายมันหั่นราคาเฉย “จมูกผมแตก! ...หมื่นนึงไม่ต้องต่อ” ผมชี้ไปที่แผลตัวเอง “คุณก็ไม่ได้เป็นไรมากห้าหันก็น่าจะพอกับค่าหมอค่ายาแถมค่าตกใจอีกนะครับ…รึว่าจมูกทำมา? ...งั้นก็เอาใบรับรองแพทย์มาเบิกกับผมทีหลังนี่นามบัตรผมครับรับรองไม่เบี้ยว” เขายิ้มตาหยีพยายามสร้างสัมพันธไมตรีกับผมสุด “ห๊ะ!” ผมมองหน้าคนที่บอกว่าเป็นพี่ชายและรับนามบัตรเขาไว้ตามมารยาท นี่หน้ากูมันดูปลอมหรือว่ามึงมองไม่เห็นความหล่อที่เป็นธรรมชาติของกูวะเนี่ย ของแท้นะกูไม่ได้ทำ! ... “ไม่ได้ทำ!” ผมตอบอย่างหงุดหงิด “งั้นก็ห้าพันแล้วกันนะครับถือว่าช่วยๆ กัน” “ช่วยเชี่ยไรน้องมึงทำร้ายกูก่อน!” ผมลั่นทุกอย่างที่คิดออกมา “ขอโทษจริงๆ นะครับน้องผมมันใจร้อนไม่มีหัวคิด” เขายิ้มแต่ผมว่ามันแปลกๆ นี่มึงทำงานอะไรวะต่อเก่งตอดเก่งชิบหายอยากหยิบนามบัตรมาอ่านใหม่ซะแล้วสิ! “หมื่นนึงก็หมื่นดิวะกูมีปัญญาจ่าย! ...พี่คิวให้มันไปเหอะแม่ง!” เพี๊ยะ! เสียงคนปากดีโดนพี่ตบกะบาลดังลั่น “ถ้ามึงถนัดแต่พูดไม่สร้างสรรค์ก็หุบปากแล้วลากเมียมึงไปไกลๆ มือกับตีนกู! ...ไปให้พ้นหูพ้นตากูได้ยิ่งดี!!!” “หึๆ …” ผมขำ สมน้ำหน้าแต่ว่าพี่ชายมึงแม่งโหดดี! ... “ห้าพันก็ได้แต่น้องชายคุณต้องขอโทษผม” เห็นแก่เสียงกะบาลควายลั่นหรอกนะ “ไอ้โค้ก! ...” เขาหันไปกดดันน้องชายทันที “ไม่มีทาง!” “มึงอยากโดนซ้ำสองมั้ย? ...มานี่!” มันโดนพี่ชายตวาดจนหง๋อ “ไอ้กานต์!” ผมหันไปมองไอ้โอที่เดินหน้าตื่นเข้ามา เชี่ย… ผมโทรหาไอ้โอมไม่ใช่เหรอ? “ไม่มีไรไกล่เกลี่ยแล้วมึงไปนั่งตรงนั้น” ผมบอกเพื่อนไม่ให้มันโวยวาย นิสัยเราคล้ายกันถ้ารู้เรื่องมันคงโวยวายไม่จบแถมอาจจะได้คู่กรณีเพิ่มอีกคน “หน้ามึง!” มันชักสีหน้า “เออ…กูไม่เป็นไร” ผมพยายามบอกปัดให้มันผ่านๆ ไปจะได้จบ “ตกลงขอโทษมั้ย?” ผมหันไปมองไอ้โค้กแทน มันชักสีหน้าให้รู้ว่าโดนบังคับอย่างฝืนใจ “ขอโทษ!” “อันนี้ลดเหลือแปดพัน” ผมบอกพี่ชายมันตรงๆ “ดีๆ ไอ้โค้ก!” มันโดนพี่ดุอีกครั้ง สุดว่ะ… ผมชอบรู้สึกสะใจสุดๆ “ขอโทษ…” ไอ้โค้กพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนรื่นหู “อื่ม…จ่ายมาเซ็นๆ จะได้จบ!” ผมบอกพี่ชายคู่กรณี เขาจ่ายเงิน ผมก็เซ็นรับทราบในใบแจ้งความและไอ้โค้กซึ่งคือคู่กรณีผมก็ตามเข้ามาเซ็น เป็นอันจบ แยก! ผมเดินออกจากสถานีตำรวจแต่ก็ต้องทนฟังไอ้โค้กที่บ่นตามหลังไม่จบ มันพูดกระทบแถมยังคุยอวดกับพี่ชาย แม่งขี้ฟ้องดูเป็นน้องที่ไม่โต “ไปคุยที่บ้าน!” เสียงพี่ชายมันที่เงียบอยู่นานดังขึ้น ไงล่ะมึงเงียบกริบ! ... เปิดประตูรถเข้ามานั่งอยู่หลังพวงมาลัย ดึงที่บังแดดลงมองกระจกเล็กๆ ที่เห็นรอยแผลตรงสันจมูกชัดเจน “แม่ง!” ผมหงุดหงิด” อย่าให้เจออีกครั้งนะมึง!” ยังไงดีล่ะปิดคุณโสภาไม่ได้แน่… เซ็งโว๊ย!

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เป็นแฟนผมนี่มันไม่ดียังไงครับเฮีย

read
3.2K
bc

คุณอาของหนู...น่ารักกว่าใคร

read
7.9K
bc

Heroine (ที่นี่ไม่มี นางเอก)

read
13.5K
bc

เป็นได้แค่เพื่อน(รัก)

read
7.8K
bc

งูบ้านนี้สายพันธุ์เหมียว (Luna V.)

read
1K
bc

เมื่อปีศาจมาสิงสู่ [omegaverse]

read
1K
bc

Friendship จุดจบสายเถื่อน

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook