Line group >> เมาท์มอย แซ่บเว่อร์~~ (5)
ใบป่าน (ส่งรูปเข้าห้องแชท)
ฟ้าใส (ส่งสติ๊กเกอร์)
ลูกพีช (ส่งสติ๊กเกอร์)
บลิ๊ง (ส่งสติ๊กเกอร์)
จอไอโฟนของฉันกะพริบไม่หยุดเมื่อใบป่านส่งรูปอะไรบางอย่างที่ฉันยังไม่ได้เปิดดูในไลน์กลุ่ม จากนั้นมันก็เด้งรัวไม่หยุด น่าจะเพื่อนทุกคนในกลุ่มส่งสติ๊กเกอร์เข้าไป ยกเว้นฉันที่ไม่ได้เข้าไปเปิดดู เพราะตอนนี้กำลังติดพันเรื่องส่วนตัว ถึงแม้ใจอยากจะเปิดดูมันก็ตาม
"เก็บโทรศัพท์ซะฝน อย่าให้แม่ต้องเตือนอีกรอบ"
แม่เอ็ดฉันด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบแล้วยิ้มให้คุณป้าไพรนรี
"ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ต้นกล้าผิดนัด สงสัยช่วงนี้งานจะยุ่งกำลังรับตำแหน่งใหม่ด้วย"
คุณป้าไพรนรีพูดด้วยความเกรงอกเกรงใจคุณแม่ฉัน แล้วหันมายิ้มให้ฉันอย่างเอ็นดู ซึ่งฉันก็ยิ้มกลับไปให้ตามมารยาท
ในเมื่อแผนนัดบอดของคุณแม่ล่มฉันก็เลยขอตัวกลับก่อนโดยโกหกว่ามีนัดทำงานกับเพื่อนที่มหาลัย พอฉันเดินออกจากร้านก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อเช็คสักหน่อยว่าในไลน์กลุ่มตื่นเต้นอะไรกันทำไมคุยไม่หยุดเด้งแบบรัวขนาดนี้
Line group >> เมาท์มอย แซ่บเว่อร์~~ (5)
ฉันเข้ามาในไลน์กลุ่มเพื่อนสนิทเลื่อนดูข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน ใบป่านส่งรูปผู้ชายคนหนึ่งมาในกลุ่ม เพื่อนฉันนอนกอดผู้ชายอยู่บนเตียงดูเหมือนพวกเขากำลังทำอะไรบางอย่างกันเสร็จ ฉันทำตาโตแล้วรีบรัวนิ้วพิมพ์เข้าร่วมวงสนทนาทันที
ฉันพลาดอะไรไปหรือเปล่า : ฉัน
ฟ้าใส : มาแล้วเหรอยะ ยัยน้องหนู ใบป่านมีคู่ควงใหม่แซ่บมากอยากบอกให้กลุ่มรู้
ลูกพีช : ฉันจะรอดูว่าคนนี้ควงเกินสามวันไหม
ใบป่าน : ก็น่าจะเกินนะ คนนี้แซ่บมากแก!!
บลิ๊ง : เกรงใจคนไร้ประสบการณ์อย่างยัยน้องหนูบ้างนะ
ฉันก็ไม่ได้อินโนเซ้นท์อะไรขนาดนั้นนะ ก็แค่ยังไม่มีประสบการณ์จริงๆ : ฉัน
ทุกคน : จ้า ยัยน้องหนู!!
ทุกคนพิมพ์ส่งมาด้วยประโยคที่เหมือนกันหมด นี้คือกลุ่มเพื่อนที่ฉันสนิทด้วยตั้งแต่เริ่มเข้าปีหนึ่ง ในกลุ่มของฉันแต่ละคนก็มีสไตล์เป็นของตัวเอง และเป็นกลุ่มที่แซ่บที่สุดในรุ่นจนใครหลายคนมักจะถามพวกฉันอยู่เสมอว่าคบกันได้ยังไงให้สนิทกันขนาดนี้
ใบป่าน เพื่อนที่แซ่บและฮอตที่สุดในกลุ่ม ฉายาแม่เสือสาว เธอเป็นผู้มีประสบการณ์ช่ำชองในเรื่องอย่างว่า และเป็นสาวปาร์ตี้ตัวยงของสาขาเลยทีเดียว
ฟ้าใส เพื่อนสาวคนโตประจำกลุ่ม เธอเป็นรุ่นพี่ของพวกเราสองปี แต่อยู่ชั้นปีเดียวกันเพราะพี่แกซิวมาเรียนใหม่ ประสบการณ์ชีวิตรักต้องคนนี้
ลูกพีช สาวหน้าหวานมาดคุณหนู แต่ก็เป็นคุณหนูจริงๆเพราะบ้านรวย แต่นิสัยแสนห้าวไม่เหมาะกับหน้าตา และชอบกันพวกผู้ชายที่ไม่ประสงค์ดีออกจากกลุ่มเพื่อนเสมอโดยเฉพาะกับฉัน
บลิ๊ง คนที่หัวกะทิที่สุดในกลุ่ม บลิ๊งเข็ดหลาบเรื่องความรักระหว่างชายกับหญิงมากที่สุดเพราะมีประสบการณ์ที่แย่มา จนผันตัวเข้าสู่วงการรักเพศเดียวกัน แต่นางเสน่ห์แรงกับเพศตรงข้ามมากอยู่ดี
และฉันที่ทุกคนตั้งฉายาว่ายัยน้องหนู เพราะฉันเด็กสุดนะซิ..ไม่ใช่อายุนะ ที่ว่าเด็กคือประสบการณ์ล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก หรือเรื่องอย่างว่า ฉันไม่เคยคบกับใคร ส่วนใหญ่ก็แค่คุยแล้วก็ห่างหายกันไป จนทุกวันนี้แม่ฉันคิดไปแล้วว่าฉันชอบเพศเดียวกันหรือไม่ก็คิดจะขึ้นคาน ท่านก็เลยชอบหิ้วฉันไปนัดบอดกับลูกชายของเพื่อนบ่อยๆ
บทสนทนาของเราจบเพียงแค่นั้น พอดีกับที่รถแท็กซี่จอดหน้าคอนโดของตัวเองพอดี ฉันขอคุณพ่อคุณแม่แยกออกมาอยู่คอนโดตอนเข้าปีสองเพื่อที่จะไปมหาลัยได้สะดวกขึ้น โดยที่ใบป่านกับฟ้าใสเช่าห้องอยู่ข้างๆ แต่พวกนางไม่ค่อยอยู่กันหรอก
Line group >> เมาท์มอย แซ่บเว่อร์~~ (5)
ใบป่าน : (ส่งคลิปวิดิโอ)
ฟ้าใส : กลุ่มเมาท์นะจ๊ะ ไม่ใช่กลุ่มสอนเซ็กส์
ใบป่าน : โทษทีไลน์ค้างส่งผิดกลุ่มอะ
ลูกพีช : แน่ใจว่าส่งผิด
ใบป่าน : เอาไว้ศึกษาดูก็ได้นะ ยัยน้องหนู
พูดอย่างกับฉันไม่เคยดูงั้นแหละ : ฉัน
บลิ๊ง : เป็นไงละน้องหนูของฉัน 555
กลุ่มเรามักจะแซวเล่นเรื่องแบบนี้กันเป็นประจำตามวิถีสาวโสดล้วน ใช่ค่ะ โสด!! ที่เห็นควงๆ เพื่อนฉันบอกไม่ใช่แฟนแค่คู่ควง ที่สาขาจึงมักจะเรียกกลุ่มฉันว่า แก๊งสาวแซ่บ ด้วยความเปิดเผยของเพื่อนและความทะลึ่งตึงตังแบบเล่นมาก็รับและส่งมุขทะลึ่งตลอดทำให้ได้ฉายานี้มา
ติ๊ง~~
ในขณะที่คุยเล่นกับเพื่อนในกลุ่มแม่ฉันก็ส่งข้อความมาบอกให้ฉันไปหาคุณป้าไพรนรีที่บริษัทพรุ่งนี้เพราะท่านฝากฉันกับคุณป้าเรื่องฝึกงานให้
"อีกตั้งสองเดือน..เมื่อไหร่คุณแม่จะเบื่อจับคู่ให้สักทีนะ"
ฉันบ่นอยู่คนเดียวในห้องแล้วเดินไปหยิบโน้ตบุ๊กมาเปิดดูงานอดิเรกของตัวเอง คือ..การอ่านนิยายออนไลน์ สมัยยังเป็นเด็กมัธยมฉันชอบอ่านหนังสือนิยายมากจนซื้อไว้เต็มห้องหนังสือที่บ้าน แต่พอย้ายมาอยู่คอนโดก็เปลี่ยนมาอ่านอีบุ๊กหรือนิยายออนไลน์แทน
ตอนเด็กชอบอ่านวรรณกรรมเด็ก แฟนตาซี พอเริ่มโตก็ชอบแนวโรแมนติก น่ารักใสๆ แต่พอปัจจุบันฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองชอบอ่านแนวอิโรติก แถมยังติดงอมแงม
ฉันนั่งอ่านไปยิ้มไปเหมือนคนบ้า หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว ตอนพระเอกกับนางเอกมีช่วง NC ด้วยกันแล้ว ก็ม้วนเขินอยู่คนเดียว
"จะมีความรักที่แสนโรแมนติกแบบนี้บ้างไหมนะ"
ฉันพับจอลงแล้วบิดตัวไปมามองนาฬิกาตอนนี้เที่ยงคืนกว่าแล้ว พรุ่งนี้มีนัดกับคุณป้าไพรนรีแต่เช้าหากไปสายจะเป็นการเสียมารยาทแย่
.......
ตึกสูงระฟ้าตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองเทียบกับฉันที่ยืนมองมันอยู่ก็ตัวเท่ามด ฉันเดินเข้าบริษัทตรงปรี่ไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทันทีที่ยกนาฬิกาขึ้นมาดูมันบอกฉันว่ากำลังจะสายนะถ้าฉันไม่ก้าวเท้าเดินเข้าไปตอนนี้
"สวัสดีค่ะ มาพบคุณไพรนรีค่ะ"
"สวัสดีค่ะ สักครู่นะคะ ดิฉันต้องโทรเช็คชั้นผู้บริหารก่อน แต่ปกติต้องมีนัดนะคะ น้องได้นัดกับเลขาของท่านไว้หรือเปล่า"
"มาแล้วเหรอจ๊ะหนูฝน"
"สวัสดีค่ะคุณป้า"
เสียงคุณป้าไพรนรีดังขึ้นจากทางข้างหลัง ทำเอาฉันรีบหันหลังกลับยกมือไหว้แทบไม่ทัน
"ตามป้ามาจ้ะ พี่ต้นกล้าอยู่ข้างบนแล้ว"
ฉันเพียงยิ้มรับแล้วเดินตามคุณป้าเข้าลิฟต์ไป เลขาของคุณป้ากดลิฟต์ชั้นบนสุด ขณะที่รอลิฟต์ขึ้นฉันรู้สึกอึดอัดใจมากเกี่ยวกับเรื่องที่คุณแม่ทำเรื่องนี้จึงคิดว่าควรคุยกับคุณป้าจะดีกว่า
"เออ..คุณป้าคะ..อันที่จริงหนูฝึกงานอีกตั้งสองเดือน แล้วก็มีที่ที่จะไปฝึกแล้ว"
ติ๊ง~~
"อะ..ถึงพอดีเลย...เมื่อกี้หนูว่าไงนะ"
"มะ..ไม่มีอะไรค่ะ"
ฉันเริ่มก้มหน้า ดันแว่นตัวเองเข้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง แล้วก้าวเข้าห้องท่านรองประธานตามหลังคุณป้าไป
"ต้นกล้า"
"ครับคุณแม่"
ฉันเอาแต่ก้มหน้าหลบสายตาของคนทั้งคู่หลังจากที่คุณป้าเรียกพี่ต้นกล้าแล้วเขาเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสาร
"ใครน่ะแม่"
"น้องเม็ดฝนไง..ที่เล่นด้วยกันตอนเด็กๆ จำไม่ได้เหรอลูก"
"ไม่อะ..แม่มีอะไรฝากไว้ที่เลขาเลย"
พี่ต้นกล้าพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ฉันแอบเงยหน้ามองคนตรงหน้า พี่ต้นกล้าที่ฉันรู้จักเปลี่ยนไปมาก จากตะก่อนเขาเป็นเด็กอ้วนจ้ำม่ำตอนนี้เขาดูภูมิฐานมากในชุดสูททำงาน ใบหน้าสะอาดสะอ้านเกลี้ยงเกล้ายังกะผู้หญิงแถมผิวยังผุดผ่องกว่าฉันอีก
"อีกสองเดือนแม่ขอฝากน้องมาฝึกงานกับต้นหน่อยนะ"
"ไม่ไหวมั่ง..งานผมออกนอกพื้นที่บ่อย ทำไมแม่ไม่ไปฝากยัยน้ำละ"
"ที่น้ำเด็กฝึกงานมีเยอะแยะแล้ว ไม่รู้ละ..น้องต้องฝึกงานที่นี่"
ฉันได้แต่ยืนเป็นอิเอ๋ออยู่กลางห้องดูสองแม่ลูกเถียงกันไปมา จนพี่ต้นกล้าเหลือบตามามองฉัน เขาไล่สายตาตั้งแต่หัวจรดเท้า
"ก่อนแม่จะจับคู่ให้ผม..แม่ช่วยดูรสนิยมผมด้วยนะ..โคตรเฉิ่มเลย"
เสียงพี่ต้นกล้าดังเข้ากระแทกหูฉัน ถามว่าโกรธไหม ไม่เลย..ฉันต้องการแบบนั้นมากกว่า ฉันยังไม่อยากมีสามีก่อนเรียนจบหรอกนะ ยิ่งเขาไม่ชอบฉันมากเท่าไหร่ แผนจับคู่ของแม่ก็มีสิทธิ์ล้มเท่านั้น
"น่ารักดีออก..เอาละแม่ฝากน้องไว้แป๊บหนึ่ง เดี๋ยวเรื่องนี้แม่จัดการเอง"
คุณป้าไพรนรีส่งยิ้มให้ฉันแล้วเดินออกห้องไป ทิ้งให้ฉันยืนค้างอยู่ในห้องกับเขาสองคน
"น่ารักเหรอ! เหอะ!..เธออย่าหวังว่าแผนจับคู่ครั้งนี้จะสำเร็จ"
พี่ต้นกล้าวางปากกาลงบนโต๊ะอย่างแรง เขาลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน
"ฝนก็ไม่ได้อยากมาที่นี่"
"แล้วมาทำไมไม่ทราบ..ไม่มีใครบังคับเธอได้หรอก ถ้าเธอไม่เดินเข้ามาเอง"
"...."
ฉันเถียงไม่ออก...มันก็จริงอย่างที่เขาพูดนะ ก็เลยเลือกที่จะเงียบแทน
"นี่ยัยเฉิ่ม จะบอกไว้เลยนะเธอไม่ใช่แนวของฉัน"
เขามองการแต่งตัวของฉันอีกรอบแล้วมองช้อนคางยกใบหน้าฉันขึ้นมาดู พอมองใกล้ๆ พี่ต้นกล้าโคตรหล่อเลย สูงขาวตี๋แนวเกาหลีสเปกฉันเลยอะ เปลี่ยนใจทันไหมเนี่ย
"เกลียดสายตาเธอจัง"
เขาปล่อยคางฉันแล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะ แล้วชี้ให้ฉันไปนั่งตรงโซฟารอแม่ของเขา
"น่าเบื่อ!"
เขาเซ็นเอกสารไปได้สักพักก็บ่นออกมาอีกครั้ง แล้วกดสั่งกาแฟจากเลขาหน้าห้อง ไม่นานเลขาสาวสวยของเขาก็เดินนวยนาดเข้ามา ด้วยชุดทำงานที่แสนจะแนบเนื้อ คอกว้างลึกขนาดที่ก้มแล้วเห็นร่องนมลึก
พี่ต้นกล้ามองเลขาตัวเองด้วยสายตาแพรวพราว เขามองบั้นท้ายของเลขาที่หันหลังเดินกลับไปตลอดจนสายตาเขาเลื่อนมาเจอกับฉันมันก็เปลี่ยนไปทันที ก็ฉันใส่เสื้อนักศึกษาตัวใหญ่โคร่งกระโปรงพลีทยาวกรอมเท้ากับรองเท้าคัทชูส้นเตี้ย เปียผมพาดไว้ที่ไหล่แต่งหน้าก็เพียงแค่ทาแป้งกับลิปสติกสีอ่อน ฉันใส่แว่นอยู่แล้วไม่อยากแต่งตาอะไรมาก จากความที่ฉันไม่โกรธเขาเมื่อกี้ตอนนี้เริ่มมีอาการไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาตัวเองเท่าไหร่เลย
"ยังอยู่เหรอเนี่ย"
แกรก!
"กลับกันจ้ะหนูเม็ดฝน..ป้าทำเรื่องให้หนูมาเป็นผู้ช่วยเลขาของต้นกล้านะ"
"ตะ..แต่หนู"
"อะไรนะครับคุณแม่..เล่นแรงไปแล้วนะ ผมไม่รับไม่เอานักศึกษาฝึกงานอะไรทั้งนั้น"
พี่ต้นกล้าโวยวายก่อนที่ฉันจะพูดจบ เขามองหน้าฉันสลับกับมองหน้าแม่ตัวเอง
"ผมไม่เอา"
"กล้าขัดใจแม่เหรอ! ไม่รู้ละ แม่ฝากน้องไว้เรียบร้อยแล้ว มีแต่แม่ที่ยกเลิกได้"
คุณป้าไพรนรีตวาดลูกชายใหญ่แล้วจับข้อมือฉันเดินออกจากห้องของเขามา แถมยังปรับอารมณ์ได้ไวคุยกับฉันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้าแถมยังชวนไปทานข้าวอีก
"ขอโทษค่ะคุณป้า..พอดีหนูมีเรียนต่ออีก คงไปทานข้าวกับคุณป้าไม่ได้แล้วค่ะ"
"เสียดายจัง..คราวหน้าก็ได้จ้ะ ยังมีโอกาสอีกเยอะ ให้ป้าแวะไปส่งไหม"
"ไม่เป็นไรค่ะ มหาลัยใกล้แค่นี้เอง..ขอบคุณค่ะ"
ฉันยกมือไหว้ ส่งคุณป้าขึ้นรถและลาคุณป้าหน้าบริษัท ยืนถอนหายใจอยู่ตรงนั้น ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเหลืออีกสองชั่วโมง ไปนั่งเล่นใต้คณะรอดีกว่าจะได้อัปเดตชีวิตเพื่อนๆ ด้วย
บรื้น~~
ปี๊บ~~ ปี๊บ~~
รสสปอร์ตคันหรูสีดำเงามาจอดตรงหน้าฉันและบีบแตรเสียงดังจนกลายเป็นจุดสนใจ ฉันรีบก้าวเท้าเดินหนีด้วยความอาย
ปี๊บ~~
เสียงแตรดังขึ้นอีกครั้งรถคันนั้นก็เลื่อนตามฉันมาด้วย เขาลดกระจกลงแล้วตะโกนเรียกฉัน
"ยัยเฉิ่ม!! ขึ้นมาเรามีเรื่องต้องคุยกัน"
"พี่ต้นกล้า!!"