ตอนที่ 6 | ห้ามใจ

1617 Words
ปี๊นนๆๆ เฟี้ยว! แง้นนน ~ เสียงจากการจราจรที่คับคั่งด้านนอกไม่ว่าจะรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หรือรถโดยสารสาธารณะดังเล็ดลอดเข้ามาภายในรถญี่ปุ่นที่กำลังมีสองหนุ่มสาวนั่งติดแหง็กอยู่กับไฟแดงบนแยกนี้มาได้ไม่ต่ำกว่าสามสิบนาทีแล้ว “นั่นไฟเขียวแล้วหรอ…ตดยังไม่ทันหายเหม็นเลยหมดละ” เสียงทุ้มพูดขึ้นหลังจากรถเคลื่อนตัวไปได้เพียงนิดและดูทรงแล้วว่าน่าจะต้องติดอีกรอบ “5555 พี่ตดหรอ…” เมจิขำกับการเปรียบเปรยของคนข้างๆ “งืมมม…เมว่าจะถามพี่อยู่” เสียงหวานเอ่ยต่อนัยน์ตาคมเลยหันมามองอย่างรอฟังสิ่งที่เธอกำลังจะพูด “พี่เจอเมแล้วพี่โอเคไหมหรือมีอะไรที่ไม่ชอบบอกได้เลยนะ” เธอถามออกไปตามตรงก่อนจะสบสายตากับเขาที่ก็กำลังมองเธออยู่เหมือนกัน “ไม่มี…ไม่มีอะไรที่ไม่ชอบ” เสียงทุ้มตอบกลับแล้วจ้องมองเข้ามาในตาของเธอนิ่ง “อ่อ…พี่ไฟเขียวแล้ว!” เมจิที่กำลังจะตอบกลับแต่ตาดันเหลือบไปเห็นไฟที่ถูกเปลี่ยนเป็นสีเขียวก่อนเลยรีบสะกิดบอกพี่วินว่าถึงนาทีทองแล้ว!ทำให้รถที่จอดนิ่งอยู่เคลื่อนตัวออกไปและแน่นอนว่าเราสองคนผ่านไฟแดงมาได้แบบหวุดหวิดชนิดที่ว่าลุ้นจนแทบลืมหายใจก็ไม่เกินจริงเพราะขนาดตอนดูหนังก็ยังไม่ตื่นเต้นเท่านี้เลย… แต๊ก แต๊ก แต๊ก เสียงไฟเลี้ยวดังขึ้นก่อนที่รถญี่ปุ่นจะเลี้ยวเข้าไปจอดยังลานจอดรถในโรงแรมที่เธอพัก “พรุ่งนี้กลับแล้วนี่ พี่จะได้เจอเราอีกเมื่อไหร่” วินหันไปถามคนข้างตัวหลังจากรถจอดนิ่งสนิท “อืม…ก็ถ้าเมได้งานเร็วก็ได้เจอเร็วแต่ถ้ายังไม่ได้ก็น่าจะช่วงเดือนหน้านะ” “แล้วที่พักล่ะ ถ้าได้งานแล้วจะอยู่ไหน” “รอให้ได้งานก่อนเมค่อยคิดดีกว่า” ยังไงก็คงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่เพราะงั้นก็น่าจะพอหาทัน… “อืม เอางั้นหรอ” “ค่ะ งั้นเมขอตัวก่อนนะ ขะ…” “เดี๋ยวสิ…พี่ยังไม่ได้ถามเมเลย” เสียงทุ้มเอ่ยขัดก่อนจะพูดต่อ “ฮึ?” “เมเจอพี่แล้วเมโอเคหรือเปล่า…หรือไม่ชะ” “ชอบค่ะ!” “…” โอ๊ย ยัยเม! ทำไมแกปากไวอย่างนี้นะ…อายชะมัด ทำไมไม่รอให้ผู้ชายเขาพูดให้จบก่อนเล่า แกกลัวไม่ได้พูดหรือไง อยากจะตีปากตัวเองแรงๆ สักสามสี่ที…คนตัวเล็กที่ได้แต่บ่นกับตัวเองอยู่ในใจกับความปากไวใจเร็ว “แหะๆ” หัวเราะแก้เก้อไปน่าจะพอได้อยู่เนาะ… “พรุ่งนี้พี่ต้องไปทำงานนี่เดี๋ยวถึงดึกนะ พี่กลับเลยไหม…” “…” เอ๋…แล้วทำไมเขาเอาแต่จ้องหน้าปล่อยให้ฉันพูดอยู่คนเดียวล่ะ “เอ่อ…งั้นเมไปก่อนนะขอบคุณพี่มากๆ เลยนะคะที่พาเมเที่ยวแล้วก็ดูแลเมอย่างดีเลยตลอดสามวันที่ผ่านมาสนุกมากๆ เลยค่ะ :)” เมจิพูดบอกไปตามความรู้สึกจริงๆ ของเธอเพราะตลอดสามวันที่เจอพี่วินเธอสนุกมาก ได้กินได้เที่ยวได้ทำกิจกรรมร่วมกันอีกอย่างอยู่กับเขาเธอก็รู้สึกสบายใจดี แต่แล้วทำไมเขาก็ยังนิ่งเงียบมองแต่หน้าเธออยู่แบบนั้นไม่พูดอะไรออกมาสักคำ… “เอ่อ พี่ พี่เป็นอะไร” เมจิเอียงหัวก่อนจะยกมือโบกไปมาซ้ายขวาตรงหน้าชายหนุ่ม เงียบไม่มีสัญญาณตอบรับ “พี่…โอเคเปล่าเนี่ย?” ร่างบางถามพร้อมกับเอื้อมมือไปจับต้นแขนแกร่งก่อนจะโน้มตัวเข้าไปหาโดยไม่รู้ว่าใบหน้าสวยได้รูปของเธอเข้าไปใกล้เขามากเกินไป “…หยุดทำหน้าอ้อนแบบนั้นได้ไหม” วินพูดขึ้นหลังจากที่เงียบมานาน “หื้ม…?” เธอไปทำแบบนั้นตอนไหนกัน หมับ! เมจิเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเพราะอยู่ดีๆ พี่วินก็จับแขนเธอก่อนจะดึงตัวเธอเข้าหาตัวเขาทำให้ตอนนี้หน้าเราอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบด้วยซ้ำ อึก…เสียงกลืนน้ำลายลงคอของร่างบางที่กำลังทำตัวไม่ถูก “คะ คือ” เสียงหวานเอ่ยตะกุกตะกัก “ชู่ว…ไม่ต้องพูดอะไร” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นใกล้ใบหู มือหนายกขึ้นประคองใบหน้าเรียวสวยได้รูปก่อนจะใช้นิ้วโป้งถูแก้มนวลเบาๆ ไปมาพร้อมกับนัยน์ตาคมเข้มที่จ้องลึกไปในดวงตาสวยตรงหน้าก่อนจะเลื่อนสายตาไล่ลงมองริมฝีปากอวบอิ่มแล้วละสายตาออกอย่างอ้อยอิ่ง…วินก้มหน้าลงเล็กน้อยปิดเปลือกตาลงพร้อมกับถอนหายใจออกมาจากนั้นก็เงยหน้ากลับขึ้นมาสบตากับเมจิตามเดิม “อย่าทำหน้าอ้อนแบบนี้ใส่พี่อีกถ้ายังไม่พร้อมเพราะพี่จะทนไม่ไหว…เข้าใจไหม?” เมจิที่ยังคงงงกับสถานการณ์ตรงหน้าแต่ก็พยักหน้าตอบไปก่อนด้วยความเอาตัวรอด “อืม งั้นลงไปได้แล้วครับ ถ้าช้าพี่ตามไปส่งเราถึงห้องแน่” คนตัวเล็กที่ได้ยินแบบนั้นก็พอจะรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงจริงจังของผู้ชายตรงหน้าเธอว่าเขาไม่ได้ล้อเล่นแน่ๆ กับสิ่งที่กำลังพูดอยู่ คิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็รีบพาตัวเองลงมาจากรถด้วยความว่องไวก่อนจะขอบคุณอีกครั้งแล้วปิดประตู ร่างบางก้าวขาเดินตรงกลับเข้าโรงแรมไปในทันทีก่อนจะหยุดยืนอยู่ที่ล็อบบี้แล้วกดส่งข้อความหาคนที่เธอเพิ่งลงจากรถเขามา เมจิ : ขับรถดีๆ นะคะ ถึงห้องแล้วบอกเมหน่อยนะ :) ยังไงก็อดเป็นห่วงไม่ได้…มันเป็นนิสัยของเธอนี่ พอส่งข้อความเสร็จเรียบร้อยมือเล็กก็เก็บมือถือลงกระเป๋าแล้วเดินเข้าไปในลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องพักของตนเอง พอถึงห้องเธอก็ไม่ลืมที่จะส่งเรซูเม่สมัครงานก่อนเป็นอันดับแรกหลังจากนั้นก็ไม่รอช้ารีบเช็ดเครื่องสำอางค์ สครับหน้า แล้วหยิบผ้าขนหนูก่อนจะเดินหายเข้าห้องน้ำไปร่วมชั่วโมงออกมาอีกทีก็อยู่ในชุดพร้อมนอนเป็นที่เรียบร้อย “เฮ้อออ สบายจังเลย” หญิงสาวเอ่ยออกมาคนเดียวกลางห้องหลังจากหย่อนสะโพกลงที่ปลายเตียงแล้วเอามือยันกับที่นอนเอนตัวไปด้านหลังพร้อมกับเตะขาแกว่งไปมาอย่างสบายอารมณ์ “ดูทีวีหน่อยดีกว่ารีโมทอยู่ไหนนะ” พูดไปมือเล็กๆ ก็ควานหารีโมทไปด้วยเพราะเธอจำได้ว่าวางไว้บนที่นอนนี่แหละ…เจอแล้ว! ติ๊ด! ~ นี่ค่ะเส้นหนึบๆ แบบนี้กับน้ำซุปหม่าล่าเผ็ดๆ ชาๆ อื้อหือออ! ไม่มีอะไรจะอร่อยลงตัวเข้ากันไปมากกว่านี้แล้ว ~ เสียงที่ดังออกมาจากจอยักษ์ตรงหน้ากำลังทำให้คนตัวเล็กที่มองตาปริบๆ ลอบกลืนน้ำลายลงคอไปหลายอึก…ใครทนไหวก็ทนแต่ไม่ใช่ยัยเมจิแล้วคนนึง! มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนที่นิ้วเรียวจะกดเข้าแอปสั่งอาหารเดลิเวอรีอย่างไม่มีท่าทีลังเล สามสิบห้านาทีหลังจากนั้น… ซู้ด ซู้ด อื้ม ~ “ไม่มีอะไรจะอร่อยลงตัวเข้ากันไปมากกว่านี้แล้ว 5555” เมจิเลียนเสียงตามแบบรายการอาหารที่เธอดูก่อนหน้านั้นด้วยความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้ชนะ “หาอะไรดูหน่อยดีกว่าดึกๆ แบบนี้น่าจะพอมีซีรีส์ฟินๆ ทำให้กระชุ่มกระชวยหัวใจอยู่นะ” นิ้วเรียวยาวกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปปากเล็กก็ดูดเส้นมันหนึบเข้าคอไปด้วยก่อนจะมาหยุดที่ช่องหนึ่งเป็นซีรีส์รอบดึก ดวงตาเรียวสวยหยุดมองจอนิ่งเพราะในจอกำลังฉายภาพพระนางที่กำลังเล่นบทเลิฟซีนอยู่ภายในรถซึ่งถ้าดูจากมุมกล้องตอนนี้แล้วมันช่างคล้ายกับเธอและพี่วินเมื่อช่วงหัวค่ำเอามากๆ สมองคิดได้ดังนั้นเมจิก็รีบกดปิดทีวีตรงหน้าก่อนจะวางอาหารที่อยู่ในมือลง ตึก ตึก ตึก นี่ฉันกำลังใจเต้นงั้นหรอ… แล้วมันเพราะฉากจากหนังเมื่อกี้หรือเพราะเหตุการณ์เมื่อตอนหัวค่ำกันแน่? เอาเข้าจริงๆ เธอก็แอบสงสัยในตัวเองเหมือนกันเพราะโดยปกติแล้วเธอไม่ใช่คนที่จะสนิทกับใครง่ายๆ ออกจะไปทางไม่เปิดรับคนเข้ามาด้วยซ้ำ อาจจะด้วยนิสัยส่วนตัวที่ค่อนข้างระวังตัวและขี้ระแวงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วโดยเฉพาะกับเพศตรงข้ามยิ่งแล้วใหญ่ แต่ที่แปลกคือการเจอเขาครั้งแรกกลับไม่ได้ทำให้เธออึดอัดแต่กลับรู้สึกเหมือนเจอคนสนิทที่คุ้นเคยกันมาเลยเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้นเลยคือเธอไม่รังเกียจสัมผัสจากเขาแต่กลับใจเต้นนี่สิ… “พอๆ เลิกคิดได้แล้วยัยเมจิ ดึกแล้วอย่าฟุ้งซ่าน!” เมจิบ่นกับตัวเองก่อนจะลุกแล้วเดินขึ้นที่นอน…จริงสิไม่ได้เช็กข้อความพี่วินเลยนี่นา พี่วิน : พี่ถึงแล้วครับ :) เขาส่งมาตั้งชั่วโมงกว่าแล้วแหนะ T.T เมจิ : ขอโทษนะคะเมเพิ่งเช็กข้อความ ฝันดีน้าพี่วินนน ~ มือพิมพ์ตอบข้อความเขาไปใบหน้าสวยก็ถูกประดับไปด้วยรอยยิ้มจางๆ อย่างไม่รู้ตัว…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD