คำสั่งจากคุณหญิงย่า #1

1561 Words
หลังจากชำระร่างกายพร้อมทั้งแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว บัลลังก์เดินออกจากห้องน้ำมาพบกับความว่างเปล่าภายในห้อง เรียวคิ้วหนาขมวดมุ่น แปลกใจที่ไม่เห็นเรือนร่างของหญิงสาวที่ตนคิดว่าคงจะนอนซมเก็บแรงเตรียมแผลงฤทธิ์ “ไปไหนแล้ว…” ริมฝีปากหนาพึมพำเบา ๆ ขณะเดินไปยังเตียงหลังกว้างมองหาว่าเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่นั้นยังอยู่หรือไม่ แต่แล้วก็ต้องรู้สึกโหวงใจอย่างประหลาดเพราะมันไม่เหลือร่องรอยใดเลยที่แสดงให้เขาเห็นว่าเมื่อครู่นี้มีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ร่วมห้องด้วย “เก็บไปซะเกลี้ยงเลยนะ… สงสัยปริณณ์จะโอนเงินให้แล้ว" ชายหนุ่มถอนหายใจ รู้สึกโล่งอกขึ้นมาไม่น้อยเหมือนได้กำจัดเรื่องวุ่น ๆ ออกไปจากอกตน เพราะถ้าเจ้าชายน้ำแข็งอย่างเขาต้องพัวพันกับผู้หญิงแสนจู้จี้น่ารำคาญแถมยังปากจัดไม่เบาแบบนั้น คงหัวหมุนอีกแน่นอน พลันแสงวาววับของอะไรบางอย่างบนโต๊ะข้างเตียงเรียกรั้งให้คนที่กำลังจะออกจากห้องต้องประหลาดใจ บัลลังก์สาวเท้ากลับเข้ามาดูก็พบเข้ากับนาฬิกาเรือนหรูหราที่วางทับกระดาษทิชชูและเงินหนึ่งพันบาทเอาไว้ [ขายเอาเงินค่าตัวไปแล้วกัน โทษที ไม่คิดว่าคุณจะเป็นหนุ่มโฮสต์] “หนุ่มโฮสต์?” เส้นเลือดที่ขมับของเขาเต้นตุบขึ้นมาทันที “เอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ย… แล้วเงินแค่พันเดียวนี่มันอะไร นาฬิกา? ของปลอมหรือเปล่า…” เขาหยิบเอาบุลการีเรือนสวยขึ้นมาพิจารณาดู ความระยิบระยับไร้ที่ติของมันทำให้รู้ว่าของแท้ไม่ผิดแน่ แต่อีกใจก็คิดว่าสมัยนี้ของก็อปยังมีเกรดสูงต่ำ ยัยผู้หญิงเสียงแสบแก้วหูคนนั้นก็อาจจะซื้อของก็อปเกรดแพงมาก็ได้ “…ตีราคาฉันต่ำเกินไปแล้วนะ ยัยตัวแสบเอ๊ย" ชายหนุ่มขบเคี้ยวเคี้ยวฟัน หยิบเอาธนบัตรสีเทาและนาฬิกาเรือนหรูใส่ในกระเป๋าตัวเองอย่างแค้นเคือง แต่ยังไม่ทันที่จะได้แสดงความหงุดหงิดออกมาเพิ่ม เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เบอร์ของคนคุ้นเคยเด่นหราที่หน้าจอ “ฮัลโหลพายุ มีอะไร” เอ่ยทักทายลูกพี่ลูกน้องด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง สองเท้าค่อย ๆ ก้าวเดินออกจากห้องไปด้วยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา (พี่ไทม์ มาเจอกันที่สำนักงานทนายความหน่อยครับ คุณย่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย เดี๋ยวเราเจอกันเสร็จค่อยแยกย้ายกันไปหาคุณย่า) “…เรื่องสำคัญคืออะไร” พี่ใหญ่ของตระกูลเตชะโภคินทร์เลิกคิ้ว ได้ยินเสียงถอนหายใจฮึดฮัดของปลายสาย (จะไปรู้เหรอครับ ผมไม่ใช่คุณย่าซะหน่อย พี่ไทม์รีบมาได้แล้ว แค่นี้ครับ) “เด็กนี่…” บัลลังก์พรูลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน นึกขอบคุณที่ตนเกิดมาเป็นลูกรักพระเจ้า ต่อให้จะเหนื่อยอ่อนเพราะกรำศึกรักมาหนักหลายยกจนแทบไม่ได้นอนแค่ไหน ใบหน้าก็ยังคงดูหล่อเหลา ไม่โทรมเลยแม้แต่น้อย เขาเดินลงจากชั้นบนของบาร์ไปยังโต๊ะที่จากไปตั้งแต่เมื่อคืน แล้วก็ได้พบกับร่างของเพื่อนสนิททั้งสองนอนเกยกันอยู่ ส่วนดินไทยนั่งพิงโซฟาหลับไม่รู้เรื่อง “ดินไทย…” เพียงแค่เอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นคำเดียว คนที่หลับไปเพราะฤทธิ์สุราหลายแก้วเมื่อคืนก็สะดุ้งตื่นพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันที “ครับเจ้านาย!” “…เดี๋ยวฉันจะไปสำนักงานทนายความของพายุ นายหาทางกลับเองแล้วกันนะ ขอกุญแจหน่อย” มือหนาแบออกมาด้านหน้า ลูกน้องที่ถูกลอยแพทิ้งก็ยื่นให้อย่างไม่เกี่ยงงอน “แล้วก็ฝากพาสองคนนั้นไปส่งที่บ้านใครบ้านมันด้วย ปล่อยให้นอนอยู่แบบนี้เดี๋ยวก็จะโทรมาบ่นฉันว่าใจดำอีก ฝากด้วยนะ" เมื่อออกคำสั่งลูกน้องคู่ใจเป็นหางว่าวแล้ว บัลลังก์ก็รีบตรงไปยังโรลส์-รอยซ์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถ แล้วมุ่งหน้าไปยังสำนักงานทนายความตามคำสั่งของคุณหญิงย่าที่ผ่านปากลูกพี่ลูกน้องมาทันที… … คฤหาสน์ตระกูลเตชะโภคินทร์ หลังจากพบปะกับพี่น้องที่สำนักงานทนายความของพายุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บัลลังก์เป็นคนแรกที่เดินทางเข้ามายังคฤหาสน์หลังโอ่อ่าของเศรษฐีนีผู้ที่ถึงแม้จะอายุมากแล้วแต่ก็ยังดูทะมัดทะแมง มีเรี่ยวแรงเหมือนสาวรุ่นอยู่เสมอ คุณหญิงพิสมัย เตชะโภคินทร์ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้าต่างในห้องทำงาน ทอดมองความสวยงามของสวนหย่อมขนาดใหญ่และรูปปั้นน้ำพุเทพกรีกอย่างเพลิดเพลินใจ ครู่ต่อมาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสามครั้ง “เข้ามา ๆ" น้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงเอาไว้ด้วยอำนาจที่ล้นออกมาทางคำพูดเอ่ยอนุญาตให้คนที่อยู่หลังบานประตูรับทราบ บัลลังก์เปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสมฐานะหลานชายคนโตที่คุณหญิงย่ารักเหมือนสมบัติล้ำค่า “สวัสดีครับคุณหญิงย่า" ร่างสูงโปร่งยกสองมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม “ไหว้พระเถอะจ้ะตาไทม์หลานย่า… มาเร็วกว่าเวลานัดด้วยนี่นา เจ้าพายุกำชับไปเหรอว่าให้มาตรงเวลาน่ะ" คุณหญิงพิสมัยเอ่ยเสียงเนิบ ๆ แต่ไม่ยานคางจนน่ารำคาญ มือเหี่ยวย่นผายไปทางโซฟาเพื่อให้หลานชายไปนั่งพัก “มา ๆ นั่งก่อนหลานย่า ย่าคิดถึงตาไทม์ของย่าที่สุดเลยจ้ะ" บัลลังก์เดินเข้ามาประคองหญิงชราให้เดินไปนั่งที่โซฟาพร้อมกัน คุณหญิงพิสมัยแย้มรอยยิ้มกับการประพฤติตัวดีของหลานชายที่ตนฟูมฟักมาตั้งแต่ยังน้อย “ขอบใจที่กรุณาคนแก่อย่างย่านะจ๊ะ" “คุณหญิงย่าไม่แก่เลยครับ ยังเป็นสาวสองพันปีคนสวยของไทม์เหมือนเดิมเลย" บัลลังก์ยิ้มแย้ม “สุขภาพร่างกายช่วงนี้เป็นยังไงบ้างครับ ไทม์ยุ่งกับงานที่บริษัทมาก กว่าจะมีเวลามาเยี่ยมคุณย่าทีหนึ่งก็หลายเดือน เป็นหลานที่ใช้ไม่ได้แบบนี้ คุณหญิงย่าต้องตีนะครับ" คุณหญิงพิสมัยหัวเราะร่วนเมื่อเห็นภาพซ้อนหลานชายเป็นเหมือนกับลูกชายตนอย่างภูริศ เตชะโภคินทร์ราวกับถอดแบบความขี้เล่นเหมือนกันไม่มีตำหนิผิดเพี้ยน จะต่างหน่อยตรงที่บัลลังก์นั้นได้ความนิ่งสงบในบางมุมจากมาลัย ลูกสะใภ้แสนรักมาด้วย “ย่าจะไปตีหลานรักของย่าลงได้ยังไงล่ะตาไทม์… สุขภาพย่าก็เหมือนเดิม มีเจ็บออด ๆ แอด ๆ ตามข้อบ้าง แต่ก็ตามประสาคนแก่นั่นละ หมอประจำตระกูลเราก็คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ไม่ต้องเป็นห่วงย่าหรอก ย่ารู้ว่าไทม์หลานย่างานเยอะ" คุณหญิงพิสมัยวางมือลงบนศีรษะของหลานชายแล้วลูบเบา ๆ “ขอบคุณครับคุณหญิงย่า แต่ยังไงไทม์ก็อยากหาเวลามานั่งคุยเล่นกับคุณย่า ฝากท้องกับคุณหญิงย่าสักมื้อให้ถี่ขึ้นกว่าเดิมนะครับ" “เอาที่หลานสะดวกเถอะ… จริงสิ วันนี้ที่ย่าเรียกเรามาก็เพราะมีเรื่องสำคัญที่ย่าคิดมาสักพักแล้วว่าอยากบอก" หญิงชราเกริ่นแล้วไอเบา ๆ บัลลังก์หยิบผ้าเช็ดหน้ามาให้พร้อมกับตั้งใจฟังเป็นอย่างดี “ย่าเอง ถึงภายนอกจะดูแข็งแรงแบบนี้ แต่สักวันหนึ่งก็คงหนีไม่พ้นความชรา… เดี๋ยวก็ป่วยหนักขึ้นเรื่อย ๆ สังขารมันไม่จีรังหรอกนะไทม์หลานย่า" “คุณหญิงย่า ไม่เอา ไม่พูดแบบนี้สิครับ" ชายหนุ่มจับมือเหี่ยวย่นทั้งสองข้างขึ้นมาแนบบนแก้มเหมือนเป็นเด็ก ๆ “คุณหญิงย่าต้องอยู่กับไทม์ไปอีกนาน ๆ เลย ไทม์จะดูแลคุณหญิงย่าเองครับ" “ย่าฝืนความเป็นไปของอายุไม่ได้หรอกนะหลาน… เพราะงั้นย่าถึงมีสิ่งหนึ่งที่อยากขอไทม์" พิสมัยแย้มรอยยิ้มหวานหยด ทำเอาบัลลังก์นึกถึงภาพคุณหญิงย่าสมัยยังสาวที่สวยเทียบเท่ากับดารานางแบบในยุคสมัยนั้นเลยทีเดียว เป็นรอยยิ้มแสนสวยงามที่เขาอยากเก็บรักษาเอาไว้ในความทรงจำตลอดกาล “คุณหญิงย่าอยากขออะไรไทม์ครับ ไทม์พร้อมจะทำให้คุณหญิงย่าทุกอย่างเลยครับ" เขาตอบเสียงหนักแน่น มอบรอยยิ้มตอบกลับไปให้ เป็นรอยยิ้มจากเจ้าชายน้ำแข็งที่น้อยคนนักจะได้เห็นสักครั้ง “ย่าอยากอุ้มเหลน" บัลลังก์นิ่งเงียบ อ้าปากค้าง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาเมื่อได้ยินคำร้องขอเหนือความคาดหมายจากคุณย่าผู้เป็นที่รักของตน “คุณหญิงย่า… หมายความว่ายังไงครับ" “ย่าอยากให้หลาน ๆ ของย่าแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาแล้วก็มีเหลนตัวน้อย ๆ ให้ย่าได้อุ้ม ก่อนที่ย่าจะอายุมากไปกว่านี้… ไทม์พอจะทำให้ย่าได้ไหม" พิสมัยใช้สายตาที่เริ่มฝ้าฟางเล็กน้อยมองหลานรักด้วยความคาดหวัง “อ่า… คุณย่าครับ คือว่า…” “เก็บไปคิดก่อนก็ได้นะไทม์หลานย่า” บัลลังก์รู้สึกเหมือนคนคลำหาเสียงของตนไม่เจอ ความเครียดเริ่มเกาะกุมศีรษะทีละน้อย แต่งงาน… มีเหลน… คนอย่างเขาเนี่ยนะ…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD