มหาลัย

1042 Words
18:00 น. โซล ประเทศเกาหลี ตอนนี้ฉันมาถึงบ้านพักที่ฉันติดต่อเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็เย็นมากฉันคิดว่าคงต้องจัดการกับความอ่อนแอของตัวเองสักที ฉันต้องสลัดความอ่อนแอของตัวเองทิ้งไปให้หมดและต้องกลับมาเข้มแข็งอีกครั้งให้ได้ พอคิดได้แบบนั้นฉันจึงเดินออกมาหาของกินที่ Street food (ถนนคนเดิน) แถวที่พัก และดวงตาฉันก็ลุกวาวเป็นประกายเมื่อเห็นแผงอาหารมากมายที่ตั้งเรียงรายกันเป็นระเบียบ ‘ฉันไม่ใช่คนกินเก่งหรอกนะกระเพาะฉันแค่ใหญ่กว่าคนอื่นแค่นั้นเอง จริงๆ นะทุกคน’ ฉันเดินกินนู้นกินนี้เยอะแยะไปหมดพอรู้ตัวอีกทีฉันก็เดินมาสุดทางแล้ว ฉันที่กำลังเดินกลับทางเดิมเพื่อจะกลับบ้าน เพราะฉันกินไปเยอะมากจนท้องจะแตกอยู่แล้ว ก็ต้องหยุดลงเมื่อหันไปเห็นอะไรบางอย่าง “รูปหล่อเทียนความทรงจำครับ เพื่อน คู่รัก ครอบครัว เข้ามาหล่อเทียนเก็บไว้เพื่อเป็นความทรงจำดีๆ ได้เลยค้าบบ” ฉันหันไปเห็นร้านหล่อเทียนเป็นรูปต่างๆ หรือ การที่เราเอามือ จุ่มลงไปในเทียนและแกะออกมาเป็นรูป ฉันเคยจับมือพ่อและแม่เราสามคนหล่อรูปนั้นออกมาอย่างสวยงาม แต่ตอนนี้ความทรงจำนั้นก็คงจะหลอมละลายไปพร้อมกับร่างของพ่อกับแม่แล้ว นั้นยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ‘ความทรงจำดีๆ ของฉันได้มอดสลายไปในกองเพลิงจนหมดสิ้น’ ฉันกลับมาถึงบ้านก็เห็นกล่องพัสดุวางอยู่หน้าบ้านเป็นกล่องที่ส่งมาจากมหาลัยที่ฉันกำลังจะเข้าไปเรียนในวันพรุ่งนี้ ฉันลืมบอกไปว่าก่อนหน้านี้ฉันทำเรื่องสมัครเรียนไว้ที่มหาลัย W เป็นมหาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงของเกาหลี แต่มีระบบการศึกษาที่ไม่เหมือนกับที่อื่น ที่นี่คล้ายกับมหาลัยปิดซึ่งจะมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก เด็กที่อื่นและบุคคลภายนอกจะไม่สามารถเข้ามาในมหาลัยนี้ได้ และที่สำคัญข้อมูลของนักศึกษาทุกคนจะถูกเก็บเป็นความลับทั้งหมดแม้แต่ตำรวจก็ไม่สามารถเข้ามาขอดูข้อมูลได้ ที่นี่เป็นมหาลัยที่ใหญ่มากและเด็กส่วนใหญ่ก็จะพักอยู่หอพักในมหาลัยเกือบ90% หอในมหาลัยมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายทุกอย่าง หอในของที่นี่ไม่ต่างจากโรงแรมห้าดาวดีๆ นี้เอง ฉันเองก็อยากพักหอในเหมือนกัน ฉันคิดว่าอยู่หอในมหาลัยฉันน่าจะปลอดภัยกว่าถ้าคนพวกนั้นมาที่นี่ก็คงเข้าไปหาฉันไม่ได้ แต่ฉันมาช่วงที่เปิดเทอมมาได้สักพักแล้วหอจึงเต็มหมด และเพราะที่นี่เป็นมหาลัยปิดนักศึกษาส่วนใหญ่จึงเป็นคนเกาหลีหรือไม่ก็เป็นนักธุรกิจที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เกาหลีเรียนกัน นักศึกษาต่างชาติส่วนใหญ่ไม่มีใครเรียนที่นี่เพราะอาจจะต้องกลับประเทศบ้างหรือไม่ก็มีญาติพี่น้องมาเยี่ยมบ้างถ้าเรียนที่นี่ก็จะไม่สามารถทำได้ ที่นี่จึงไม่เป็นที่นิยมของนักศึกษาต่างชาติสักเท่าไหร่ แต่มันดีมากสำรับฉันเพราะฉันจะใช้ที่นี่เป็นที่ซ้อนตัวของฉันและจะใช้ชีวิตให้เงียบสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้ฉันเช่าบ้านหลังหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยมากเดินไม่ถึง15นาทีก็ถึงแล้ว บ้านที่ฉันเช่าเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นทรงออกไปทางยุโรปหน่อยๆ มีสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ที่ฉันเลือกบ้านหลังนี้เพราะแถวนี้ส่วนใหญ่มีแต่โรงแรมหรือไม่ก็คอนโดมีแค่บ้านหลังนี้หลังเดียวที่ปล่อยเช่าถึงจะดูใหญ่ไปหน่อยสำรับคนเดียว แต่ฉันคิดว่าการอยู่บ้านส่วนตัวคนเดียวไม่มีใครเดินเข้าออกทั้งคืนทั้งวันน่าจะปลอดภัยกว่า ตอนนี้ฉันจำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยให้มากที่สุด เพราะฉันไม่รู้ว่าพวกนั้นจะหาฉันเจอเมื่อไหร่เวลาไหน 08:00 น. มหาลัย ตอนนี้ฉันอยู่หน้าประตูทางเข้ามหาลัยและกำลังเดินเข้ามาในมหาลัยแต่ฉันรู้สึกว่าทุกคนในมหาลัยกำลังจ้องมาที่ฉันกันหมด ฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีอะไรติดหน้าหรือทำอะไรผิดไปบ้างหรือเปล่าจนตอนนี้ทุกคนก็ยังคงจ้องมาที่ฉันไม่หยุดและหันไปซุบซิบอะไรกันไม่รู้ ฉันเริ่มเช็กว่าตัวเองมีอะไรผิดปกติบ้างหรือเปล่าแต่ก็ไม่เห็นมีอะไร หรือเพราะว่าฉันเป็นเด็กใหม่ทุกคนเลยไม่คุ้นหน้าหรอ แต่ก็ไม่ควรมองกันขนาดนี้สิฉันทำตัวไม่ถูกเลยแฮะ ฉันทำเป็นไม่สนใจอะไรและเดินต่อไปพร้อมกับสายตาที่จับจ้องมาตลอดทาง ฉันเดินตามหาห้อง B2/10 ซึ่งเป็นห้องพักของอาจารย์ที่นัดฉันไว้ อาคารเรียนที่นี่ใหญ่มากมีตั้ง10ชั้นแหนะถ้าไม่บอกว่าเป็นมหาลัยฉันคงคิดว่าเป็นโรงแรมแน่ๆ เลย ‘ใหญ่ขนาดนี้ฉันจะหาเจอเมื่อไหร่เนี่ย’ ฉันบ่นกับตัวเอง และตอนนี้ฉันก็คิดว่าฉันน่าจะหลงแล้วด้วยสิฉันเดินหาทางไปห้องที่อาจารย์นัดด้วยความมึนงงก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น ด้านหลังตึกมุมหนึ่งฉันเลยเดินเข้าไปดูก็เห็นเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งประมาณ3-4คนกำลังยืนสูบบุหรี่กันอยู่อย่างอารมณ์ดี และมีผู้หญิงผมสีน้ำตาลหน้าตาน่ารักกำลังยืนจูบกับผู้ชายผมสีน้ำเงินหน้าตาหล่อเหลาอยู่โดยไม่สนใจเพื่อนผู้หญิงอีก3คนที่ยืนมองอยู่เลยสักนิด “นี่ แกเป็นใคร มาแอบดูพวกฉันทำไมฮะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD