บทที่ 1

1176 Words
   บทที่ 1  สิ่งที่ทุกคนในคฤหาสน์จิรประทีปต์ต้องทำในวันนี้คือเตรียมตัวต้อนรับคนสำคัญที่กำลังเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ดวงตาคู่งามของแม่บ้านสาวจึงกวาดมองไปรอบห้องนอนขนาดใหญ่ด้วยสายตาพินิจพิจารณา โดยมีสาวใช้ยืนเท้าชิดอยู่ไม่ห่าง ร่างระหงก้าวไปหยุดที่หน้าเตียงนอนขนาดคิงไซซ์ ผ้าปูที่นอนเรียบตึง สะอาดสะอ้าน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ โชยมา ก่อนตรงไปยังห้องน้ำที่สะอาดจนลงนอนเล่นได้ แล้วออกมาหยุดที่ตู้เสื้อผ้าซึ่งเปิดค้างไว้รอการตรวจสอบ เสื้อผ้าถูกเรียงเป็นระเบียบ แต่ละชนิดแยกออกจากกันชัดเจน ขยับก้าวไปยังตู้อีกหลัง รองเท้า กระเป๋าและของใช้อื่นๆ ถูกจัดเอาไว้อย่างดี สวยงาม หยิบง่าย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย จึงก้าวนำบรรดาสาวใช้ออกไปจากห้อง      ที่โต๊ะอาหาร…      สาวใช้ในชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงินเข้มทั้งสามคนยืนเรียงหน้ากระดานด้านหนึ่งของโต๊ะอาหาร ขณะที่แม่บ้านสาวผู้มีใบหน้าเรียวงาม เครื่องหน้าละมุนยืนเยื้องรออยู่ที่ตำแหน่งหัวโต๊ะด้วยใบหน้าเรียบเฉย ทั้งหมดรอ จนกระทั่งเสียงพูดคุยเบาๆ ดังใกล้เข้ามาจึงยืดลำตัวตรง สูดลมหายใจเตรียมพร้อม      เวลา 12.30 น.      บุคคลทั้งสี่ก้าวเข้ามาภายในห้องอาหารของคฤหาสน์จิรประทีปต์ นำโดยเจ้าของใบหน้าคมคายได้รูป หน้าผากกว้าง โหนกแก้มสูง คิ้วเข้มพาดยาวเหนือดวงตาคมกริบ จมูกโด่งเป็นสันรับริมฝีปากได้รูปหยักลึก ร่างกายผึ่งผายสวมสูทอามานีสีดำครบชิ้น ส่วนสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรเกินมาตรฐานชายไทยทำให้โดดเด่นเกินใคร ขณะเดียวกันผู้ที่เดินเคียงข้างมีส่วนสูงต่ำกว่าไม่มากนั้นมีใบหน้าคล้ายคลึงกัน ทว่ารูปร่างหนากว่าซึ่งเป็นไปตามวัย ตามมาด้วยสาวสวยร่างเปรียวใบหน้าสวยเฉี่ยวในชุดเดรสสีแดง ท่อนแขนเรียวสวยเกาะกอดท่อนแขนล่ำสันของผู้สูงวัยซึ่งมีฐานะเป็นสามีของตน ใบหน้างามหยดนั้นยิ้มให้ท่าน คุณเมธัตยิ้มตอบ ก่อนมองตรงไปยังโต๊ะอาหาร เวลานั้นภรรยาคนงามจึงมองเลยไปยังร่างสูงใหญ่กำยำของชายอีกคนด้วยสายตาวาววาม ขณะที่เจ้าของร่างสูงใหญ่ได้ส่วนชวนหลงใหลไม่ได้มองมาแม้แวบเดียว ตรงกันข้ามเมื่อก้าวไปยังโต๊ะอาหารเขาหันไปสนใจเลขาสาวสวยในชุดสูทสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยสีเทาดูปราดเปรียวคล่องแคล่วตามมาติดๆ และแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการเลื่อนเก้าอี้ให้เจ้าหล่อนตามวิสัยที่ทำเป็นประจำ …      เมธัต จิรประทีปต์  ผู้เป็นใหญ่ในคฤหาสน์จิรประทีปต์ ยิ้มให้ทุกคนเมื่อนั่งลงเรียบร้อย ก่อนจะมองตรงไปยังร่างระหงในชุดกระโปรงสั้นพอดีเข่าสีน้ำเงินเข้มคอปกคาดขาวที่ก้าวเข้ามาดูแลประมุขของบ้านยิ้มๆ ทำให้สายตาของทุกคนมองมาที่หญิงสาวเป็นตาเดียว      “ฉันไม่อยู่หลายวัน ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง” ดวงตาคมกริบคล้ายใครอีกคนมองแม่บ้านสาวของตนยิ้มๆ      โยษิตา ชวโรจน์ เงยหน้าขึ้นสบตาท่าน ริมฝีปากอิ่มได้รูปเปิดยิ้มเล็กน้อยพร้อมตอบ      “ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ”      ทุกคนฟังคำตอบจากเจ้าของเสียงหวานอย่างสนใจ คุณมารุตพยักหน้าเบาๆ แล้วหันไปมองเจ้าของใบหน้าคมคายกว่าท่านนิดหนึ่ง ก่อนจะบอกออกมาว่า      “เอาล่ะ ตักข้าวได้เลย”      หลังจากนั้น บรรดาสาวใช้ที่ยืนเรียงกันด้านหนึ่งเข้าประจำที่  ทุกอย่างเสร็จสิ้นภายในหนึ่งนาทีก่อนกลับออกไปจากห้อง มีเพียงโยษิตาที่ถอยออกไปยืนอยู่ด้านหลังของเจ้านาย รอรับใช้และคอยเติมเครื่องดื่มและอาหารเมื่อทุกอย่างพร่องลง      “พรุ่งนี้คุณเมธจะเข้าบริษัทเลยหรือเปล่าคะ” เสียงหวานๆ เอ่ยถามคนที่นั่งหัวโต๊ะ ใบหน้างดงามมีรอยยิ้มประดับประดาเสมอ หล่อนคือวารุณี จรรยาลักษณ์ ภรรยาสาวสวยคนล่าสุดของคุณ เมธัต      คุณเมธัตเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองบุตรชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับภรรยาสาวสวยของตน ถัดจากชายหนุ่มคือเลขาสาวคนเก่งและมีความสวยไม่แพ้ภรยาของเขาเลยสักนิดเดียว      “เข้าสิ พรุ่งนี้เรามีประชุมด่วน” เขามองนิ่งไปที่ลูกชายคนเดียวที่เกิดกับภรรยาบุญน้อย       มารุต จิรประทีปต์ หรือ คุณรุตเงยหน้าขึ้น ดวงตาคมกริบมองนิ่งก่อนเอ่ยออกมา      “คุณพ่อพักผ่อนก่อนดีกว่า เรื่องประชุมเอาไว้เป็นหน้าที่ของผมเอง”      จากนั้นเสียงถอนหายใจจึงดังมาจากคุณเมธัต สีหน้าค่อนข้างอ่อนเพลียชัดเจน แม้แต่โยษิตาที่ยืนเยื้องออกไปยังสังเกตเห็น และเกิดความเป็นห่วง      “วาคิดว่าคุณเมธควรให้คุณหมอตรวจอาการดูสักหน่อยนะคะ”      ภรรยาสาวละมือจากช้อนขึ้นไปแตะท่อนแขนของสามี แววตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ท่านสบตาหญิงสาวยิ้มๆ พลางยกมือขึ้นกุมมือข้างนั้นของอีกฝ่าย      “ผมไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย แค่เหนื่อยเท่านั้น นอนพักวันเดียวก็หาย”      “แต่ว่า…”      “ให้คุณอาหมอตรวจก็ดีครับ ปล่อยเอาไว้อาจเป็นอันตราย” มารุตตัดบท ทำให้วารุณีเม้มปากนิดหนึ่งก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้ชายหนุ่มที่กำลังมองมาด้วยนัยน์ตาเข้มจัด      “วาเห็นด้วยกับคุณรุตนะคะ” บอกเสียงหวาน แววตาที่มองสบนัยน์ตาคมเข้มยั่วเย้าท้าทาย มารุตเบือนหน้าหนี ขณะที่คุณเมธัตนิ่งขรึม       “ตามนั้นก็ได้ เรื่องงานพ่อฝากรุตดูด้วยแล้วกัน พ่อเชื่อใจรุตเสมอ” เขาบอกก่อนจะรวบช้อนแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ลุกจากเก้าอี้ก้าวตรงไปยังบันไดเพื่อกลับขึ้นห้องพัก       วารุณีมองตามสามีก่อนหันมาหยุดที่ชายหนุ่ม พยายามสบตาเขาแต่อีกฝ่ายกลับหันไปตักอาหารให้เลขาสาวสวยที่เอ่ยขอบคุณเบาๆ จึงวางผ้าเช็ดปากลงข้างจานแล้วผุดลุกตามสามีไปติดๆ ด้วยความรู้สึกร้อนรุ่มในอก      ดวงตาสีเข้มตวัดมองตามหลังร่างระหงของภรรยาบิดาแวบหนึ่ง ก่อนหลุบต่ำ จากนั้นเพียงครู่เขาก็หมดความสนใจจากอาหารตรงหน้า แต่ยังรอให้เลขาสาวรับประทานจนอิ่มจึงลุกจากเก้าอี้ แต่ก่อนไปเขาไม่ลืมเหลือบมองแม่บ้านสาวแวบหนึ่ง จากนั้นก็ก้าวนำเลขาของตนออกจากบ้านทันทีโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำเดียว…      โยษิตาหลุบตามองแค่ปลายเท้าของตนจนกระทั่งทั้งสองพ้นออกจากห้อง จึงเหลือบตาขึ้นมองตรงไปที่ประตู เพียงครู่จึงถอนหายใจยาวพร้อมกดกริ่งเรียกสาวใช้คนอื่นๆ ด้วยความรู้สึกทั้งโล่งอกและอ่อนล้าในเวลาเดียวกัน…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD