บทที่ 7
ที่โต๊ะอาหารเช้านี้ณิชานั่งข้างมารุตเช่นเคย หญิงสาวชวนเขาพูดคุยกระหนุงกระหนิง ขณะที่ชายหนุ่มเองก็ให้ความสนใจอีกฝ่ายเป็นอย่างดี กระทั่งคุณเมธัตเรียบร้อย วารุณีจึงลุกขึ้นตาม
“พ่อไปก่อนนะรุต ตามสบายนะหนู” เมธัตเอ่ยปากกับณิชา ใบหน้าเจือยิ้มเช่นเดิม ก่อนปรายตามองไปทางแม่บ้านสาวของตนแวบหนึ่ง ยิ้มให้หล่อนแล้วก้าวออกจากห้องรับประทานอาหาร
“รุตขา วันนี้ณิอยากออกไปช้อปปิง ณิขอชวนคุณโยไปด้วยกันได้ไหมคะ”
ทั้งมารุตและโยษิตาต่างชะงัก ก่อนที่หญิงสาวจะมองมาทางเขาเพื่อรอคำตอบ ชายหนุ่มเหลือบตามองแม่บ้านของตนแวบหนึ่งก่อนหันมายิ้มให้เพื่อนคนพิเศษ
“ตามใจคุณสิ ถ้าอยากไปที่ไหนอีกก็บอกกับคนขับรถ แล้วให้โยไปเป็นเพื่อน” สายตาคมเข้มเหลือบมองไปทางโยษิตาที่ยืนกุมมืออยู่ด้านหนึ่ง หญิงสาวสบตาเขาอยู่ครู่ก่อนเมินมองสาวสวยนามว่าณิชา
“ขอบคุณนะคะ คุณใจดีที่สุดเลย” พูดจบหญิงสาวก็จูบที่สันกรามของเขาเบาๆ อย่างดีใจ ก่อนจะหันไปยังแม่บ้านสาวสวยแล้วบอกเสียงใส “ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะคะคุณโย นานๆ ณิได้กลับมาไทยที อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปหมด ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย ถ้าได้คุณโยไปเป็นเพื่อน ต้องสนุกมากแน่ๆ”
รอยยิ้มอ่อนหวานของณิชาทำให้โยษิตาจำต้องยิ้มตอบ และไม่อาจปฏิเสธได้แม้ใจจริงแล้วจะไม่อยากไปไหนกับใครเลยก็ตามที
“ได้ค่ะ”
ณิชาทำตาโต ก่อนจะบอกออกมาว่า
“งั้นหลังทานข้าวเสร็จแล้ว คุณโยเตรียมตัวเลยนะคะ ณิว่าจะไปไหว้พระสักหน่อยก่อน เสร็จแล้วเราค่อยไปช้อปปิงกันต่อทีหลัง” พูดจบก็หันมามองชายหนุ่มด้วยสายตาอ่อนหวาน “คุณอยากได้อะไรไหมคะ ณิจะหาซื้อมาให้”
ชายหนุ่มยิ้มให้คนข้างกายแล้วตอบ
“ตามสบายเถอะ ผมมีครบหมดแล้ว ไม่อยากได้อะไรเพิ่ม” ปากบอกแต่สายตามองตรงไปยังโยษิตาที่ทำหน้าเรียบเฉยจนเขานึกอยากแกล้งเสียให้เข็ด ติดที่ว่าเวลาไม่พอจะให้ทำอย่างนั้น
ทั้งณิชาและโยษิตายืนส่งจนกระทั่งรถยนต์ของมารุตเคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์ ณิชาก็หันกลับมามองโยษิตาแล้วยิ้มให้
“คุณโยไปแต่งตัวเถอะค่ะ แล้วลงมาเจอกันที่ตรงนี้ ณิจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือนกัน” บอกพลางยิ้มหวาน แล้วหมุนตัวกลับเข้าด้านใน ทิ้งให้โยษิตามองตามด้วยสายตาครุ่นคิด แม้อีกฝ่ายจะดูเป็นมิตรอยู่ไม่น้อย ทว่าหล่อนกลับรู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งกับสายตาที่ฝ่ายนั้นมองมา คล้ายกับว่ามีบางอย่างที่แฝงมาด้วย เป็นบางอย่างที่ไม่ได้เป็นผลดีกับหล่อนนัก
สองสาวก้มลงกราบพระพร้อมกัน เสร็จจากนั้นณิชาจึงหันมาชวน โยษิตา
“เราไปช้อปปิงกันดีกว่านะคะคุณโย ฉันอยากได้ของใช้สักสองสามอย่าง”
โยษิตาเดินตามร่างปราดเปรียวของณิชาแล้วนึกชื่นชมในใจ เพราะนอกจากมีใบหน้าสวยสดแล้ว รูปร่างยังระหงกลมกลึง จะเยื้องย่างไปทางไหนดูคล่องแคล่วไม่ระคายตา อาจเป็นเพราะแบบนี้ มารุตจึงเลือกที่จะคบหา เขาดูพึงพอใจหญิงสาวไม่น้อย และไม่แน่ อนาคตข้างหน้าณิชาอาจก้าวเข้ามาเป็นคุณผู้หญิงของจิรประทีปต์ก็เป็นได้
เดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ณิชาก็เลือกซื้อสินค้าที่ตนต้องการ เช่นเสื้อผ้า และชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่…
“คุณโย ดูตัวนี้สิ คุณคิดว่าถ้าฉันใส่แล้ว รุตเขาจะชอบไหม” หยิบมาตรงหน้า อวดให้โยษิตาดูชุดบิกินี่สีส้มราคาห้าหลัก
“คุณณิเป็นคนสวย หุ่นก็ดี ใส่แบบไหนคุณรุตก็คงชอบทั้งนั้นค่ะ”
คำตอบของโยษิตาทำให้ณิชายิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะหันกลับไปส่งให้พนักงานที่เดินตามห่างๆ
“ฉันเอาชุดนี้แล้วก็ชุดนี้นะคะ แล้วคุณล่ะ ไม่เลือกสักชุดเหรอ”
เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ริมฝีปากเผยอยิ้ม แม่บ้านสาวยิ้มตอบแต่ลอบผ่อนลมหายใจอย่างระอา...
“ดิฉันเป็นแค่แม่บ้าน ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดว่ายน้ำพวกนี้หรอกค่ะ”
คำตอบของหญิงสาวทำให้อีกฝ่ายไหวไหล่ พลางเบ้ปากนิดๆ ก่อนจะหันไปหยิบเอาทูพีชสีฟ้าครามออกมาแล้วลองทาบลงบนตัวของ โยษิตาจนหญิงสาวต้องถอยหลังหนีไปสองก้าว ทำให้ฝ่ายนั้นขมวดคิ้วมุ่น เอ็ดขึ้นเบาๆ ว่า
“อยู่เฉยๆ สิคะคุณโย ฉันจะลองทาบดูว่าพอดีตัวคุณหรือเปล่า”
พูดพลางก้าวตามหญิงสาวไป แล้วดื้อดึงทาบชุดกับร่างของ โยษิตาจนสำเร็จ ก่อนจะหันไปส่งให้พนักงานแล้วบอก “ชุดนี้ด้วยนะคะ”
หันกลับมายิ้มให้คนที่ทำคิ้วชนกัน ก่อนจะหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าแบบนั้นของโยษิตา
“ดูทำหน้าเข้าสิ ฉันซื้อให้คุณชุดหนึ่ง เอาไว้ใส่ตอนเราไปเที่ยวทะเลกัน”
โยษิตานิ่วหน้าทันที ก่อนจะปฏิเสธทันควัน
“อย่าเลยค่ะ ไม่มีประโยชน์ เพราะถึงอย่างไรดิฉันก็คงไม่ได้ใส่ชุดนี้แน่นอน ที่สำคัญ ดิฉันคงจะไม่ได้ไปกับคุณด้วย อย่าซื้อเลยนะคะ ถือเสียว่าดิฉันขอร้อง”
ณิชาจ้องตาคนตรงหน้านิ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ พลางส่ายหน้าอย่างคนหัวดื้อ
“ฉันตัดสินใจไปแล้วค่ะ ไม่เปลี่ยนใจแน่นอน ไม่ว่าคุณจะใส่หรือไม่ใส่ จะได้ไปหรือไม่ได้ไปก็ตาม” พูดจบก็หันไปพยักหน้าให้พนักงานคิดเงินทันที ทำเอาโยษิตาถึงกับปวดหัวในความเอาแต่ใจของสาวสวยตรงหน้า อยากบอกเหลือเกินว่าซื้อไปก็สูญเปล่า เพราะหากไม่ติดที่มารุต หล่อนคงมีทั้งวันพีชและทูพีชไม่น้อยกว่าสิบชุดเป็นแน่แท้...
“คุณจะเสียเงินเปล่าๆ นะคะ”
คนถูกค้านไหวไหล่อีกรอบ
“ช่างปะไร คุณไม่ได้ใช้วันนี้ วันหน้ายังมีโอกาส รับไปเถอะค่ะ ฉันตั้งใจซื้อให้คุณจริงๆ” ยิ้มให้คนตรงหน้า ยิ่งอีกฝ่ายมีทีท่าไม่สบายใจก็เริ่มถูกชะตามากยิ่งขึ้นไปอีก “เถอะน่า ทำใจร่มๆ”
ว่าแล้ว ณิชาก็รับถุงกระดาษมาจากพนักงานแล้วยัดถุงที่มีชุดว่ายน้ำของโยษิตาใส่มือหญิงสาว ก่อนจะหมุนตัวก้าวนำหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้แม่บ้านสาวสวยจำต้องตามไปติดๆ
เกือบๆ บ่ายสาม ทั้งสองสาวเดินถือของพะรุงพะรังออกจากห้างสรรพสินค้า กระทั่งเข้ามานั่งในรถยนต์ ณิชาจึงหันมายิ้มกับโยษิตาแล้วบอก
“เราไปหาคุณรุตที่ทำงานกันดีกว่า คุณคนขับรถจ๊ะ ช่วยพาเราสองคนไปที่บริษัทของคุณรุตหน่อยนะ” พูดจบก็เอนหลังพิงพนังเก้าอี้ ขณะที่คนขับรถมองโยษิตาผ่านกระจกราวจะขอความเห็น หญิงสาวจึงจำต้องหันมามองอีกฝ่ายแล้วเอ่ย
“จะดีหรือคะ ช่วงนี้คุณรุตอาจกำลังติดงานสำคัญ หรือไม่ก็ประชุม เราอาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบก็ได้”
ณิชานิ่วหน้าเมื่อหันมามองคนพูด
“กลัวอะไร เอาน่า คิดมากไปได้ แต่ถ้ากลัวคุณรุตจะเอ็ดเอาล่ะก็อย่ากลัวไปเลย ไปกับฉันรับรองว่าสบายหายห่วง ต่อให้โกรธแค่ไหน คุณรุตของคุณก็ไม่มีวันเอ็ดฉันแน่นอน เพราะอะไรรู้ไหม เพราะว่าเขาไม่เคยขัดใจฉันเลยยังไงล่ะ ออกรถได้เลยจ้ะ”
โยษิตาถอนหายใจแผ่วเบา ส่วนคนขับรถจำต้องทำตามคำสั่งของสาวสวยที่เป็นแขกคนพิเศษของเจ้านายด้วยความไม่เต็มใจและไม่เห็นด้วยนัก เพราะรู้ดีว่าที่บริษัท ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่ใครจะเข้าหรือออกได้ง่ายๆ ยิ่งมารุตเป็นถึงระดับผู้บริหาร เขาคงไม่ปลื้มหากจะมีผู้หญิงไปเกาะแกะให้รำคาญใจในเวลาทำงานแบบนี้
ทั้งหมดมาถึงบริษัทก็เกือบจะสี่โมงเย็น ใกล้เวลาเลิกงานเต็มที แต่ไม่มีใครรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนการของณิชา เพราะว่าหล่อนอยากให้เขาพาออกไปดินเนอร์ต่อหลังเลิกงาน
ที่ห้องทำงานของมารุต
“คุณรุตคะ คุณณิชาขอเข้าพบค่ะ”
เสียงที่ดังจากเครื่องติดต่อทำให้คนที่กำลังวุ่นวายอยู่กับเอกสารสำคัญถึงกับถอนหายใจยาว เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตู ก่อนเอ่ยอนุญาต
“ให้เข้ามา”
ครู่ต่อมาร่างระหงของณิชาก็ผลักประตูเข้ามาในห้อง แต่เขาต้องเลิกคิ้วสูงเพราะคนที่เดินตามมาอีกคนคือโยษิตา แม่บ้านสาวของเขานั่นเอง
“เหนื่อยไหมคะรุต” ณิชาปราดเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะตัวใหญ่พร้อมกับก้มลงประทับริมฝีปากกับเรียวปากนุ่มของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว จนคนที่ก้าวตามมาต้องหยุดชะงักกลางห้อง แล้วหลุบตาลงต่ำ ไม่ยอมมองคนทั้งสองให้ช้ำใจเล่น จึงไม่รู้ว่าสายตาอีกคู่กำลังมองมายังหล่อนไม่กะพริบ
“คุณมาไงเนี่ย” หลังจากปล่อยให้ณิชาจูบจนพอใจ มารุตก็ดันร่างอวบอุ่นของหญิงสาวออกห่าง ระหว่างนั้นเขาตวัดสายตามองไปที่ร่างกลมกลึงของโยษิตาแวบหนึ่ง เร็วเกินกว่าณิชาจะทันสังเกตเห็น
“ก็ตรงมาหลังจากช้อปปิงเสร็จเลยแหละค่ะ ณิซื้อเสื้อมาฝากคุณด้วยนะคะ สวยมากเลย”
บอกพลางหย่อนร่างนั่งลงบนตักกว้างของชายหนุ่ม ทำให้ดวงตาคมเข้มตวัดมองไปที่ร่างระหงกลางห้องอีกครั้ง และได้สบตาคู่งามของอีกฝ่ายนิ่ง เขาอยากรู้นักว่าหล่อนจะทำอย่างไร แต่เมื่อเห็นเจ้าหล่อนหมุนตัวก้าวตรงไปที่โซฟามุมห้อง และนั่งลงอย่างเงียบเชียบ เรียบร้อย ก็ให้เกิดอาการหงุดหงิด จึงปล่อยให้ณิชานั่งตักของเขาต่อไปโดยไม่ผลักไส ทั้งที่ไม่เคยปล่อยให้ใครทำแบบนี้ในห้องทำงานมาก่อน
“ขอบคุณ แต่ความจริงไม่เห็นต้องซื้ออะไรมาให้ผมเลย”
ณิชาฉีกยิ้มอีกครั้ง ก่อนเหลือบตามองไปยังแม่บ้านสาวที่นั่งนิ่งบนโซฟา เมินหน้ามองออกไปอีกด้านหนึ่งแทน
“จะเป็นไรไปคะ ว่าแต่ทริปทะเลของเราคุณไม่ยกเลิกนะ” หันกลับมาสบตาคมกริบของคนตัวโตตรงหน้า ชายหนุ่มส่ายหน้า ยิ้มเล็กน้อย
“ไม่หรอก”
คำตอบของเขาทำให้หญิงสาวนัยน์ตาพราว ก่อนจะมองไปทางโยษิตาอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้น ณิอยากให้คุณโยไปด้วย คุณคงไม่ว่าอะไรนะคะ”
เสียงหวานที่กล่าวออกมาเช่นนั้นกระทบใจคนฟังอีกคนให้หันกลับมามองคนทั้งสองด้วยดวงตานิ่งขรึม มารุตเงยหน้าขึ้นมองมาที่หญิงสาวที่มุมห้อง ริมฝีปากของเขาหยักยกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมาเบาๆ ว่า
“ตามใจคุณ นอกจากโยแล้ว อยากจะพาใครไปอีกก็ลองไปชวนก็แล้วกัน”
ณิชาทำตาโตอย่างน่ารัก ยืดตัวขึ้นหอมแก้มเขาดังฟอดทำให้คนที่มองอยู่ก่อนแล้วหลุบตาลงมองมือของตนเอง ไม่อยากสบตาคนร้ายกาจ ไร้หัวใจ ใบหน้าที่ก้มต่ำในเวลานี้จึงสั่นชา ริมฝีปากสั่นระริก ขอบตาร้อนผ่าว เป็นครั้งแรกที่โยษิตารู้สึกปวดแปลบจนอยากจะลุกหนีไปจากมารุตและผู้หญิงของเขาให้รู้แล้วรู้รอด แล้วหล่อนก็ตัดสินใจอย่างที่คิดทันที
“ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
เมื่อหมดความอดทน ร่างบางจึงผุดลุกแล้วก้าวผ่านคนทั้งสองออกไปจากห้องโดยไม่สนใจว่ามารุตจะพูดอะไรออกมา เมื่อเข้ามาอยู่เพียงลำพังภายในห้องน้ำ หญิงสาวก็ปล่อยให้น้ำตาที่เกิดจากความอัดอั้นตันใจไหลพราก หัวใจปวดหนึบ ร้าวลึก ราวถูกเฉือน...
กับวารุณีที่ครั้งหนึ่งเคยมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับชายหนุ่มก็ยังแทบไม่รู้สึกอะไร คนอื่นที่พยายามเข้าใกล้หวังแนบสนิทกับมารุตยังทำอะไรหล่อนไม่ได้ ทว่ากับณิชามีบางอย่างแตกต่างออกไปจากผู้หญิงเหล่านั้นจนหล่อนกลัว ความรู้สึกนี้ก่อตัวรุนแรงจนก่อเกิดความหวั่นไหวเมื่อ ณิชาปรากฏตัวขึ้น